Thai VI

ผมอ่านหนังสือของปู่่บัฟเฟต ปู่่แกบอกว่าแก่นของการลงทุนก็ คือ margin of safty(MOS) แต่หนังสือที่เขียนเกี่ยวกับปู่ก็ไม่ได้บอกว่าปู่่แกตั้ง MOS อย่างไร ตั้งที่ค่าเท่าไร เพราะว่า การประเมินหุ้นแต่ละตัวก็มีลักษณะไม่เหมือนกัน บางตัวเป็นหุ้นเติบโตก็ต้องตั้ง MOS ไว้สูงหน่อยเพื่อพลาด อย่างเช่นธุรกิจอิเล็กธอนิกที่เทคโนโลยีมันเปลี่ยนแปลงเร็วไม่เว้นแต่ละปี แต่ผมเคยตั้งโดยใช้เลข 25-30% เป็นเลขตายตัว ทำให้ผมพลาดโอกาศลงทุนในหุ้นดีๆบางตัวที่ราคาไม่ลงมา แต่ถ้าจะให้บีบตัวเลขเหลือแค่ 10% ก็ทำใจยอมรับไม่ได้ที่จะลงทุนหุ้นตัวนั้น ก็ไม่รู้ว่าอนาคตที่เราศึกษาตัวนี้จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงอีกหรือเปล่า จึงขอปรึกษาพี่ๆเป็นวิทยาทานให้ผมหน่อยนะครับ เรื่องวิธีตั้ง MOS แต่ตอนนี้ผมก็ยังใช้วินัยเดิมที่ 30% อยู่ครับ

คงขึ้นกับว่าเรารู้จักบริษัทที่เราลงทุนดีแค่ไหนอ่ะคับ แล้วก็สามารถคาดการณ์ได้แม่นยำ สม่ำเสมอ
แล้วก็ขึ้นกับจังหวะเวลาที่เราจะซื้อด้วย แล้วตีออกมาเป็นค่าความเชื่อมั่นที่ต้องถามตัวเองว่าต้องเป็นกลาง
ปราศจากอคติ ความลำเอียงต่างๆ คือหุ้นที่เรามั่นใจในเรื่องคุณภาพ อยู่ในขอบข่ายความสามารถเราชัดเจน
เราก็อาจจะเผื่อ mos น้อยลงได้ เพราะเรามั่นใจกับการเติบโตของยอดขาย กำไร ว่ามีคุณภาพดี ราคา
สมเหตุผล ซึ่งหุ้นแบบนี้จะมีจำนวนไม่มากคับ กับอีกหุ้นที่เรามีข้อมูลความเข้าใจน้อยลงมา แล้วก็มี
เรื่องของความไม่แน่นอน ความเสี่ยงมากขึ้น เราก็ต้องขอ mos มากขึ้นตามไปด้วย

แต่โดยทั่วไปเราควรกำหนด mos คร่าวๆของเราไว้ในใจ แล้วก็ค่อยมาปรับปรุงตามความเข้าใจบริษัท
ของเรา แต่ถึงจะเผื่อ mos อย่างไร ก็ยังไม่ปลอดภัยอยู่ดี เราต้องติดตามบริษัทที่เราซื้อหุ้นว่า
ทำได้อย่างที่เราคิดอย่างน่าพอใจหรือไม่ด้วย

ถึงแม้บริษัททำได้อย่างที่เราคิด ดีเยี่ยม แต่ราคาหุ้นนั้นบางทีอาจไม่ตอบสนองเป็นระยะเวลานานๆ
บางทีถึงกับลงไปจนเราใจหายมากกว่า mos ที่เราตั้งไว้ ถึงตอนนั้นควรจะต้องทบทวนปัจจัยต่างๆอีกครั้ง

สุดท้ายตลาดก็มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา การลงทุนโดยคาดหวังว่าเราต้องถูกนั้น เป็นความเครียดอย่างยิ่ง
ถ้ำเสือนั้นเป็นที่รู้ๆกันว่ามีแต่ยอดฝีมือทั้งนั้น ทั้งในและนอกประเทศ ขอให้คำนึงถึงเรื่องนี้ด้วยคับ

" เรารู้ ผู้อื่นก็รู้ "

เท่าที่อ่าน บัพเฟต น่าจะตั้ง mos ในเรื่องธุรกิจก่อน

เช่น ความไม่รู้คือความเสี่ยง ยิ่งไม่รู้ยิ่งเสี่ยง ยิ่งกระจายความเสี่ยง ยิ่งเสี่ยง

หรือ ถ้า 10 ปีที่แล้ว มีคนกินโค๊ก และวันนี้มีคนกินโค๊ก สามารถคาดหวังได้ว่า อีก 10 ปีข้างหน้า ก็จะมีคนกินโค๊ก

คือบัพเฟต น่าจะตั้ง mos ในเรื่องธุรกิจที่ไม่เจ๊งก่อน

ส่วนราคาก็น่าจะซื้อแบบ สมเหตุสมผล มากกว่า ราคาต้องลง 30 %

คือลงก็ได้ ไม่ลงก็ได้ ถ้าสมเหตุสมผล ก็ซื้อ

ซื้อแล้วลงก็ได้ ก็ไม่เป็นไร เพราะระยะสั้นๆ Mr.Market ก็ให้ราคาแบบไม่สมเหตุ สมผลได้

แต่ระยะยาวแล้ว ถ้ากิจการ มีพื้นฐานจริง มีกำไรจริง ในที่สุด หุ้นก็ต้องปรับตัวขึ้นมา

ไม่อยากให้คิดว่า ราคาลง 30 % (ผมเข้าใจว่า Tibular ดู mos จากราคาลง ไม่รู้เข้าใจถูกหรือไม่) แปลว่า mos ok แล้ว ลงมาเยอะแล้ว ความเสี่ยงน้อยลงแล้ว

แต่ก่อน อิออน จาก 50 ไป 250 ตอนลง ก็ลงเหลือ 87

ก็มากกว่า 30 %

bigc สมัยแรกๆ 25 ก็ลงเหลือ 12.50 ก็ลง มากกว่า 30 %

หรือ pttep ตอน subprime ก็ลงจาก 222 ลงเหลือ 80 ก็ลงมากกว่า 30 %

ผมคิดว่าไม่เกี่ยวกับเปอร์เซ็นต์ แต่เกี่ยวกับ ราคานั้นๆ สมเหตุ สมผล เพราอะไร 1 2 3

ดู mos จากมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท อ่ะคับพี่เจ๋ง
นั่นก็คือเราต้องประเมินมูลค่าได้อย่างสมเหตุผลก่อน
การประเมินมูลค่าอันนี้ก็เป็นศาสตร์และศิลป์ของแต่ละคน
เพราะฉะนั้นมูลค่าที่แต่ละคนได้มาอาจจะไม่เท่ากัน
การเผื่อ mos ก็อาจจะต่างกันไปแล้วแต่มุมมองอีกด้วย
(รูปที่ผมถ่ายให้กะ ดร. อย่างหล่อเลยนะคับ 555)

Tibular เขียน:ดู mos จากมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท อ่ะคับพี่เจ๋ง
นั่นก็คือเราต้องประเมินมูลค่าได้อย่างสมเหตุผลก่อน
การประเมินมูลค่าอันนี้ก็เป็นศาสตร์และศิลป์ของแต่ละคน
เพราะฉะนั้นมูลค่าที่แต่ละคนได้มาอาจจะไม่เท่ากัน
การเผื่อ mos ก็อาจจะต่างกันไปแล้วแต่มุมมองอีกด้วย
(รูปที่ผมถ่ายให้กะ ดร. อย่างหล่อเลยนะคับ 555)

ขอบคุณมากๆเลยครับ