Thai VI

09 พ.ค. 2554 XD(ST) วันปิดสมุดทะเบียน 12 พ.ค. 2554
วันจ่ายปันผล 20 พ.ค. 2554 00:00
อัตราส่วนหุ้นปันผล 1 : 1
รอบผลประกอบการ 01 ต.ค. 2553 - 31 ธ.ค. 2553


เพิ่มจำนวนหุ้นเป็น 2 เท่าแต่ทำไมราคายังเท่าเดิมครับ

แปลว่าหุ้นราคาได้ขึ้นมาเท่าตัวไงครับ ดูที่ มาร์เก็ตแคปเอาจะเข้าใจ

จ่ายปันผลเป็นหุ้น ราคาไม่ลด ก็เรื่องธรรมดานี่ครับ

chowbe76 เขียน:จ่ายปันผลเป็นหุ้น ราคาไม่ลด ก็เรื่องธรรมดานี่ครับ

จ่ายปันผลเป็นหุ้นราคาก็ต้องลดอยู่ดีครับ เพราะว่า eps จะลดลง ถ้า pe ของหุ้นไม่เพิ่มสูงขึ้นราคาลดแน่ครับ

chowbe76 เขียน:จ่ายปันผลเป็นหุ้น ราคาไม่ลด ก็เรื่องธรรมดานี่ครับ

เหรอครับ? งงครับ... ช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมครับ? ผมนึกว่าเวลาจ่ายหุ้นปันผลมันจะมี Dilution Effect ที่ต้องทำให้ราคาหุ้นลงซะอีก

picatos เขียน:

chowbe76 เขียน:จ่ายปันผลเป็นหุ้น ราคาไม่ลด ก็เรื่องธรรมดานี่ครับ

เหรอครับ? งงครับ... ช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมครับ? ผมนึกว่าเวลาจ่ายหุ้นปันผลมันจะมี Dilution Effect ที่ต้องทำให้ราคาหุ้นลงซะอีก

ราคาหุ้นจะขึ้นจะลงน่าจะอยู่ที่หลักดีมานด์ซัพพลายของตลาดนี่ครับ

ผมเห็นหุ้นบางตัวขาดทุนเท่าเดิมแต่ราคาขึ้นสองสามเด้งก็มี
บางตัวกำไรอื้อแต่ราคาตกก็มีนี่ครับ

nowkung เขียน:09 พ.ค. 2554 XD(ST) วันปิดสมุดทะเบียน 12 พ.ค. 2554
วันจ่ายปันผล 20 พ.ค. 2554 00:00
อัตราส่วนหุ้นปันผล 1 : 1
รอบผลประกอบการ 01 ต.ค. 2553 - 31 ธ.ค. 2553


เพิ่มจำนวนหุ้นเป็น 2 เท่าแต่ทำไมราคายังเท่าเดิมครับ

คุณ nowkung ถามจริงๆ หรือจะแฝงความนัยอะไรไว้หรือเปล่าครับ

เพราะตลาดปรับค่า P/E ให้เป็นสองเท่าของทีีเคยเป็นอยู่ครับ

ถ้าตาม logic จริง ๆแล้วราคาควรจะต้อง dilute ลงเมื่อกำไรของบริษัทเท่าเดิมและนักลงทุนมีเหตุผล

ถ้าราคาเท่าเดิมแสดงว่าตลาดปรับ pe 1 หรือกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ

chowbe76 เขียน:

picatos เขียน:

chowbe76 เขียน:จ่ายปันผลเป็นหุ้น ราคาไม่ลด ก็เรื่องธรรมดานี่ครับ

เหรอครับ? งงครับ... ช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมครับ? ผมนึกว่าเวลาจ่ายหุ้นปันผลมันจะมี Dilution Effect ที่ต้องทำให้ราคาหุ้นลงซะอีก

ราคาหุ้นจะขึ้นจะลงน่าจะอยู่ที่หลักดีมานด์ซัพพลายของตลาดนี่ครับ

ผมเห็นหุ้นบางตัวขาดทุนเท่าเดิมแต่ราคาขึ้นสองสามเด้งก็มี
บางตัวกำไรอื้อแต่ราคาตกก็มีนี่ครับ

คุณ chowbe76 หมายความว่า ถ้าให้ภาพของกิจการเหมือนเดิม หลังจากที่มีการจ่ายหุ้นปันผล อุปทานของหุ้นจะเพิ่มขึ้นจากจำนวนหุ้นปันผล ในขณะที่ อุปสงค์ในการซื้อหุ้นจะมากขึ้นตามมาโดยอัตโนมัติเหรอครับ เพื่อดูดซับอุปทานส่วนเกินเป็นผลให้ราคาหุ้นกลับขึ้นไปเท่าเดิม... อย่างนี้รึเปล่าครับ?

เปล่าครับพี่ ผมหมายถึงว่า ราคาหุ้นมันจะเป็นอย่างไรมันก็เป็นภาพลวงตาที่ขยับไปขยับมา ไม่อยากให้คนยึดติดกับราคาหุ้นมาก

กำลังฝึกจิตวิทยาการลงทุนอยู่ครับ

ขายได้เพิ่มขึ้น กำไรเพิ่มขึ้น ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น ช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น productใหม่เพิ่มขึ้น การเติบโตเพิ่มขึ้น ราคาเพิ่มขึ้น

เมื่อก่อนหุ้นตัวนี้เทรดกันที่ราคา 9 บาท PE 7 กว่าๆเองครับ แต่พอประกาศจ่ายปันผลหุ้น 1 ต่อ 1 ราคาหุ้นก้อเลยปรับเพิ่มขึ้นไปรอที่ 14 บาทก่อนจ่ายหุ้นปันผลคับ แล้วก้อ dilute ลงมาเหลือ 6.1 บาท จากนั้นราคาก้อค่อยๆไต่ระดับขึ้นมาที่ PE 12 คับ เท่ากับว่าผู้ถือหุ้นได้กำไรจากการลงทุน ณ วันประกาศจ่ายปันผล 1 ต่อ 1 จนมาถึงวันนี้เท่ากับ 100% แล้วครับ
ผมมองว่าการที่หุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นน่าจะมาจากการที่บริษัทจ่ายหุ้นปันผลออกมา รวมทั้งผลประกอบการที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคตทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศครับ ตลาดก้อเลยให้ PE สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้ายแล้วก้อควรมองการทำกำไรอย่างยั่งยืนของบริษัทในระยะยาวนะครับ
ปล. มีหุ้นอยู่นะครับ ไม่ได้เชียร์ แต่เป็นมุมมองส่วนตัวครับ และก้อกอดไว้ตั้งแต่ก่อนประกาศจ่ายหุ้นปันผลมานานพอสมควร จนได้เด้งแรกในชีวิตเลยครับ

ยินดีกับเพื่อนๆทุกคนนะครับ ผมปล่อยทิ้งไปตั้งแต่ยัง ไม่ประกาศปันผล เพราะผมกลัวค่า Royalty Fee ซึ่งเป็นค่าที่ไม่แน่นอนและ ขึ้นอยู่กับ บ.แม่ อีกต่างหาก ... แต่สุดท้ายแล้วก็อย่างที่เห็น ค่า Royalty Fee ทำให้ผมต้องเศร้าใจ...^_^

ตอนนี้ pe ของ dsgt น่าจะพ่งกระชูด แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับตัวนี้มาก่อนเท่าไรลองไปคิดดู
ดูเหมือนจะมีการคาดหวังที่สูงมากตั้งแต่ แตกหุ้น ทั้งๆที่พื้นฐานไม่ได้มีการเปลี่ยนไปเลย

arwut เขียน:ยินดีกับเพื่อนๆทุกคนนะครับ ผมปล่อยทิ้งไปตั้งแต่ยัง ไม่ประกาศปันผล เพราะผมกลัวค่า Royalty Fee ซึ่งเป็นค่าที่ไม่แน่นอนและ ขึ้นอยู่กับ บ.แม่ อีกต่างหาก ... แต่สุดท้ายแล้วก็อย่างที่เห็น ค่า Royalty Fee ทำให้ผมต้องเศร้าใจ...^_^

ผมลองคำนวณผลตอบแทนโดยใส่ Royalty Fee 3.5 เข้าไป ราคาณตอนนั้นก็ยังลงทุนได้เลยนะครับ

cookclick เขียน:ตอนนี้ pe ของ dsgt น่าจะพ่งกระชูด แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับตัวนี้มาก่อนเท่าไรลองไปคิดดู
ดูเหมือนจะมีการคาดหวังที่สูงมากตั้งแต่ แตกหุ้น ทั้งๆที่พื้นฐานไม่ได้มีการเปลี่ยนไปเลย

If I'm not wrong, before stock divident , the market cap is only 2800 Million baht --> the previous year profit is around 360 Million baht, PE = 7.X

Even before that time, the company is gaining a huge market share in Thailand market. I believed the reason of such a low PE, especially when you comparing with Forward PE or PEG ratio valuation in that time due to two reasons.

- Investor was too much worried about the increasing cost of management Fee and blindly to look into the total aspect of real business that the company is growing in Revenue and profit , including gaining huge market share from competitors.

- the second reason was that Some quarterly result in last year was not good as investors expected, It was due to the advertising cost to advertise New Product in TV and the cost of investing in this new product. This was very nonsense but it was actually happened that investor just sold sold and sold making stock price reducing from 12 to 8 baht per share,,,,,,, It was actually the buying opportunities when company was in the good track of growth and introducing new important product , right ? then later on with this new product, the company can make record revenue again and again in Q4 2010 and Q1 2011.

Sometime investors doing some things that not really make sense such as

- Short term focus on Quarter result basis, if good you buy , if bad you sell immediatly
- When a disappointing result showed, lots of bad news will be followed, such as too many competitions in market , the company will not be survived they will lost for sure. Their product is not good who will use it, Their product is really work in thai market ?? blah blah blah
- When the good results showed, another stories are told,, seems too good too be true...

Happy investing ja

ผมก็เคยถือ แต่ที่ปล่อยไปเพราะเห็นธุรกิจแข่งขันกันแรง ตอนนี้เห็นราคาหุ้นแรง เลยเสียดายอย่างแรง
ปล.ยินดีกับผู้ถือหุ้นทุกท่าน

ระวัง insider หน่อยก็ดีครับ
จำได้ว่า ราคาไหลลงเรื่อยๆแบบมีนัย ก่อนงบ Q3/2011 จะออก

*พิมพ์ผิดแฮะ ปีที่แล้วมัน 2010 นี่นา

เรียกเม่ามารับของ ต้องดันแรง ๆ ธรรมดาครับ

อีกประเด็นที่อาจเป็นได้ คือ หุ้นตัวนี้ เป็นที่นิยมของสถาบันฯ เพราะพีอีต่ำ ปันผลดี มีโอกาสขยายตลาดได้มาก
การเพิ่มทุนอาจทำให้หลายสถาบัน/กองทุนที่จ้องอยู่ พ้นข้อจำกัดในการซื้อหุ้นบ.ที่ทุนจดทะเบียนต่ำ เข้ามาเก็บหุ้น
ดีมานด์ใหม่ๆมา ผถห.เก่า(หลายคน)ไม่ยอมปล่อย ราคาก้อถูกดันไปเอง

ข้างล่างนี่เป็นรายชื่อผถห.ก่อนจ่ายปันผล เมื่อสิ้นเดือนเมษา ถ้าใครลองหารายชื่อสิ้นเดือนนี้มาเทียบดู ก้อคงพอรู้ว่าผมเดาส่งเดชหรือปล่าว

DSG INTERNATIONAL LIMITED197,207,00065.74%
SOMERS (U.K.) LIMITED24,903,8008.30%
บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด12,081,3004.03%
นาง สุวรรณา อนุวงศ์นุเคราะห์9,000,0003.00%
นาย สุวัฒน์ นิยมเสถียร6,450,9002.15%
นาย ประพันธ์ อนุวงศ์นุเคราะห์5,300,0001.77%
J.P. MORGAN MARKETS LIMITED-CUSTOMER REG. ACCOUNT4,961,4501.65%
BANK JULIUS BAER AND CO.LTD3,830,0001.28%

ขออนุญาติเข้ามาเก็บความรู้ครับ