Thai VI

Symbol: SET
Headline: การเปลี่ยนแปลงราคาสูงสุดต่ำสุดและปลด "H" ของ "TGP" (แก้ไข)
Time: 24 พ.ค. 2004 11:04:05


การเปลี่ยนแปลงราคาสูงสุดและต่ำสุดประจำวันและปลด H ของหลักทรัพย์บริษัทบริษัท
ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) "TGP" (แก้ไข)

ตามที่ บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) "TGP" จะทำการเพิกถอนหลักทรัพย์ของ
บริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน และ บริษัท บีพีบียิบซั่ม บีวี จะทำคำเสนอซื้อหุ้นไม่เกิน
352,520,762 หุ้น ในราคา 7.00 บาทต่อหุ้น ซึ่งราคาสูงสุดและต่ำสุดประจำวันไม่ครอบคลุม
ราคาดังกล่าว ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ได้ขึ้นเครื่องหมาย "H" บนหลักทรัพย์ดังกล่าว

เพื่อให้หลักทรัพย์ดังกล่าวสามารถซื้อขายต่อไปได้ตามสภาพความเป็นจริง ตลาดหลักทรัพย์จึงอาศัย
อำนาจตามความในข้อ 24 (6) แห่งข้อบังคับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องข้อกำหนด
เกี่ยวกับการซื้อขาย การชำระราคาและการส่งมอบหลักทรัพย์จดทะเบียน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2542
เปลี่ยนแปลงราคาสูงสุดและต่ำสุด (Ceiling and Floor) ของหลักทรัพย์ดังกล่าวบนกระดาน
หลักในวันที่ 22 พ.ค. 2547 ให้หลักทรัพย์ TGP มีราคาสูงสุดและต่ำสุดไม่เกินหนึ่งเท่าจากราคา
ซื้อขายครั้งสุดท้ายบนกระดานหลักของหลักทรัพย์ดังกล่าว

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์จึงปลดเครื่องหมาย H หลักทรัพย์ดังกล่าว ตั้งแต่เวลา 11.15 น.
ของวันที่ 24 พ.ค. 2547 เป็นต้นไป

มีใครรู้บ้างไหม ว่าในกรณีใดบ้างที่หลักทรัพย์ในลักษณะอย่างนี้ จะมีราคา ในตลาดไปเกิน 7 บาท (ระยะเวลาจากนี้ไป จนถึง เริ่มทำ Tender ของบริษัทฯ)
และมีโอกาสไหมที่ บริษัทฯ จะต้องปรับราคาใหม่ให้สูงขึ้นกว่า 7 บาท

อีกเรื่องหนึ่งครับ ในกรณีเปิดให้มีการซื้อขายแล้ว โดยปกติราคาคงจะขึ้นไปไม่ถึง 7 บาทอยู่แล้ว ในกรณีอย่างนี้จะมีผลกับการประกาศการทำ Tender ที่ 7 บาท ที่ได้ประกาศสู่สาธารณะชนหรือไม่??? รบกวนผู้รู้ช่วยเสนอแนะความเห็นด้วยครับ ขอบคุณ

สงสัยต้องรอให้เฮียคลาย เครียด กับคุณ CK เข้ามาตอบครับ เพราะท่านทั้ง 2 มีประสบการณ์กับหุ้น Tender Offer มากหลายรอบ

ฮือ เลยต้องเข้ามาตอบเลย

ผมไม่ชำนัญเท่าเฮียคค.ครับ เอาแบบเบสิคไปก่อนนะครับ

1. มีบ่อยไปครับที่ราคาซื้อ-ขายในตลาดวิ่งเกินราคา T/O อาจจะเป็นเพราะ
มีคนเก็งว่า ราคา T/O น่าจะขยับขึ้นเพราะบริษัทฯไม่สามารถซื้อคืนได้ครบ
ที่ต้องการ ก็จะไล่ราคากันขึ้นไปอีกครับ

UGP เคย เกินราคา T/O ไป 4 บาทครับ แต่ส่วนใหญ่จะแกว่งในกรอบแคบๆ
และจะเริ่มแคบลงเมื่อใกล้ deadline

แต่ที่น่าเกลียดน่ากลัวที่สุดคือ UTL ครับ ราคา T/O ที่ 11.80 บาทแต่
วิ่งไป 18 บาทได้มั้ง ประมาณ 2 อาทิตย์ก่อน deadline และตกลงมาเหลือ
แค่ 9 บาทในสองวันสุดท้าย

ปกติแล้ว ผมจะเห็น discount อยู่ประมาณ 5-10% ในช่วงสองเดือนสุด
ท้ายก่อน delist ครับ

2. มีโอกาสครับที่บริษัทฯจะปรับราคารับซื้อคืนขึ้น (แต่ห้ามปรับลง) แต่
มักจะทำเมื่อได้หุ้นไม่ครบที่ต้องการครับ ในกรณี TGP ผมว่ายาก เพราะผม
มองว่า 7 บาทนี่ค่อนข้างแฟร์ครับ ที่ 2.2 เท่าของ Book เชียว โดยปกติ
ถ้าหุ้นถูก t/o โดยบริษัทฝรั่ง ราคามักจะออกมาประมาณนี้ครับ หรือไม่ก็
20 เท่าของ earning หรือประมาณ PEG = 1.0

3. (แถมให้) บริษัทที่ถูกทำ T/O โดยผู้ถือหุ้นเดิมมักจะเป็นบริษัทที่ดีครับ
ทำกำไรมหาศาลและกำลังโตแบบก้าวกระโดด หนี้น้อยมาก และเจ้าของ
รวยอยู่แล้ว ไม่ต้องการระดมทุน (คือระดมเองได้) แถมกำไรก็สูงและความ
เสี่ยงต่ำ

พูดง่ายๆ คือ รวยคนเดียวดีกว่า ไม่อยากแบ่งให้ใครแล้ว

บริษัทพวกนี้มักจะเป็นที่หมายปองของ VI ครับ ดีไปซะทุกอย่าง แต่
สำหรับ VI ที่ซื้อไว้ มันคือข่าวดีบนข่าวร้ายครับ เหมือนการฆ่าห่าน
ทองคำ อดกินไข่ ได้กินเนื้อครั้งเดียว

TGP ผมว่าเข้าข่ายนี้ครับ

เห็นด้วยกับพี่ CK ครับผมคิดว่ามันยากแล้วล่ะครับ ยังไงก็ต้องออกและก็คงไม่ปรับราคา T/O แล้วล่ะ เพราะผมเดาว่าตอนนี้ Nominee ของผู้ถือหุ้นใหญ่เก็บหุ้นไปได้เพียบเลยครับ เพราะวันจันทร์ผมลงทุนนั่งดู Bid-Offer เลยครับ
ขอบคุณพี่ CK ครับได้ความรู้ดีๆจากพี่ CK เสมอเลย

" บริษัทที่ถูกทำ T/O โดยผู้ถือหุ้นเดิมมักจะเป็นบริษัทที่ดีครับ
ทำกำไรมหาศาลและกำลังโตแบบก้าวกระโดด หนี้น้อยมาก และเจ้าของ
รวยอยู่แล้ว ไม่ต้องการระดมทุน (คือระดมเองได้) แถมกำไรก็สูงและความ
เสี่ยงต่ำ "

เท่าที่เห็นยังมีอีกบริษัทนะครับ ^_^ แล้วเว็ปนี้ก็พูดถึงบ่อยๆด้วยครับ

ขอบคุณมาก ๆ เลยครับ คุณ CK ข้อมูลที่ให้กระจ่างชัดมากเลย สบายใจขึ้นมากเลยครับ (ปนเสียดายนิด ๆ พอได้ข่าวจากคุณ CK อย่างนี้ นาน ๆ จะได้ถือหุ้นที่ว่าดี ๆ ของพวก VI ซะหน่อย ดันต้องขายทิ้งเสียแล้ว)

ผมถือที่ 6.6 บาทมาตั้งแต่ต้นปี ได้เห็นเขียว ๆ อยู่พักเดียวแล้วก็ลงมาจนถึง 4.46 บาท นั่งดูมันลงมาตลอด ใจไม่ดีเลย ดีที่มันหยุดที่ราคานี้ พอทราบว่าบริษัทจะทำ Tender ก็กังวลอีกว่าจะทำที่ราคาเท่าไร? ถ้าตามราคาตลาดผมคงเข็ดไปอีกนาน นึกว่าซื้อหุ้นดีแล้ว (ถึงราคาตกลงมาก็ไม่เป็นไร ผมรอได้เป็นปีอยู่แล้ว) วันที่กรรมการประชุมเย็นวันศุกร์ ติดตามข่าวตลอด เจ้าหน้าที่บริษัทฯ สอบถามไปก็ไม่บอก ให้ไปดูข่าวเองวันจันทร์ (พูดถึงเจ้าหน้าที่บริษัทฯ ที่ให้ข้อมูล บริการไม่ค่อยจะดีเลย) ดีที่ข่าวออกมาตามที่ทราบกัน ผมโล่งอกไปที (สวรรค์ ยังปราณีครับ)
ที่ถามเพราะคิดว่า ในการประชุมผู้ถือหุ้น (17 มิย 47) ถ้าผู้ถือหุ้นไม่ยอมจะเกิดอะไรขึ้นอีก แต่พอทราบว่ายังไง ราคา Tender ก็คงจะไม่ลงต่ำกว่า 7 บาทที่ประกาศไปแล้ว ตามที่คุณ CK บอก ก็สบายใจแล้ว (ยังหวังเผื่อฟล๊กว่า จะปรับราคาสูงขึ้น ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้) และคงจะขายคืนบริษัทฯ ละครับ แต่รอดูท่าทีไปก่อน จนวินาทีสุดท้ายค่อยไปขายให้บริษัท คงไม่เสียหายอะไรใช่ไหมครับ

ควรเผื่อเวลาก่อนวันรับซื้อคืนวันสุดท้ายหลายวันหน่อยครับ ตอนนี้ถ้า
มีโอกาสอื่นที่ดีกว่า ก็ขายไปก่อนก็ได้ครับ ส่วนใหญ่แล้ว ผมจะขาย
คืนในตลาดมากกว่า ได้เงินน้อยกว่า 5% แต่สามารถไปเล่นตัวอื่น
ได้ทันที ถ้ารอขายคืน จะต้องรออีกพักกว่าจะได้เงินครับ

คุณCK ครับ รออีกพักกว่าจะได้เงินคืน ส่วนใหญ่นานแค่ไหนเหรอครับ ถ้า3-4เดือนได้5% ผมว่าคุ้มนะครับ เท่ากับปีละ15%เลยนะครับ หรือว่ายังมีข้อเสียอื่นที่ต้องคำนึงถึงอีกครับ ต้องไปด้อมๆมองๆหุ้นตัวนื้ซะแล้ว(ไม่รู้ทันรึปล่าว)