Thai VI

พักหลังๆเริ่มเห็นกระทู้ลักษณะว่า หุ้นแบบนี้เป็นvalue รึเปล่า หรือบางทีก็Buffettเป็นvalueหรือ? และที่เห็นสับสนกันมากๆคือ นิทานอีสปของ อ.นิเวศ กลายเป็นกระทู้ว่า เล่นหุ้นviต้องถือหุ้นเต่าไปซะนี่ อืม..... ไม่ทราบคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ ว่าVIควรเป็นอย่างไร

ผมว่า VI ถ้าเป็นได้ก็ดีครับ
แต่ผมว่าเป็นยาก เพราะการเป็น VI ข้อมูลต้องดี ชัดเจน และลึกด้วย
แล้วไม่ค่อยมีใคร บอก แหล่งข้อมูล
ผมไม่แน่ใจว่าข้อมูลใน internet ที่มีอยู่นี่ จะพอให้ประกอบการตัดสินใจหรือเปล่า?????

โลกนี้ไม่มีอะไรฟรีครับ ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำคือหาความรู้ในด้านต่างๆให้มาก

Buffettเองเคยบอกว่า "การเป็นนักบริหารทำให้เขาเป็นนักลงทุนที่ดี และการที่เขาเป็นนักลงทุนก็ยิ่งทำให้เป็นนักบริหารที่ดียิ่งกว่า"

แสดงให้เห็นว่าเขายังคงหาประสบการณ์ทั้งในด้านการบริหารงาน และการลงทุนอยู่ตลอดเวลาครับ หากเราอยากเป็นนักลงทุนที่ดี เราก็ต้องหาความรู้ไปเรื่อยๆ เพื่อให้เราเก่งขึ้นในทุกด้านไม่ว่าการลงทุนหรือการทำงานของเราครับ

noknoi เขียน:ผมว่า VI ถ้าเป็นได้ก็ดีครับ
แต่ผมว่าเป็นยาก เพราะการเป็น VI ข้อมูลต้องดี ชัดเจน และลึกด้วย
แล้วไม่ค่อยมีใคร บอก แหล่งข้อมูล
ผมไม่แน่ใจว่าข้อมูลใน internet ที่มีอยู่นี่ จะพอให้ประกอบการตัดสินใจหรือเปล่า?????

ถ้าอ่านหนังสือตีแตกของท่าน ดร.นิเวศน์
ท่านได้สอนวิธีดูหุ้นให้พวกเรามากมายครับ
อย่างเข้าห้างสรรพสินค้า ท่านก็บอกให้ดูว่าใครผลิตสินค้าอะไร
ตอนเข้าคิวชำระค่าสินค้า ก็ดูได้ว่าบริษัทไหนขายดี
เมื่อเราถือหุ้นบริษัทไหน เราก็เป็นหุ้นส่วนของบริษัทนั้น
เราก็ต้องอุดหนุนของบริษัทเรา และอย่าลืมเชียร์พรรคพวกพี่น้องเครือญาติ
มาช่วยกันอุดหนุนสินค้าที่เราถือหุ้นอยู่ ดูไม่ยากเลยครับ

อินเตอร์เนท เหลือเฟือครับ หาข้อมูลได้เยอะ
สมัยเมื่อก่อน ไม่มีอินเตอร์เน็ท
บางทีซื้อหุ้นยังไม่รู้ว่าบริษัทเขาทำมาค้าขายอะไร
ข้อมูลบริษัทจดทะเบียนก็หายาก
เดี๋ยวนี้ค้นบริษัท ดูโครงสร้าง นโยบาย ผลประกอบการปีนี้ หรือย้อนหลังได้ด้วย
ขอให้ขยันทำการบ้านอย่างดี ก็จะรู้จริงเห็นจริงครับ

ในถังขยะยังมีข้อมูลเลยครับ
ว่านมอะไรขายดี
เครื่องเล่น VCD ยี่ห้อใหนคนซื้อมากที่สุด
ผลไม้อะไรคนนิยมกินกันในตอนนี้ (เงาะครับ)

แงๆ กระต่ายมันวิ่งเร็วแล้วยังเตะโคลนใส่อีกแน่ะ
สงสัยจะต้องแอบไปนอนใต้ต้นไม้สักครู่แล้วมั้ง
เมื่อไหร่มันจะหมดแรงไม่รู้ ทำเอาของแพงไปหมดเลย
เล่น เอ๊ย ลงทุน ไม่ถูกแล้วครับ

genie เขียน:พักหลังๆเริ่มเห็นกระทู้ลักษณะว่า หุ้นแบบนี้เป็นvalue รึเปล่า หรือบางทีก็Buffettเป็นvalueหรือ? และที่เห็นสับสนกันมากๆคือ นิทานอีสปของ อ.นิเวศ กลายเป็นกระทู้ว่า เล่นหุ้นviต้องถือหุ้นเต่าไปซะนี่ อืม..... ไม่ทราบคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ ว่าVIควรเป็นอย่างไร

ผมขอเพิ่มคำถามครับ เริ่มสับสนว่าVI นั้นต้องมีเวลาสมควรจะเป็นเมื่อไร สภาพตลาดแบบไหน หรือไม่ หรือต้องใช้ขนาดของพอร์ต เป็นเกณฑ์กำหนด
เช่นถ้าตลาดปั่นกันบ้่าคลั่งหุ้นตัวไหนก็ขึ้นได้หมดถ้ามีเงินเข้ามาไล่ (เช่นTMBวันไหนมีเงินใส่เข้ามา1500ล้านจะเสกราคาอย่างไรก็ได้) และถ้ามีเงินเข้ามาลากดัชนีไป1000กว่าอีก ซึ่งต้องใช้เวลาเป็นปีปี ระหว่างนั้นVIจะมีกลยุทธอย่างไรจึงดีที่สุด :lol: :lol:

เพื่อความชัดเจน ผมอยากจะแยกคนกับหุ้นออกจากกันโดย
VI-stock คือหุ้นที่มีพื้นฐานดี เหมาะแก่การลงทุน
VI-person คือคนที่เลือกลงทุนใน VI-stock ซึ่งโดยส่วนมากแล้วจะมีความอ่อนไหวกับราคาในตลาดน้อย
VS-stock คือหุ้นที่มีการเกร็งกำไร
VS-person คือคนที่เลือกจะเกร็งกำไรจากส่วนต่างของราคาตลาด ซึ่งเป็นไปได้ทั้ง VI-stock และ VS-stock

คนๆหนึ่งสามารถเลือกเป็นได้ทั้ง VS-person และ VI-person ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับหุ้นและหลักการที่จะใช้กับหุ้นที่เขาถืออยู่

VI-person เริ่มจากการศึกษา VI-stock หลังจากเลือกได้แล้วก็รอจังหวะที่จะซื้อในราคาที่คิดว่าต่ำที่สุด

TMB เป็น VI-stock ได้หรือไม่?
เป็น VI-stock ของคุณได้ ถ้าคุณสามารถทำให้ตัวเองเชื่อได้ว่า TMB
จะเติบโตอย่างแข็งแรงในอนาคต มีปันผลให้คุณได้ใช้ มีผู้บริหารที่ดี และทนทานต่อสภาวะเศษฐกิจตกต่ำได้

ในตลาดกระทิง VI-person ทำอย่างไร
ลงทุนแบบ VI-person คงไม่ได้เปลี่ยนหลักการ แต่คุณสามารถเลือกที่จะลงทุนแบบ VS-person ได้ในตลาดแบบนี้ถ้าคุณต้องการ

ถ้า VI-stock ถูก VS-person ทำราคาสูงมากจะทำอย่างไร?
ถ้าสูงมากจนไม่มีเหตุผล VI-person น่าจะเลือกการขาย แล้วรอให้ราคากลับลงมา
ถ้าไม่สูงมาก VI-person อาจจะซน เปลี่ยนหลักการไปเล่นแบบ VS-person ได้ (แต่จะได้จะเสียนี่อีกเรื่อง)

เต่ากับกระต่าย?
ถ้าเป็น อ.นิเวศน์ กับ VI-stock ของอ. ที่ราคาที่อ.มี ก็คงเป็นเต่าที่แซงหน้ากระต่ายไปไกลโขแล้ว
แต่ผมคิดว่า VI-stock และการลงทุนแบบ VI-person นั้น ทำให้เราได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจและปลอดภัย มากกว่า เสี่ยงมากได้มาก

Graham เขียนไว้ในบทนำของ The Intelligent Investor ว่า
"Our main objective (ของหนังสือเล่มนี้) will be to guide the reader against the areas of possible substantial error and to develop policies with which he will be comfortable.........For indeed, the investor's chief problem-and even worse enemy- is likely to be himself"

ผมขอเสริมของGrahamเพิ่มอีกนิดด้วยการยกมาอ้างอีกครั้งของBuffettครับ

กฎข้อที่หนึ่ง อย่าขาดทุน กฎข้อที่สองอย่าลืมกฎข้อที่หนึ่ง

การลงทุนที่ชาญฉลาดที่สุดจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราลงทุนแบบทำธุรกิจ

จำไว้ให้ขึ้นใจเถิดครับ

ขอบคุณหลายหลายพี่ท่าน
อ่านแล้วเกิดสติ :lol: :lol:

[quote="THiNK"]เพื่อความชัดเจน ผมอยากจะแยกคนกับหุ้นออกจากกันโดย
VI-stock คือหุ้นที่มีพื้นฐานดี เหมาะแก่การลงทุน
VI-person คือคนที่เลือกลงทุนใน VI-stock ซึ่งโดยส่วนมากแล้วจะมีความอ่อนไหวกับราคาในตลาดน้อย
VS-stock คือหุ้นที่มีการเกร็งกำไร
VS-person คือคนที่เลือกจะเกร็งกำไรจากส่วนต่างของราคาตลาด ซึ่งเป็นไปได้ทั้ง VI-stock และ VS-stock

คนๆหนึ่งสามารถเลือกเป็นได้ทั้ง VS-person และ VI-person ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับหุ้นและหลักการที่จะใช้กับหุ้นที่เขาถืออยู่

VI-person เริ่มจากการศึกษา VI-stock หลังจากเลือกได้แล้วก็รอจังหวะที่จะซื้อในราคาที่คิดว่าต่ำที่สุด

TMB เป็น VI-stock ได้หรือไม่?
เป็น VI-stock ของคุณได้ ถ้าคุณสามารถทำให้ตัวเองเชื่อได้ว่า TMB
จะเติบโตอย่างแข็งแรงในอนาคต มีปันผลให้คุณได้ใช้ มีผู้บริหารที่ดี และทนทานต่อสภาวะเศษฐกิจตกต่ำได้

ในตลาดกระทิง VI-person ทำอย่างไร
ลงทุนแบบ VI-person คงไม่ได้เปลี่ยนหลักการ แต่คุณสามารถเลือกที่จะลงทุนแบบ VS-person ได้ในตลาดแบบนี้ถ้าคุณต้องการ

ถ้า VI-stock ถูก VS-person ทำราคาสูงมากจะทำอย่างไร?
ถ้าสูงมากจนไม่มีเหตุผล VI-person น่าจะเลือกการขาย แล้วรอให้ราคากลับลงมา
ถ้าไม่สูงมาก VI-person อาจจะซน เปลี่ยนหลักการไปเล่นแบบ VS-person ได้ (แต่จะได้จะเสียนี่อีกเรื่อง)

เต่ากับกระต่าย?
ถ้าเป็น อ.นิเวศน์ กับ VI-stock ของอ. ที่ราคาที่อ.มี ก็คงเป็นเต่าที่แซงหน้ากระต่ายไปไกลโขแล้ว
แต่ผมคิดว่า VI-stock และการลงทุนแบบ VI-person นั้น ทำให้เราได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจและปลอดภัย มากกว่า เสี่ยงมากได้มาก

----------------------------------------------------------------------------------

ความคิดเยี่ยมมากเลยครับ
อธิบายละเอียดดี

คุยเท่าไหร่ก็ไม่จบจริงนะครับ
vi vs เนี่ย
ผมว่าสิ่งที่ทำให้สับสนคือนิยาม
การเข้าใจในนิยามที่ต่างกันทำให้เกิดความสับสน
นิยามของ vi นิยามของ vs คืออะไร ไม่มีบัญญัติไว้แน่นอน
เลยเกิดความสับสน ต่างคนต่างก็มีนิยามเป็นของตัวเอง

ตอนผมบวชเองก็ถกกับหลวงพี่ที่วัดอยู่ตั้งนาน
เรื่องการทำทานกับการทำสมาธิอันไหนได้บุญกว่ากัน
เพราะผมได้ยินมาว่าได้สมาธิเพียงชั่วครู่ ได้บุญมากกว่า ให้ทานทั้งชีวิต
คุยกันอยู่ตั้งนาน สุดท้ายก็เข้าใจ เพราะนิยามของคำว่าสมาธิแตกต่างกัน