Thai VI

ลุงขวดครับ เกิดอะไรขึ้นกับ fancy ช่วงนี้ทำ new low ตลอดเวลา หรือราคาจะไปหา bv

ในกระทู้ ร้อยคนร้อยหุ้น ผมบอกแล้วครับ ผิดหวังจริง ๆ กับ ผลประกอบการไตรมาสแรก ขอลองดูอีกที ว่า ไตรมาสสอง ที่ เงินบาท ได้มากขึ้น แล้ว เขาจะมาอ้างอีกไหม ว่า อัตราแลกเปลี่ยนเงิน เป็น สาเหตุ หนึ่ง ส่วนราคาไม้ ไม่ทราบเหมือนกันว่า ลด ลง หรือ เปล่า..........ถ้ามาอ้าง น้ำมันขึ้น ค่า ไฟฟ้า ขึ้น คงต้องคิดกันใหม่แล้ว.........เมื่อไปประชุมคราวที่แล้ว ผมก็บอกไว้ว่า ผิดหวัง ขอให้เอากำไร คืนมา ก่อน ๆ ได้กำไร ปีละ 3-4 ร้อยล้านบาท ปีที่แล้ว เหลือ 254 ร้อยล้านบาท.......ถ้าปีใหม่นี้ 47 ไม่ได้กำไร กว่า 300 ล้านบาท เห็นท่า ต้องไปบ่นมากกว่า เดิม

ทีขอ ผลตอบแทนคณะบริหาร ยังให้เพิ่ม จาก 5.5% เป็น 6% ผมยังไม่บ่นเลยครับ แต่ถ้าไม่ได้กำไร มากขึ้น เห็นท่า ต้องมีการโต้แย้ง เรื่อง ผลตอบแทนคณะบริหาร เสีย แล้ว ซิ ท่า

ผมดู ราคาหุ้น ทุกวัน แต่ไม่ทราบ ได้ ว่า ทำไม ถึง ลด ลง ทุก ๆ วัน

ระวังเค้าขอถอนออกจากตลาดนะครับ.....คิดเล่นๆครับ
ช่วงนี้เหมือนไม่ค่อยสนใจราคาหุ้นที่ซื้อขายกัน
กรรมการก็ขายหุ้นตัวเอง เปลี่ยนมือเป็นว่าเล่น แล้วแสดงรายการซื้อหุ้นกลับเข้าชื่อบุตรของกรรมการอีกคนส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนไม่รู้ไปอยู่กับใคร ไม่ปรากฎหลักฐานให้เรารู้กัน
สรุปแล้ว ผมคิดเล่นๆครับ ไม่มีอะไรหรอก อาจจะเกิดจากการค้าขายจริงๆก็ได้ครับ....อิอิอิ

http://www.taladhoon.com/taladhoon/yabb ... eadid=4997

ลุงขวดครับ มีความเป็นไปได้แค่ไหนในการถอนตัวออกจากการบริหารของคุณวิชัย นะครับ ขอความเห็นลุงขวดด้วยครับ แล้วจากประวัติการบริหาร คนที่ดูแลกิจการคือใครหรือครับ คุณพงษ์สันต์ หรือคุณวิชัยครับ

แล้วจะมีผลต่อการดำเนินนโยบายหรือไม่อย่างไรครับ

ราคาของ fancy ที่ลดลงมาก เกิดขึ้นจากจะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่หรือไม่อย่างไรครับ

ถ้าคุณวิชัย ทิ้งไปจริงๆ ผมว่ารายย่อยเตรียมเจ็บตัวได้เลยครับ คุณพงษ์สันต์นั้นเป็นผู้บริหารที่มีระบบการตัดสินใจเฉพาะตัวจริงๆครับ ไม่มีใครสามารถเลียนแบบได้ และไม่อยากเลียนแบบด้วยครับ
แต่ผมไม่แน่ใจว่าคุณวิชัยจะทิ้งนะครับ ที่เราเห็นมีการเปลี่ยนมือจำนวนหุ้นขนาดมหาศาลนั้น อาจจะเป็นไปได้ว่าหุ้นเหล่านั้นเดิมเป็นของคุณพงษ์สันต์ที่ฝากคุณวิชัยถือไว้ อาจจะมีเหตุผลบางอย่างที่ท่านทำกันแบบนั้น......ตอนนี้ถึงเวลาคืนของกันแล้ว เพราะลูกคุณพงษ์สันต์เริ่มโตแล้ว มีญาติพี่น้องของคุณพงษ์สันต์มาช่วยถือหุ้น แถมการซื้อขายหุ้นในช่วงราคาต่ำๆทำให้เสียภาษีน้อยลงตามราคาอีกด้วย เค้าจึงยินดีที่จะซื้อขายกันในช่วงราคาต่ำก็เป็นได้ครับ
อิอิอิ........ทั้งหมดนี้เดาเอาครับ แต่มีความเป็นไปได้สูงนะครับ...จะบอกให้

ผมก็ยัง งง กับ ราคาหุ้น fancy อยู่เลยครับ ใคร กัน ขยัน ทุบ เหลือ เกิน.......คุณพงษ์สันต์ เป็น ประธาน คุณวิชัย เป็น กรรมการผู้จัดการ โดย ตำแหน่งแล้ว คุณพงษ์สันต์ ใหญ่ กว่า ครับ เรื่อง ถือหุ้น จำนวนเท่าไหร่ ผมไม่ทราบจริง ๆ เลย ..... ในอดีตผมเชื่อและเห็นการเติบโตชัดเจน แต่หลังจากเปิดโรงงานใหม่แล้ว ชักจะ มีอะไร แปลก ๆ แรก ๆ ก็ ว่าจะเปิด Q4 ปี46 ดูผลประกอบการ ก็ยังไม่ออกมา ยิ่งมาตอนนี้ Q1 ปี 47 ผลประกอบการที่ประกาศ ก็ ทำให้ผิดหวังอีก.....ทั้ง ๆ ที่ยอดขายเพิ่มแต่ทำไมกำไรจึงลดลง.......ในที่ประชุมผมขอให้เขาเพิ่มราคา เขาก็ว่าได้เพิ่มไปแล้ว 10% ก็คงต้องเพิ่มขึ้นอีก ถ้าไม่เพิ่มก็ต้องสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น.....ตอนนี้ได้แต่ดู มัน ลง เท่านั้นเอง ไม่รู้จะทำอย่างไรได้


(คุณพงษ์สันต์ เป็น ประธาน ไต้หวันที่เปลี่ยนชื่อเป็นไทย ในการโอนหุ้น เขียนว่า ผู้รับโอน "บุตร" ไม่ถูกต้อง)

ขอเสริมเล็กน้อยครับ คุณลุงขวด
ตอนงานมันนี่เอกซ์โป
ผมได้หยิบเอกสารของกรมสรรพากรมาด้วย
เขาระบุว่า
สำหรับบุคคลธรรมดา
กำไรจากการโอนหุ้นผ่านตลาดหลักทรัพย์
ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ครับ
ผมยังแปลกใจเลยว่า ทำไมกรมสรรพากรไม่ใช่คำว่าซื้อขาย
ที่แท้เขาต้องการใช้คำพูดให้มันครอบคลุมไปถึง
ธุรกรรมการโอนที่ไม่ได้ซื้อขายด้วย
ส่วนการซื้อขาย ยังไงก็ต้องเกิดการโอนอยู่แล้วโดยปริยาย

ผมอ่านข้อความนี้นั้นแล้ว
ร้องอ้อทันที ที่แท้เขาต้องซุกหุ้นเพื่อ..... ฮาๆๆ

คุณลุงขวดครับ คุณพงสันต์ เดิมชื่อ Mr. P.S. Lee เป็นชาวใต้หวัน ตามที่คุณลุงขวดว่ามา ในรายงานการซื้อขายระบุชื่อผู้ซื้อว่า นายพงสันต์(บุตร) ไม่ได้หมายความว่าบุตรของนายพงสันต์เป็นคนซื้อหุ้นไว้เหรอครับ หรือผมเข้าใจผิดมาตลอด....ชักงง เพราะบางทีก็เห็นชื่อของ อ.ธวัชชัย สุทธิประภา (คู่สมรส) (ITD)ผมก็จะเข้าใจว่าภรรยาของท่าน อ.ธวัชชัย เป็นผู้ซื้อนะครับ ผมอาจจะเข้าใจผิดจริงๆ คุณลุงขวดช่วยให้ความรู้หน่อยครับ

คุณเฮียคลายเครียดครับ ผมอ่านแล้วยังงงครับ ช่วยเฉลยเป็นความรู้อีกหน่อยนะครับ

อยากให้เพื่อนมายู ลงทะเบียน ในเวปนี้ด้วย แล้ว ผม จะหา คำตอบที่ ถาม ให้ครับ

ถึงลุงขวด ผมลองคำนวนราคาแบบว่าถ้าตอนนี้ซื้อได้ทั้งบริษัท ควรจะซื้อเท่าไหร่ ผมก็เลยคิดว่าลงไปเรื่อยๆแบบนี้ดีแล้วครับ ถ้าได้ถึงที่คำนวนไว้ ผมจะซื้อๆๆๆๆๆๆๆๆ เลยครับ :lol: :lol:

คุณ harry การที่คิดจะซื้อทั้งบริษัทนั้น คุณมีความมั่นใจในประเด็น
เหล่านี้ไหมครับ

1. ผู้บริหารชุดปัจจุบันจะไม่มีทางโกงเงินคุณเด็ดขาด

2. บริษัทสามารถทำกำไรเพิ่มได้อย่างแน่นอน แม้ว่าผู้
บริหารจะไร้ความสามารถ

3. ไม่มีบริษัทไหนสามารถมาทำธุรกิจแข่งกับแฟนซีและ
ทำให้แฟนซีต้องปิดกิจการ

4. คุณ harry เข้าใจธุรกิจนี้อย่างถ่องแท้ และพร้อมที่จะ
เข้าไปนั่งบริหาร

ถ้ามั่นใจมาก ผมแนะนำให้ซื้อไปเลยครับ แต่ถ้าไม่ คิดดีๆ ก่อนจะซื้อ
ทั้งบริษัท ก่อนที่ Buffett จะเข้าซื้อทั้งบริษัท เขาต้องมีความสามารถ
ขนาดนั้นนะครับ ไม่ใช่แค่บริษัทอะไรก็ได้ ราคาถูก ก็ซื้อๆๆๆๆๆ

คุณลุงขวดครับ หลายๆครั้งที่ผมโพสเกี่ยวกับfancyไป ส่วนใหญ่จะออกมาในมุมมองที่เป็นnegativeด้านการบริหาร ผมก็จะมีความรู้สึกไม่ดีที่ได้ทำไป โดยเฉพาะกับเจ้าบ้านfancy จริงๆแล้วfancyยังมีข้อดีที่น่าสนใจอีกหลายๆด้านครับโดยเฉพาะราคาเทียบกับเงินปัญผลในขณะนี้ อย่างไรก็ตามผมขอยอมรับและต้องขอโทษจากการกระทำของผม การแสดงความเห็นทั้งหมดของผมเกิดจากการคาดเดาเป็นส่วนใหญ่ ไม่สามารถเอามาถือเป็นข้อมูลที่เป็นเหตุเป็นผลหรือยึดถือเป็นหลักเกณฑ์ใดๆครับ......ขออภัยคุณลุงขวดและคนอื่นๆด้วยความจริงใจครับ

ถ้ามีโอกาสผมจะลงทะเบียนตามคำเชิญของลุงขวดครับ ผมถือเป็นเกียรติที่ลุงขวดชวนนะครับ จะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหาความรู้ให้มากกว่านี้ครับ......ตอนนี้ผมขอเวลาคิดชื่อที่จะใช้ตั้งชื่อลงทะเบียนสวยๆก่อนนะครับ...อิอิอิ

คุณเพื่อนมายู ที่บอกให้ลงทะเบียน เพราะ จะได้เป็นสมาชิก แลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ กลัว คนไม่ลงทะเบียน จะโดนแกล้ง แล้วจะทำให้เข้าใจผิดไปอีก.........ผมอยากเห็น และ อยากให้ เพื่อน ๆ แจ้ง จุดอ่อนของหุ้นตัวนี้ ถึงแม้ ว่า ผมคิดว่า เป็นหุ้นที่ดี แต่ราคาหุ้น มัน อาจไม่ดี......อย่างผมเสียโอกาสมากเลย ที่คิด และ สัญญากับเพื่อน ๆ ว่าจะถือยาว อย่างต่ำ 2 ปี จะดู เหตุการณ์กับโรงงานใหม่ ว่าจะประสบผลสำเร็จหรือไม่ ที่สุด ก็ เห็น ว่า มีการเลื่อน กำหนด การผลิตเชิงพาณิชย์ จำได้ว่า ทางบริษัทฯ เคยแจ้งว่า เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ ดังจดหมายข้างล่างนี้

ที่ SET46-14 วันที่ 1 กันยายน 2546


เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เรื่อง แจ้งการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของสาขาของบริษัท

บริษัท แฟนซีวู๊ด อินดัสตรีส จำกัด (มหาชน) ขอแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์
แห่งประเทศไทยว่า บริษัท แฟนซีวู๊ดอินดัสตรีส จำกัด (มหาชน) สาขา 1
ตั้งอยู่ที่อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจำหน่าย
เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพาราโดยเฉพาะอย่างยิ่งชุด เฟอร์นิเจอร์ในห้องนอน จะเปิด
ดำเนินการเชิงพาณิชย์ในวันที่ 1 กันยายน 2546 นี้เป็นต้นไป

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ


ขอแสดงความนับถือ

(นายวิชัย ตันพัฒนiรัตน์)
กรรมการผู้จัดการใหญ่

แต่ที่สุด ก็ได้ข่าวตอน ไป ประชุมใหญ่ ว่า มีปัญหาในกลุ่มคนงานผู้ชำนาญการที่จ้างมา 30 คน สินค้าไม่ผ่าน QC ของบริษัทฯ สังเกตุเห็นสินค้าคงเหลือปลายปี ก็มาก ผมเลยคิดว่า น่าจะจบสิ้น ในไตรมาสแรก ที่สามารถแก้ไขและ ส่งออกไปได้ แต่ที่สุด ผลการดำเนินงาน ก็ ออกมาไม่ดี เลยเกิด สงสัย ว่าจะเป็นอย่างไรกันแน่ นั่นคือ ปริศนา ที่ต้อง ช่วยกัน คิด พิจารณา

ผมอยากเห็นความคิดเห็นที่แจ้ง จุดอ่อนของ fancy มากกว่า การมาชมเชย บริษัทฯ เขานะครับ

ผมอยากรู้จังครับลุงขวดว่า FANCY เค้ามีเป้าหมายของบริษัทว่าอย่างไรบ้าง เพราะ ผมคิดว่าเป้าหมายของบริษัทก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้บริษัทฟันฝ่าอุปสรรคได้นะครับ

ดูๆแล้วสิ่งที่ concern สำหรับ fancy ตอนนี้คือความโปร่งใสของผู้บริหารนะครับ ซึ่งมันขัดแย้งกับการแถลงของผู้บริหารในการประชุมที่ผ่านมา(ที่คุณ someone และ ลุงขวดได้ช่วยกันเก็บมาจนครบ) ทำให้เกิดคำถามแล้วครับว่าพวกเขากำลังเล่นอะไรกันอยู่...

วันนี้ทำนิวโลว์อีกแล้ว ปิด5.05บาท ใกล้ราคาบุ๊ค3.16บาททุกที ทำเอา
ซีมเลย บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ตัวนี้ที่updatedก็หาอ่านยากๆ ใครซื้อตอนนี้ให้ระวังติดดอยครับ มีแนวโน้มลงวันละเล็กวันละน้อย เหมือนมีคนจงใจค่อยๆทุบ

นั่นนะสิครับ มีใครพอจะอ่านเกมส์นี้ออกบ้างครับ หรือใครที่รู้จักคนที่ทำงานอยู่บริษัทนี้พอจะให้ข้อมูลได้บ้างครับว่าตอนนี้ธุรกิจของเขามีปัญหาอะไรหรือเปล่า ????

วันนี้อ่านหนังสือพิมพ์กรงเทพธรกิจ แล้วก็งง

มีผ้ประกอบการไม้ยางพาราบอกว่าเป็นธรกิจนี้มีแนวโน้มสดใส จะขยายตัวอย่างมากในอีก 5 ปี

แต่ทำไมผลการดำเนินงานของ FANCY ถึงตรงกันข้ามนะครับ

เค้าคงพูดถึงทั้งอุตสาหกรรม ไม่ได้พูดถึงปัญหาในเฉพาะบริษัทใด
หากมีบริษัทที่มีสัญญาซื้อไม้ในราคาคงที่ และ ไม่มีปัญหาคุณภาพ
ผมว่าก็น่าจะมีกำไรดีนะ

แล้ว FANCY ไม่ดีกว่าอตสาหกรรมโดยรวมหรือครับ

ถ้าอตสาหกรรมดี แต่บริษัทยังแย่อย่ ก็ลำบากแล้วครับ

ผมเคยซื้อ fancy มาตั้งแต่ราคา 9 บาทกว่าครับ เคยขึ้นไปถึง 13 บาทมั๊งแต่ไม่ได้ขาย เพ้อฝันว่ากำไรจะโตไปเรื่อยๆ ตอนนี้ขายไปแล้วครับ ที่ 5.15 เพราะก่อนหน้านี้อึดอัดมาก คิดว่าเพื่อนๆบางคนก็อึดอัดเหมือนกัน แต่ผมเคยอ่านหนังสือของปีเตอร์ ลินช์นะครับ ว่าเวลาธุรกิจมีการขยายตัวใหม่ๆ จะไม่ได้กำไรโตทันทีเพราะอาจมีความผิดพลาดบางอย่าง นอกจากนั้นอาจยังไม่เกิด economy of scale แต่ที่ผมขายไปเพราะผมเริ่มรู้ตัวว่าไม่เข้าใจมันอย่างแท้จริง ไม่รู้จริงๆว่าอีก 5-10 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เพราะมีทั้งด้านบวกและลบและมีความไม่แน่นอนสูง แต่เท่าที่ผมทราบอย่างนึงนะครับว่าราคายางขึ้น ไม้ขึ้นด้วย เวลายางลงไม้ไม่ลงต่อนะครับ ถ้าบริษัทจะมีกำไรขั้นต้นเท่าเดิมคงต้องขึ้นราคาทุกปีเลย ถ้าเพื่อนคนไหนมั่นใจและเข้าใจอย่างแท้จริงก็ถือต่อได้เลยครับ สำหรับผมถือว่าเป็นค่าเทอมครับ

อยู่ในสภาพเดียวกับผมเลยครับ รู้สึกอึดอัด กับ ราคาที่ลงมาเรื่อยๆ ....ตอนราคาหุ้นขึ้นก็ไม่ได้ทำกำไร มาขายตอนลงนี่ มันไม่ใช่จังหวะ นะครับ....ขายหุ้นแล้วบางทีก็สบายใจ นะครับ ไม่ต้องมาดู ว่า มันจะขึ้นหรือลง.......ผมชี้แนะทางออกให้แล้ว ในที่ประชุมใหญ่คราวที่แล้ว ไม่รู้เขาจะเชื่อเสียงนกเสียงกาแบบ ผม หรือ เปล่า หนอ???????

ลุงขวดครับช่วงสามสี่เดือนที่ผ่านมาไม่ใช่มีแต่แฟนซีของลุงขวดลงตัวเดียวนะครับ หุ้นบางตัวก็ลงมาพอๆกับแฟนซี บางตัวอาจลงมามากกว่า บางตัวอาจลงมาน้อยกว่าบ้าง ถ้าลุงอึดอัด ลองดูในฐานข้อมูลพี่ครรชิตดูซิครับว่ามีตัวไหนที่ลงมาในเปอร์เซนต์ที่ใกล้เคียงกันกับแฟนซีแต่แนวโน้มธุรกิจยังดี หรือมีลางของการฟื้นตัวชัดเจนกว่า บางทีลุงลองแลกหุ้นบางส่วนโดยยอมเสียค่าคอมบ้างอาจจะช่วยให้อึดอัดน้อยลงนะครับ

นับถือ

ไม่รู้ว่าข่าวจาก น.ส.พ. ผู้จัดการเรื่องนี้จะทำให้ผู้ถือหุ้น fancy ใจชื้นขึ้นมาได้บ้างหรือไม่ครับ

กระทรวงอุตสาหกรรมจัดสรรงบ 8.4 ล้านบาท เพื่อนำเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต หวังกระตุ้นให้ผู้ประกอบการหันมาพัฒนาศักยภาพกระบวนการผลิตสินค้า หลังพบจุดอ่อนภาคอุตสาหกรรมไทยเสียเปรียบด้านเทคโนโลยี-บุคลากร พร้อมชู 5 อุตสาหกรรมนำร่อง 5 โรงงาน

นายมนู เลียวไพโรจน์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับสถาบันไทย-เยอรมัน ได้จัดทำโครงการศึกษาการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต โดยใช้งบประมาณ 8.4 ล้านบาท ทำให้ทราบถึงปัญหาที่เป็นอุปสรรคในการพัฒนากระบวนการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและพบว่าการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้สามารถย่นระยะเวลาและต้นทุนการผลิต ทำให้การส่งมอบสินค้าเร็วขึ้นกว่าเดิม ช่วยสร้างผลประโยชน์ได้เป็นมูลค่ามหาศาล

ด้านนางชุตาภรณ์ ลัมพสาระ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า สศอ.ได้คัดเลือก 5 อุตสาหกรรมนำร่อง ได้แก่ อุตสาหกรรมแม่พิมพ์ รองเท้าแฟชั่น เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา แปรรูปผลิตผลทางการเกษตรและบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่จำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยีในการผลิต โดยได้รับความร่วมมือจากโรงงานที่สนใจเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 53 โรงงาน เบื้องต้นคัดเลือกโรงงานต้นแบบเพื่อใช้ในโครงการศึกษาครอบคลุมทั้ง 5 อุตสาหกรรม อุตสาหกรรมละ 1 โรงงาน ในการจัดส่งทีมผู้เชี่ยวชาญเข้าไปศึกษาวิเคราะห์ข้อบกพร่อง ตลอดจนแนะนำการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในกระบวนการผลิต คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จต้นเดือนกรกฎาคมนี้

ใช้งบ8.4ล้านสำหรับ5อุตสาหกรรม คงไม่อยู่ในสายตาfancyหรอกครับ ถ้าเค้าสนใจจริงๆงบแค่นี้น้อยมากสำหรับเค้าครับ

แล้วเค้าได้บอกมั้ยคะ ว่าโรงงานที่ถูกคัดเลือกให้เป็นต้นแบบของอุตสาหกรรมนำร่อง "เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา " ที่พูดถึงนี่ คือบริษัทอะไรน่ะค่ะ