Thai VI

คือ ระบุ ในนโยบาบบริษัทเลย และควรจ่ายอย่างต่ำ 30% ขึ้นไป
ถ้าบริษัทขาดเงิน หรือต้องการลงทุนเพิ่มก็กู้หรือเพิ่มทุน
บางบริษัทกำไรเท่าไหร่ก็เก็บไว้ ผู้ถือหุ้นรายย่อยทนไม่ไหวก็ขายไป
การที่ไม่มีความแน่นอน ผูบริหารจะได้เปรียบมาก
บริษัทกำไรดี ต้องการทุบหุ้น ก็ไม่จ่ายปันผล
ช่วงไหนต้องการปั่นก็จ่ายมากเป็นพิเศษ
โคตรเอาเปรียบนักลงทุนจริงๆ

การปันผลมันไม่แน่นอนเพราะ บริษัทต่างๆไม่หยุดนิ่ง
บางครั้งเขาต้องถือเงินสดรอโอกาส บางครั้งต้องใช้เพื่อขยายกิจการในรูปแบบต่างๆ
การลงทุนมีความเสี่ยงเพราะความผันผวนตรงนี้ ต่างจากสินทรัพย์ตราสารอื่นๆ

นักลงทุนควรรับความเสี่ยงของผลตอบแทนได้ ตราบใดที่มันมีเหตุผลรองรับอันควร
สุดท้ายคือเลือกผู้บริหารที่เขามีธรรมภิบาล fairกับผู้ถือหุ้น
เราเปลียนคนอื่นไม่ได้ แต่เราปรับการลงทุนของเราได้

densin เขียน:การปันผลมันไม่แน่นอนเพราะ บริษัทต่างๆไม่หยุดนิ่ง
บางครั้งเขาต้องถือเงินสดรอโอกาส บางครั้งต้องใช้เพื่อขยายกิจการในรูปแบบต่างๆ
การลงทุนมีความเสี่ยงเพราะความผันผวนตรงนี้ ต่างจากสินทรัพย์ตราสารอื่นๆ

นักลงทุนควรรับความเสี่ยงของผลตอบแทนได้ ตราบใดที่มันมีเหตุผลรองรับอันควร
สุดท้ายคือเลือกผู้บริหารที่เขามีธรรมภิบาล fairกับผู้ถือหุ้น
เราเปลียนคนอื่นไม่ได้ แต่เราปรับการลงทุนของเราได้

ชอบข้อความพี่ densin ครับ..เราเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้..แต่เราปรับการลงทุน
ของเราได้..

ก่อนเราจะลงทุนต้องดูนโบายปันผลก่อนถ้าไม่ใช่อย่างที่เราคิดเราก้ออย่าไปลงทุนหุ้นตัวนั้นจบ จะเปลี่ยนเค้าคงยาก

บริษัท X กำไร 15 บาท ปันผล 1.75 บาท
ผู้บริหารมันเอาหลักการอะไรมาคิด
ยิ่งคนส่วนนึงคิดว่า บริษัทมันจะทำอะไรก็ได้
เอาเปรียบหรือโกงนักลงทุนรายย่อย อย่างไรก้ได้
สิ่งที่นักลงทุนต้องทำคือเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ไปเลือกบริษัทใหม่ซะ
ปรับปรุงตัวเองซะ
ผมว่า สังคมไทยคิดแบบนี้เยอะมาก
เราจึงปล่อยให้ นักการเมืองผู้มีอำนาจ
โกง โกหก ซ้ำซาก
ระบบสังคมไทย เป็นระบบที่สร้างคนชั่วให้มีอำนาจ
เกิดจากคนส่วนใหญ่คิดแต่จะปรับปรุงตัวเอง
ไม่เคยคิดที่จะมีเรื่องหรือทะเลาะกับคนชั่วที่มีอำนาจ

l'lyสงสัย จขกท จะสับสน ระหว่าง ตราสารหนี้ กับ ตราสารทุน อยู่หรือเปล่า

ถ้าทำให้ยอดขายคงที่ได้ ก็คงจะทำได้อยู่

แก้ไข การ post ไม่ได้

blueplanet เขียน:บริษัท X กำไร 15 บาท ปันผล 1.75 บาท
ผู้บริหารมันเอาหลักการอะไรมาคิด
ยิ่งคนส่วนนึงคิดว่า บริษัทมันจะทำอะไรก็ได้
เอาเปรียบหรือโกงนักลงทุนรายย่อย อย่างไรก้ได้
สิ่งที่นักลงทุนต้องทำคือเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ไปเลือกบริษัทใหม่ซะ
ปรับปรุงตัวเองซะ
ผมว่า สังคมไทยคิดแบบนี้เยอะมาก
เราจึงปล่อยให้ นักการเมืองผู้มีอำนาจ
โกง โกหก ซ้ำซาก
ระบบสังคมไทย เป็นระบบที่สร้างคนชั่วให้มีอำนาจ
เกิดจากคนส่วนใหญ่คิดแต่จะปรับปรุงตัวเอง
ไม่เคยคิดที่จะมีเรื่องหรือทะเลาะกับคนชั่วที่มีอำนาจ

เออ คือแบบ ผม จะ ตอบ แบบ ว่า จะตอบไง ดี หน้อ

ข้อ แรก บ. เค้าไม่จ่ายตามข้อกำหนดจริงรึเปล่า ต้องดูเงื่อนไข ให้ ดีเพราะส่วนใหญ่ จะบอก จ่ายไม่เกิน ... เปอร์เซ็นต์

ข้อสอง จากข้อหนึ่งก็จะเห็นว่า ยังงัย บ. เค้าก็ทำตามข้อกำหนด ซึ่งอาจจะเกิดจากเหตุผล ต้องลงทุนเพิ่ม หรืออื่นๆ

ข้อสาม การปรับปรุงที่ตนเอง จะ แก้ปัญหาได้เร็วที่สุดและเกิดประสิทธิภาพมากสุด เพราะตัวเองรู้ดี ว่า จะทำงัย

ถ้าทุกคนปรับปรุงตัวเอง ระบบก็จะดีได้

จะไปคิดแทนตัดสินใจแทน คนอื่น อาจมองเป็นการปกครองระบบเผด็กการได้นะผมว่า

ผมขอร่วมคุยด้วย ประมาณนี้ละกัน ยอมรับเลยว่า แนวคิดเราไม่ตรงกันอย่างแรง แต่ผมก็อยากคุยด้วย เพื่อ มองในมุม อื่น บ้าง

ผมไม่แปลกใจเลยทำไม นักการเมืองผู้มีอำนาจในทุกหน่วยจึงกล้าที่จะโกง
กล้าที่จะให้เหตุผลข้างๆคูๆ
ผบห กล้าที่จะเอาเปรียบ นักลงทุนรายย่อยจนน่าเกียด
เพราะ ทุกคนคิดว่าการถอย และไปหาหุ้นที่คิดว่าไม่มีปัญหาง่ายกว่า
อีกไม่นาน พวก ผบห บริษัทในตลาด ก็จะเพิ่มขนาดในการเอาเปรียบไปเรื่ยๆ
บริษัท ที่ไม่เอาเปรียบ ผถห ก็จะดูเป็นตัวอย่างและเอาเปรียบตาม
ไม่นาน ก็คงมีแต่บริษัท ที่เอาเปรียบ
เพราะสังคม ไม่ต่อต้านคนเอาเปรียบ
ประเทศไทยจึงมีคนคอรัปชั่นมาก และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ที่แย่คือ ยิ่งมีอำนาจยิ่งโกง
เพราะโกงแล้ว ถ้าใหญ่จริงก็ไม่เป็นไร

blueplanet เขียน:ผมไม่แปลกใจเลยทำไม นักการเมืองผู้มีอำนาจในทุกหน่วยจึงกล้าที่จะโกง
กล้าที่จะให้เหตุผลข้างๆคูๆ
ผบห กล้าที่จะเอาเปรียบ นักลงทุนรายย่อยจนน่าเกียด
เพราะ ทุกคนคิดว่าการถอย และไปหาหุ้นที่คิดว่าไม่มีปัญหาง่ายกว่า
อีกไม่นาน พวก ผบห บริษัทในตลาด ก็จะเพิ่มขนาดในการเอาเปรียบไปเรื่ยๆ
บริษัท ที่ไม่เอาเปรียบ ผถห ก็จะดูเป็นตัวอย่างและเอาเปรียบตาม
ไม่นาน ก็คงมีแต่บริษัท ที่เอาเปรียบ
เพราะสังคม ไม่ต่อต้านคนเอาเปรียบ
ประเทศไทยจึงมีคนคอรัปชั่นมาก และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ที่แย่คือ ยิ่งมีอำนาจยิ่งโกง
เพราะโกงแล้ว ถ้าใหญ่จริงก็ไม่เป็นไร

ถ้าผู้บริหารไม่ดี เราไม่ซื้อหุ้นมัน ไม่ดันราคา ไม่ปรับPEให้สูง IPOหรือเพิ่มทุนก็ไม่ให้มัน
สินค้าและบริการก็ไม่อุดหนุน ผลประกอบการดีก็ไม่เชียร์ให้ใครซื้อหุ้น
ต้นทุนทางการเงินของบริษัทก็จะสูง ผู้บริหารจะขายหุ้นก็ไม่ได้ราคา
แค่นี้ก็ถือว่าเราทำโทษ โดยไม่สนับสนุนแต่แรกอยู่แล้ว
การที่ท่านไปถือหุ้นต่างหากที่สนับสนุนธุรกรรมที่ไม่ดีให้ดำรงค์อยู่ได้

ถ้านักลงทุนแสดงให้เห็นว่าไม่สนใจหุ้นลักษณะนี้ แม้ผลตอบแทนจะดี
บริษัทอื่นๆก็จะมองเห็นเองว่าไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง

ยกเว้นท่านไหนมีกำลังทรัพย์เพียงพอ และมีความสามารถบริหาร
เก็บหุ้นให้ได้สัดส่วนมากพอที่จะไล่ผู้บริหารกลุ่มเก่าออก
แล้วเข้าไปปรับปรุงให้บริษัทไปในทางที่ดี
อันนี้ก็จะช่วยเศรฐกิจให้ดีขึ้น และเป็นพระคุณกับนักลงทุนทั้งหลาย

นักลงทุนทั่วไปจะรู้หรือบริษัทไหนเอาเปรียบผู้ถือหุ้น
เพราะผู้ถือหุ้นยึดหลักว่าเราจะแก้ไขตัวเอง
ปล่อยให้ใครมันจะโกงจเอาเปรียบก็ช่างมัน
ลูกค้าจะมาสนใจอะไรในการเอาเปรียบผู้ถือหุ้น
เพราะลูกค้าก็สนใจในสินค้าและบริการเท่านั้น
บริษัทเหล่านี้ เพียงแต่ทำประชาสัมพันธ์ดีๆ
เอาใจสื่อมากๆ
ก็ไม่มีใครโจมตีมันแล้ว
สังคมไทยเป็นสังคมสนับสนุนคนชั่วให้มีอำนาจ
โดยยึดหลักว่า ถ้ามันโกงมันเอาเปรียบ เราก้หลีกทางไป
เหมือนกวางที่ถูกสอนจากพ่อแม่ให้วิ่งให้เร็วกว่าสิงโตทุกตัว
มันก็คงรอด แต่วันใดที่ปล่วยหรือแก่ก็คงเสร็จ
สังคมไทยไม่ได้สอนให้คนทั่วไปต่อสู้กับความชั่ว
แต่สอนให้ยอมจำนนกับความชั่ว
นอกจากยอมจำนนแล้วเรายังมีเหตุผลที่ดูฉลาดในการสนับ
ความเชื่อเหล่านี้อีก

สุดท้ายแล้ว สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ใครทำกรรมใดไว้ ย่อมได้รับผลแห่งกรรมนั้นแน่นอนครับ :)

บริษัทที่จ่ายปันผลแน่นอน...มีครับ
แต่ดูเหมือนว่าอารมณ์ในกระทู้นี้เดือดซะแล้ว
ไว้โอกาสหน้า จิตใจพร้อม ค่อยคุยกันใหม่

ถ้าไม่จ่ายปันผล นั่นคือก็ไม่ได้ทุกคน ทั้งรายย่อยและรายใหญ่ครับ

คงไม่เฉพาะรายย่อย

หากไม่จ่ายอย่างมีเหตุผล ก็คงต้องเลิกสนใจหุ้นตัวนั้น จริงๆแล้วเคยมีกระทู้ประมาณนี้แล้ว สุดท้ายก็ เหมือนเดิม
เข้าใจทุกฝ่ายครับ

หุ้นอะไรที่มีปัญหาเหรอครับ

ผมไม่เคยคิดว่าเรื่องปันผลเป็นปัญหาสักที

ตัวที่ปันผลเยอะก็เยอะดี ตัวที่ปันผลน้อยก็ขยายกิจการดี เข้าใจได้

ซุนเซ็ก เขียน:บริษัทที่จ่ายปันผลแน่นอน...มีครับ
แต่ดูเหมือนว่าอารมณ์ในกระทู้นี้เดือดซะแล้ว
ไว้โอกาสหน้า จิตใจพร้อม ค่อยคุยกันใหม่

5555

ผมเคยอ่าน Berkshire Hathaway ของ Warran Buffett ไม่จ่ายปันผลหลายปีมาก ไม่ทราบตอนนี้จ่ายรึยังนะครับ

แบบนี้คงต้องฟ้อง Warran Buffett แล้วละคับ เอาเปรียบผู้ถือหุ้นรายย่อย

ผมว่าเขียนนโยบายให้ชัดเจนก็เพียงพอครับ ผู้ถือหุ้นจะได้เลือกลงทุนได้ตามจริต เมื่อไรไม่ทำตามนโยบายผู้ถือหุ้นก็จะรู้และสามารถสอบถามถึงเหตุผลได้

ปัจจุบันปรากฎมีบริษัทที่ไม่ได้กำหนดนโยบายปันผลชัดเจน หรือ กำหนดว่าจะจ่ายไม่เกิน 40% ซึ่งไม่มีความหมายใด ๆ

แต่ที่ผมเห็นว่าที่ ตลท และ กลต ควรให้ความสำคัญมากกว่า (เชื่อว่าเขาได้พยายามอยู่แล้ว แต่อาจยังไม่เพียงพอ) คือ ความเท่าเทียมกันของการเปิดเผยข้อมูลและการให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เปิดเผยได้ที่รวดเร็วและง่าย (fair and square and perfect information)

กาละมัง เขียน:ผมว่าเขียนนโยบายให้ชัดเจนก็เพียงพอครับ ผู้ถือหุ้นจะได้เลือกลงทุนได้ตามจริต เมื่อไรไม่ทำตามนโยบายผู้ถือหุ้นก็จะรู้และสามารถสอบถามถึงเหตุผลได้

ปัจจุบันปรากฎมีบริษัทที่ไม่ได้กำหนดนโยบายปันผลชัดเจน หรือ กำหนดว่าจะจ่ายไม่เกิน 40% ซึ่งไม่มีความหมายใด ๆ

แต่ที่ผมเห็นว่าที่ ตลท และ กลต ควรให้ความสำคัญมากกว่า (เชื่อว่าเขาได้พยายามอยู่แล้ว แต่อาจยังไม่เพียงพอ) คือ ความเท่าเทียมกันของการเปิดเผยข้อมูลและการให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เปิดเผยได้ที่รวดเร็วและง่าย (fair and square and perfect information)

อย่างเช่น TCB ป่ะครับ

นโยบายเงินปันผล
อัตราระหว่าง 35-50% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล (โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติม)
กำไร 4.26 ปัน 1 บาท
กำไร 3.62 ปัน 0.6 บาท
กำไร 1.50 ปัน 0.45 บาท
ไม่เคยถึงซักปี -*-

พอจะใช้เงินค่อยกู้เอา
ถ้าผมเป็น ผบห ผมก้อกลัวว่าถึงเวลานั้นมันจะกู้ยาก+ดอกสูง นะสิครับ

เช่น ธนาคารล้มแบบโดมิโน ถ้าใครมีเงินสดก้อได้เปรียบ

แต่ก้ออยากให้มีการจ่ายปันผลตามที่ชี้แจง


...เช่น MLINK ปีนี้ไม่จ่ายอีกแล้ว
เฮ้อ

ความไม่พอใจของผมเท่ากับพี่ blueplanet แต่ด้วยความขี้เกียจเป็นธุระ ประกอบกับพอร์ตอันเล็กน้อย จะให้ผมไปเสียเงินฟ้องเขาก้อกระไรอยู่ สรุปเลือกทำแบบพี่เด่นสิน

ก็อย่าไปซื้อกิจการของบริษัทเค้าสิครับ
ดูจากแนวโน้มของเค้าก็ได้ว่า 3 ปีที่ผ่านมา เค้าได้จ่ายตามที่กำหนดไว้หรือไม่ ถ้าไม่ใกล้เคียงก็อย่าไปซื้อสิครับ

เพราะไม่ว่าผู้บริหารจะปันผลมาก หรือไม่ปันผลเลย ก็จะมีนักลงทุนประเภทนึงที่ชอบแบบใดแบบหนึ่งอยู่แล้ว
ถ้าปันผลมาก คนที่ชอบปันผลเยอะๆก็จะเข้าไปลงทุน
ถ้าไม่ปันผลเลย นักลงทุนที่ชอบ ให้บริษัทโตไวๆเก็บเงินไว้ลงทุน แล้วทำกำไรจากแคปปิตอล เกน ก็จะเข้าไปลงทุน

คุณเป็นนักลงทุนแบบไหนหล่ะครับ ?

แล้วถ้าคุณไม่พอใจ หรือไม่เชื่อใจผู้บริหาร แล้วคุณจะทนถือหุ้นของบริษัทนั้นเอาไว้ทำไมหล่ะครับ ?

ผมเป็นนักลงทุนประเภท กลัวไปก่อนที่ปัญหาจะเกิด
ผมเดาว่าอีกไม่นานพวก ผบห จะเอาเปรียบและโกงผู้ถือหุ้น
แบบนักการเมืองประเทศไทย
เพราะเมื่อเอาเปรียบแล้ว ผู้ถือหุ้นก็จะขายหุ้นทิ้ง
ไม่มีปากไม่มีการโวยไม่มีการรวมกลุ่มต่อสู้เพื่อสิทธิ์ตัวเอง
ตอนนี้หุ้นที่ผมถือ ก็ยังจ่ายปันผล(มากกว่าในนโยบาย)
ถ้าวันใดมันโกงจ่ายต่ำกว่านโยบาย
วันประชุม ผถห หรือวันพบ ผบห ผมไม่พลาดที่จะไปด่ามันแน่นอน
ผม เริ่มกังวลแล้วว่า วันนึงเราจะโดนเอาเปรียบอย่างน่าทุเรจ
เพราะคนไทยสังคมไทยเป็นสังคมที่ยอมคนชั่ว
ขอให้ชั่วและมีอำนาจสังคมไทยยอมถวายหัว