Hold A Core Position : กอดไว้ให้แน่น!
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 28, 2011 9:37 am
วันนี้ผมตัดเอาบางส่วนในแนวคิดที่น่าสนใจจากบทหนึ่งในหนังสือหุ้นของ Michael Swanson อดีตผู้จัดการกองทุน Hedge fund ที่ฝีมือดีมากๆคนหนึ่ง (เคยชนะเลิศ Prestigous Trading Championship Trophy ในปี 2002 ก่อนมาตั้งกองทุน Hedge Fund และเคยติดอันดับ Performance เป็น Top 40 จาก 500 กอง โดยเวบ Hedgefund.net) ทั้งยังเป็นเจ้าของเวบ WallstreetWindow.com มาให้อ่านกัน นี่เป็นแนวคิดของกลยุทธ์การเล่นหุ้นที่เน้นกินคำใหญ่เพื่อกลบผลขาดทุนเล็กๆที่จะเกิดขึ้นมาได้เป็นอย่างดี ใครที่สนใจก็ลองไปหยิบมาอ่านได้ หนังสือชื่อ Strategic Stock Trading เนื้อหาเหมาะสำหรับมือใหม่ถึงมือกลางๆ มีเนื้อหาเกี่ยวกับจิตวิทยาการลงทุนอยู่พอสมควร อ่านง่ายมากๆครับ
Hold A Core Position : กอดไว้ให้แน่น!
หากคุณถามผมว่า “อะไรคือแนวคิดที่สำคัญที่สุดเมื่อพูดถึงกลยุทธ์การลงทุนที่จะประสบความสำเร็จ?” ผมก็คงจะต้องบอกกับคุณว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดนั้น คือการที่คุณจะต้องเรียนรู้ที่จะวางตนเองให้อยู่ในทิศทางเดียวกับแนวโน้มใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นในตลาดในขณะนั้น” นั่นหมายความว่าในตลาดหมีนั้น คุณไม่ควรที่จะพยายามซื้อให้ได้ราคาต่ำที่สุด ทั้งๆที่ตลาดกำลังร่วงหล่นลงไป แต่คุณควรที่จะระวังตัวเอาไว้และอดทนให้ถึงที่สุด เพื่อที่จะนำเงินก้อนที่คุณมีอยู่วางลงไปในหุ้นของกลุ่มอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งที่สุด เมื่อตลาดได้สิ้นสุดขาลงของมันเรียบร้อยแล้ว และการที่จะทำเช่นนั้นได้ คุณก็จำเป็นที่จะต้องเมินเฉยต่อคำแนะนำต่างๆที่คุณได้รับจากสื่อทางการเงินต่างๆในช่วงตลาดขาลง และไม่ถูกล่อหลอกไปกับมนต์เสน่ห์ของการพยายามที่จะทำกำไรให้เกิดขึ้นมาด้วยวิธีการต่างๆในช่วงเวลาแย่ๆเหล่านั้น
ในการที่คุณจะสามารถฉกฉวยประโยชน์จากตลาดขาขึ้นให้ได้มากที่สุดนั้น คุณจะต้องเรียนรู้ที่จะกอดหุ้นที่คุณมีอยู่ให้แน่นที่สุด! ตั้งแต่ตลาดเริ่มกลับมาเป็นขาขึ้นจนกระทั่งถึงจุดจบของมันให้ได้ คุณเองไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อหุ้นให้ได้ในราคาต่ำที่สุด หรือขายมันให้ได้ในราคาที่สูงที่สุดในการที่จะทำกำไรก้อนใหญ่จากตลาด เพราะเพียงแค่คุณสามารถที่จะเข้าซื้อหุ้นเมื่อตลาดกลับมาเป็นขาขึ้นโดยไม่สายเกินไป คุณก็สามารถที่จะมีหุ้นที่จะทำกำไรให้คุณได้เป็นเท่าตัวจากในหลายๆกลุ่มอุตสาหกรรมได้อย่างสบายๆ โดยมีข้อแม้ที่สำคัญที่สุดก็คือ คุณจะต้องกอดหุ้นที่คุณมีไว้ให้แน่นตราบเท่าที่ตลาดยังคงเป็นขาขึ้นอยู่นั่นเอง
การเคลื่อนไหวของตลาดหรือข่าวสารที่ออกมาในแต่ละวันหรือแต่ละชั่วโมงนั้น มักล้วนแล้วแต่ที่จะทำให้มุมมองของคุณต่อสิ่งที่ตลาดกำลังเป็นอยู่ในภาพใหญ่ลดน้อยลงไป หรือพูดง่ายๆก็คือ คุณจะมองเห็นแต่ต้นไม้และมองไม่เห็นป่าผืนใหญ่ ดังนั้นหากว่าคุณต้องการที่จะทำกำไรก้อนใหญ่จากแนวโน้มที่เกิดขึ้น คุณก็ควรที่จะอยู่ให้ห่างๆจากข่าวสารรายวันเอาไว้ การจ้องมองตลาดเป็นรายนาทีหรือรายชั่วโมงหลังจากที่คุณได้เข้าซื้อหุ้นไปนั้น คือสิ่งที่โง่ที่สุดที่คุณควรจะทำ!! มันไม่สนุกเลยที่คุณจะต้องเห็นหุ้นที่คุณมีอยู่ร่วงลงไปทีละช่อง และมันก็ไม่จำเป็นเลยที่คุณจะต้องมองมันวิ่งขึ้นไปทีละช่องเช่นกัน จำไว้ให้ดีว่าการจ้องมองมันอยู่ตลอดไม่ได้ช่วยให้มันไม่ร่วงหล่นลงไปได้ และหากว่าคุณอยากจะควบคุมความเสี่ยง คุณก็ควรที่จะควบคุมมันโดยการกำหนดขนาดการลงทุนให้เหมาะสม (Position Sizing) ควบคู่ไปกับการกำหนดจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ของคุณก่อนที่คุณจะซื้อมันเข้าไป คุณควรต้องเลิกจ้องมองการเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยๆที่ไร้ความหมายของตลาดไปเสีย กอดหุ้นที่คุณมีอยู่ให้แน่นและอดทนกับหุ้นที่คุณมีให้นานที่สุด ตราบเท่าที่ตลาดยังเป็นขาขึ้นอยู่ จงอย่าพยายามหรือหวังที่จะรวยขึ้นอย่างมากในชั่วพริบตา
กินให้เหมือนช้าง ถ่ายให้เหมือนนก !! (สุภาษิตนักเล่นหุ้น)
สิ่งที่ผมพูดอยู่นี้เป็นสิ่งที่ขัดกับความคิดในสมัยที่ผมพึ่งเริ่มที่จะเข้าตลาดหุ้นใหม่ๆเป็นอย่างมาก ผมเองก็เคยหลงเสน่ห์อยู่กับการเล่นหุ้นในระยะสั้นๆ และพยายามที่จะทำกำไรก้อนโตภายในข้ามคืนออกมาให้ได้ อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป ประจวบกับประสบการณ์ของผมที่ได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คาบเวลา (Time Frame) ที่ผมใช้ในการเล่นหุ้นก็ค่อยๆยืดไกลออกไป เพราะผมได้มาถึงในจุดที่ผมได้เข้าใจแล้วว่า นี่คือที่ที่กำไรก้อนใหญ่จะถูกสร้างขึ้นมาได้! หรือพูดอีกอย่างก็คือ “กำไรก้อนโตคือสิ่งที่จะต้องเกิดมาจากแนวโน้มใหญ่นั่นเอง” นอกจากนี้แล้ว ผมยังพบว่ามันกลับง่ายขึ้นมากๆ ในการที่เราจะสามารถวิเคราะห์ให้เห็นถึงแนวโน้มใหญ่ที่จะทอดยาวออกไป ซึ่งมันจะไม่ถูกทำลายไปโดยสิ่งรบกวนเล็กๆน้อยๆหรือข่าวสารที่เกิดขึ้นรายวัน แนวโน้มใหญ่คือสิ่งที่ชัดเจนและสำคัญที่สุดที่คุณควรจะสนใจมันเอาไว้ให้มากที่สุด
สุดท้ายนี้ขอให้คุณจำเอาไว้ให้ดีว่า : เมื่อตลาดกลับมาเป็นขาขึ้นนั้น มันไม่จำเป็นที่คุณจะต้องยอมเสี่ยงถือหุ้นแต่ละตัวเป็นสัดส่วนมากๆเพื่อที่จะทำกำไรก้อนโตออกมาให้ได้ ด้วยเงินเพียงแค่ 20% ในพอร์ทของคุณที่วางลงไปในหุ้นตัวหลักๆแต่ละตัวนั้น แค่เพียงมีหุ้นตัวใดตัวหนึ่งที่สามารถจะวิ่งขึ้นมาได้สัก 1 เด้ง มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้คุณสามารถมีกำไรได้เกือบ 20% ต่อปีได้ นี่ถือเป็นผลตอบแทนในระดับที่กองทุนชั้นนำส่วนใหญ่ต่างก็ฝันถึงมันทั้งนั้น ขอแค่คุณมีระบบการลงทุนที่ดีสักระบบ และรู้จักบริหารเงินทุน (Money Management) อย่างเหมาะสม มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไปเลยในการที่คุณจะสามารถทำกำไรแบบนี้ออกมาได้ในทุกๆปี สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ คุณจะต้องรู้จักกำหนดขนาดการลงทุน (Position Size) ในหุ้นหลักๆของคุณแต่ละตัว ไม่ให้หนักจนเกินกว่าที่คุณจะสามารถรับกับความเสี่ยงของมันได้ นี่เองจะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณสามารถถือพวกมันผ่านพ้นช่วงเวลาที่ตลาดจะต้องเจอกับการพักตัวสัก 10% หรือ 15% เอาไว้ได้ เพื่อที่คุณจะสามารถฉกฉวยและช่วงใช้ผลประโยชน์ จากแนวโน้มใหญ่ของตลาดหุ้นในขาขึ้นให้ได้มากที่สุดนั่นเอง
Hold A Core Position : กอดไว้ให้แน่น!
หากคุณถามผมว่า “อะไรคือแนวคิดที่สำคัญที่สุดเมื่อพูดถึงกลยุทธ์การลงทุนที่จะประสบความสำเร็จ?” ผมก็คงจะต้องบอกกับคุณว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดนั้น คือการที่คุณจะต้องเรียนรู้ที่จะวางตนเองให้อยู่ในทิศทางเดียวกับแนวโน้มใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นในตลาดในขณะนั้น” นั่นหมายความว่าในตลาดหมีนั้น คุณไม่ควรที่จะพยายามซื้อให้ได้ราคาต่ำที่สุด ทั้งๆที่ตลาดกำลังร่วงหล่นลงไป แต่คุณควรที่จะระวังตัวเอาไว้และอดทนให้ถึงที่สุด เพื่อที่จะนำเงินก้อนที่คุณมีอยู่วางลงไปในหุ้นของกลุ่มอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งที่สุด เมื่อตลาดได้สิ้นสุดขาลงของมันเรียบร้อยแล้ว และการที่จะทำเช่นนั้นได้ คุณก็จำเป็นที่จะต้องเมินเฉยต่อคำแนะนำต่างๆที่คุณได้รับจากสื่อทางการเงินต่างๆในช่วงตลาดขาลง และไม่ถูกล่อหลอกไปกับมนต์เสน่ห์ของการพยายามที่จะทำกำไรให้เกิดขึ้นมาด้วยวิธีการต่างๆในช่วงเวลาแย่ๆเหล่านั้น
ในการที่คุณจะสามารถฉกฉวยประโยชน์จากตลาดขาขึ้นให้ได้มากที่สุดนั้น คุณจะต้องเรียนรู้ที่จะกอดหุ้นที่คุณมีอยู่ให้แน่นที่สุด! ตั้งแต่ตลาดเริ่มกลับมาเป็นขาขึ้นจนกระทั่งถึงจุดจบของมันให้ได้ คุณเองไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อหุ้นให้ได้ในราคาต่ำที่สุด หรือขายมันให้ได้ในราคาที่สูงที่สุดในการที่จะทำกำไรก้อนใหญ่จากตลาด เพราะเพียงแค่คุณสามารถที่จะเข้าซื้อหุ้นเมื่อตลาดกลับมาเป็นขาขึ้นโดยไม่สายเกินไป คุณก็สามารถที่จะมีหุ้นที่จะทำกำไรให้คุณได้เป็นเท่าตัวจากในหลายๆกลุ่มอุตสาหกรรมได้อย่างสบายๆ โดยมีข้อแม้ที่สำคัญที่สุดก็คือ คุณจะต้องกอดหุ้นที่คุณมีไว้ให้แน่นตราบเท่าที่ตลาดยังคงเป็นขาขึ้นอยู่นั่นเอง
การเคลื่อนไหวของตลาดหรือข่าวสารที่ออกมาในแต่ละวันหรือแต่ละชั่วโมงนั้น มักล้วนแล้วแต่ที่จะทำให้มุมมองของคุณต่อสิ่งที่ตลาดกำลังเป็นอยู่ในภาพใหญ่ลดน้อยลงไป หรือพูดง่ายๆก็คือ คุณจะมองเห็นแต่ต้นไม้และมองไม่เห็นป่าผืนใหญ่ ดังนั้นหากว่าคุณต้องการที่จะทำกำไรก้อนใหญ่จากแนวโน้มที่เกิดขึ้น คุณก็ควรที่จะอยู่ให้ห่างๆจากข่าวสารรายวันเอาไว้ การจ้องมองตลาดเป็นรายนาทีหรือรายชั่วโมงหลังจากที่คุณได้เข้าซื้อหุ้นไปนั้น คือสิ่งที่โง่ที่สุดที่คุณควรจะทำ!! มันไม่สนุกเลยที่คุณจะต้องเห็นหุ้นที่คุณมีอยู่ร่วงลงไปทีละช่อง และมันก็ไม่จำเป็นเลยที่คุณจะต้องมองมันวิ่งขึ้นไปทีละช่องเช่นกัน จำไว้ให้ดีว่าการจ้องมองมันอยู่ตลอดไม่ได้ช่วยให้มันไม่ร่วงหล่นลงไปได้ และหากว่าคุณอยากจะควบคุมความเสี่ยง คุณก็ควรที่จะควบคุมมันโดยการกำหนดขนาดการลงทุนให้เหมาะสม (Position Sizing) ควบคู่ไปกับการกำหนดจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ของคุณก่อนที่คุณจะซื้อมันเข้าไป คุณควรต้องเลิกจ้องมองการเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยๆที่ไร้ความหมายของตลาดไปเสีย กอดหุ้นที่คุณมีอยู่ให้แน่นและอดทนกับหุ้นที่คุณมีให้นานที่สุด ตราบเท่าที่ตลาดยังเป็นขาขึ้นอยู่ จงอย่าพยายามหรือหวังที่จะรวยขึ้นอย่างมากในชั่วพริบตา
กินให้เหมือนช้าง ถ่ายให้เหมือนนก !! (สุภาษิตนักเล่นหุ้น)
สิ่งที่ผมพูดอยู่นี้เป็นสิ่งที่ขัดกับความคิดในสมัยที่ผมพึ่งเริ่มที่จะเข้าตลาดหุ้นใหม่ๆเป็นอย่างมาก ผมเองก็เคยหลงเสน่ห์อยู่กับการเล่นหุ้นในระยะสั้นๆ และพยายามที่จะทำกำไรก้อนโตภายในข้ามคืนออกมาให้ได้ อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป ประจวบกับประสบการณ์ของผมที่ได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คาบเวลา (Time Frame) ที่ผมใช้ในการเล่นหุ้นก็ค่อยๆยืดไกลออกไป เพราะผมได้มาถึงในจุดที่ผมได้เข้าใจแล้วว่า นี่คือที่ที่กำไรก้อนใหญ่จะถูกสร้างขึ้นมาได้! หรือพูดอีกอย่างก็คือ “กำไรก้อนโตคือสิ่งที่จะต้องเกิดมาจากแนวโน้มใหญ่นั่นเอง” นอกจากนี้แล้ว ผมยังพบว่ามันกลับง่ายขึ้นมากๆ ในการที่เราจะสามารถวิเคราะห์ให้เห็นถึงแนวโน้มใหญ่ที่จะทอดยาวออกไป ซึ่งมันจะไม่ถูกทำลายไปโดยสิ่งรบกวนเล็กๆน้อยๆหรือข่าวสารที่เกิดขึ้นรายวัน แนวโน้มใหญ่คือสิ่งที่ชัดเจนและสำคัญที่สุดที่คุณควรจะสนใจมันเอาไว้ให้มากที่สุด
สุดท้ายนี้ขอให้คุณจำเอาไว้ให้ดีว่า : เมื่อตลาดกลับมาเป็นขาขึ้นนั้น มันไม่จำเป็นที่คุณจะต้องยอมเสี่ยงถือหุ้นแต่ละตัวเป็นสัดส่วนมากๆเพื่อที่จะทำกำไรก้อนโตออกมาให้ได้ ด้วยเงินเพียงแค่ 20% ในพอร์ทของคุณที่วางลงไปในหุ้นตัวหลักๆแต่ละตัวนั้น แค่เพียงมีหุ้นตัวใดตัวหนึ่งที่สามารถจะวิ่งขึ้นมาได้สัก 1 เด้ง มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้คุณสามารถมีกำไรได้เกือบ 20% ต่อปีได้ นี่ถือเป็นผลตอบแทนในระดับที่กองทุนชั้นนำส่วนใหญ่ต่างก็ฝันถึงมันทั้งนั้น ขอแค่คุณมีระบบการลงทุนที่ดีสักระบบ และรู้จักบริหารเงินทุน (Money Management) อย่างเหมาะสม มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไปเลยในการที่คุณจะสามารถทำกำไรแบบนี้ออกมาได้ในทุกๆปี สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ คุณจะต้องรู้จักกำหนดขนาดการลงทุน (Position Size) ในหุ้นหลักๆของคุณแต่ละตัว ไม่ให้หนักจนเกินกว่าที่คุณจะสามารถรับกับความเสี่ยงของมันได้ นี่เองจะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณสามารถถือพวกมันผ่านพ้นช่วงเวลาที่ตลาดจะต้องเจอกับการพักตัวสัก 10% หรือ 15% เอาไว้ได้ เพื่อที่คุณจะสามารถฉกฉวยและช่วงใช้ผลประโยชน์ จากแนวโน้มใหญ่ของตลาดหุ้นในขาขึ้นให้ได้มากที่สุดนั่นเอง