Thai VI

นักลงทุน VI มีความกังวลกับราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นหรือไม่ อย่างไร?

เข้าใจว่าน้ำมันเป็นตัวแปรที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามันจะขึ้นต่อและถือเป็นจุดสูงสุดแล้ว
เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ไม่นิยมการ "คาดเดา"

แต่ สิ่งที่กระทบแน่ๆคือ "ต้นทุน" ในหลายๆด้าน ในหลายๆกลุ่มอุตสาหกรรม
ผลประกอบการที่เคยดี หากหลังจากนี้ต้องรับผลต้นทุนที่สูงขึ้น

อยากทราบความเห็นว่า จะมีวิธีการรับมืออย่างไรครับ

อย่าบอกผมนะว่า

1. Let it be
2. แล้วมันก็จะผ่านไป
3. อยู่กับปัจจุบัน
4. พื้นฐานไม่เปลี่ยน

แล้วมันก้จะผ่านไปครับ


ว่าแต่ จบ ป4เหรอครับ ผมก้จบป4ครับ จบ ป4 เรียน ป5-6 ต่อ

ส่วนตัวผมว่าต้องดูก่อนว่าเป็นสภาวะที่เกิดขึ้นชั่วคราวหรือไม่ ถ้าเป็นชั่วคราวผมว่าก้อไม่่น่ากลัว แต่ถ้าไม่ลงมาก้อคงกระทบต่อผลประกอบการแน่นอนครับ จริงๆผมกังวลกับนโยบายที่ตอนนี้พรรคต่างๆกำลังใช้หาเสียงมากกว่าครับ เช่น พวกนโยบายเพิ่มรายได้ขั้นต่ำไรพวกนี้ รวมทั้งนโยบายต่างๆที่รัฐใช้เงินเกินตัวครับ รวมทั้งการแทรกแซงราคาสินค้าของรัฐครับ

ถ้าราคาน้ำมันยังสูงอยู่เป็นเวลานานและบริษัทมีต้นทุนค่าน้ำมันเป็นค่าใช้จ่ายหลักและไม่มี bargaining power พอจะผลักต้นทุนให้ลูกค้า ผมว่าอาจจะมีบางบริษัทไปแล้วไม่กลับนะครับ

ราคาน้ำมันเป็นราคาที่ผลกระทบต่อพื้นฐานธุรกิจหลายอย่างครับ ดังนั้นเวลาที่ผมเลือกหุ้น ถ้าน้ำมันเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจกระทบต่อกำไรส่วนใหญ่ของบริษัท ผมคงต้องพิจารณาอื่นๆประกอบว่าควรลงทุนหรือไม่ ปกติผมจึงเลือกหุ้นที่มีผลกระทบจากราคาน้ำมัน(รวมทั้งต้นทุนที่อาจผันผวนมากอื่นๆ)น้อยที่สุด หรือสามารถขึ้นราคาขายได้โดยไม่กระทบต่อยอดขายมากนัก
ดังนั้นน้ำมันขึ้น ๑๐๐ เหรียญ คงกระทบกับหุ้นที่ผมถือไม่มากนัก แต่ถ้าขึ้นมามากๆเช่น ๒๐๐ เหรียญ อันนี้คงช่วยไม่ได้ เพราะคงเกิดสภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก ซึ่งแน่นอนว่าคงกระทบกับทุกตัวอย่างรุนแรง แต่ก็คงเกิดกับหุ้นผมน้อยที่สุด และนั้นคือเหตุผลที่เราควรเลือกหุ้นที่มีความสามารถในการแข่งขันสูงที่สุด หวังว่าคงเป็นคำตอบที่ทำให้คุณต้องการนะครับ

chukieat30 เขียน:แล้วมันก้จะผ่านไปครับ


ว่าแต่ จบ ป4เหรอครับ ผมก้จบป4ครับ จบ ป4 เรียน ป5-6 ต่อ

ใช่ครับ จบ ป.4 เสร็จแล้วสอบเทียนขึ้น ม.1 เลย
เป็นไง ผมเก่งป่าว ?

ข้าวมันไก่ ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ แถวบ้านผม 30 บาทแล้ว
ข้าวขาหมูใส่ไข่ 35 บาท

ก่อนหน้านี้จำได้เคยกินจานละ 20 บาทเอง
นี่ถ้าน้ำมันไม่ลดลง อนาคตสงสัยผมคงซื้อข้ามมันไก่จานละ 40 บาท กินชัวร์เลย

ไหนจะค่าน้ำมันอีก ขึ้นเอา ขึ้นเอา

ก็คงหาบริษัทที่มีcostที่เกี่ยวกับน้ำมันน้อยที่สุด หรือมีsupply chainที่เกี่ยวกับน้ำมันให้น้อยที่สุดมั้งครับ...

วันนี้ไปซื้อบะหมี่ต้มยำพิเศษแถวบ้าน 35บาทแล้วครับ ราคานี้ที่อำเภอนอกๆในต่างจังหวัดนะครับ ส่วนค่าแรงคนงานที่บ้านเดือนล่ะ5000 ค่าแรงเฉลี่ยในอำเภอ 4500ต่อเดือน เงินเฟ้อซะ ค่าแรงตามไม่ทันแล้ว น้องเพื่อนจบป.ตรี ทำงานแบงค์เงินเดือน10000เดียว

น้ำมัน ค่าแรงงาน อื่นๆ

มันไม่ได้ขึ้นครั้งแรก
ขึ้นมาหลายครั้งแล้ว (ไม่เกิน2-3ปีก็ปรับเงินเดือนข้าราชการ)

ดูคลิปก่อนดีนะ

http://www.youtube.com/watch?v=wQOu5ajS ... re=related

ข้าวราดแกงอีก10ปีข้างหน้า จานหนึ่งคงเป็นร้อยบาท
บุหรี่ เหล้า เมื่อก่อนก็ไม่กี่บาทขึ้นมาตลอดคนยังไม่เลิกเสพ

แล้วน้ำมันวันนี้10x อีก10ปี คงเกิน200เหรียญ แน่นอน
แล้วจะไปมองแต่น้ำมัน อื่นๆเพื่ออะไร มองหุ้นเป็นบริษัทดีกว่ามั๊ย
ไม่ต้องไปดูน้ำมัน ดูบริษัทที่เราลงทุนจะปรับตัวอย่างไรน่าจะมีประโยชน์กว่ามั้ง

ปรัชญา เขียน:น้ำมัน ค่าแรงงาน อื่นๆ

มันไม่ได้ขึ้นครั้งแรก
ขึ้นมาหลายครั้งแล้ว (ไม่เกิน2-3ปีก็ปรับเงินเดือนข้าราชการ)

ดูคลิปก่อนดีนะ

http://www.youtube.com/watch?v=wQOu5ajS ... re=related

ข้าวราดแกงอีก10ปีข้างหน้า จานหนึ่งคงเป็นร้อยบาท
บุหรี่ เหล้า เมื่อก่อนก็ไม่กี่บาทขึ้นมาตลอดคนยังไม่เลิกเสพ

แล้วน้ำมันวันนี้10x อีก10ปี คงเกิน200เหรียญ แน่นอน
แล้วจะไปมองแต่น้ำมัน อื่นๆเพื่ออะไร มองหุ้นเป็นบริษัทดีกว่ามั๊ย
ไม่ต้องไปดูน้ำมัน ดูบริษัทที่เราลงทุนจะปรับตัวอย่างไรน่าจะมีประโยชน์กว่ามั้ง

ขอเพิ่มเติมเรื่องค่าแรงหน่อยนะครับ
จริงอยู่ที่ที่ผ่านทุกปีค่าแรงนั้นมีการปรับขึ้นทุกปีครับ แต่คราวนี้(ถ้าปรับตามนโยบายที่โฆษณาไว้จริง)เป็นการขึ้นที่แรงมากครับซึ่งอาจจะทำให้ผู้ประกอบการหลายๆบริษัทปรับตัวไม่ทัน ที่จริงแล้ว การปรับครั้งล่าสุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการก้อแทบจะร้องแล้วครับ(ปรับขึ้นประมาณ5-10% ซึ่งเป็นการปรับมากที่สุดในรอบหลายปี) และในความเป็นจริงแล้วการปรับครั้งล่าสุดเป็นการขึ้นมีผิดขั้นตอนหรือปกติที่เค้าทำกันด้วยซ้ำไปครับ ซึ่งปกติแล้วการที่แต่ละจังหวัดจะขึ้นเท่าไหร่นั้นจะต้องผ่านคณะกรรมการค่าจ้างขั้นต่ำของแต่ละจังหวัดซึ่งประกอบไปด้วยฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างมานั่งคุยและสรุปตกลงว่าจะขึ้นเท่าไหร่ครับ แต่นี่เล่นสั่งขึ้นโดยไม่ผ่านขั้นตอนตามปกติวิสัยครับ แต่ผู้ประกอบการก้อทำอะไรไม่ได้

harikung เขียน: ขอเพิ่มเติมเรื่องค่าแรงหน่อยนะครับ
จริงอยู่ที่ที่ผ่านทุกปีค่าแรงนั้นมีการปรับขึ้นทุกปีครับ แต่คราวนี้(ถ้าปรับตามนโยบายที่โฆษณาไว้จริง)เป็นการขึ้นที่แรงมากครับซึ่งอาจจะทำให้ผู้ประกอบการหลายๆบริษัทปรับตัวไม่ทัน ที่จริงแล้ว การปรับครั้งล่าสุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการก้อแทบจะร้องแล้วครับ(ปรับขึ้นประมาณ5-10% ซึ่งเป็นการปรับมากที่สุดในรอบหลายปี) และในความเป็นจริงแล้วการปรับครั้งล่าสุดเป็นการขึ้นมีผิดขั้นตอนหรือปกติที่เค้าทำกันด้วยซ้ำไปครับ ซึ่งปกติแล้วการที่แต่ละจังหวัดจะขึ้นเท่าไหร่นั้นจะต้องผ่านคณะกรรมการค่าจ้างขั้นต่ำของแต่ละจังหวัดซึ่งประกอบไปด้วยฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างมานั่งคุยและสรุปตกลงว่าจะขึ้นเท่าไหร่ครับ แต่นี่เล่นสั่งขึ้นโดยไม่ผ่านขั้นตอนตามปกติวิสัยครับ แต่ผู้ประกอบการก้อทำอะไรไม่ได้

ก็ใช่ครับ ตามที่กล่าวมาเรื่องค่าแรง

ดูซิตอนประกาศ ห้ามจำหน่ายน้ำเกินขวดละ7บาท สร้างภาพ (10บาทยังมี)
ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า18ปี ออกนอกบ้านหลัง2ทุ่ม สร้างภาพ (ลืมกันไปหมดแล้ว)
ค่าแรง2ปี จะทำแบบนั้น คงต้องตามดู ถ้าเห็นว่าไม่ถูกต้องสามารถฟ้องศาลปกครองได้
แต่ใครจะเป็นโจทย์ล่ะครับ

พูดถึงน้ำมันขึ้น
บมจ. ก็ต้องปรับตัว ลดต้นทุน หาวิธีบริหารจัดการ และวิธีการอื่นๆเพื่ออยู่รอดและมีกำไร
ไม่สามารถทำให้น้ำมันโลกหยุดขึ้นหรือลงได้ครับพวกเราคงต้องเข้าใจ

แก้ปัญหาที่คนอื่นไม่ได้ คงต้องแก้ที่ตัวเรา และเลือกหุ้นที่เราจะลงทุนกระมัง

มันกลายเป็น New Normal ไปแล้วครับ
เหมือนกับหลายๆเหตุการณ์

ทีนี้ก็ต้องดูว่าบริษัทที่เราลงทุน เค้าจะปรับตัวอย่างไร
ถ้าปรับตัวเก่ง ก็รอด
แต่ปัจจัยนี้ คู่แข่งก็โดนด้วย อันนี้ไม่น่ากังวลเท่ากับปัจจัย ที่เราโดนคนเดียว แต่คู่แข่งไม่โดนครับ
และน้ำมันน่าจะอยู่ในระดับน้ำอย่างนี้ไปเรื่อย เพราะแหล่ง supply น้ำมันราคาถูกกำลังหมดไปจากโลกนี้แล้ว
แหล่งใหม่ๆ ต้นทุนแพงทั้งนั้น

โดยส่วนตัวกังวลไม่มาก
ยกเว้นน้ำมันจะทะลุ 200 เร็วเกินไป
เพราะตรงนั้น คือจุดที่เศรษฐกิจคงไม่สามารถรับมันได้

ขายหุ้น ขายรถ
ไปทำไรไถนาอยู่บ้านนอก
ไปไหนก็ขี่จักรยานไป
ครับ

CEO เขียน:ขายหุ้น ขายรถ
ไปทำไรไถนาอยู่บ้านนอก
ไปไหนก็ขี่จักรยานไป
ครับ

ถือเงินสดมันบาปนะครับ

ผมจบ ป.4 เขียน:ข้าวมันไก่ ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ แถวบ้านผม 30 บาทแล้ว
ข้าวขาหมูใส่ไข่ 35 บาท

ก่อนหน้านี้จำได้เคยกินจานละ 20 บาทเอง
นี่ถ้าน้ำมันไม่ลดลง อนาคตสงสัยผมคงซื้อข้ามมันไก่จานละ 40 บาท กินชัวร์เลย

ไหนจะค่าน้ำมันอีก ขึ้นเอา ขึ้นเอา

แต่เท่าที่ผ่านมา ถ้าน้ำมัน มันลง ราคา ข้าวมันไก่ ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ มันไม่เคยลงเลยนะคับ
ผมไม่กล้วน้ำมันแพง แต่ผมกลัวสินค้าแพงมากกว่า

ผมจบ ป.4 เขียน:

CEO เขียน:ขายหุ้น ขายรถ
ไปทำไรไถนาอยู่บ้านนอก
ไปไหนก็ขี่จักรยานไป
ครับ

ถือเงินสดมันบาปนะครับ

สอนคนแก่นั้นบาปกว่าครับ

ที่ผมบอกข้างต้นนั้นผมไม่ได้ประชดครับ
แต่ผมทำแล้วจริงๆ
ผมไม่มีรถ ไม่ต้องใช้รถ ผมใช้แต่ทางด่วนครับ

CEO เขียน:

ผมจบ ป.4 เขียน:

CEO เขียน:ขายหุ้น ขายรถ
ไปทำไรไถนาอยู่บ้านนอก
ไปไหนก็ขี่จักรยานไป
ครับ

ถือเงินสดมันบาปนะครับ

สอนคนแก่นั้นบาปกว่าครับ

คนแก่อย่างเรานี่ ก็ขอรับฟังทุกความเห็นครับ

ผมจบ ป.4 เขียน:อย่าบอกผมนะว่า

1. Let it be
2. แล้วมันก็จะผ่านไป
3. อยู่กับปัจจุบัน
4. พื้นฐานไม่เปลี่ยน

ถ้าบอกแล้วเป็นยังไงเหรอครับ?

สำหรับผม ผมเลือกข้อ 3 ครับ...

CEO เขียน:

ผมจบ ป.4 เขียน:

CEO เขียน:ขายหุ้น ขายรถ
ไปทำไรไถนาอยู่บ้านนอก
ไปไหนก็ขี่จักรยานไป
ครับ

ถือเงินสดมันบาปนะครับ

สอนคนแก่นั้นบาปกว่าครับ

///////บาปมั่กๆๆครับ


จบ ป4สอบเทียบ ม1 ผมจบป6 สอบปริญญาตรีครับ

สงสัยโรงเรียนเดียวกันครับ

รร วัดป่าบ้านเฮา

CEO เขียน:ขายหุ้น ขายรถ
ไปทำไรไถนาอยู่บ้านนอก
ไปไหนก็ขี่จักรยานไป
ครับ

ผมว่าจะตามพี่ไปปลูกกะต๊อบทำไร่ทำนาเหมือนกันครับ

วุ่นวายจริงๆ ชีวิตในเมือง

และแล้ว

มันก้ต้องผ่านไป เหมือนที่มันเคยผ่านไป

ยังบอกไม่ได้ชัดครับ ว่าสถานการณ์จะร้ายแรงแค่ไหน ขั้นต้นกระทบสมองและจิตใจคนส่วนมากที่ไม่เข้าใจหลายๆอย่างแน่นอน คิดข้ามไปง่ายว่าน้ำมันขึ้นแล้วอะไรๆแย่แน่ อันนี้ช่วยไม่ได้ และมันก็ขึ้นอยู่กับว่าจุดยืนของคุณอยู่ตรงไหน

ถ้าเป็นผู้ประกอบการก็ hedge futures ไป ทำไรอย่างอื่นไม่ได้ มันก้เหมือนเรื่องอื่น กระทบต้นทุนกระทบแน่ๆแล้วมันก็จบเท่านั้น เรื่องอื่นก็กระทบต้นทุน ต้องป้องกันความเสี่ยงหมด อย่างบริษัทบางบริษัทเจอทองแดงราคาพุ่งยังรับมือได้ และไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่อง hedge ทาง financial instrument เท่านั้น น้ำมันเป็นเพียงปัจจัยๆนึง ถ้าความสามารถไม่มีก็อยู่ไม่ได้ คงไม่ได้ตายจากน้ำมันอย่างเดียว เรื่องอื่นกระทบเศรษฐกิจมีอีกมากมาย

ถ้าในฐานะแบบเราๆ คนๆนึงในระบบจะทำไรคิดมากทำไม มันคือ uncontrollable factor (อย่างน้อยสำหรับผม) ถ้ามีสมองหาเงินได้เรื่องแค่นี้ไม่กระทบ purchasing power เลย.... ไปมองเรื่อง controllable factor ดีกว่าครับเสียเวลา

ปล. ว่าจะไม่ถามแล้วแต่จากที่เห็นคุณ จขกท เขียน assume ว่าน่าจะเป็นผู้ชาย ไม่ทราบว่าเป็น gay หรือยังไงครับ เอารูปผู้ชายคนอื่นขึ้น งง ขอถามตรงๆเลยละกัน ผมกลัวเกย์

ปล. ว่าจะไม่ถามแล้วแต่จากที่เห็นคุณ จขกท เขียน assume ว่าน่าจะเป็นผู้ชาย ไม่ทราบว่าเป็น gay หรือยังไงครับ เอารูปผู้ชายคนอื่นขึ้น งง ขอถามตรงๆเลยละกัน ผมกลัวเกย์

กรุณา discuss กันในเรื่องพื้นฐานด้วยนะครับ
ลุง buffett พร่ำสอนเสมอว่าอย่า "คาดเดา"
แน่นอน ไม่จำเป็นว่าจะต้องประยุกต์ใช้กับเรื่องหุ้นอย่างเดียว

multipleceilings เขียน:ยังบอกไม่ได้ชัดครับ ว่าสถานการณ์จะร้ายแรงแค่ไหน ขั้นต้นกระทบสมองและจิตใจคนส่วนมากที่ไม่เข้าใจหลายๆอย่างแน่นอน คิดข้ามไปง่ายว่าน้ำมันขึ้นแล้วอะไรๆแย่แน่ อันนี้ช่วยไม่ได้ และมันก็ขึ้นอยู่กับว่าจุดยืนของคุณอยู่ตรงไหน

ถ้าเป็นผู้ประกอบการก็ hedge futures ไป ทำไรอย่างอื่นไม่ได้ มันก้เหมือนเรื่องอื่น กระทบต้นทุนกระทบแน่ๆแล้วมันก็จบเท่านั้น เรื่องอื่นก็กระทบต้นทุน ต้องป้องกันความเสี่ยงหมด อย่างบริษัทบางบริษัทเจอทองแดงราคาพุ่งยังรับมือได้ และไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่อง hedge ทาง financial instrument เท่านั้น น้ำมันเป็นเพียงปัจจัยๆนึง ถ้าความสามารถไม่มีก็อยู่ไม่ได้ คงไม่ได้ตายจากน้ำมันอย่างเดียว เรื่องอื่นกระทบเศรษฐกิจมีอีกมากมาย

ถ้าในฐานะแบบเราๆ คนๆนึงในระบบจะทำไรคิดมากทำไม มันคือ uncontrollable factor (อย่างน้อยสำหรับผม) ถ้ามีสมองหาเงินได้เรื่องแค่นี้ไม่กระทบ purchasing power เลย.... ไปมองเรื่อง controllable factor ดีกว่าครับเสียเวลา

ปล. ว่าจะไม่ถามแล้วแต่จากที่เห็นคุณ จขกท เขียน assume ว่าน่าจะเป็นผู้ชาย ไม่ทราบว่าเป็น gay หรือยังไงครับ เอารูปผู้ชายคนอื่นขึ้น งง ขอถามตรงๆเลยละกัน ผมกลัวเกย์

หูย โหดได้ใจ ทั้งคนที่ไม่เข้าใจ ทั้งจุดยืน มีสมองหาเงิน เสียเวลา
เอาไปสิบกระโหลกสำหรับความตรงครับ

ถ้าผมจะมาบอกว่า uncontrollable factor ก็จริง แต่เราก็ต้องเตรียมตัวรับมือเหมือนกัน นี่จะโดนด่าไหมครับเนี่ย
เพราะผมคิดว่าถ้าสนแต่ อะไรที่เราควบคุมได้ ไอ้ที่ควบคุมไม่ได้อาจมาหล่นทับเราตายก็ได้นะครับ
สรุปก็คงต้องทำความเข้าใจไว้ก่อนทุกอย่างเท่าที่ทำได้มั้งครับ

ปล. ส่วนเรื่องรูปนี่ ถ้าผมเอารูป Steven Gerrard มาขึ้นบ้างนี่ผมจะเป็นเกย์ไหมครับเ้นี่ย
โลกนี้แปลกดี ผู้ชายเอารูปผู้หญิงมาขึ้น กลายเป็นตุ๊ดก็ได้ เอารูปผู้ชายขึ้น กลายเป็นเกย์ก็ได้
โอ้วววว

กระทบทั้งระบบแหละคับ ของแพง เงินเฟ้อ ท้องเฟ้อมาแน่นอน ดอกเบี้ยก็ต้องขึ้นตาม เกิดภาวะเศรษฐกิจหดตัว....แต่ บมจ. ก็จะพยายามทุกทางเพื่อลดต้นทุนคับ เขาไม่ยอมให้กำไรเขาลดลงแน่นอน (เพราะเดี๋ยวเขาจะขายหุ้นเพิ่มทุนไม่ได้ หรือไม่ก็กู้จ่ายดอกแพง) แล้วสุดท้าย...ราคาน้ำมันก็จะกลายเป็นเรื่องที่คนไม่ Concern อีกต่อไป เพราะตราบใดที่ บมจ ยังสามารถดันกำไรให้โตได้ ราคาหุ้นก็จะโตตาม

เป็นแรงกดดันกลุ่มยานยนต์

แต่ที่แน่ๆ...เป็นแรงกดดันต่อคนขับยานยนตร์ชัวร์ๆ พรุ่งนี้ ปตท. บางจาก จัดเต็ม เบนซิน +50 สตางค์ Gasohol +30 สตางค์....บูดดดดด