Thai VI

USA พิมพ์แบ้งก์ จ่ายหนี้ตรงๆเลยได้หรือไม่ครับ
แล้วก็หนี้ที่เขา มีอยู่เนี่ย us เขาต้องจ่ายให้กับใคร


หนี้สาธารณะของไทยตอนนี้ สุงกี่เปอร์เซ็นต์ของ จีดีพีครับ

Yoe เขียน:หนี้สาธารณะของไทยตอนนี้ สุงกี่เปอร์เซ็นต์ของ จีดีพีครับ

ประมาณ 41% ครับ

ข้อมูลหนี้สาธารณะรายเดือน (พฤษภาคม) - Public Debt Monthly Report (May 2011)

http://www.pdmo.mof.go.th/?q=th/node/1746

Yoe เขียน:USA พิมพ์แบ้งก์ จ่ายหนี้ตรงๆเลยได้หรือไม่ครับ
แล้วก็หนี้ที่เขา มีอยู่เนี่ย us เขาต้องจ่ายให้กับใคร

USA พิมพ์แบ้งก์ จ่ายได้ครับ โอกาส default ไม่น่ามี worse case ก็แค่พิมพ์ธนาบัตรใช้หนี้ แต่สุดท้ายอาจส่งผลต่อ inflation และค่าเงินของ US

ส่วนหนี้ที่จ่ายก็ต้องจ่ายให้ผู้ถือตราสารหนี้ครับ น่าจะเป็น Japan China เป็นหลัก

investment biker เขียน:

Yoe เขียน:USA พิมพ์แบ้งก์ จ่ายหนี้ตรงๆเลยได้หรือไม่ครับ
แล้วก็หนี้ที่เขา มีอยู่เนี่ย us เขาต้องจ่ายให้กับใคร

USA พิมพ์แบ้งก์ จ่ายได้ครับ โอกาส default ไม่น่ามี worse case ก็แค่พิมพ์ธนาบัตรใช้หนี้ แต่สุดท้ายอาจส่งผลต่อ inflation และค่าเงินของ US

ส่วนหนี้ที่จ่ายก็ต้องจ่ายให้ผู้ถือตราสารหนี้ครับ น่าจะเป็น Japan China เป็นหลัก

หมายความว่า ถ้าสหรัฐสามารถขยายเพดานหนี้ได้เรื่อยๆ ก็ไม่มีทางที่จะเกิด default ถูกมั้ยครับ?
แต่อย่างที่คุณ ib บอกคือส่งผลต่อค่าเงินของ US ให้อ่อนค่าลง เนื่องจากมีปริมาณเงินในระบบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

มึงแม้เมกาจะไม่ default แต่ถ้าใช้วิธีนี้ (หรือทางอ้อม) ค่าเงินดอลล่าร์ ก็จะอ่อนอย่างมาก
คนที่ถือเงินเมกาไว้เยอะ ก็เจ็บตัวหนัก ทั้ง จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย

ตอนหลัง รัสเซีย เลยออกมาด่าเมกา ว่าเป็น "กาฝากของระบบเศรษฐกิจโลก" ก็เพราะอย่างนี้แหละครับ

วิธีการนี้เป็นผลดีกับอเมริกามาก แต่จะลดความน่าเชื่อถือของอเมริกาเอง

ผมว่า ยังใช้ได้เรื่อยๆ ตราบใดที่ ทุกประเทศยังคงต้อง
อาศัย US$ เป็นสื่อกลางในการค้าขาย อันนี้เป็นจุดตาย
ของเงิน US$ ตราบใดที่หาอะไรมาแทนไม่ได้ USA ก็
พิมพ์แบงค์มาจ่ายหนี้ได้ จะลดเครดิตก็ลดไป แต่ I
ยังจ่ายทั้งต้นและดอกให้ U อยู่

แต่ช้าก่อน .... 5555+ เงิน 1 US$ ที่ U ถืออยู่ในปีที่แล้ว
บัดนี้ I ว่ามันเหลือค่าจริงๆ แค่ 0.7 US$ ซะแล้ว 5555+
เพราะฉะนั้นที่ I เป็นหนี้ U ปีก่อน 100 Billion US$ จริงๆ
แล้วมูลค่าของมันเหลือแค่ 700 Billion US$ เอง 5555+
[จีน, ไต้หวัน และประเทศอื่นๆ ที่ถือเงิน US$ ไว้มากๆ,
ไม่ต้องมารวมญี่ปุ่นนะครับ เพราะญี่ปุ่นเองเจ๊งมาเป็นสิบๆ
ปีแล้ว ยังไม่ฟื้น เป็นซอมบี้ อยู่ เป็นหนี้สาธารณะต่อ GDP
140%+ มากที่สุดในโลก..., คงต้องร้องไห้
แต่ทำอะไรมากไม่ได้ เพราะได้ต้นได้ดอกคืนยังดี
กว่าไม่ได้อะไรเลย...]

ที่ผ่านมาจาก QE1 และ QE2 USA พิมพ์ธนบัตรออกมา
จำนวนมหาศาล ก่อให้เกิด Inflation สูงมากในปีที่แล้ว
และปีนี้ (และอาจจะปีต่อไป) และดูเหมือนว่าทาง USA
อาจจำเป็นต้องออก QE2.1 หรือ QE3 มา เพราะทาง
สภาฯ ให้ตัดงบฯ แลกกับเพิ่มเพดานหนี้ขึ้น ดังนั้นเพื่อลด
ผลกระทบของ Fiscal Policy, Monetary Policy จึงจำเป็น
แต่ว่า Interest Rate มันต่ำมากติดพื้นดินแล้ว เหลืออย่าง
เดียวที่ทำได้คือเพิ่มปริมาณเงินในระบบด้วย QE

เงินก็จะยิ่งเฟ้อเพิ่มขึ้นไปอีกนะครับ ....

มันทำไม่ได้ง่ายๆขนาดนั้นหรอกครับ การเพิ่มหนี้ พิมพ์แบงค์

คิดว่าประเทศอเมริกาเหมือนคนหรือบริษัท การเพิ่มหนี้ เกิดจากรายได้ไม่พอรายจ่าย พอเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็ต้องกู้ดอกแพงขึ้นเรื่อยๆ พอหนักเข้าไม่มีเงินจ่าย ไม่มีคนให้กู้ พิมพ์แบงค์เองไปก็ไม่มีความหมาย

เช่นจะนำเข้าข้าวจากตันละ $1000 เป็น $1500 >> $2000 >> $3000 ถามว่าคนในประเทศรายได้เพิ่มทันรึเปล่า
รัฐบาลภาษีเก็บได้พอกับรายจ่ายทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจ ระบบสวัสดิการ

สุดท้ายคงต้องโดนยึดทรัพย์ครับ แต่ไอ้กันอาจขัดขืนโดยการก่อสงครามก็เป็นได้

kabu เขียน:หมายความว่า ถ้าสหรัฐสามารถขยายเพดานหนี้ได้เรื่อยๆ ก็ไม่มีทางที่จะเกิด default ถูกมั้ยครับ?
แต่อย่างที่คุณ ib บอกคือส่งผลต่อค่าเงินของ US ให้อ่อนค่าลง เนื่องจากมีปริมาณเงินในระบบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ไม่เชิงครับ เข้าใจว่าคุณ IB หมายความว่า เงิน USD มันอยู่ในรูป fiat money คือไม่ต้องมี asset อะไรเลยมา back ดังนั้นจะพิมพ์เงินเท่าไรก็ได้ อันนี้ผมว่าทุกคนเข้าใจกันดี เพราะพวกนสพ. หรือนักวิเคราะห์ นักเดาต่างๆ ชอบบอกว่าพิมพ์เป็นแบงก์กงเต๊ก บลาๆ

ถามว่าพิมพ์มาเพื่อจ่ายได้ไหม ก็ได้ครับ ทำไมได้หละ เพราะว่าหนี้พวกนี้อยู่ในรูป USD ไงครับ พิมพ์มา ล้านล้านดอลล่าร์จ่ายไป พอจ่ายแล้วค่าเงินดอลล่าร์จะตกไปแค่ไหน จะเอาไปซื้อทอง หรือน้ำมัน หรือแลกกลับเป็นเิงิน EURO หรืออื่นๆได้น้อยลงจริง แต่ก็ถือว่าได้จ่ายหนี้ obligation ไปแล้วครับ

ประหลาดแต่จริงครับ

ปล. เจ้าหนี้หลักๆของรัฐบาลสหรัฐ น่าจะเป็นประชาชนในประเทศมากกว่า คำว่า public debt หมายถึงเงินที่รัฐเป็นหนี้ แต่ไม่ได้จำเป็นว่าต้องเป็นหนี้กับรัฐบาลประเทศอื่นๆครับ

ขอบคุณครับคุณ IB

ผมงงนิดๆ เพราะผมจำได้จากไม่ CNBC ก็ bloomberg นี่แหละครับว่า จาก $14 trillion นี่ ประมาณ $5 trillion เป็น intra-government debt คือพวก social security กับบัญชีพวกบำเน็จบำนาญราชการอะไรประมาณนั้น ซึ่งพวกนี้เป็น obligation ที่สัญญาว่าจะจ่ายโดยรัฐ ที่เหลือก็ยิบย่อยไป โดยมี foreign government ถืออยู่ประมาณไม่ถึง 30% ของ $14 trillion ดี แต่ตาม chart ทำไมมันขึ้นไป 50% หว่า

เดี๋ยวขอไป google หา confirm หน่อย