Thai VI

ผมเคยได้ยินมาว่า กลุ่ม Bank Leasing จะมีลักษณะการประเมินมูลค่าที่ต่างกับกลุ่มอื่นๆครับ
แต่ผมก็ไม่รู้ว่ามันต่างยังไง ผมจึงมีคำถามดังนี้ครับ

1.มี Ratio อะไร ที่ผมต้องระวัง,และติดตามเป็นพิเศษ ผมสังเกตว่านักวิเคราะห์มักพูดถึง NIM ซึ่งผมก็ยังงงๆอยู่ครับ
2.ในการ Forcast งบการเงินนั้น มีอะไรแตกต่างการบริษัททั่วไปมั้ยครับ (ผมได้ยินมาว่าไม่สามารถคาดการณ์งบกระแสเงินสดได้ จริงมั้ยครับ)
3.ในการประเมินมูลค่า ควรใช้วิธีไหนดีครับ (ผมเคยเจอว่าควรใช้ PB แต่ส่วนตัวมองว่า หากบริษัทมี Growth ที่ต่างกัน
ก็ควรมี PB ที่ต่างกัน)

สุดท้าย หากมีประเด็นใดที่ผมควรรู้ในการวิเคราะห์และประเมินมูลค่าหุ้นกลุ่ม Leasing รบกวนพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ
ช่วยแนะนำด้วยครับ (ผมอ่านบทความที่ ดร.นิเวศน์ เขียนเกี่ยวกับหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินแล้วครับ ได้มุมมองที่ดีมากครับ)

ขอบคุณทุกความเห็นครับ

การประเมินโดยใช้ P/B น่าจะใช้กับกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีรายได้ไม่สม่ำเสมอมากกว่านะครับ เช่นกลุ่มรับเหมา รายได้จากแต่ละโครงการที่พอทำโครงการณ์เสร็จแล้ว ยังไม่แน่ว่าจะได้โครงการณ์ต่อไปหรือเปล่า อย่างนี้น่าจะเหมาะสมกับ P/B นะครับ

ถ้าจำไ่ม่ผิดที่ผมเจอว่าควรใช้ PB เนื่องจากสินทรัพย์ส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้ ที่มีความซึ่งใกล้เคียงกับมูลค่าจริงครับ

การประเมินโดย P/B มีจุดอ่อนที่ไม่ได้ประเมิน รวม Growth ของ eps เข้าไปด้วยครับ
ดังนั้นหาก บ.ลิสซิ่งที่มีพอร์ตสินเชื่อที่มีคุณภาพ และขยายพอร์ตได้เราสามารถที่จะคาดโกรทของปีถัดๆไปได้ครับ ดังนั้น PB อาจไม่ค่อยเหมาะ เพราะ book value ไม่ได้รวม ค่าแบรนด์เนม ค่าฐานลูกค้า ค่าความชำนาญของ พนง ไว้ด้วยครับ
ลองแลกเปลี่ยนความเห็นกันดูครับ

อยากได้ความรู้เรื่องนี้เหมือนกันครับ หาหนังสืออ่านไม่ได้เลย แต่เท่าที่ผมใช้ก็คือ D/E ratio เทียบกับบริษัทที่ทำธุรกิจคล้ายกัน ดูดอกเบี้ย MLR ว่ายังจะมีสเปรดเหลือพอหรือไม่ ดูหนี้สงสัยจะสูญ ดูลูกหนี้ด้อยคุณภาพ ดูการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ ประมาณนี้ล่ะครับ

การ forecast คงหนีไม่พ้นจากการดูพอร์ตสินเชื่อแล้วประเมินการเติบโตออกมาให้เป็นตัวเลข ส่วนการ ประเมินมูลค่า ผมก็พยายามศึกษาหลายวิธี แต่ที่จะใกล้เคียงกับที่ผมคาดไว้น่าจะเป็น DDM โดยวิธีของ Gordon Growth ครับ ลองทำ DCF แล้วมันเข้ารกเข้าพงไปเลย ผิดถูกยังไงชี้แนะด้วยนะครับ ผมเองก็เพิ่งศึกษาเรื่องนี้ได้ไม่นาน พอดีมีน้องท่านนึง pm มาถามว่าผมใช้โมเดลอะไรในการวัดมูลค่าหุ้น ตอนนั้นผมตอบไม่ได้ ทำให้ผมรู้สึกว่าต้องไปหาความรู้เพิ่มเรื่องนี้แล้วแหละ

ลืมอีกตัวนึงคือ Return on Total Capital (ROTC) เทียบกับอุตสาหกรรมเดียวกันด้วยครับ

jo7393 เขียน:การประเมินโดย P/B มีจุดอ่อนที่ไม่ได้ประเมิน รวม Growth ของ eps เข้าไปด้วยครับ
ดังนั้นหาก บ.ลิสซิ่งที่มีพอร์ตสินเชื่อที่มีคุณภาพ และขยายพอร์ตได้เราสามารถที่จะคาดโกรทของปีถัดๆไปได้ครับ ดังนั้น PB อาจไม่ค่อยเหมาะ เพราะ book value ไม่ได้รวม ค่าแบรนด์เนม ค่าฐานลูกค้า ค่าความชำนาญของ พนง ไว้ด้วยครับ
ลองแลกเปลี่ยนความเห็นกันดูครับ

เห็นด้วยอย่างมากครับ
แก้โดยใช้๋ี Justified PB ได้มั้ยครับ
(ROE-g)/(Re-g)

อนัตตา เขียน:อยากได้ความรู้เรื่องนี้เหมือนกันครับ หาหนังสืออ่านไม่ได้เลย แต่เท่าที่ผมใช้ก็คือ D/E ratio เทียบกับบริษัทที่ทำธุรกิจคล้ายกัน ดูดอกเบี้ย MLR ว่ายังจะมีสเปรดเหลือพอหรือไม่ ดูหนี้สงสัยจะสูญ ดูลูกหนี้ด้อยคุณภาพ ดูการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ ประมาณนี้ล่ะครับ

การ forecast คงหนีไม่พ้นจากการดูพอร์ตสินเชื่อแล้วประเมินการเติบโตออกมาให้เป็นตัวเลข ส่วนการ ประเมินมูลค่า ผมก็พยายามศึกษาหลายวิธี แต่ที่จะใกล้เคียงกับที่ผมคาดไว้น่าจะเป็น DDM โดยวิธีของ Gordon Growth ครับ ลองทำ DCF แล้วมันเข้ารกเข้าพงไปเลย ผิดถูกยังไงชี้แนะด้วยนะครับ ผมเองก็เพิ่งศึกษาเรื่องนี้ได้ไม่นาน พอดีมีน้องท่านนึง pm มาถามว่าผมใช้โมเดลอะไรในการวัดมูลค่าหุ้น ตอนนั้นผมตอบไม่ได้ ทำให้ผมรู้สึกว่าต้องไปหาความรู้เพิ่มเรื่องนี้แล้วแหละ

ใช้ DDM ผมคิดว่าอาจมีปัญหา เพราะบริษัทที่ผมจะวิเคราะห์ ปี 52 ปันผลประมาณ 40% ของกำไร
แต่ปี 53 ปันผลเกือบ 70% ของกำไร แบบนี้ผมใช้ตัวไหนดีครับ

หากจะแนะนำหนังสือก็จะดีมากเลยครับ

แล้วจะใช้วิธีไหนีหรอครับ

ผมใช้สมมุติฐาน % ROA เพื่อหากำไรสุทธิ แล้วค่อยหา EPS ครับ แต่ก่อนจะจะตั้งสมมติฐาน % ที่ว่านั้น ต้องมีข้อมูล NIM, สัดส่วน % สำรองหนี้สูญ, สัดส่วน% ค่าใช้จ่าย... ครับ

ประมาณการแบบง่ายๆ โดยเอาพอร์ทสินเชื่อที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น (เฉลี่ยๆ รายเดือนได้ยิ่งดี) มาคูณ ROA ที่สมมติฐานไว้ ครับ

ในสถาณการปกติ เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ NIM สูงขึ้น, สำรองหนี้สูญ ลดลง, คชจ.คงที่หรือเพิ่มไม่มากนัก ผมจะใช้สมมติฐาน% ROA ได้สูงขึ้นเป็น 2.xx- 3.xx % แต่ในสถาณการกลับกัน สมมติฐาน% ROA จะน้อยลงมากครับ..

โชคดีในการลงทุนครับ

ซื้อกลุ่มนี้ผมดูการควบคุมหนี้เสียก่อนน่ะครับว่ารัดกุมและมีคุณภาพมั้ย จากนั้นผมก็ดูคร่าวๆว่า bv ราคาเท่าไหร่ แล้วดูยอดสินเชื่อที่เหลืออยู่สามารถตีกลับมาเป็นกำไรเท่าไหร่จาก % ย้อนหลังว่าส่วนต่างดอกเบี้ยที่บริษัทได้ประมาณเท่าไหร่ เอามารวมกับ bv ถ้าราคาต่ำกว่ามากๆก็น่าสนใจครับ

send เขียน:หากจะแนะนำหนังสือก็จะดีมากเลยครับ

Financial Markets and Instituions ของ Frederic Mishkin เล่มนี่ดีมากๆ ผมใช้สมัยเรียนปริญญาโท อ่านแล้วจะเข้าใจธุรกิจการเงินขึ้นอีกเยอะครับ

แต่ถ้าอ่านจบแล้วอาจจะไม่กล้าลงทุนในธุรกิจพวกนี้นะครับ 555

ขอบคุณทุกท่านครับ

ลองเข้า ไป search หาบทความใน www.tsi-thailand.org
มีบทความของ ดร.กฤษฎา สอนเรื่อง งบการเงินของธนาคาร
ใช้งานกับกลุ่ม Leasing ได้เหมือนกัน

ส่วนการประเมินมูลค่า ใช P/BV ก็ได้
เเต่มี RATIO หลายๆตัวที่ต้องระวัง

send เขียน:

อนัตตา เขียน:อยากได้ความรู้เรื่องนี้เหมือนกันครับ หาหนังสืออ่านไม่ได้เลย แต่เท่าที่ผมใช้ก็คือ D/E ratio เทียบกับบริษัทที่ทำธุรกิจคล้ายกัน ดูดอกเบี้ย MLR ว่ายังจะมีสเปรดเหลือพอหรือไม่ ดูหนี้สงสัยจะสูญ ดูลูกหนี้ด้อยคุณภาพ ดูการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ ประมาณนี้ล่ะครับ

การ forecast คงหนีไม่พ้นจากการดูพอร์ตสินเชื่อแล้วประเมินการเติบโตออกมาให้เป็นตัวเลข ส่วนการ ประเมินมูลค่า ผมก็พยายามศึกษาหลายวิธี แต่ที่จะใกล้เคียงกับที่ผมคาดไว้น่าจะเป็น DDM โดยวิธีของ Gordon Growth ครับ ลองทำ DCF แล้วมันเข้ารกเข้าพงไปเลย ผิดถูกยังไงชี้แนะด้วยนะครับ ผมเองก็เพิ่งศึกษาเรื่องนี้ได้ไม่นาน พอดีมีน้องท่านนึง pm มาถามว่าผมใช้โมเดลอะไรในการวัดมูลค่าหุ้น ตอนนั้นผมตอบไม่ได้ ทำให้ผมรู้สึกว่าต้องไปหาความรู้เพิ่มเรื่องนี้แล้วแหละ

ใช้ DDM ผมคิดว่าอาจมีปัญหา เพราะบริษัทที่ผมจะวิเคราะห์ ปี 52 ปันผลประมาณ 40% ของกำไร
แต่ปี 53 ปันผลเกือบ 70% ของกำไร แบบนี้ผมใช้ตัวไหนดีครับ

งั้นคงต้องลองหลายๆ วิธีแล้วจึงนำมาเปรียบเทียบกันดูว่าตัวไหนที่ไกล้เคียงความเป็นจริงมากกว่ากัน
เช่นลองหาค่าเฉลี่ยเรขาคณิตให้ได้อัตราปันผลก่อนแล้วจึงนำไปเข้าสูตร Gordon Growth
หรือใช้วิธี multible growth model ลองดูอีกวิธี

ผมว่าถ้าค่าที่คำนวณได้มันออกมาเป็นตัวเลขที่ไม่เกินความเป็นจริง ก็น่าจะใช้ได้นะครับ

terati20 เขียน:ลองเข้า ไป search หาบทความใน http://www.tsi-thailand.org
มีบทความของ ดร.กฤษฎา สอนเรื่อง งบการเงินของธนาคาร
ใช้งานกับกลุ่ม Leasing ได้เหมือนกัน

ส่วนการประเมินมูลค่า ใช P/BV ก็ได้
เเต่มี RATIO หลายๆตัวที่ต้องระวัง

คิดว่าคงเป็นอันนี้ http://www.tsi-thailand.org/index.php?o ... temid=1397

ขอบคุณครับ

ขอบคุณครับ