Thai VI

ดีครับทุกคน ผมตั้งกระทู้นี้มาขำๆเพราะอยากทราบว่าชาว TVi ทั้งหลาย ปัจจุบันประกอบอาชีพหลักหรือทำงานประจำอะไรกันอยู่... และในการดำเนินชีวิตประจำวันคิดว่า งานประจำนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องในการส่งเสิรมหรือขัดแย้งกับ ชีวิตการลงทุนของคุณในทางใดหรือไม่ครับ หรือเฉยๆ ......... เรื่องอื่นในชีวิตด้วยก็ได้นะครับที่เหมือน daily routine มีความ ประจำอยู่ มองว่าทำแล้วส่งเสริมหรือขัดแย้ง หรืออะไรยังไง comment ตามสบาย

ส่วนตัวผมเองงานประจำคือเป็น quant / market analyst / market-marketing researcher / consultant

ก็ตามที่ผมพูดไป งานที่ผมทำนั้นส่งเสริมชีวิตการลงทุนของผมพอสมควรถึงมาก (จริงๆมันคือเหตุผลที่ทำงานสายนี้อยู่ด้วย) คงพูดมากไปกว่านี้ไม่ได้ อาจมีเคราะห์กรรมตามมา

เรื่องอื่นๆในชีวิตผมมองว่าไม่ค่อยขัดแย้ง จะมีก็เรื่องไม่ได้นอนเท่าไหร่อย่างเดียวว

แล้วพี่ๆเพื่อนๆคนอื่นๆหละครับ เป็นยังไงกัน

ส่วนคนที่ลงทุนเป็นอาชีพก็ไม่เปนไรนะครับ มีอะไรแชร์ก็ได้ เผื่อมีคนที่เจออะไรคล้ายๆกันไม่สามารถ balance จัดการชีวิตการลงทุนกับเรื่องอื่นๆได้จะได้นำไปลองดู

ขอบคุณสำหรับทุก comment

ผมเรียนอยู่ปีสอง ม มหิดลครับ
การอ่านหนังสือสอบจะขัดข้องกับการหาข้อมูลลงทุน.... - -"

40 percent of my portfolio is in cash...and its all because i havent had the time to research stocks because i have been too busy studying....i hate school...and the funny thing is that...most of the stocks i am interested are overpriced - -"....the whole darn market is overpriced! ARGH! school!

Most of the time...i can only find time to analyze a company i am interested in when theres term break!

ผมทำงานในอุตสหกรรมอิเล็กทรอนิคส์ ไม่ค่อยเกี่ยวกับการลงทุนเท่าใหร่ ส่วนใหญ่ซื้อหุ้นในอุตสหกรรมอื่น ไม่ค่อยมีเวลาตามหุ้นเท่าใหร่ ส่วนใหญ่ใช้เวลาเสาร์อาทิตย์ในการติดตามการลงทุน บจ อิเล็กทรอนิคส์ในบ้านเราส่วนใหญ่รับจ้างผลิตซึ่งจะขึ้นอยู่กับลูกค้าเป็นหลักถ้าประเทศคู่ค้าดีลูกค้าก็จะเยอะรายได้และกำไรจะเยอะตามขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลก

ผมยังต้องทำงานหลักไปอีกนานครับ เพราะงานที่ผมทำอยู่มันเป็นในรูปแบบ dhando investing ความเสี่ยงต่ำมากและโอกาสได้ผลตอบแทนสูง ในขณะที่เมื่อว่างในเวลาหรือนอกเวลางานก็ทั้งพักผ่อนและศึกษาหาข้อมูลไป แต่ยอมรับว่าตอนนี้ผมถลำลึกไปกับวังวนการหาและรับความสำเร็จอย่างถอนตัวไม่ขึ้นนอกเหนือไปจากเรื่องครอบครัวครับ

ผมเบื่องานประจำ แต่เลี่ยงไม่ได้
บอกตามตรง ผมงง พวก พี่ๆที่อิสระภาพกันแล้วอยากรู้ว่าทำงาน(หาความรู้)หนักกันแค่ไหน
เพราะผ่านมาสักพักนึง ผมบอกตามตรงมองไม่เห็นฝั่ง
หรือเพราะวิธียังไม่ถูกต้องก็ไม่รู้
คงแล้วแต่ฟ้ากำหนด เพราะคิดว่าพยายามทำดีที่สุดแล้ว

ผมว่าการหาความรู้โดยเฉพาะเรื่องการลงทุนเนี่ยไม่มีฝั่งนะครับ คือไม่มีขอบเขตสิ้นสุด
เพราะโลกแห่งการลงทุนมันเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน ปัจจัยต่างๆก็เปลี่ยน เทคนิค กลยุทธ์ต่างๆ ที่เคยใช้ได้ในเวลานึงก็ไม่สามารถใช้ได้ตลอดเวลา

nut776 เขียน:ผมเบื่องานประจำ แต่เลี่ยงไม่ได้
บอกตามตรง ผมงง พวก พี่ๆที่อิสระภาพกันแล้วอยากรู้ว่าทำงาน(หาความรู้)หนักกันแค่ไหน
เพราะผ่านมาสักพักนึง ผมบอกตามตรงมองไม่เห็นฝั่ง
หรือเพราะวิธียังไม่ถูกต้องก็ไม่รู้
คงแล้วแต่ฟ้ากำหนด เพราะคิดว่าพยายามทำดีที่สุดแล้ว

ค่อยๆเรียนรู้ไป ลงทุนไปได้ครับ

กาลเวลา จะเป็นเพื่อนเราในการลงทุนเสมอ

ตั้งผลตอบแทนแบบไม่มากไป ไม่น้อยไป จะทำให้สบายใจกว่า

เป็นกำลังใจให้ครับ ท้อได้ แต่อย่าถอยครับ

ลงทุนไม่เกินตัว ทำงานสบายใจ ใช้ชีวิตมีคุณค่า
แค่นี้ก็ถือว่ามีอิสระภาพชีวิตแล้ว

ขอร่วมแชร์ประสบการณ์นะครับ
ผมมีอาชีพหลักคือทำงานประจำเหมือนกันครับ ทำมาได้เกือบสิบปีแล้ว
ต้องการมีอิสระภาพทางการเงิน สนใจทำธุรกิจ ได้รับแรงบันดาลใจจาก ท่าน ดร.นิเวศน์
จึงลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
เวลาส่วนใหญ่ให้กับการทำงานประจำ การหาข้อมูลและติดตามการลงทุนจะทำหลังเลิกงานเป็นหลัก
เวลางานไม่สนใจติดตามยกเว้นเวลาพักเที่ยง
เริ่มลงทุนมาได้ประมาณสองปี ยึดแนว VI ตั้งแต่ต้น ผมตอบแทนก็ไม่ได้มากมายอะไร แต่ก็เป็นการลงทุนเพื่อชีวิต และ
มีความสุขกับการลงทุนดีครับ

ตลอดชีวิตการทำงานที่ผ่านมา 20 ปี

ตั้งแต่ตำแหน่งที่เล็กที่สุดในบริษัท

เด็กฝึกงานข้าง ๆ line การผลิต

ช่างเทคนิกประจำเครื่องกลึง

ช่างเทคนิกซ่อมบำรุง (น้ำ, ไฟ, ลม, ประปา, มอเตอร์, บำบัด, เสียง, ไฟฟ้า, เครื่องเสียง, สาธารณูปโภค, ยาม, ภารโรง, ห้องน้ำเสีย)

วิศวกร

Lab boy

ที่ปรึกษาโรงงานเล็ก ๆ

ผู้จัดการ

ผู้อำนวยการ

ที่ปรึกษาโรงงานและบริษัทใหญ่ ๆ

ผู้บริหารระดับสูง

ผู้ถือหุ้น

...................

ไม่เคยคิดจะหยุดพักงานประจำ เพราะเป็นชีวิตที่เลือกที่จะเป็นวิศวกรที่ดี

ผมเชื่อว่า วิศวกรคือ กร ของ พระวิษณุ เทพแห่งงานช่าง

ในการสร้างสรรสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ให้ไว้เป็น นวัตกรรมแห่งโลกใบนี้

ในมือทั้งสองข้างของวิศวกร มี พระวิษณุอยู่

สมัยเรียนบางมด ก่อนออกจากสถาบัน ก้มกราบ ร.4 ทุกครั้ง

ไม่เคยขอให้รวย ไม่เคยขอให้มีชื่อเสียง

ขออย่างเดียว

"ขอให้ความรู้ที่ได้จากสถาบันสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ประเทศชาติ"

จากวันนั้นมาถึงวันนี้ ชีวิตจะตกระกำลำบากแค่ไหน ไม่เคยเสื่อมความตั้งใจ

งานประจำจึงเลิกไม่ได้จนตาย ด้วยเหตุเช่นนี้

.............................

งานลงทุน เป็นสิ่งที่เสริมและเข้ากันได้อย่างดีงาม

ความรู้จากงานประจำช่วยงานลงทุน และมุมมองจากการลงทุนสามารถนำกลับไปใช้ในงานประจำ

รายได้จากการลงทุนสมัยก่อนห่างจากงานประจำมาก

ปัจจุบันอยู่ในอัตราที่ใกล้เคียงกัน

ทั้งสองสิ่งเป็นเหมือนปีกซ้ายและปีกขวาที่ประคองซึ่งกันและกัน

............................

ประทับใจพี่ Nevercry.boy ครับ

ผมเคยลางานไปเดือนนึง เพื่อทำโปรเจ็คปริญญาโท ยังรู้สึกชีวิตขาดอะไรไปนะ คิดว่างานประจำมันเป็นส่วนนึงที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย วันนึงถ้าไม่ได้ทำงานประจำ ลงทุนอย่างเดียวแทน ก็คงต้องฝึกปรือไม่ให้ว่าง คงอยู่สบายๆไม่ได้แฮะ

ชอบความเห็นของพี่ Nevercry.boy ครับ เผอิญเป็นวิศวกรเหมือนกันด้วย ผมก็ชอบสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆเรื่อยๆ ปัจจุบันก็ยังทำงานประจำอยู่ทุกวันครับ แต่ก็ลงทุนเป็นอาชีพอีกอย่างด้วย

เข้ามาดู quant

ขัดแย้งบ้างครับ หาข้อมูลเยอะหน่อย

อยากจะออกความคิดเห็นบ้างนะครับ นิดนึงนะครับ

สำหรับใครบางคนที่อยากมีอิสระภาพทางการเงิน ไม่อยากทำงานประจำ

เมื่อพวกพี่ๆ ถึงจุดนั้นกัน แล้วพี่จะรู้ว่า การทำงาน หรือการมีงานทำ

มันทำให้ชีวิตของคนเรามีค่ามากๆๆๆๆ เวลามีค่ามากๆ คับ ยิ่งมีงานทำหรือ
ทำงาน มันทำให้เรารู้สึกว่า ชีวิตมีค่า ไม่ควรปล่อยเวลาให้ผ่านพ้นไป

ผมยังไม่มีอิสระภาพทางการเงินนะครับ แต่เคยออกจากงานมา
เวลาไม่ได้ทำงานทำนานๆ แล้วรู้เลยว่า ชีวิตมันไร้สีสรรค์และไร้รสชาติสิ้นดี

Nevercry.boy เขียน:ตลอดชีวิตการทำงานที่ผ่านมา 20 ปี

ตั้งแต่ตำแหน่งที่เล็กที่สุดในบริษัท

เด็กฝึกงานข้าง ๆ line การผลิต

ช่างเทคนิกประจำเครื่องกลึง

ช่างเทคนิกซ่อมบำรุง (น้ำ, ไฟ, ลม, ประปา, มอเตอร์, บำบัด, เสียง, ไฟฟ้า, เครื่องเสียง, สาธารณูปโภค, ยาม, ภารโรง, ห้องน้ำเสีย)

วิศวกร

Lab boy

ที่ปรึกษาโรงงานเล็ก ๆ

ผู้จัดการ

ผู้อำนวยการ

ที่ปรึกษาโรงงานและบริษัทใหญ่ ๆ

ผู้บริหารระดับสูง

ผู้ถือหุ้น

...................

ไม่เคยคิดจะหยุดพักงานประจำ เพราะเป็นชีวิตที่เลือกที่จะเป็นวิศวกรที่ดี

ผมเชื่อว่า วิศวกรคือ กร ของ พระวิษณุ เทพแห่งงานช่าง

ในการสร้างสรรสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ให้ไว้เป็น นวัตกรรมแห่งโลกใบนี้

ในมือทั้งสองข้างของวิศวกร มี พระวิษณุอยู่

สมัยเรียนบางมด ก่อนออกจากสถาบัน ก้มกราบ ร.4 ทุกครั้ง

ไม่เคยขอให้รวย ไม่เคยขอให้มีชื่อเสียง

ขออย่างเดียว

"ขอให้ความรู้ที่ได้จากสถาบันสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ประเทศชาติ"

จากวันนั้นมาถึงวันนี้ ชีวิตจะตกระกำลำบากแค่ไหน ไม่เคยเสื่อมความตั้งใจ

งานประจำจึงเลิกไม่ได้จนตาย ด้วยเหตุเช่นนี้

.............................

งานลงทุน เป็นสิ่งที่เสริมและเข้ากันได้อย่างดีงาม

ความรู้จากงานประจำช่วยงานลงทุน และมุมมองจากการลงทุนสามารถนำกลับไปใช้ในงานประจำ

รายได้จากการลงทุนสมัยก่อนห่างจากงานประจำมาก

ปัจจุบันอยู่ในอัตราที่ใกล้เคียงกัน

ทั้งสองสิ่งเป็นเหมือนปีกซ้ายและปีกขวาที่ประคองซึ่งกันและกัน

............................

Like !!!

Paul VI เขียน:

nut776 เขียน:ผมเบื่องานประจำ แต่เลี่ยงไม่ได้
บอกตามตรง ผมงง พวก พี่ๆที่อิสระภาพกันแล้วอยากรู้ว่าทำงาน(หาความรู้)หนักกันแค่ไหน
เพราะผ่านมาสักพักนึง ผมบอกตามตรงมองไม่เห็นฝั่ง
หรือเพราะวิธียังไม่ถูกต้องก็ไม่รู้
คงแล้วแต่ฟ้ากำหนด เพราะคิดว่าพยายามทำดีที่สุดแล้ว

ค่อยๆเรียนรู้ไป ลงทุนไปได้ครับ

กาลเวลา จะเป็นเพื่อนเราในการลงทุนเสมอ

ตั้งผลตอบแทนแบบไม่มากไป ไม่น้อยไป จะทำให้สบายใจกว่า

เป็นกำลังใจให้ครับ ท้อได้ แต่อย่าถอยครับ

ขอบคุณครับพี่พอล ปกติผมก็ตั้ง 10 -15% ตลอดแหละคับ
ตอนนี้เริ่มกำหนดกรอบเวลาตัวเองมากขึ้น
มันพอๆกับตอนอ่านหนังสือ เอนท์เลยคัีบ

simplelife เขียน:เข้ามาดู quant

multipleceilings เขียน:

simplelife เขียน:เข้ามาดู quant

???

simplelife เขียน:

multipleceilings เขียน:

simplelife เขียน:เข้ามาดู quant

???

code ลับของ quant ครับ