ความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
woodooshy
Verified User
โพสต์: 185
ผู้ติดตาม: 0

ความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ตั้งแต่ปี 1989 เป็นต้นมา สถาบัน IMD ของสวิตเซอร์แลนด์จะจัดให้มีการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่างๆ ในโลกทุกปี


โดยในปี 2011 นี้ประเทศไทยได้อันดับที่ 27 จาก 59 ประเทศ ตกลงมาจากปีที่แล้วที่ได้อันดับที่ 26 จาก 58 ประเทศ


การจัดอันดับนี้ ใช้ข้อมูลสองส่วน คือ จากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เช่น ตัวเลขทางเศรษฐกิจ สถิติต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริง และจากการสำรวจความเห็นของผู้ประกอบธุรกิจในประเทศไทยจำนวนหนึ่ง


จากรายงาน World Competitiveness ประจำปี 2011 และจากการบรรยายของผู้บริหารของสถาบันสองท่าน คือ ศาสตราจารย์ โดมินิค เทอร์พิน ประธาน และ ดร.ฮิสชาม อัลอกามี กรรมการบริหารของสถาบัน ที่จัดโดยสมาคมบริษัทจดทะเบียนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สิ่งที่ประเทศไทยทำได้ดี คือ การมีเศรษฐกิจที่เติบโตดี มีเสถียรภาพ โดยได้อันดับที่ 10 และประสิทธิภาพของภาคธุรกิจ ซึ่งได้อันดับที่ 19


ส่วนที่ถือว่ากลางๆ ค่อนข้างดี คือ ความมีประสิทธิภาพของรัฐ ได้อันดับที่ 23 และที่ถือว่าแย่ คือ โครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน ซึ่งได้ลำดับที่ 47 (เคยได้สูงสุดอันดับที่ 39 ในปี 2008)


ที่ดีๆ นั่นคือ เศรษฐกิจเราสามารถขยายตัวได้ดีในปีที่แล้ว แม้จะมีปัญหาความไม่สงบทางการเมืองช่วงกลางปี แต่ก็เข้าสู่ภาวะการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยความสามารถในการส่งออก และการท่องเที่ยว อัตราการว่างงานของเราต่ำเพียง 1% ถือว่าต่ำเป็นอันดับที่ 2 ในโลก ส่วนการท่องเที่ยวก็ทำรายได้ให้เราถึง 6% ของจีดีพี นับเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดอันดับที่ 8 ของโลก แต่ก็ยังน้อยกว่าปี 2010 ซึ่งรายได้จากการท่องเที่ยวของเราคิดเป็น 6.67% ของจีดีพี


ส่วนโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ว่าไม่ดีนั้น ก็ไม่ได้ไม่ดีไปทั้งหมด สิ่งที่ดี คือ อัตราค่าโทรศัพท์มือถือของเราถูก ค่าไฟฟ้ายังไม่แพง และเรามีคนอยู่ในวัยทำงานเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับที่ดิฉันเคยเขียนไปแล้วว่าเรามีคนในวัยทำงานช่วงสูงสุดอยู่แถวๆ ปี 2010-2011 นี้ค่ะ หลังจากนั้น สัดส่วนผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้น


ส่วนที่ไม่ดีคือที่เราควรจะให้ความใส่ใจเพราะหากไม่แก้ไข ความสามารถในการแข่งขันของเราจะลดลง โครงสร้างพื้นฐานที่ยังต้องปรับปรุงคือ จำนวนแพทย์และพยาบาลต่อประชากร เราได้อันดับที่ 58 คือ อันดับสุดท้าย ซึ่งดิฉันคิดว่าข้อมูลผิด และจะได้แจ้งกับทาง IMD ต่อไป


คนไทยยังมีการใช้บรอดแบนด์จำนวนน้อย คือ ใช้เพียง 14.9 คนต่อประชากร 1,000 คน หรือ 1.49% เท่านั้น จำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ต่อประชากร และจำนวนคนใช้อินเทอร์เน็ตยังน้อยอยู่ (อันดับที่ 51) จำนวนนักเรียนต่อครูหนึ่งคนก็มากเกินไป


นอกจากนี้ ทางด้านความมั่นคงทางการเมืองซึ่งได้มาจากการสำรวจความเห็น ไทยเราอยู่ที่สุดท้ายเลย คือที่ 58 นอกจากนี้ จำนวนวันที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทและดำเนินการอื่นๆ ก่อนที่จะสามารถเริ่มธุรกิจใหม่ของไทยเรานั้น ใช้เวลานานถึง 32 วัน ซึ่งได้อันดับที่ 51 และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของเรายังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เมื่อเปรียบเทียบกับมาตรฐานสากล ซึ่งทางผู้บริหารของ IMD บอกว่าข้อนี้แก้ไขไม่ยาก อาจจะแก้ไขโดยการให้แรงจูงใจด้านภาษีให้บริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม ทำการวิจัยค้นคว้าพัฒนา โดยมีสิทธิประโยชน์ทางภาษี เช่นเดียวกับที่เคยมีในอิตาลี แต่พอรัฐบาลอิตาลี ยกเลิกสิทธิประโยชน์นี้ไป ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของอิตาลี ก็อ่อนแอลง


ในการสำรวจความเห็นเกี่ยวกับความน่าดึงดูดใจในเศรษฐกิจ 15 ข้อ ซึ่งให้ผู้บริหารลำดับสิ่งที่คิดว่าน่าดึงดูดใจที่สุด 5 ข้อ เกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ พบว่าสำหรับประเทศไทย สาธารณูปโภคพื้นฐานที่เชื่อถือได้ มาเป็นอันดับหนึ่ง ตามมาด้วยภาวะแวดล้อมทางกฎหมายที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงิน ตามมาติดๆ ถ้ามีโครงการดีๆ การจะระดมทุนหรือของสินเชื่อ เพื่อดำเนินกิจการไม่ใช่เรื่องยาก


แต่ที่ดิฉันประหลาดใจ ก็คือ ผู้บริหารกลับให้คะแนนเรื่องความสามารถของระดับผู้จัดการที่จะจัดการธุรกิจเป็นลำดับน่าดึงดูดใจท้ายๆ เวลาให้เรียงลำดับก็จะมักจะมีปัญหานี้ค่ะ โดยเฉพาะถ้ามีตัวเลือกให้หลายตัว และเผอิญผู้บริหารเห็นคล้ายๆ กัน คะแนนก็จะไปกระจุกกันอยู่ในไม่กี่ข้อ และข้อที่คนไม่ค่อยเลือกก็อาจจะได้คะแนนน้อยกว่าที่ควรจะเป็น


ไม่ว่าจะมีความสามารถในการแข่งขันในระดับประเทศมากเพียงใด แต่สิ่งที่จะเกื้อกูลกัน ก็คือ ความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ และความสามารถในการแข่งขันของคนในองค์กร เมื่อคนมีความสามารถในการแข่งขันสูง องค์กรก็จะมีความสามารถในการแข่งขันสูง และเมื่อองค์กรมีความสามารถในการแข่งขันสูง ประเทศก็จะมีความสามารถในการแข่งขันสูงไปด้วย


ทุกอย่างจึงขึ้นอยู่กับ "คน" ค่ะ การพัฒนา ให้การศึกษา ให้เรียนรู้ชีวิตจะช่วยเสริมสร้างคนรุ่นใหม่ที่เก่งยิ่งกว่าเดิมมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในระยะยาวค่ะ


วิทยากร กล่าวว่า ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว "ประเทศ" "องค์กร" และ "คน" ต้องมีความสามารถ ในการปรับแนวคิด ปรับตัว ปรับวิธีการทำงานให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาสิ่งใหม่ๆ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ดียิ่งขึ้น

โดย วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ
ลงทุนในความรู้ นำไปสู่อิสระภาพทางการเงิน

ลงทุนในบุญกุศล นำไปสู่อิสระภาพทางใจ
ภาพประจำตัวสมาชิก
MYBIZ
Verified User
โพสต์: 888
ผู้ติดตาม: 0

Re: ความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณขอรับ
จุดหมายปลายทาง อาจไม่ใช่ที่สุดของความงดงาม
dayto
Verified User
โพสต์: 17
ผู้ติดตาม: 0

Re: ความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอบคุณครับ
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 0

Re: ความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ซีเอ็นเอ็นชู ชาเย็น คว้าเครื่องดื่มยอดนิยมอันดับ 27 ของโลก
วันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2555 เวลา 15:40 น. ข่าวสดออนไลน์


เมื่อ 22 ม.ค. ซีเอ็นเอ็นโก เว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลและคำแนะนำด้านการใช้ชีวิตทั้งกิน ดื่ม เที่ยว รวมถึงศิลปะวัฒนธรรม จากหัวเมืองใหญ่ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จัดอันดับ 50 สุดยอดเครื่องดื่มโลก ยกให้น้ำเปล่าครองแชมป์อันดับ 1 ส่วน ‘ชาเย็น’ ของไทย หรือชาไทยใส่นมคว้าอันดับ 27 เครื่องดื่มยอดนิยมของชาวโลกมาครอง

ข่าวระบุว่า หลังจากที่มัสมั่นไทยได้รับเลือกให้เป็นสุดยอดอาหารโลกอันดับ 1 ของซีเอ็นเอ็นโกมาแล้ว ครั้งนี้ เครื่องดื่มรสหวานนุ่มอย่าง ชาไทยใส่นม หรือ ชาเย็น ไม่น้อยหน้า คว้าอันดับที่ 27 มาครอง โดยทีมงานซีเอ็นเอ็นโกให้เหตุผลว่า ชาไทยคุณภาพแท้ๆ ต้องชงจากชาดำคั่วรสเข้มและเติมนมข้นหวานจนให้รสชาติหอมหวานกลมกล่อม โดยหาซื้อได้สะดวกตามร้านหรือรถเข็นริมถนน พร้อมทั้งระบุว่า รสชาติชาเย็นอร่อยจริง เห็นได้จากแม้แต่ร้านอาหารเวียดนามและจีนยังนำไปขาย

สำหรับ 10 อันดับแรกของรายชื่อ “50 สุดยอดเครื่องดื่มของโลก” ได้แก่
1. น้ำเปล่า, ทั่วโลก
2. โคคา-โคล่า, สหรัฐอเมริกา
3. กาแฟ, เอธิโอเปีย
4. เบียร์, ทั่วโลก
5. ชา, ทั่วโลก
6. แอร์ มาตา กูซิง, มาเลเซีย
7. น้ำส้มคั้น, สหรัฐอเมริกา
8. ไวน์แดง, ทั่วโลก
9. จินและโทนิค, อังกฤษ
10. ช็อกโกแลตร้อนกับมาร์ชเมลโลว์, สหรัฐอเมริกา


ที่มา : http://www.khaosod.co.th/view_newsonlin ... swTnc9PQ==
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
โพสต์โพสต์