Thai VI

เบิร์กไชร์ แฮทธาเวย์ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ขายหุ้นของแบงก์ออฟอเมริกาแล้ว สิ้นสุดการลงทุนนาน 3 ปีครึ่งที่มูลค่าหุ้นหายไปกว่า 2 ใน 3

บลูมเบิร์กรายงานว่า เบิร์กไชร์ระบุในรายงานต่อทางการว่า ณ สิ้นปี 2553 ทางบริษัทไม่ได้มีหุ้นของสถาบันการเงินดังกล่าวแล้ว เทียบกับตัวเลข 5 ล้านหุ้นเมื่อ 3 เดือนก่อนหน้านั้น

เบิร์กไชร์ซึ่งมีบัฟเฟตต์เป็นประธานบริหารและหัวหน้าฝ่ายลงทุนเริ่มซื้อหุ้นแบงก์ออฟอเมริกา 8.7 ล้านหุ้นในไตรมาส 2 ปี 2550 เคนเน็ธ เลวิส ซีอีโอในขณะนั้นของวาณิชธนกิจแห่งนี้ซึ่งเน้นขยายกิจการด้วยวิธีซื้อบริษัทอื่นบอกกับนักลงทุนว่า วิกฤตซับไพรม์จะสิ้นสุดลงในเวลาไม่กี่เดือน

นอกจากนี้บริษัทของบัฟเฟต์ยังกำจัดหุ้นของไนกี้, คอมคาสต์, แนลโก โฮลดิ้ง, ดิกคินสันแอนด์โคในไตรมาส 4 ปีกลาย ทำให้พอร์ตโฟลิโอในสหรัฐของบัฟเฟตต์ช่วงสิ้นเดือนธันวาคมครอบคลุม 25 บริษัทและมีมูลค่ารวม 5.26 หมื่นล้านดอลลาร์

http://www.prachachat.net/news_detail.p ... &subcatid=

เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า มือหัดใหม่อย่างพวกเรายังสามารถผิดพลาดได้อีกมากครับ
และขณะเดียวกันมันทำให้ผมมั่นใจขึ้นอีกเยอะเลย

ผมคิดว่าตลอดหุ้นไม่มีใครถูกตลอด
มันวัดกันที่เว่ลาผิดคุณควรจะเสียหายน้อย
เวลาถูกควรจะได้เยอะใช่หรือเปล่าครับ

ตอนซื้อน่าจะประมาณ 50-55$ ได้ น่าจะขายราคาประมาณ 10-15$ ได้

Warren Buffett buys Bank Of America Corp., Dow Jones & Co. Inc., sells H&r Block Inc., Pier 1 Imports Inc. during the 3-months ended 06/30/2007, according to the most recent filings of his investment company, Berkshire Hathaway. Warren Buffett owns 40 stocks with a total value of $61.1 billion. These are the details of the buys and sells.

http://www.gurufocus.com/news.php?id=11471

แค่นี้ขนหน้าแข้งแกไม่ร่วงหรอก แต่คนที่ตามแกดิ

การลงทุน มีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เสมอค่ะ

แต่เมื่อคุณรู้ว่าผิดพลาด คุณต้องถอนตัวออกมา

ดีกว่าถลำลึก หมดอนาคตไปกับหุ้นตัวเดียว ขณะที่ในตลาดหุ้น มีบริษัทอีกเป็นร้อยที่สามารถลงทุนต่อได้ค่ะ

อยากรู้เหตุผลในการขายของบัฟเฟตต์

ขนาดไนกี้ซึ่งเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งในตลาด แกยังขายทิ้ง

บัฟเฟตต์น่าจะมีการอธิบายในการประชุมประจำปีนะผมว่า น่าสนใจครับ

ถ้าผมจำไม่ผิด BAC อยู่ในพอร์ตของ GEICO ครับ ไม่ใช่พอร์ตของ BRK
คนที่ซื้อคือ Lou Simson ไม่ใช่ Buffett ครับ
Lou Simson เพิ่ง retire ไป เลยคงมีการปรับพอร์ตครับ

WEB เขียน:ถ้าผมจำไม่ผิด BAC อยู่ในพอร์ตของ GEICO ครับ ไม่ใช่พอร์ตของ BRK
คนที่ซื้อคือ Lou Simson ไม่ใช่ Buffett ครับ
Lou Simson เพิ่ง retire ไป เลยคงมีการปรับพอร์ตครับ

ถ้า Warren retire บ้าง BRK ไม่เละหรอคะพี่เว็บ

WEB เขียน:ถ้าผมจำไม่ผิด BAC อยู่ในพอร์ตของ GEICO ครับ ไม่ใช่พอร์ตของ BRK
คนที่ซื้อคือ Lou Simson ไม่ใช่ Buffett ครับ
Lou Simson เพิ่ง retire ไป เลยคงมีการปรับพอร์ตครับ

คอนเฟิร์มครับตามพี่ WEB
รวมถึง NIKE ด้วยครับ
Lou ขอเกษียณอายุจาก GEICO ไม่แน่ใจว่าต่อไป port ของ GEICO ใครจะมารับช่วงต่อ
ตอนแรกข่าวบอกจะเป็น LiLu แต่เค้าปฏิเสธไป
หลังสุดว่าจะเป็น Hedge Fund Manager ชื่อ Todd Com (ชื่อไม่แน่ใจว่าจะพิมพ์ถูก)

รอดูกันต่อไป

madam เขียน:

WEB เขียน:ถ้าผมจำไม่ผิด BAC อยู่ในพอร์ตของ GEICO ครับ ไม่ใช่พอร์ตของ BRK
คนที่ซื้อคือ Lou Simson ไม่ใช่ Buffett ครับ
Lou Simson เพิ่ง retire ไป เลยคงมีการปรับพอร์ตครับ

ถ้า Warren retire บ้าง BRK ไม่เละหรอคะพี่เว็บ

ปู่บัฟเคยบอกว่าแกจะเกษียณหลังแกตายไปแล้วห้าปี

ถ้ายังไม่เลอะเลือนหรือหมดเรี่ยวแรง Buffett คงไม่เกษียณหรอกครับ
เหตุผลก็คือ Buffett ลงทุนด้วยความรัก ความสนุก ความรื่นรมย์
ไม่ใช่แค่ต้องการอิสรภาพทางการเงิน ชื่อเสียง หรือคำยกย่อง

[quote="WEB"]ถ้ายังไม่เลอะเลือนหรือหมดเรี่ยวแรง Buffett คงไม่เกษียณหรอกครับ
เหตุผลก็คือ Buffett ลงทุนด้วยความรัก ความสนุก ความรื่นรมย์
ไม่ใช่แค่ต้องการอิสรภาพทางการเงิน ชื่อเสียง หรือคำยกย่อง[/quote]

ประโยคนี้ ผมชอบมากเลยครับพี่ น่าจะมีกด ถูกใจ แบบ FB ได้นะ
จะกดให้มันมือเลย 555

ที่เขาทิ้งหุ้น Bank of America น่าจะเป็นผลมาจากการที่ BOA ไปซื้อกิจการที่กำลังจะพัง
ของพวก Investment Bank หลายที่เมื่อสองปีที่ผ่านมา ยุคที่ เลห์แมน ล้ม

[quote="WEB"]ถ้ายังไม่เลอะเลือนหรือหมดเรี่ยวแรง Buffett คงไม่เกษียณหรอกครับ
เหตุผลก็คือ Buffett ลงทุนด้วยความรัก ความสนุก ความรื่นรมย์
ไม่ใช่แค่ต้องการอิสรภาพทางการเงิน ชื่อเสียง หรือคำยกย่อง[/quote]

ชอบค่ะๆ

ปีที่แล้วลุง Buffett แกไล่ซื้อหุ้นรถไฟในอเมริกา เล่นเอา Investors ตาค้างตามๆกัน คิดว่าแกเลอะเลือน (รถไฟในอเมริกานะมันพี่ๆรถไฟในประเทศมหามิตรของเขาเลยนะครับ อิอิ ไทยแลนด์ใง นึกภาพออกมั๊ยละ)

เหตุผลของแกง่ายมากเลย "ลูกหลานเอ๋ย เดินทางโดยรถไฟมันปล่อย carbon น้อยสุดแล้ว ลุงสงสารหลานๆห่วงโลกร้อนนะ" (อันนี้ผมใส่ใข่ไปหน่อย แต่แกว่าคล้ายๆนี้จริงๆ)

วันก่อน โอบาม่า แกกินอะไรเข้าไปไม่รู้ตะกุกตะกักออกโทรทัศน์ ประกาศว่า ภายใน 25 ปี คนอเมริกา 80 % จะสามารถใช้รถไฟความเร็วสูงเดินทางได้ทั่วอเมริกา ทั้งๆที่วันนี้ไม่มี (เหมือนมหามิตรเลย)

ลุง Buffett แกแทงหวยถูกตลอดเลยนะ ยอดคนจริงๆลุง

เหมือนคุ้น ๆว่าบัฟเฟตต์วางตัวให้ Lou Simson เป็น successor ของ BRK ไม่ใช่หรือ เค้ารีไทร์ไปแล้ว ใครจะเป็นตัวแทนหนอ

จริงๆ แล้ว มันเกี่ยวกับราคาน้ำมันครับ
ในกรณีที่ขนสินค้าน้ำหนักเท่ากัน รถไฟใช้น้ำมันประมาณ 1/2-1/3 ของรถยนต์
ซึ่งเมื่อก่อนใช้รถไฟ อาจจะไม่สะดวก สู้รถยนต์ไม่ได้ อีกทั้งราคาน้ำมันยังรับได้อยู่
แต่เมื่อราคาน้ำมันเริ่มทะยานสูงขึ้น การใช้รถยนต์ในการขนส่งจะเริ่มไม่คุ้มค่าแล้ว

น่าจะประมาณนี้ครับ