Thai VI

ต้องไปกู้เงินมา

ที่เรียกว่าหนี้สาธารณะ

ทำไมไม่ใช้เงินทุนสำรอง

หรือว่า เงินทุนสำรอง ไม่ใช่ของรัฐบาล

แต่เป็นของเอกชน หรืออย่างไร ไม่ทราบ

Jeng เขียน:ต้องไปกู้เงินมา

ที่เรียกว่าหนี้สาธารณะ

ทำไมไม่ใช้เงินทุนสำรอง

หรือว่า เงินทุนสำรอง ไม่ใช่ของรัฐบาล

แต่เป็นของเอกชน หรืออย่างไร ไม่ทราบ

ถ้าพี่เจ๋งมีเงิน 10 บาทแต่ปัจจุบัน เงินพี่เจ๋งแบงค์10 เค้าแลกคืน 8 บาท

พี่เจ๋งจะมีเงินมากขึ้นหรือน้อยลงครับ

พี่เจ๋งกล้าขายแบงค์10 เพื่อเอา 8 บาทไหมครับ

คนละกระเป๋ากัน

หนี้ภาครัฐเป็นของรัฐ จ่ายมากกว่าหาเงิน ก็ต้องกู้มาเพิ่ม ถ้าน้อยกว่ามีเงินเหลือก็คืนนี้
อันนี้เป็นงบของภาครัฐบาล

ส่วนทุนสำรอง หมายถึงทุนสำรองระหว่างประเทศใช่ไหมครับ
คือมีระหว่างประเทศมีการค้าขาย มีเงินลงทุนไหลไปไหนมา
สมมติว่ามีฝรั่งเอาดอลล่ามาลงทุน หรือมาซื้อสินค้าไทย ก็ต้องแลกซื้อบาท ดอลล่าที่มาแลกก็เก็บไว้สำรองไว้
พอมีคนเอาเงินกลับ หรือมาขายสินค้าให้ไทย ก็เอาดอลล่าไปแลกบาทคืน
ถ้าไหลเข้ามากกว่าไหลออก เงินทุนสำรองก็เพิ่ม ถ้าน้อยกว่าทุนสำรองก็ลด
ถ้าไม่มีคนแลก ก็กองเอาไว้เฉยๆซะงั้น ประเทศไทยกฏหมายห้ามเองไปทำอะไร
แต่บางประเทศเอาเงินตรงนี้ไปลงทุนได้

ให้มองว่าทุนสำรองเป็นงบดุลของประเทศ

densin เขียน:คนละกระเป๋ากัน

หนี้ภาครัฐเป็นของรัฐ จ่ายมากกว่าหาเงิน ก็ต้องกู้มาเพิ่ม ถ้าน้อยกว่ามีเงินเหลือก็คืนนี้
อันนี้เป็นงบของภาครัฐบาล

ส่วนทุนสำรอง หมายถึงทุนสำรองระหว่างประเทศใช่ไหมครับ
คือมีระหว่างประเทศมีการค้าขาย มีเงินลงทุนไหลไปไหนมา
สมมติว่ามีฝรั่งเอาดอลล่ามาลงทุน หรือมาซื้อสินค้าไทย ก็ต้องแลกซื้อบาท ดอลล่าที่มาแลกก็เก็บไว้สำรองไว้
พอมีคนเอาเงินกลับ หรือมาขายสินค้าให้ไทย ก็เอาดอลล่าไปแลกบาทคืน
ถ้าไหลเข้ามากกว่าไหลออก เงินทุนสำรองก็เพิ่ม ถ้าน้อยกว่าทุนสำรองก็ลด
ถ้าไม่มีคนแลก ก็กองเอาไว้เฉยๆซะงั้น ประเทศไทยกฏหมายห้ามเองไปทำอะไร
แต่บางประเทศเอาเงินตรงนี้ไปลงทุนได้

ให้มองว่าทุนสำรองเป็นงบดุลของประเทศ

ถ้าให้แลกไป แลกมา แล้วมันโตขึ้นได้อย่างไรครับ

คุณ densin

สมมุติ มีคนอยากได้ดอลล่า มาแลกกะพี่ ถ้าพี่มีสำรองไว้ 1 ล้านเหรียญ และมีเงินบาท 30 ล้านบาทๆ

แลกไป แลกมา แลกมาแลกไป

พี่ก็มีเท่าเดิมอะครับ

Jeng เขียน:
ถ้าให้แลกไป แลกมา แล้วมันโตขึ้นได้อย่างไรครับ

คุณ densin

สมมุติ มีคนอยากได้ดอลล่า มาแลกกะพี่ ถ้าพี่มีสำรองไว้ 1 ล้านเหรียญ และมีเงินบาท 30 ล้านบาทๆ

แลกไป แลกมา แลกมาแลกไป

พี่ก็มีเท่าเดิมอะครับ

ตอนพี่แลกดอลล่ามาให้ผม มันดอลล่า25บาท ตอนนี้ดอลล่า29บาท พี่ก็เลยได้ดอลล่าน้อยกว่าเดิม ผมก็เก็บกำไรไว้
แล้วก็พวก FDI ที่เข้ามาในเมืองไทย ไม่เคยเป็นลบสักปีนิคครับ เงินพวกนี้ไม่เคยออก เข้าไทยตลอด

densin เขียน:

Jeng เขียน:
ถ้าให้แลกไป แลกมา แล้วมันโตขึ้นได้อย่างไรครับ

คุณ densin

สมมุติ มีคนอยากได้ดอลล่า มาแลกกะพี่ ถ้าพี่มีสำรองไว้ 1 ล้านเหรียญ และมีเงินบาท 30 ล้านบาทๆ

แลกไป แลกมา แลกมาแลกไป

พี่ก็มีเท่าเดิมอะครับ

ตอนพี่แลกดอลล่ามาให้ผม มันดอลล่า25บาท ตอนนี้ดอลล่า29บาท พี่ก็เลยได้ดอลล่าน้อยกว่าเดิม ผมก็เก็บกำไรไว้
แล้วก็พวก FDI ที่เข้ามาในเมืองไทย ไม่เคยเป็นลบสักปีนิคครับ เงินพวกนี้ไม่เคยออก เข้าไทยตลอด

เอา สมมุติใหม่ พี่มีเงิน 1 ล้านๆบาท เตรียมไว้ให้แลก

แล้วมีเงินดอลล่า มาแลก ตอน 40 บาท แลกเงินบาท 5 แสนล้าน

พี่ก็จะมี เงินบาท 5 แสนล้าน และดอลล่า 12500 ล้านดอลล่า

ต่อมาค่าเงิน ดอลล่าเปลี่ยนเป็น 30

พี่ก็ยังคงเหลือเงิน 5 แสนล้านบาท และดอลล่า 12500 ล้านดอลล่าอยู่ดี

ที่นี้ มีคนมาแลกดอลล่าจะเอาเงินบาท พี่ไป 5 แสนล้านบาท

ก็โอเค รับแลก พี่ก็ได้ดอลล่ามาอีก 16666 ล้านดอลล่า

รวมพี่ก็มี 12500 ล้านดอลล่า + 16666 ล้านดอลล่า

คือพี่ว่า แลกไป แลกมา เงินมันก็เท่าเดิม มันจะโตขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อ แลกไปแลกมา

แล้วพี่กำไรอัตราแลกเปลี่ยน อยู่เรื่อยๆ

และเท่าที่ดู เราก็ยังขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน เพราะเข้าไปแทรกแซงค่าเงินอยู่เรื่อยๆ

ก็เลยสงสัย ว่า เงินทุนสำรองโตขึ้นมาได้อย่างไร

ขอบคุณครับ คุณ densin

Jeng เขียน:
เอา สมมุติใหม่ พี่มีเงิน 1 ล้านๆบาท เตรียมไว้ให้แลก

สมมติว่าเริ่มประเทศใหม่ๆ 1ล้านๆบาทแรกตอนเริ่ม ไม่นับเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศครับ
เป็นแค่เม็ดเงินภายในของประเทศ

http://www.oie.go.th/seminar/OIEForum10 ... eyfund.pdf

ดร.โอฬาร ไชยประวัติ อธิบายไว้ เข้าใจได้ง่ายดีครับ

Jeng เขียน: เอา สมมุติใหม่ พี่มีเงิน 1 ล้านๆบาท เตรียมไว้ให้แลก

แล้วมีเงินดอลล่า มาแลก ตอน 40 บาท แลกเงินบาท 5 แสนล้าน

พี่ก็จะมี เงินบาท 5 แสนล้าน และดอลล่า 12500 ล้านดอลล่า

ต่อมาค่าเงิน ดอลล่าเปลี่ยนเป็น 30

พี่ก็ยังคงเหลือเงิน 5 แสนล้านบาท และดอลล่า 12500 ล้านดอลล่าอยู่ดี

เวลาต่างชาติเข้ามาเก็งกำไรค่าเงินก็เอาดอลลาร์แลกบาท เสร็จก็เอาบาทมาซื้อพันธบัตรรัฐบาล ถ้าจากตัวอย่างข้างบน ตอนแลกเสร็จรัฐก็มีเงิน 5 แสนล้านบาทกับ 12500 ล้านดอลลาร์ ต่างชาติก็เอาเงินมาซื้อพันธบัตร รัฐก็ได้เงินกลับมาอีก 5 แสนล้านบาทกลายเป็น 1 ล้านล้านบาทตามเดิมกับอีก 12500 ล้านดอลลาร์ ส่วนต่างชาติก็ได้ใบพันธบัตรใบนึง

อีกอย่างคือแบงค์ชาติพิมพ์เงินบาทเองได้ครับ เช่นพอมีคนเอาดอลลาร์มาแลกบาทเยอะๆ เงินบาทน้อยลง สมมุติเหลือ 5 แสนล้านบาทเหมือนตัวอย่างข้างบน แต่คนแลกเอาเงินไปทำอย่างอื่น ก็พิมพ์เพิ่มอีก 5 แสนล้านบาทเผื่อมีคนอื่นอยากมาแลกอีกก็ยังได้ ส่วนเรื่องที่ว่ามีเงินบาทหมุนเวียนในตลาดมากเท่าไหร่ก็ปรับได้ด้วยกลไกต่างๆเช่นอัตราดอกเบี้ย ขาย/ซื้อคืนพันธบัตร ครับ

อีกกลไลนึงที่ผมไม่แน่ใจเหมือนกันคือ
แบงค์ชาติไม่น่าทำหน้าที่เป็น counter แลกเงิน
แต่ทำหน้าที่เป็นตลาดเงิน คือคล้ายๆมี bid/offer
ทำให้แลกเข้ากับแลกออก มา gap ของกำไร
แล้วถ้าแลกเข้ามากๆช่อง bid/offerก็จะเคลือนไหว ทำให้เงินแข็งอ่อนตามทิศทางของการกระแสเงิน

แล้วถ้าตลอดมาประเทศไทยมีแต่เงินนอกไหลเข้า จากFDIและส่งออกที่ดีตลอด
ทำให้trendของอัตราแลกดีขึ้นเรือยๆ เหมือนหุ้นที่trend ขึ้นตลอด
จึงเกิดเงินทุนสะสม

ส่วนเรื่องการแทรงแซง อาจจะใช้เงินน้อยกว่าเงินทั้งหมด
(เหมือนเรามีหุ้นเยอะ ใช้เงินไล่ราคาก็ใช้เงินน้อย ทำกำไรมากกว่าที่เสียไป)
และการแทรกแซงซื้อขาย เมื่อคุมระคาได้แล้วก็ต้องมีcover positionคืน

ปล.อันนี้เดาซะมาก ไว้เจอเพื่อนที่ทำงานธนาคารชาติ ค่อยถามอีกที ว่าของจริงเป็นยังไงกันแน่

ได้ความรู้เยอะเลย

OutOfMyMind เขียน:http://www.oie.go.th/seminar/OIEForum10 ... eyfund.pdf

ดร.โอฬาร ไชยประวัติ อธิบายไว้ เข้าใจได้ง่ายดีครับ

ขอบคุณมากครับ เข้าใจแล้ว ว่าเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ไม่ใช่เงินทุนสำรอง แต่เป็นเงินตราต่างประเทศ ที่กฎหมายไม่อนุญาติให้นำมาซื้อขายของ ได้เหมือนเงินบาท

เพราะฉะนั้น ใครส่งออกได้ดอลล่ามาเยอะ ก็ต้องไปแลกเป็นเงินบาท เพื่อนำไปใช้จ่าย

ด้วยเหตุนี้ เงินทุนสำรองที่โตขึ้น ก็เพราะเราทำการค้า แล้วได้ดอลล่ามามาก

แต่อ่านแล้วก็เสียว ตรงที่เงินทุนสำรองของเรา เช่น ในรูปดอลล่า เราก็เอาไปฝากธนาคารที่เมกา หรือไม่ก็ซื้อพันธบัตรรัฐบาล

เอ๊ะ ถ้าเมกาแย่ ไปเลย เงินที่ถืออยู่ ก็ไม่มีค่าไปด้วยซิ

เขาพูดถูกว่าทุนสำรองเยอะขึ้นแต่พูดไม่หมด ว่าทุนสำรองมันโตขึ้นเพราะราคาทองคำ
เราไม่ได้เก็บทุนสำรองแค่ทรัพย์สินต่างประเทศ แต่หนึ่งในของที่เราเก็บคือทองคำ และมันทำให้ทุนสำรองเพิ่มมหาศาล นี่แค่ประเทศไทยเล็กๆ เก็บทองไม่เยอะเท่าไร ถ้าเป็นอเมริกาล่ะ?

อ้างอิงข้อมูลจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย
http://www.bot.or.th/THAI/STATISTICS/EC ... erves.aspx