Thai VI

ครรชิต ไพศาล เขียน:SMT ปี2552 ทุนชำระแล้ว 736.000 ล้าน พาร์ 2
จำนวนหุ้น = 736.000 / 2 = 368.000
กำไรปี2552= 267.19
epsปี2552 =267.19/368.000 = 0.726

แต่ใน SETเอามาจากประกาศของบริษัท EPS = 0.886 เขาเรียก EPS ปรับลดแล้ว
เป็นการคำนวณโดยใช้ จำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก
เพราะ ในปีที่คำนวณ อาจมีการเพิ่มจำนวนหุ้นขึ้นปลายปี
แต่เมื่อต้นปีกลางปี จำนวนหุ้นน้อยกว่าในงบดุลปลายปี
จำนวนหุ้นที่นำมาหาร จึงน้อยกว่า 368

แต่หลักเกณฑ์ การคิดหุ้นปรับลดนี้ ผมก็ไม่รู้ว่าบริษัท เขามีวิธีคิดกันอย่างไร
ได้แต่ดูในงบดุลที่บริษัทที่เขาประกาศออกมา

โค้ด: เลือกทั้งหมด

กำไรสุทธิสำหรับปี				 267,191,137 
				
การแบ่งปันกำไรสุทธิ				
ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่				 267,187,843 
ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยของบริษัทย่อย 				 3,294 
				 267,191,137 
				
กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน				
กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่			0.89
จำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (หุ้น)				301,457,534

ครรชิต ไพศาล เขียน:จำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก หาเองไม่ได้
ต้องรอดูในงบดุล ที่บริษัทประกาศ

ซึ่งบริษัท เขาคงมีหลักการคำณวน อยู่แต่เราไม่รู้แน่นอน

ผมคิดเอาเองว่า บริษัท น่าจะคิดตามเวลาที่หุ้นนั้นๆ ทำงานเพื่อให้เกิดกำไร ทำนองนี้
เช่น ถ้า กรณีตัวอย่าง ให้เห็นง่ายๆ
01/01/11 มีหุ้นชำระแล้วอยู่ 100 หุ้น อยู่ครบ 31/12/11 ก็คิดเป็นน้ำหนักหุ้น 100*12/12 = 100
01/04/11 เพิ่มทุน อีก 20 หุ้น อยู่ครบ 31/12/11 ก็คิดเป็นน้ำหนักหุ้น 20*9/12 = 15
01/07/11 เพิ่มทุน อีก 20 หุ้น อยู่ครบ 31/12/11 ก็คิดเป็นน้ำหนักหุ้น 20*6/12 = 10

รวม 140 หุ้นชำระแล้วปลายปี แต่ จำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 125 ที่นำไปหารกำไรสุทธิ เพื่อหา EPS

financeseed เขียน: รบกวนถามนิดนึงครับ
1) 20*9/12 = 15
20*6/12 = 10
เลข 9 กับ เลข 6 มาอย่างไงหรอครับ
มันคือระยะเวลา(จำนวนเดือน)ที่หุ้นนั้นออกมามีผลต่อบริษัทในรอบปีนั้น
คือ หุ้นใหม่ 20 หุ้นแรกที่ออกมานั้นมีผลต่อบริษัทเป็นเวลา 9 เดือน ในรอบปีนั้น(12 เดือน)
หุ้นใหม่ 20 หุ้นหลังที่ออกมานั้นมีผลต่อบริษัทเป็นเวลา 6 เดือน ในรอบปีนั้น (12 เดือน)

2) ถ้าเราเอาข้อมูลใน set มาวิเคราะห์ เราต้องใช้ จำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก มาคิดใช้ไหมครับ เช่นหา ratio ต่างๆ และ ถ้าเราแกะงบเอง เช่น ทำ dcf เรา ควรใช้ จำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก หรือ จำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้ว จะเอาจำนวนหุ้นไหนดีครับมาใช้หามูลค่าหุ้นหรอครับ
แบบอนุรักษ์นิยมหน่อยน่าจะใช้จำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้ว และถ้าบริษัทมีการออกวอแรนท์
ต้องเพิ่มหุ้นสำหรับวอแรนท์ที่จะถูกใช้สิทธิเข้าไปด้วย และเพิ่มเงินสดค่าใช้สิทธิให้บริษัท ในรอบการใช้สิทธิล่าสุด

Hisoka เขียน:

financeseed เขียน: รบกวนถามนิดนึงครับ
1) 20*9/12 = 15
20*6/12 = 10
เลข 9 กับ เลข 6 มาอย่างไงหรอครับ
มันคือระยะเวลา(จำนวนเดือน)ที่หุ้นนั้นออกมามีผลต่อบริษัทในรอบปีนั้น
คือ หุ้นใหม่ 20 หุ้นแรกที่ออกมานั้นมีผลต่อบริษัทเป็นเวลา 9 เดือน ในรอบปีนั้น(12 เดือน)
หุ้นใหม่ 20 หุ้นหลังที่ออกมานั้นมีผลต่อบริษัทเป็นเวลา 6 เดือน ในรอบปีนั้น (12 เดือน)

2) ถ้าเราเอาข้อมูลใน set มาวิเคราะห์ เราต้องใช้ จำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก มาคิดใช้ไหมครับ เช่นหา ratio ต่างๆ และ ถ้าเราแกะงบเอง เช่น ทำ dcf เรา ควรใช้ จำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก หรือ จำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้ว จะเอาจำนวนหุ้นไหนดีครับมาใช้หามูลค่าหุ้นหรอครับ
แบบอนุรักษ์นิยมหน่อยน่าจะใช้จำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้ว และถ้าบริษัทมีการออกวอแรนท์
ต้องเพิ่มหุ้นสำหรับวอแรนท์ที่จะถูกใช้สิทธิเข้าไปด้วย และเพิ่มเงินสดค่าใช้สิทธิให้บริษัท ในรอบการใช้สิทธิล่าสุด