Thai VI

กล่าวถึงเศรษฐกิจของจีนและอินเดียครับ แต่มีแง่มุมทางสังคม ทางการทหารเสริม

คนเขียนเป็นนักข่าวของ Forbes ตัวเลขแน่นดี เชิงอรรถเยอะ ชอบมากครับ

เนื้อหากว่าครึ่งคล้าย The world is flat โดยบทสรุปที่ว่าคนอเมริกาจะหางานยากมากขึ้น

มีการอธิบายถึงการผลิตแบบระบบสายพาน เทียบกับปัจจุบันที่เป็น supply chain เห็นภาพดีมากครับ

ซึ่งระบบแบบห่วงโซ่อุปทานนี้มีความเสี่ยง ยกตัวอย่างสึนามิล่าสุด ความเสี่ยงดังกล่าวในหนังสือก็มีครอบ

คลุมไว้ด้วยครับ และหากวิสัยทัศน์ของราคาบ้านอเมริกามาก่อน subprime จริงก็ถือว่าไม่เบาทีเดียวครับ

ได้ความรู้ว่าการเคลื่อนไหวระดับประเทศของจีนว่ามาจากมุมมองทางทรัพยากรพลังงาน (ต่อไปอาจเป็น

ทรัพยากรน้ำ)

คิดว่าคนอ่านจบจะได้ มุมมองอนาคตอะไรหลายอย่าง อาจเพิ่มความรู้ในการลงทุนต่างประเทศในจีนที่

ขณะนี้มีกองทุนมากมาย

ปล หากเป็นตามหนังสือ ถั่วเหลืองที่บราซิลส่งออกระดับโลก ได้เมล็ดพันธุ์มาจากจีนนี่เองครับ

หนังสือ The elephant and the dragon
ผมช่วย Share เพิ่มเติมครับ

จริงๆ เราคงไม่ค่อยแปลกใจเกี่ยวกับการเติบโตของจีน แต่ อินเดีย นี่ซิ หนังสือเล่มนี้เขียนไว้น่าสนใจ (เขาจะเขียนสลับ กับ จีน ที่ละบทๆ)
การเขียนจะกล่าวถึงความสำเร็จของจีน สลับกับ ความพยายามของอินเดีย ที่จะก้าวเข้าสู่ Explosion Growth แบบเดียวกัน
อินเดีย เหมือน จีนเมื่อ 15 - 20 ปีที่แล้ว
อินเดียได้ไปดูงานที่จีน และ ตระหนักว่า ครั้งหนี่งไม่นานมานี้เองทั้งจีน และ อินเดีย เคยพัฒนาการใกล้เคียงกัน แต่ ขณะนี้จีนได้ก้าวลำไปแบบน่าตกใจเสียแล้ว

อินเดีย ไม่อาจใช้ Model การพัฒนาเหมือนจีนได้ เนื่องจาก Infrastructure มีปัญหาพื้นฐานอย่างมาก (สมัยอังกฤษปกครองอินเดีย ตั้งใจให้ Infrastructure มีปัญหา เพื่อไม่ให้ อินเดีย รวมตัวกันต่อต้านอังกฤษ) คำถามคือว่าอินเดียจะขับเคลือนอย่างไร?

คนเขียนเชื่ออย่างยิ่งว่า อินเดีย จะประสบความสำเร็จในท้ายที่สุด (ซี่งขณะนี้ ธุรกิจการบริการ เช่น IT อินเดียได้แสดงศักยภาพออกมาชัดเจน)เพราะความที่มีทรัพยากรเรื่องคนมาก (ทั้งการศีกษา แรงงาน คนชั้นกลาง ฯลฯ) ความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรมทำให้อุตสหกรรมเล็กๆสามารถเกิดขึ้นได้อย่างมากมาย (จีนจะเป็น mass industries ส่วน อินเดีย จะเป็น niche industries)

เมื่ออินเดียสามารถขับเคลือนตัวเองได้อย่างรวดเร็วแล้ว อะไรจะเกิดขึ้น
โดยเฉพาะกับเรา (รักเธอประเทศไทย) อันนี้หนังสือไม่ได้เขียน ผมถามเอง อิอิ

^^ ขอบคุณสำหรับการ review นะครับ น่าสนใจจังเลยครับ

ขอบคุณค้าบ

ผมอ่านแล้วคิดถึงประเทศไทย ต่อไปจะเป็นอย่างไร

เนื่องจาก Infrastructure มีปัญหาพื้นฐานอย่างมาก (สมัยอังกฤษปกครองอินเดีย ตั้งใจให้ Infrastructure มีปัญหา เพื่อไม่ให้ อินเดีย รวมตัวกันต่อต้านอังกฤษ)


ตรงนี้ไม่เห็นด้วยครับ
เมื่อก่อน ก่อนที่จีนจะเปิดประเทศ จุดนี้จีนก็ไม่ต่างจากอินเดียครับ
เรื่องนี้เป็นวิสัยทัศน์ และความพยายามของผู้นำประเทศน่ะครับ
ตอนอังกฤษ ปกครอง อินเดีย อินเดีย มีทางรถไฟและถนนหนทาง ดีกว่าจีน
แบบว่า จีนนี่เทียบไม่ติดเลยน่ะ

วันที่อินเดียประกาศเอกราชจากอังกฤษใน ปี 1947 ระบบรถไฟในอินเดียมี 42 Systems!

อย่างไรก็ตามอินเดียพยายามพัฒนาให้เป็น Standard เดียวกันโดยรวมกันใน ปี 1951 (Nationalised to one system)

คนอินเดียตอนนั้นคงภูมิใจครับว่าอังกฤษช่วยพัฒนาประเทศ สร้างทางรถไฟมากมาย แต่เป็นการดูดเอาทรัพยากร โดยเฉพาะทองคำกลับไป และ สร้างระบบเครือข่ายรถไฟที่เข้ากันแทบไม่ได้ในแต่ละภูมิภาค ฮะๆ (ขนาดความกว้างราง คนละขนาด เป็นต้น)

จริงๆ นี่ อังกฤษ เป็นคนรวมอินเดียเป็นประเทศเดียวกันน่ะครับ
ถ้า อินเดียไม่ได้เป็นอาณานิคม ของอังกฤษ
อินเดีย จะไม่เป็นประเทศเดียวกันแบบนี้ครับ
อังนั้นประเทศอินเดีย เป็นประเทศที่เกิดใหม่มาได้
เพราะว่าอังกฤษครับ

อ่านแล้วนึกถึงเมืองไทย
เข้าใจเลยว่า ทำไมบ้านเราโรงงานเต็มไปหมด
เข้าใจคำว่า สังคมโลก ชัดมากขึ้นครับ