Thai VI

*"ฮอทพอท"คาดยื่นไฟลิ่ง ก.ค.เทรดตลาด mai ต.ค.,เชื่อกำไรโตกว่าปีก่อนมาก

นางสาวสกุณา บ่ายเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ฮอทพอท คาดว่า บริษัทจะยื่นข้อมูล(ไฟลิ่ง)ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ตลท.)ภายในเดือน ก.ค.54 เพื่อเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO)จำนวน 102 ล้านหุ้น และคาดว่าจะนำหุ้นเข้าซื้อขายตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai)ราวเดือน ต.ค.นี้
สำหรับกุ้นที่จะเสนอขายครั้งนี้ แบ่งเป็นหุ้นใหม่ 62 ล้านหุ้น อีก 40 ล้านหุ้นเป็นการเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นเดิม คือ กองทุนจากประเทศอังกฤษ โดยกองทุน AUREOS ถือหุ้นอยู่ 30% และกลุ่มบริษัทถืออยู่ 65% หลังการกระจายหุ้นกลุ่มบริษัทจะถือหุ้นลดลงเหลือ 55% ซึ่งคาดว่าจะสามารถระดมทุนได้ราว 120 ล้านบาท ซึ่งจะนำไปสร้างคลังอาหารที่ อ.ลำลูกกาประมาณ 40 ล้านบาท และที่เหลือใช้ลงทุนขยายสาขา
บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 30% มาที่ 1.5-1.6 พันล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้ 1.1 พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทขยายสาขาเพิ่ม 20 สาขา ใช้เงินลงทุน 200 ล้านบาท จากปัจจุบันมีสาขา 84 สาขา และคาดว่าสิ้นปีมีสาขาครบ 100 สาขา โดยเป้าหมายแต่ละปีจะขยายสาขาเพิ่มขึ้นประมาณ 30 สาขา
นอกจากนั้น หลังจากบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว บริษัทคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตปีละ 30% และบริษัทมีแผนขยายสาขาไปเปิดที่ต่างประเทศด้วย อาทิ อินโดนีเซีย และ เวียดนาม ภายใต้รูปแบบการขายเฟรนไชส์ โดยกองทุน AUREOS ซึ่งทำธุรกิจในสองประเทศนี้อยู่แล้วจะรับหน้าที่เป็นผู้เจรจา
นางสาวสกุณา กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/54 เชื่อว่าจะดีกว่าไตรมาส 1/54 ที่มีรายได้ 330 ล้านบาทและมีกำไร 20 กว่าล้านบาท รวมทั้งกำไรสุทธิทั้งปีคาดว่าจะสูงกว่าปีก่อนมาก เนื่องจากปีก่อนทั้งปีมีกำไรสุทธิ 30 ล้านบาท แต่ในปีนี้เพียงไตรมาสเดียวบริษัทมีกำไรสุทธิแล้ว 20 ล้านบาท เนื่องจากการเติบโตของสาขา ขณะที่ต้นทุนไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นมากนัก ส่วนงบโฆษณาปีนี้วางไว้ที่ 60-70 ล้านบาท หากรวมโปรโมชั่นด้านการตลาดเป็น 100 ล้านบาท ปัจจุบัน บริษัทมีสมาชิก 3 หมื่นราย คาดว่าสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 1 แสนราย

เพิ่งไปกินมาเมื่อวานซืนพอดีเลยนะครับ กินไปสองคน รวม 447 บาท(ถ้าจำไม่ผิด) กินไม่จำกัดเวลาด้วย ส่วนเรื่องรสชาติอาหารก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนนะครับ

อืมๆ หวังว่าจะไม่ซ้ำรอย ไดโดม่อง

Suysak เขียน:อืมๆ หวังว่าจะไม่ซ้ำรอย ไดโดม่อง

คิดเหมือนผมเลยพี่

จุดชี้เป็นชี้ตายของร้านอาหารคือความ"อร่อย"

รสนิยมส่วนตัวผมให้ ฮอตพอต "ไม่ผ่าน" ในประเด็นนี้ ( ส่วนรสนิยมมวลชนจะว่าอร่อยหรือไม่ ต้องศึกษากันต่อไปครับ )

reiter เขียน:จุดชี้เป็นชี้ตายของร้านอาหารคือความ"อร่อย"

รสนิยมส่วนตัวผมให้ ฮอตพอต "ไม่ผ่าน" ในประเด็นนี้ ( ส่วนรสนิยมมวลชนจะว่าอร่อยหรือไม่ ต้องศึกษากันต่อไปครับ )

^^ เสียดาย เตี๋ยวเนื้อรางน้ำไม่เข้าตลาด

น่าจะมีจุดขายที่ HOTPOT VALUE ราคาต่อหัวถูกที่สุด 169 บาทและไม่จำกัดเวลาครับ

แล้วเขาจะเอามาขายในงาน set in the city เหมือนไดโดม่องมั๊ยเนี่ย
เป็นหุ้นจองตัวแรกเลยนะเนี่ยทีี่จองได้

จากการไปลองกินมา มากกว่า สิบสาขา ทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด ก็ได้พบเจอสิ่งเดียวกันเลยว่า "ไม่ไหว" ดูๆ ไป hotpot คงไม่ดีเท่า oishi buffet ซึ่งผมคงไม่เอามันไปเปรียบเทียบกัน position ของ hotpot คงต่ำกว่า oishi อยู่พอสมควร และราคาก้อต่ำกว่า แต่ราคาพอบวก Vat + Service Charge และค่าน้ำ (ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกจะคิดค่าน้ำ) ราคามันก็แทบจะไกล้เคียงกับ oishi อยู่แล้ว ทำให้คนอาจจะเลือกไปกินหมูกะทะมากกว่า เพราะย่อมเยากว่าเยอะ ไม่งั้นก็เปลี่ยนไปกิน oishi เลย ปกติแล้วผมสังเกตว่า เวลาเราอยากออกไปกินบุฟเฟต์นอกบ้านเนี่ย ไม่ค่อยจะมี hotpot เป้นตัวเลือกต้นๆเท่าไรนัก แต่พอดีว่าจะไปกิน oishi แล้วคิวมันยาวมากก็เลยเปลี่ยนใจ เอาอันนี้แทนก็ได้จะได้ไม่เสียเที่ยว Hotpot น่าจะขายดี ในต่างจังหวัดที่พวกตระกูล oishi ยังเข้าไม่ถึง และข้อดีของมันก็คือ ไม่จำกัดเวลา ดังนั้น ถ้าถามว่ามีจุดขายในตัวมันก็คงมีแหละครับ ก็คือ คนที่อยากกินไม่อั้น ของไม่ต้องดีมาก มีห้องแอร์ และไม่จำกัดเวลา

ช่วงที่ OISHI เข้าตลาดใหม่ๆ ก็มีแต่ธุรกิจร้านอาหารครับ จากนั้นจึงมีธุรกิจเครื่องดื่มชาเขียว และอื่นๆมาประกอบ ส่วน HOTPOT นี่ ไม่แน่ใจว่าจะเข้าตลาด MAI หรือว่า SET รวมทั้งความน่าสนใจในอนาคตด้วย เพราะ MK SUKI ถือเป็นเจ้าตลาดนี้ และถ้า MK SUKI เข้าตลาดในอนาคต (สมมตินะครับ) ความน่าสนใจของ HOT POT ก็จะลดลงด้วย

จุดขายของ HotPot คือความหลากหลาย ไม่ใช่ความอร่อย
ต้องมองbusiness modelของเขาให้ออก
แล้วประเมินว่าไอ้จุดขายของเขามัน workไหม
ลูกค้ายอมรับแค่ไหน มีตลาดใหญ่พอไหม ยังเติบโตได้อีกไหม

ส่วนตัวเคยไปไม่กี่ครั้งหลายปีแล้ว จำได้ว่าอาหารก็เฉยๆไม่ได้อร่อยโดดเด่น
ไว้ค่อยไปลองอีกทีละกัน

ปล.ไม่มีหุ้นนะครับ..เพราะมันยังไม่เข้าตลาดจะมีได้ไงหว่า ฮา

densin เขียน:จุดขายของ HotPot คือความหลากหลาย ไม่ใช่ความอร่อย
ต้องมองbusiness modelของเขาให้ออก
แล้วประเมินว่าไอ้จุดขายของเขามัน workไหม

อันนี้เห็นด้วย อาหารหลากหลายจริงๆ
ส่วน ตจว. จำนวนคนเข้าร้าน hot pot คงไม่ต่างจาก mk เท่าไร อันนี้ผมสังเกตเองนะ

HOTPOT = ไปกะเพื่อน
MK = ไปกะครอบครัว / แฟน

sylph เขียน:HOTPOT = ไปกะเพื่อน
MK = ไปกะครอบครัว / แฟน

อันไหนแนวโน้มดีกว่ากันหว่า
แต่ถ้ามีร้านสำหรับกินกับกิ๊ก เติบโตเร็วแน่นอน
เพราะแฟนมีได้คนเดียว เพื่อนกินหลายคนทีเดียว
แต่กิ๊กหลายคน ต้องแยกกินทีละคน

densin เขียน:

sylph เขียน:HOTPOT = ไปกะเพื่อน
MK = ไปกะครอบครัว / แฟน

อันไหนแนวโน้มดีกว่ากันหว่า
แต่ถ้ามีร้านสำหรับกินกับกิ๊ก เติบโตเร็วแน่นอน
เพราะแฟนมีได้คนเดียว เพื่อนกินหลายคนทีเดียว
แต่กิ๊กหลายคน ต้องแยกกินทีละคน

ร้านสำหรับกิ๊ก คิดว่าคงไม่ใช่ธุรกิจ โรงแรมนะครับ อิอิ

ขอหยุดนอกเรื่อง เชิญพี่ๆ พูดคุยถึงเรื่องอาหารต่อเลยครับ

ในชีวิตนี้เคยเข้าไม่เกิน 4 ครั้ง เคยไปที่สุพรรณบุรีครั้งหนึ่ง ที่ห้างนาซ่ามอล คนน้อยมาก แต่ร้านพิซซ่าใกล้ๆคนหนากว่าเยอะ
ห่างออกไปอีกคนละห้างคือโลตัส ที่นั่นมีเทกซัสสุกี้ ร้านนี้คนก็ดูหนาแน่นกว่า ส่วนใหญ่ถ้าผ่านไปผมก็จะไปเข้าร้านนี้
ผมก็คิดว่าจริงอย่างหลายคนว่า hotpot มักเป็นตัวเลือกท้ายๆ เวลาหาร้านไม่ได้

ยำแซ่บ ไม่เข้ามั่งเรอะ ส้มตำขายดี

“ฮอทพอท”สยายปีกตปท.เข้าตลาดหุ้นระดมทุนเพิ่ม”สาขา-ครัวกลาง”
16 มิถุนายน 2554 22:20 น.

       “ฮอทพอท” เปิดเกมรุก เข้าตลาดหุ้น ระดมทุน 130 ล้านบาท สยายปีก พร้อมรุกตปท. ทั้งแฟรนไชส์และร่วมทุน ปีนี้ทุ่มงบลงทุน-ตลาดอีก 300 ล้านบาท เปิดอีก 25 สาขา ดันรายได้รวมโต 30%
       
       นางสาวสกุณา บ่ายเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮอทพอท จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนขยายธุรกิจในไทยและต่างประเทศต่อเนื่อง จึงต้องการเม็ดเงินลงทุนมากขึ้นเพื่อสร้างการเติบโต จึงมีแผนที่จะนำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดMAI โดยได้มอบหมายให้บริษัทแอดไวเซอร์รี่ เป็นเอฟเอหรือที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวงเป็นอันเดอร์ไรท์เตอร์ คาดว่าจะยื่นไฟล์ลิ่งได้เดือนหน้า และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดได้ประมาณตุลาคมนี้
       
       โดยมีแผนที่จะระดมทุนอีกเบื้องต้น 130 ล้านบาท จากปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 101 ล้านบาท ที่มีผู้ถือหุ้นเดิมแบ่งเป็น กลุ่มตระกูลบ่ายเจริญ 65% กองทุนออริออสจากอังกฤษ 35% ซึ่งจะทำการกระจายหุ้นประมาณ 10% ทั้งนี้เจ้าของเดิมยังคงถือหุ้นใหญ่อยู่แต่สัดส่วนลดลงประมาณ 5-10%
       
       ทั้งนี้แผนรุกตลาดต่างประเทศ จะขยายธุรกิจในเอเซียก่อน เบื้องต้นเช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งการร่วมทุนกับการขายแฟรนไชส์ แต่ยังไม่สรุป ซึ่งเร็วๆนี้ก็มีกลุ่มผู้สนใจเดินทางมาเจรจาบ้างแล้ว โดยผ่านทางกองทุนออริออที่ลงทุนอยู่ในประเทศเหล่านี้เหมือนกัน คาดว่าสิ้นปีนี้น่าจะสรุปได้
       
       ขณะที่แผนธุรกิจในไทยยังคงเน้นการลงทุนเองต่อไปไม่ได้ขายแฟรนไชส์ โดยปีนี้ตั้งงบลงทุนสาขาไว้ที่ 200 ล้านบาท เป้าหมายเดิมปีนี้จะเปิด 12 สาขา ครึ่งปีแรกเปิดไปแล้ว 5 สาขา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พื้นที่ที่ได้มามีมากและสภาพเศรษฐกิจเอือ้อำนวยจึงจะลงทุนเพิ่ม คาดว่าจะเปิดเพิ่มมากกว่าเดิมเป็น 25 สาขา แบ่งเป็นร้านฮอทพอทบุฟเฟ่ต์แวลู 21 สาขา และร้านฮอทพอทอินเตอร์บุฟเฟ่ต์ 4 สาขา ส่วนครัวกลางที่ลำลูกกายังมีพื้นที่เหลืออีก คาดว่าปีหน้าคงจะต้องลงทุนขยายเพิ่มเติมรองรับสาขาที่มากขึ้น ลงทุนขั้นต่ำ 20 ล้านบาท ปัจจุบันมีสาขารวมทุกแบรนด์ 84 สาขา คาดว่าสิ้นปีจะขยายครบเป็น 100 สาขา จากสิ้นปีที่แล้วมีสาขารวม 79 สาขา
       
       ด้านแผนการตลาดปีนี้ตั้งงบประมาณไว้ 100 ล้านบาท รวมทั้งบีโลว์เดอะไลน์และอะโบฟเดอะไลน์ ล่าสุดร่วมมือกับโค้กจัดแคมเปญลุ้นชมฟุตบอลคู่ เชลซีกับแมนเชสเตอร์ ที่อังกฤษ และคาดว่าปลายปีนี้จะมีหนังโฆษณาชุดใหม่อีกเรื่อง และตั้งเป้าสมาชิกสิ้นปีนี้จะมี 100,000 ราย จากต้นปีมีประมาณ 30,000 ราย
       
       นางสาวสกุณากล่าวว่า จากการทำธุรกิจเชิงรุกปีนี้คาดว่าจะมีรายได้รวม 1,500-1,600 ล้านบาท เติบโต 30% จากปีที่แล้วรายได้รวม 1,100 ล้านบาท กำไร 30 ล้านบาท ซึ่งครึ่งปีแรกทำรายได้แล้ว 330 ล้านบาท กำไร 8% หรือ 20 ล้านบาท
       
       “ตอนนี้ปัญหาคือต้นทุนผลิตยังสูงขึ้นเฉลี่ย 1.5% แต่เรก็ต้องพยายามควบคุมจัดการให้ดีที่สุด อย่างน้ยอการขยายสาขามากทำให้อำนาจซื้อต่อรองมากขึ้น ก็ยังทำให้ได้ราคาที่ยังดีได้อยู่ ซึ่งเราเคยขึ้นราคาไปแล้วเมื่อต้นปี เช่น แบรนด์บุฟเฟต์แวลู จากเดิม 199 บาท เป็น 219 บาทต่อคน แต่เพิ่มอาหารมากขึ้น จึงยังไม่อยากจะปรับราคาอีก” นางสาวสกุณากล่าว

ถ้า HOTPOT คุมค่าใช้จ่ายได้ ที่เหลือก็คือสร้างแบรนด์เท่านั้น

http://www.ryt9.com/s/tpd/1172693

ไทยโพสต์ * นางสาวสกุณา บ่ายเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮอทพอท จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับราคาฮอทพอท อินเตอร์ บุฟเฟต์ ขึ้น จาก 199 บาท เป็น 219 บาท เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากต้นทุนวัตถุ ดิบเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ซึ่งบริษัทได้พยายามบริหารจัดการเพื่อลดค่าใช้จ่าย เช่น การหาแหล่งวัตถุดิบที่หลากหลายและราคาถูกลง

สำหรับแผนงานในปีนี้ ตั้งเป้าเติบโต 30% เพิ่มรายได้จาก 1,100 ล้านบาทในปีที่ผ่านมาเป็น 1,500-1,600 ล้านบาทในปีนี้ จากการขยายสาขาใหม่เพิ่มอีก 20 สาขา โดยปัจจุบันฮอทพอทมีสาขาทั้งสิ้น 84 สาขา และจะเพิ่มเป็น 100 สาขาในสิ้นปีนี้ โดยในไตรมาสแรกที่ผ่านมามีรายได้แล้ว 330 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทมีแผนขยายสาขาในต่างประเทศ ทั้งรูปแบบการร่วมลงทุนและการขายแฟรนไชส์ โดยขณะนี้เริ่มพิจารณาทำเลที่ประเทศเวียดนาม และอินโด นีเซีย

นอกจากนี้ บริษัทจะยื่นข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.) ภายในเดือน ก.ค.54 เพื่อเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 102 ล้านหุ้น และคาดว่าจะนำหุ้นเข้าซื้อขายตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ราวเดือน ต.ค.นี้.

เท่าที่โพสท์มาส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบ แต่ผมกลับเบื่อ mk
ตอนนี้ตกลงกันในครอบครัวว่าต่อไปคงเลือก hotpot/ shabushi
สังเกตุตามห้างในพท.ระยอง พัทยา สองร้านนี้จะคนแน่นมาก
ต้องจองคิว ส่วนเอ็มเคไม่ต้องจองเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

ไม่เคยกิน แต่จากที่เดินผ่านคนเยอะดีครับ

ไม่เคยเข้าไปชิมเลย ดูไม่ค่อยถูกสเปคเท่าไหร่แล้วก็ลูกคนเล็กของผมคงกินไม่ค่อยเป็นแล้วก็ไม่คุ้ม

อาจจะต้องลองเข้าไปชิมดูซักครั้ง จะได้พอวิจารณ์ถูก

ว่าแต่ว่า ขอช่วยขยายความ กรณีของ DAIDOMON ที่แย่ น่าจะเป็นเรื่องของการไซฟ่อนเงินออกไป และการควบคุมสต็อกไม่ได้ อันนี้ไม่แน่ใจ

คงต้องขอความรู้ในกรณีที่ตอนเกิดเหตุการณ์ที่ ไดโดมอน ต้องออกไปฟื้นฟูกิจการหน่อย ท่านใดพอจำความได้หรือ เคยอยู่ในเหตุการณ์

ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นเฮียคลายเครียด น่าจะอยู่ในเหตุการณ์ด้วย รบกวนขอความรู้หน่อยครับ

ส่วนตัวชอบ MK มากกว่าเพราะบริการดี และเป็นคนไม่ชอบเดินไปตักอาหารเองค่ะอาหารของ MK มีความสดใหม่กว่า ราคาถูกกว่า Hotpot (ถ้าไม่นับรวมว่าเป็นบุฟเฟ่ ที่มีจำนวนชนิดอาหารให้เลือกเยอะกว่า) เพราะเวลาไปกินก็กินแค่สุกี้ค่ะ ไม่ได้ตั้งใจไปกินพวกซูชิ สลัด ติ่มซำ และไอศกรีม

กะลังอ่านเพลินๆ... เจอ Avatar ของพี่ นินจาดำ เข้าไป...

ลืมไปเลยว่ากำลังอ่านอะไรอยู่...

พี่ blackninja รบกวนช่วยเปลี่ยน Avatar หน่อยได้ไหมครับ? เห็นแล้วใจสั่น เลือดกำเดาจะไหล คิดเรื่อง HOT POT แล้วคิดถึงแต่ หม้อ ร้อนๆ

ไม่ไหวๆ

hotpot เท่าที่เห็นวันพุธ จะเป็นวันที่คนแน่นมาก เพราะลด 25%
ซึ่งถ้าเทียบเป็น value ผมว่าก็คุ้มค่าอยู่

แรกๆกินก็ไม่ถูกปากเท่าไหร่ ไม่คุ้นกับน้ำจิ้มสุกี้
คงเพราะชินกับน้ำจิ้ม mk มากกว่า

แต่พอกินซ้ำไปครั้งที่ 2-3 กลับรู้สึกว่าอร่อยขึ้น
แถมอาหารก็หลากหลายกว่า mk เสียอีก

hotpot ที่อยุธยา คนเยอะเกือบตลอด
ยิ่งวันพุธลด 25% วันศุกร์ลดสำหรับ นักศึกษา
ตอนกลางวันเห็นเต็มเกือบทุกโต๊ะ

เอ่อ อ่านไปอ่านมาเริ่มมีความรู้สึกอยากกินซะละ 55555

murder_doll เขียน:เอ่อ อ่านไปอ่านมาเริ่มมีความรู้สึกอยากกินซะละ 55555

ต้องจัด company visit กินถล่มสักสาขา

densin เขียน:

murder_doll เขียน:เอ่อ อ่านไปอ่านมาเริ่มมีความรู้สึกอยากกินซะละ 55555

ต้องจัด company visit กินถล่มสักสาขา

ดีเหมือนกันนะครับ like