Thai VI

บริษัทที่มีผ้บริหารนำบริษัทไปเซ็นต์ค้ำประกันเงินก้ให้แก่บริษัทที่ไม่ได้เป็นบริษัทลก แต่เป็นบริษัทที่ผ้บริหารเป็นเจ้าของในนามส่วนตัวครับ ถือว่าเป็นการยักยอกเงินบริษัทวิธีหนึ่งครับ มีหลายบริษัทที่เสียหายเป็นจำนวนมากจากการค้ำประกันลักษณะนี้ โดยที่เราวิเคราะห์แต่ตัวเลขในงบการเงินเราจะไม่ทราบมาก่อนเลยมีอันตรายที่จะเกิดขึ้น

เห็นด้วยครับ ประนามเสร็จแล้ว ขอนำข้อมูลไปเก็บไว้ที่ร้อยคนร้อยหุ้น คือต้องประนามแบบถาวรไปเลยครับ

ต้องระวังเหมือนกันนะคุณเจ๋ง
ประณามเสร็จ อาจจะเจอข้อหาหมิ่นประมาท
เอาเป็นว่าบอกเป็น ตย. (ตัวย่อ) ดีไหมครับ ฮาๆๆ

อิอิ ข้อหาหมิ่นประมาท ไม่กลัวครับ เฮีย เราจะประนามแบบ เอาเรื่องจริงผ่านจอ มาแฉ

เขายิ่งฟ้อง เขายิ่งเละ เมืองไทย ชอบใช้วิธี สั่งเก็บครับ หมิ่นประมาทไม่กลัว กลัวโดนสั่งเก็บครับ

อิอิ

วันก่อนไปประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทฯ ขายบ้านบริษัทฯ หนึ่ง........เขาก็อ้าง ในที่ประชุมว่า กรรมการบริหารต้องรับผิดชอบค้ำประกันบริษัทฯ เวลาไปกู้เงินธนาคาร เขาขอที่ประชุมอนุมัติเงิน โดยขอ ว่า ค้ำประกันในวงเงินเท่าไร ก็ขอ รายได้ 1% ของวงเงินค้ำประกันนั้น.......ที่ประชุมรวมทั้งผมด้วย ต่างช็อคกับขอเสนอนี้ มีการโต้แย้งจากรายย่อยหลายราย ผมฟังและสรุปให้กรรมการฟังเลยว่า ไม่สมควรและไม่เห็นด้วย.........ถ้าอยากได้ เรื่องนี้ ให้เอาไปเพิ่มใน เรื่อง ค่าตอบแทนของคณะกรรมการบริหารดีกว่า (บริษัทฯ เขามีค่าตอบแทนกรรมการประมาณ 1% ของกำไร ซึ่งผมคิดว่าต่ำมาก) ผมเสนอให้เขา เพิ่มค่าตอบแทนโดยคิดจากกำไรดีกว่า จะเอา 2-6% ผมก็ยอม เพราะ ในอดีตผมเจอมาแล้ว ที่ ฝ่ายบริหารขอ 7% จากกำไรสุทธิ..........สรุป คณะกรรมการบริษัทฯ นี้ เลยขอเอาเรื่องกลับไปคิดวิธีใหม่ ดีนะครับ ที่ รายย่อยไปประชุมกันมาก ไม่อย่างงั้น สงสัย จะโดน เพิ่มค่าใช้จ่ายบริษัทฯ (แต่เป็นเพิ่มรายได้ของคณะผู้บริหารหรือเจ้าของ).

เรื่องเอาบริษัทฯ ไป ค้ำประกัน บริษัทฯ ของตน ในกระทู้นี้ ก็ น่าจะระบุในหมายเหตุงบการเงินให้ทราบ นะครับ ผมยังไม่เคยเจอ เรื่องนี้ เลยบอกไม่ได้ว่า เป็นบริษัทฯ ไหน

ตอนนี้ สิ่งที่ผมเป็นห่วงตลาดหลักทรัพย์ ก็ เรื่อง รายการเกี่ยวโยง ที่ ตั้งกฏ โดย กลต และ มีบริษัทฯ ใหญ่ 2 กลุ่ม ที่ไม่ยอมรับกฏเกณฑ์ อันนี้ ผมยกเรื่องนี้ และ คุยกับ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ ในโอกาสที่เจอกัน ในงาน money expo ท่านก็ให้ความคิดเห็นว่า บริษัทฯ บางบริษัทฯ ก็ อ้างเรื่องยากลำบากในการกระทำ ยกเรื่อง อะไรก็ไม่รู้เกี่ยวกับ การจ้างบริษัทฯ รักษาความปลอดภัย ผมไม่เข้าใจ แต่ สรุป จับ ใจความสุดท้าย ได้ ว่า ท่านผู้จัดการตลาดบอกว่า ถ้าไม่ไว้วางใจ ก็ อย่าไปซื้อหุ้นเขา แน่ ละ ผมตอบกลับ เลยว่า ผมไม่ซื้อหรอกครับ แถม ถ้ามี ยังขายออก อีกด้วย......เสียดายที่ท่านไม่ได้ให้โอกาสผมคุยมากเท่าไหร่.... เลยไม่ได้ความคิดท่านเพิ่มเติม...........อีกเรื่องที่ผมกังวล และ ขอร้องท่าน เรื่อง ออก esop ตอนนี้ เริ่มออกกันมากแล้ว และ เอาเปรียบมากขึ้น ท่านเห็นด้วยว่า ควรออก ได้ และ ใช้ราคาตลาด ....... มีบางบริษัท ออก โดย ใช้ราคาต่ำมาก บางบริษัทฯ ใช้ราคา พาร์ อีกด้วย..........ท่านบอก esop มาจากนโยบาย วิธีการของต่างประเทศ ผมบอก ต่างประเทศ เจ้าของไม่มาบริหารงาน แต่เมืองไทยนี่ เจ้าของบริหาร งานครับ มันไม่เหมือนกัน....(งานนี้ต่างคนต่างความคิด)

สุดท้าย ผมว่า พวกเราต้องพึ่ง กลต เป็นคนที่จะปกป้องรายย่อยได้ จะให้ตลาดมีความมั่นคง และโปร่งใส แถม มี คุณภาพ ก็ต้อง พึ่ง กลต นี่แหละ........และที่สำคัญที่สุด ก็คือ พึ่ง ตัวเอง ในการ ตัดสินใจ ร่วมลงทุนกับบริษัทฯ ต่าง ๆ

เจ้าของบริษัทเขาไม่มีวันเละหรอก
พี่แกขายทิ้งให้รายย่อยรับไปเป็นเจ้าของแทน
แล้วรายย่อยก็จะเกลียดคนที่เอาความจริงมาแฉ
เพราะว่าข้าพเจ้ายังไม่ได้ขายเลยหวะ ฮาๆๆๆ
ดูรอยเนทเป็นตัวอย่างซิครับ พอแฉออกมาแล้ว ใครเละ
กลต.เคยเอาใครติดคุกได้ซักคนไหม
เฮ้อ เล่นหุ้นให้ตาย
เราก็ไม่มีวันสู้พวกน้องเมียกับแม่ยายฯได้หรอก

กรรมการบริหารต้องรับผิดชอบค้ำประกันบริษัทฯ เวลาไปกู้เงินธนาคาร

ผมยังเข้าใจว่าบริษัทที่อยู่ในตลาดนั้นไม่มีการค้ำประกันส่วนตัวเสียอีก

งง งง

การกู้เงินของบริษัทฯต่าง ๆ ถ้าอยู่ในระดับ กลาง และ เล็ก ก็มักจะต้องพึ่ง ธนาคารพาณิชย์ นอกจาก เอาทรัพย์สิน เช่นที่ดิน ไปวางค้ำประกัน ธนาคารก็ยังบอกว่า กรรมการบริหารต้องค้ำประกันเป็นการส่วนตัวด้วย นี่เป็นหลักปฏิบัติอยู่แล้ว..........ส่วนบริษัทฯ ใหญ่ ๆ คงไม่ต้องค้ำประกันเป็นการส่วนตัวหรอกครับ ก็ หนีไป หาเงินโดยออก หุ้นกู้ หรือ เพิ่มทุน แทนนั่นแหละ ในอดีตเคยมี บริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพท์ที่ล้มเลิกไปแล้ว เอาผู้บริหารเด็ก ๆ มาเป็นแทน และ ให้รับผิดชอบในการเซ็นค้ำประกันด้วยซิครับ......เรื่องนี้ต้องถามคนอยู่ในธนาคารจะทราบดี

ผมอย่ในฐานะที่ลงขวดบอกครับ เนื่องจากเคยทำงานสินเชื่อธนาคารมาก่อน
ผมยืนยันนะครับว่า ถ้าบริษัทไหนที่มีฐานะทางการเงินที่มั่นคงและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ต่างๆก็ต้องแย่งลกค้ากันครับ มีตั้งแต่ ลดอัตราดอกเบี้ย ลดเงื่อนไขการเบิกและคืนเงินก้ ลดค่าธรรมเนียมต่างๆ และสดท้ายก็ลดหลักประกันครับ ซึ่งรวมถึงบคคลค้ำประกันด้วย เท่าที่พบมาจะมีการต่อรองว่าผ้บริหารไม่เซ็นต์ค้ำประกันครับ ถ้าบริษัทไหนกรรมการต้องเซ็นต์ค้ำก็แสดงว่าฐานะทางการเงินไม่ดี หรือผ้บริหารมีประวัติที่ไม่สะอาดนะครับ

ขอบคุณครับ ถือว่าเป็นความรู้ใหม่ เพราะปกติก็ดูแต่ DE เป็นตัวชี้ และไม่เคยเห็นหมายเหตุงบที่พูดถึงเรื่องนี้

ถ้างั้นมีทางที่จะรู้ว่าบริษัทไหนที่ต้องให้ผู้บริหารค้ำประกันไหมครับ ผมอยากจะหลีกเลี่ยง ถ้าธนาคารไม่เชื่อ ผมก็คงต้องพิจารณาหนักหน่อย

ผมบอกแล้ว บริษัทเล็กและกลาง ธนาคารต้องการหาหลักประกันเพิ่มเติม ไม่ใช่ว่า บริษัทฯ ใดที่ กรรมการค้ำประกันเป็นการส่วนตัวด้วยจะไม่ดีไปหมด.........มีครับ บริษัทฯ ดี ดี แต่ธนาคาร ก็ยัง ต้องการให้ ผู้บริหารเซ็นค้ำประกันเป็นการส่วนตัวด้วย ถ้าผู้บริหาร ไม่เซ็นค้ำประกัน นี่สิ ครับ น่า กลัว บริษัทฯ ตนเองแล้ว ยังกลัวการค้ำประกันอีก ก็ ลำบากใจแล้ว......สุดท้ายเราก็ต้องมาดูที่ D/E นี่แหละ ต้องหาพวก ไม่เกิน 1.5 เท่า ก็ แล้วกัน ได้พวกต่ำกว่า 1 เท่า ก็ แจ๋วไปเลย

การลงทุนในหุ้น ผมมีหลักใหญ่ ๆ คือ
1. บริษัท ไม่มี หนี้เท่าไหร่
2. PE ต่ำ แถว ไม่เกิน 10 เท่า
3. p/BV ถ้าได้ต่ำกว่า 1 ก็ยิ่งชอบถือยาวเลย ถ้าเกิน 2 เท่า ก็ต้องคิดแล้วคิดอีก
4. ผู้บริหาร มีความสามารถ และ โปร่งใส ตอบคำถาม ในที่ประชุมได้ชัดเจน
5. มีประวัติการจ่ายปันผลที่สม่ำเสมอ มี หุ้นที่ผมถือมากที่สุด เป็นหุ้นสิ่งทอของญี่ปุ่น ถึงแม้ปี วิกฤต ขาดทุนเล็กน้อย ก็ยังจ่ายปันผล ให้อีก

ครับ เข้าใจสิ่งที่ลุงขวดว่า ...บริษัทฯ ใดที่ กรรมการค้ำประกันเป็นการส่วนตัวด้วยจะไม่ดี...

ตัวผมเองก็คงขอ พิจารณาหนัก เพิ่มขึ้นกว่าปกติ

จริงๆแล้วผมกลัวเนื่องจากผมไม่รู้ ในฐานะที่ธนาคารมีความเป็นมืออาชีพ ยังกังวล ผมก็ขอพิจารณาหนักหน่อย

และผมว่ามันน่าจะมีทางออกอื่น เช่น ให้ Tris จัดลำดับ ซึ่งผมว่าค่าใช้จ่าย อาจจะถูกกว่า และโปร่งใสกว่า ไม่ทราบว่า ใครทราบว่า ค่าบริการของ Tris, Fitch, S&P ประมาณเท่าไหร่ ที่เคยผ่านตามา เข้าใจว่าประมาณ 500,000บาท

ก็ไม่รู้ว่าเป็นไปได้หรือเปล่า ว่าธนาคารยอมรับ ผลการจัดลำดับในการทดแทนการเซ็นค้ำประกันส่วนตัว

ปล. สมัย Enron นั้น ก็ได้รับลำดับ "ลงทุนได้" จากบริษัทจัดลำดับเช่นกัน