Thai VI

มูลค่ารวมของทั้งบริษัทตามราคาตลาด หรือ Enterprise value: EV เป็นการพิจารณามูลค่าที่แท้จริงของบริษัท ทั้งในส่วนของทุนและหนี้สิน ณ ช่วงเวลานั้นๆ โดยมูลค่าดังกล่าวสามารถคำนวณได้จาก ผลรวมของมูลค่าทุนตามราคาตลาด (Market capitalization) กับมูลค่าของหนี้สินรวม หักออกด้วยเงินสดและตราสารทัดเทียม เงินสด


สูตร= market cap + debt+prefer share-เงินสดและเงินสดเทียบเท่า

debt= เงินกู้ระยะสั้น+ระยะยาว+ตราสารหนี้ (debt = หนี้ที่ต้องจ่ายดอกเบี้ย)---- นี้คือสูตรในการหาEVใช่มั้ยครับ EV=enterprise value ผมสงสัยว่าถ้าจะหามูลค่าของบริษัททำไมต้องเอาหนี้ไปบวกแล้ว ลบเงินสดออกอ่ะครับ จริงๆ มันควรลบด้วยหนี้ไม่ใช่เหรอครับ

ขอบคุณครับ

http://www.one-asset.com/AMClub/FunFund ... .asp?id=26

http://www.212cafe.com/freewebboard/vie ... e_limit=50

Asset = Equity + Debt
เจ้าของทรัพย์สินมีสองฝ่าย คือส่วนผู้ถือหุ้น กับ เจ้าหนี้
สูตรพยายามหาว่าถ้าจะซื้อกิจการทั้งหมดต้องเสียเงินเท่าไหร่
ซื้อ Equity ทั้งหมดก็เท่ากับMarket capในตลาด (อาจจะมากหรือน้อยกว่าEquity)
ส่วนซื้อ Debtก็ตามมูลค่าหนี้ (ถ้าหนี้มีส่วนที่เป็นหุ้นกู้มีการซื้อขายในตลาดbond ก็น่าจะเอาราคาหุ้นกู้ในตลาดอาจจะถูกต้องกว่าหรือเปล่า? )

แต่เงินสดที่เอาออก เป็นการหักล้างกันคร่าวๆครับ
เอาจริงๆเงินสดอาจจะเอาออกมาไม่ได้ เพราะติดฝากหลักประกัน หรือสำรองไว้หมุนเวียน

What Does Enterprise Value - EV Mean?

A measure of a company's value, often used as an alternative to straightforward market capitalization. Enterprise value is calculated as market cap plus debt, minority interest and preferred shares, minus total cash and cash equivalents.

อ่านนี้แล้วผมยิ่งงงเข้าไปใหญ่
ตกลงสูตรEVมันไงกันแน่ market cap + debt - เงินสด หรือส่วนเทียบเท่าเงินสด หรือ
Market cap + debt + ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย + preferred shares (คิดว่าคือหุ้นกู้บุริมสิทธิ์) - เงินสดและส่วนเทียบเท่าเงินสด ?????


http://www.investopedia.com/terms/e/ent ... z1VHBSFcq4

cyber-shot เขียน:W
อ่านนี้แล้วผมยิ่งงงเข้าไปใหญ่
ตกลงสูตรEVมันไงกันแน่ market cap + debt - เงินสด หรือส่วนเทียบเท่าเงินสด หรือ
Market cap + debt + ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย + preferred shares (คิดว่าคือหุ้นกู้บุริมสิทธิ์) - เงินสดและส่วนเทียบเท่าเงินสด ?????

สองสูตรเหมือนกันนิ
ถ้าบริษัทไม่มีผู้ถือหุ้นส่วนน้อยก็ใช้สูตรแรก ถ้ามีก็เพิ่มเป็นสูตรสอง

ขอบคุณครับ

งง ด้วย...งงมากด้วย...

ถ้าชอบสูตรแปลกๆ ลองหาเกี่ยวกับ EVA ( Economic Value Added ) อีกตัว
อาจจะงงยิ่งกว่าเดิม


ถ้าพวกหุ้นตัวเล็กๆ นี่โอกาสจะใช้ประโยชน์สูตรพวกนี้ ค่อนข้างยาก
เพราะรายย่อยลงทุนตามพื้นฐานในไทยใช้อะไรพื้นๆ PE PB เก็งรายไตรมาส
ไอ้สูตรพิสดารๆ พอจะใชได้้กับหุ้นสถาบัน หรือเหตุการณ์ผิดปรกติเช่นการtake overซะมากกว่า

คือ สูตรพวกนี้ ev/s price to sale ผมคิดว่าน่าจะได้ใช้ในการเอามาเปรียบเทียบกันระหว่างบริษัท ในอุตสาหกรรมเดียวกัน มากกว่า เพื่อจะหาเหตุผลว่า ทำไม บางที อัตราเติบโตเท่ากัน แต่ตลาดให้พีอี ต่างกัน เพราะปกติ เวลาหาเหตุผลว่าทำไม ตลาดให้พีอีต่างกัน ผมจะดูแค่ roe roa d/e อัตราการเติบโตของกำไร รายได้ อ่ะครับ คือคิดว่าน่าจะได้ใช้แบบนี้ เหมือนกันเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการวัดมูลค่าหุ้น อ่ะครับ