Thai VI

ในช่วงนี้ หลายคนคงจะสังเกตุเห็นว่า TOP10/20 ในช่วงนี้ จะมีหุ้น warrant อยู่ค่อนข้างที่จะเยอะ ก็เป็นเพราะราคาของหุ้นแม่วิ่งกันตับแล่บในช่วงนี้

ความจริงการลุงทุนแบบ VI จะพยายามหลีกเลี่ยง warrant เนื่องจากมีความผันผวนของราคาที่ค่อนข้างสูง

สำหรับหุ้นแม่ VI ก็พยายามหลีกเลี่ยงหุ้นที่มี warrant เช่นกัน เนื่องจากมีโอกาสที่ถูก dilute ในแง่ของกำไรต่อหุ้นเมื่อถูกใช้สิทธิ

ความจริง ก็ไม่จำเป็นอย่างที่กล่าวมาเสมอไป นักลงทุนแบบ VI เราสามารถลงทุนหุ้นที่มี warrant ได้ สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จาก VI ระดับแนวหน้าท่านหนึ่งคือ เราสามารถคิดแบบอนุรักษ์ินิยม นั่นคือ สำหรับ EPS แทนที่เราจะเอาจำนวนหุ้นแม่ที่มีอยู่เป็นตัวหาร เราก็เอาจำนวนหุ้นแม่+จำนวน warrant ทั้งหมด เป็นตัวหารแทน

การคิดเช่นนี้ จะทำให้ค่า EPS นั้นต่ำกว่าที่ควรจะเป็นเนื่องจากว่าเราสมมติว่า warrant ทั้งหมดถูก exercise ณ เวลาปัจจุบัน หาก EPS เป็นค่าที่เรารับได้ เราสามารถมองว่าหุ้นนั้นก็น่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะยาวได้

ผมไม่ได้เชี่ยวชาญทางด้าน warrant แต่ก็แปลกใจสำหรับ warrant หลายตัวที่มีราคา discount อยู่มาก หากหุ้นแม่เป็นหุ้นพื้นฐานที่ดี ความจริงการจะมี warrant ไว้บ้างก็ไม่น่าจะเสียหาย

ผมขอยกตัวอย่างสักหนึ่งตัวก็แล้วกัน หุ้นแม่ SMG ราคา 28.50 บาท ขณะที่ warrant ราคา 19.20 บาท ราคา exercise 1:1 ที่ราคา 5 บาท

คำถาม
1. คุณคิดว่า SMG เป็นหุ้นที่น่าลงทุนระยะยาวไหม
2. ราคาของ SMG จะลงไปมากกว่านี้หรือไม่
3. เราควรจะตีแตกไหม

หากผมเข้าใจอะไรผิด ก็รบกวนท่านผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยครับ

วิธีที่คุณ Thanwa ว่ามาเรียกว่า diluted EPS ครับ ซึ่งถ้าที่ diluted EPS ยังน่าสนใจ ผมว่า VI คงไม่ได้มองข้ามหรอกครับ

ส่วนการที่ VI จะถือ Warrant เลยนั้น ผมว่าเป็นไปได้ครับ

ถ้าคิดในแง่นักลงทุน สมมุติมีคนมาบอกผมว่า จะให้ช่วยลงทุนในบริษัท (นอกตลาด) หน่อยสัก 1 แสนบาท โดยเขาสัญญาว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า ผมจะมีสิทธิ์ซื้อหุ้น 1 แสนหุ้นของบริษัทในราคาพาร์ 10 บาท (หรือจะไม่ซื้อก็ได้)

ถ้าผมมองว่ากิจการเขาตอนนี้ยังไม่ดีมากนัก (ปันผล 1 บาท) แต่มีอนาคตอย่างมาก และบริษัทคงจะสามารถปันผลให้เราได้ไม่ต่ำกว่า 4 บาทต่อหุ้นใน 3 ปีข้างหน้า ผมก็คงลงทุนครับ เพราะถึงตอนนั้นถ้าได้ปันผล 4 บาทจริง ก็ซื้อหุ้นไป ได้ yield 40% เลยทีเดียว ส่วน 1 แสนบาทเป็นการซื้อความเสี่ยงครับ อย่างมากก็ยอมเสียทั้ง 1 แสนบาทถ้าสถานการณ์เกิดไม่ดีขึ้นมา ไม่ต้องไปซื้อหุ้น

ผมมองกรณีข้างบนเป็นการลงทุนครับ แต่เผอิญผมเป็น VS ซะ 70% เลยไม่แน่ใจว่าตอบถูกหรือเปล่า

ไม่ทราบ VI คิดอย่างไรครับ ช่วยบอกหน่อย

หมายเหตุ: เคยซื้อ SHIN-W1 ที่ 2.20 บาทด้วยเหตุผลนี้ครับ กะจะถือสัก 3 ปี (ถึงตอนทรท.เลือกตั้งครั้งหน้า) เป็นการซื้อโอกาส แต่ดันไปตัดสินใจขายตอน 2.5 เพราะคิดว่ากำไร 10% เห็นๆ แถมยังย่อลงมาให้ซื้อได้อีก

เสียดายที่ไม่ได้ซื้อคืนแม้แต่ 1 หุ้น ครับ เลยได้แต่

ต้องสำรวจดูก่อนครับว่าเริ่มแปลงสภาพได้เมื่อไหร่ และรายละเอียดเป็นอย่างไร ตั้งแต่วันที่คุณเบิกใบสำคัญแสดงสิทธิ จนสิ้นกระบวนการแปลงสภาพและหุ้นเข้าตลาดเป็นเวลาที่คุณรับความเสี่ยงเต็มๆครับ หากราคาหุ้นแม่เกิดตกต่ำด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม คุณหมดสิทธิแก้ตัวทันที

โดยมากผู้ที่ถือหุ้นก็จะขายหุ้นทิ้งออกมาเพื่อหลบหุ้นใหม่ต้นทุนต่ำๆ จะมาขายทุบหัวผู้ถือหุ้นเดิมนี่แหละครับ

ลองเล่นดูสิครับ จะได้ทราบสถานการณ์ ลองกับ pranda-w ได้ครับ เค้าแปลงสภาพได้ทุกเดือน ผมลองเล่นกับหุ้นนี้ดูแล้ว แต่ไม่สนุกอย่างที่คิดเลยครับ

สงสัยอยู่อย่างหนึ่ง บริษัทประกันภัยจะเพิ่มทุนไปทำไมกันครับ !?!? .. เงินสดล้นบริษัทแท้ๆ

ในมุมมองของ VI แล้ว warrant เป็นตัวลดมูลค่าของหุ้นลง
เช่น pranda มี warrant อยู่ 1:1
EPS ที่เห็นจริงๆควรลดไปครึ่งหนึ่ง หรือ
P/BV ก็จะเพิ่มเท่าตัว

ส่วนผมซื้อ pranda-w ด้วยเหตุผลว่าราคาถูกกว่าซื้อตัวแม่
ถึงตอนปันผลก็จะแปลงแน่นอน

อย่างนักดูดาวว่า ถ้าลองเล่นแบบไม่เจ็บตัวมาก pranda-w
ไม่กระแทกแรง แต่ก็ไม่สะใจวัยรุ่นอย่างนักดูดาว เป็นแน่แท้