Thai VI

ปรึกษาทีครับ ตอนนี้อายุ 21 คุณแม่จะให้เงินมาลงทุนก้อนนึง ประมาณ 500000 แล้วอีกห้าปีจะมาดูผลไม่สนใจว่าผมจะลงทุนยังไง ขอให้มันcompounding ก็พอ ปรกติผมมีพอร์ตหุ้นอยู่แล้วแต่ การลงทุนในหุ้นของผมปรกติมันเป็นการเข้าเป็นรอบๆ ซึ่งผมจะดูfund flow เอาซึ่งปรกติผมจะรับความเสี่ยงได้ แต่พอยิ่งโตผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่การลงทุนที่แท้จริง ผมก็เลยอยากลงทุนในบริษัทที่สามารถมี potential growth ในระยะยาวได้ ซึ่งผมว่ามันน่าจะสนุกด้วยเพราะเราได้ติดตามบริษัทที่เราถือหุ้นมันเติบโตไปถึงไหนแล้ว


ทีนี้สิ่งที่ผมกลัวมากเลยคือ ประเทศไทยมันมี political risk เยอะมากๆ ผมเลยอยากถามพี่ๆว่าช่วงที่มีปัญหาทางการเมือง พี่ๆที่เป็น vi ตัดสินใจทำยังไงกับหุ้นที่ตัวเองถือหรอครับ เพราะถ้าเล่นเป็นรอบผมจะตัดสินใจ cutloss ไปเลย แต่ถ้า vi เราควรมีเงินสำรองไว้เข้าไปซื้อเพิ่มใช่มั้ยครับ?

แล้วเวลาจะลงทุนแล้ว เราจำเป็นต้องเดินทางไปดูที่บริษัทเลยมั้ยครับ หรอว่าศึกษาจาก ข้อมูลก็เพียงพอ

ฝากตัวด้วยนะครับเพิ่งรู้จักเวปนี้ สิ่งนึงที่ผมชอบมากที่สุดในเวปนี้เลยคือ ทุกคนจะเรียกว่าลงทุนหุ้นไม่เรียกว่าเล่นหุ้น เพราะผมมองว่าคำว่าเล่นหุ้นมันตลกมากเลย พอใช้คำว่าเล่นเหมือนตลาดหลักทรัพย์กลายเป็นบ่อนไปเลย ทั้งๆที่มันเป็นที่สำหรับลงทุน

แต่กองทุนอเบอดีน ซึ่งเน้นลงทุนแบบVIถือกิจการดีๆ
เทียบผลตอบแทนกองอเบอดีนแต่ละประเทศ
ประเทศที่กำไรมากทีสุดคือประเทศบังกลเทศ ที่มีpolitic riskมากกว่าประเทศไทย
ประมาณว่ารุนแรงแบบมียิงกันเป็นเรื่องปรกติตลอดเวลา
ขนาดผู้บริหารกองทุนไม่กล้าอยู๋ แต่อยู่สิงค์โปรซื้อหุ้นผ่านnet ไปvisitก็ค่อยบินไปทีนึง
ส่วนที่ไทยอันดับ2หรือ3นี่แหละ

ก็ไม่แน่ใจว่าหลักการVIถูกโฉลกกับpolitical riskหรือเปล่า
อาจจะมีโอกาศช้อนซื้อหุ้นถูกๆได้ตลอดเวลามั้ง

สำหรับปัจจัยด้านการเมือง ต้องดูว่ามันมีผลกระทบกับรายได้ของบริษัทเราโดยตรงรึเปล่าน่ะครับ
เช่น พวกบริษัทประมูลงาน ที่ต้องอาศัยความสัมพันธุ์อันดี

มะรู้จะตอบคำถามได้มั้ยนะครับ อิอิ

1 ซื้อหุ้นของกิจการที่ดี
2 มีกำไรต่อเนื่องไปในอนาคต
3 ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
4 ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ
5 และถือมันไว้ ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดีอยู่
................................................................วอเรนซ์ บัฟเฟตต์

เวลาเกิดปัญหาทางการเมืองขึ้น
ผมก็ถือไว้เฉยๆ เพราะ ข้อ1-4 ไม่เปลี่ยนแปลง เลยทำตามข้อ5

จนภรรยาว่า(ด่า อิอิ)"ทำไมไม่ขาย จะรอใ้ห้ขาดทุนเหรอ...ฯลฯ"
ผมก็ทน อิอิ ทนภรรยาสุดที่รักว่า นะครับ เพราะเชื่อในหลักการ

จนฝุ่นซา ปัญหาจบ ราคาในกระดานก็กลับมาเหมือนเดิม รึมากกว่าเดิม
เมียก็มาอีกแล้ว "ทำไมไม่ซื้อเพิ่มหละ เสียโอกาสเลย...ฯลฯ"

อิอิ เอาไงดีหว่า 5555

ผมว่าควรเลือกดูบริษัทที่ผู้บริหารมีธรรมาภิบาลที่ดีเป็นข้อแรกเลย

เพราะถ้าเรื่องนี้โอเคเรื่องอื่นเราก็คงสบายใจไปได้พอสวมควร

สวัสดีคับพี่ ในห้องนี้กระทู้ที่ติดหมุดไว้ด้านบน ของพี่ IH นั้นให้คำแนะนำเริ่มต้น VI ที่ดีมากนะคับ สนใจลองเข้าไปอ่านดู นะคับ

Hints:

การลงทุน VI คืออะไร
การประเมินมูลค่าประเมินอย่างไร
ปัจจัยเสี่ยงที่จะเข้ามากระทบกับบริษัทที่เราลงทุนคืออะไร
ect:

พอศึกษาเข้าไปเรื่อยๆ ก็จะรู้ว่าหลายธุรกิจ มี political risks effects มาก และ ก็น้อย จนแทบไม่ต้องกังวล หรือต้องกังวล หุ้นหลายๆบริษัทที่หลายๆคนสงสัยว่า มีหุ้นถูกไหมตอน set 1000 ทำไมถึงกล้าลงทุน. ยังมีอีกเยอะเลยคับ หลักของ VI ที่ลงทุน ยิ่งได้ความรู้ มากกว่า ยิ่งจ้องราคายิ่งกลัว และโลภ
ขอให้โชคดีนะคับ

ขอบคุณมากๆเลยครับ ตอนนี้ผมตัดสินใจ ได้ห้าบริษัทแล้วเดียวจะซื้อแบบ dollar cost average ก้อนละห้าหมื่นภายในปีนี้แล้วจะมาสรุปผลให้ฟังครับ

ถ้าจะถือยาวๆหลายๆปีแนะนำธุรกิจที่สามารถนำกำไรมาลงทุนต่อเนื่องได้เรื่อยๆ เพราะอย่างน้อยเราก็จะได้แน่ใจว่าปีหน้ามีการเติมโตแน่นอนอาจจะไม่เยอะเป็น 20-30% แต่ถ้าได้ซัก 10-15% แบบค่อนข้างแน่นอน เวลาผ่านไปนานๆ ผลที่ได้ก็น่าจะเป็นที่พอใจแล้ว

ถ้าให้ผมแนะนำก็คงแนะนำพวกที่ใช้เงินต่อเงิน เพราะพอปีนี้มีกำไรปีหน้าเอาใว้เป็นส่วนทุนแล้วทำธุรกิจเพิ่มได้ทันที ธุรกิจแบบนี้ในเวลาปรกติ(เน้นนะครับ ปรกติ)โตได้แน่นอนมากๆปีละ 10-15%

เช่น แบ็งค์ หรือ ประกันชีวิต

ถ้าสังเกตุจากผลการดำเนินงานและราคาหุ้นที่ผ่านมา(ไม่นับปีที่ไม่ปรกติ)มันจะโตเรื่อยๆไม่หวือหวาแต่น่าจะโตได้ทุกปี

ตอนนี้เงินเก็บส่วนตัวผมเก็บ TCAP อยู่ ซื้อที 10000-20000 บาทเองครับ แต่เก็บเรื่อยๆผมกะจะไม่ขายจน 40 จะเก็บเป็นมรดกไว้ให้ลูกหลาน ถึงตอนนั้นบริษัทน่าจะไปไกลกว่านี้ ถ้าพื้นฐานไม่เปลี่ยน