Thai VI

ไม่ทราบว่าถ้าผมอยากจะ reserch ข้อมูล PE, PBV , ROE ย้อนหลังซัก 20ปี จะสามารถหาข้อมูลจากไหนได้บ้างมั้ยครับ

ตาม link ไปขึ้น page not found ครับผม

ลองเมลไปขอที่ ดร.ไพบูลย์ สิ ท่านน่าจะให้นะ
หรือไม่ก็ติดต่อไปที่ตลาดหลักทรัพย์เลย

ผมก็อยากได้ครับ

S.Krisada เขียน:ไม่ทราบว่าถ้าผมอยากจะ reserch ข้อมูล PE, PBV , ROE ย้อนหลังซัก 20ปี จะสามารถหาข้อมูลจากไหนได้บ้างมั้ยครับ

ไช่ อาจารย์ ดร.กฤษฎา เสกตระกูล ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาความรู้ผู้ประกอบวิชาชีพหลักทรัพย์ TSI หรือเปล่าครับ

น่าจะลิงค์นี้หรือเปล่า
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=46129

ถ้าสัก 16 ปีพอไหวไหมครับ ถ้าได้ ข้อมูลจากไฟล์ของพี่ครรชิตได้ครับ
ต้องไปโพสขอที่กระทู้ข้างบนครับ

ผมลองกรองหุ้นย้อนหลัง แบบที่ อจ.ไพบูลย์ทำ ข้อมูลที่ได้ก็ใกล้เคียงกันครับ แตกต่างกันนิดหน่อยแต่คิดว่าไม่มีนัยยะอะไร แต่ได้ข้อมูลย้อนหลังมากกว่าอาจาร์ย 1 ปี

นี่เป็นตัวอย่างที่ผมลองทำดู โดยกรองหุ้นแบบ อจ. ยกตัวอย่างกรองแบบ
P/E <10,P/BV <1 ,D/Y >3



พบว่าข้อจำกัดของการใช้งานวิจัยแบบนี้ โดยวัดผลตอบแทนจากอัตราส่วนทางการเงิน นอกจากที่ อจ.กล่าวแล้ว
คืออาจไม่สามารถซื้อหุ้นได้จริง เช่น ในปี 2003 ที่ได้ผลตอบแทน 200กว่า% อันนั้นส่วนใหญ่มาจากหุ้นตัวเดียวคือ scib ที่โดน sp ตั้งแต่ปี 1998 แต่มาหลุด sp ตอนปลายปี 2002 พอดี ถ้าตัด scib ออกไปปีนั้นผลตอบแทนจะเหลือ 90 กว่าๆเองครับ

เด็กใหม่ไฟแรง เขียน:ต้องขอชมเชยคุณ kotaro เป็นอย่างยิ่งเลยครับสำหรับงานที่ทำออกมานี้
ในอนาคตทีมงานวิจัยอาจจะขอแรงทำอย่างอื่นๆด้วยนะครับ
....................
ทั้งหมดทำได้ก็เพราะพี่ครรชิตด้วยครับ
....................
ในงานวิจัยที่ปรับปรุงเพิ่มเติม
อ.ไพบูลย์ ได้ตัด scib ออกครับ เพราะถือเป็น outlier ครับ
และกำลังนำประเด็นความเสี่ยงเข้าไปประกอบครับ
นอกจากน้ัน ทีมงานก็กำลัง test อีก หลายวิธีเหมือนกันครับ
ไม่นานก็คงทราบผลกันครับ

ขอบคุณที่ชมครับ พี่เด็กใหม่ไฟแรง :lol:

วันนี้ช่วงเช้าว่างๆ ผมเลยลองทดสอบกรองหุ้นแบบใช้ P/E และ ROE แบบ อจ. มั่งครับ

โดยตั้งเงื่อนไขดังนี้

1.กรองหุ้นย้อนหลังตั้งแต่ปี 1995-2010 โดยมีเงื่อนไขคือ นำหุ้นที่มี P/E >0 และ ROE>0 มาเรียงลำดับ
โดย เรียงลำดับตาม P/E ที่น้อยที่สุด และ ROE ที่มากที่สุด เอาอันดับทั้งสองบวกกัน แล้วเรียงลำดับใหม่โดยเรียงลำดับจากน้อยไปมาก

2. จำลองผลตอบแทนของหุ้น โดยแบ่งเป็นกลุ่ม หุ้นอันดับ 30 อันดับแรก, 10 อันดับแรก, 5 อันดับแรก และ1 อันดับแรก ได้ผลตามตารางด้านล่างครับ

3. ตัดหุ้นบางตัวที่ไม่สามารถซื้อได้ หรือหมายถึงหุ้นที่ติด sp ออกไป (แต่ไม่ได้ตัดหุ้นที่พี่งพ้น sp หุ้นกลุ่มนี้พบว่าส่วนใหญ่ราคามักจะพุ่งขึ้นสูงในปีที่เริ่มมีการซื้อขาย)

4. ผลตอบแทนที่ได้จากเงินปันผล เอามา re-invest หมดครับ



พบว่าอัตราผลตอบแทนแบบทบต้น 16 ปี หากลงทุนหุ้น 30 ตัวแรก ได้เท่ากับ 63% (ใกล้เคียงกับของอาจารย์ที่ 63.57%) ถ้าเงินต้น 1 ลบจะทบต้นรวมปันผล จะเป็น 2,482 ล้านบาท

พบว่าอัตราผลตอบแทนแบบทบต้น 16 ปี หากลงทุนหุ้น 10 ตัวแรก ได้เท่ากับ 64.30% ถ้าเงินต้น 1 ลบจะทบต้นรวมปันผล จะเป็น 2,819 ล้านบาท

พบว่าอัตราผลตอบแทนแบบทบต้น 16 ปี หากลงทุนหุ้น 5 ตัวแรก ได้เท่ากับ 56.62% ถ้าเงินต้น 1 ลบจะทบต้นรวมปันผล จะเป็น 1,310 ล้านบาท

พบว่าอัตราผลตอบแทนแบบทบต้น 16 ปี หากลงทุนตัวแรก ได้เท่ากับ 14.29% ถ้าเงินต้น 1 ลบจะทบต้นรวมปันผล จะเป็น 8.47 ล้านบาท

เอามาฝากเพื่อนๆ นลท ทุกท่านครับ

วิธีตามข้างบน ผมอลองๆดูแล้ว ถ้าจะซื้อจริงให้ตามเป๊ะๆ คงลำบาก...
เพราะทั้งเรื่องสภาพคล่องเอย...เงินสดเอย
และก็ไม่น่าเชื่อว่า หุ้นส่วนใหญ่ที่ติดอันดับแรกๆ....ผมพบว่าเป็นหุ้นกำไรพิเศษทั้งนั้นเลย...ก็สงสัยว่า ตอนทำการทดลอง อ.ไพบูล ได้ตัดพวกหุ้นกำไรพิเศษออกด้วยหรือเปล่านะครับ

romee เขียน:วิธีตามข้างบน ผมอลองๆดูแล้ว ถ้าจะซื้อจริงให้ตามเป๊ะๆ คงลำบาก...
เพราะทั้งเรื่องสภาพคล่องเอย...เงินสดเอย
และก็ไม่น่าเชื่อว่า หุ้นส่วนใหญ่ที่ติดอันดับแรกๆ....ผมพบว่าเป็นหุ้นกำไรพิเศษทั้งนั้นเลย...ก็สงสัยว่า ตอนทำการทดลอง อ.ไพบูล ได้ตัดพวกหุ้นกำไรพิเศษออกด้วยหรือเปล่านะครับ

เรื่อง กำไรพิเศษในหุ้นพวกนี้ ผมก็ไม่แน่ใจว่าของ อ.ไพบูลย์ ได้ตัดออกหรือเปล่า แต่คิดว่าไม่น่านะครับ

เพราะเป้าหมายอยู่ที่การคัดเลือกหุ้นโดยดูจากอัตราส่วนทางการเงินอย่างเดียว ไม่มีปัจจัยในเรื่องของคุณภาพเข้ามา
และ การถือหุ้นก็เปลี่ยนไปทุกปี ไม่ได้เน้นถือยาวแบบพวกเรา ที่การเลือกหุ้นค่อนข้างเน้นไปที่คุณภาพของหุ้น

อันนี้คือขายแล้วซื้อหุ้นใหม่ทุกวันทำการแรกของทุกปีใช่ไหมครับ

เรียนถามพี่ kotaro ว่า

พี่มีวิธีการ หรือใช้เครื่องมืออะไรให้การกรองหุ้นครับ

หรือต้องทำแบบไหน ... ใช้ Excel หรือเปล่า แล้วต้อง ใช้สูตรยังงัย ??

อยากลองทำตามดูบ้างครับ ...

ขอบคุณครับ

ผมขอรบกวนถามหน่อยนะครับถ้าตามสูตรแล้วผมใช้โปรแกรมของพี่ครรชิตกรองแล้วผลออกมาแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะถูกต้องไหมครับ แล้วที่ผลออกมาเราจะต้องลงทุนในหุ้นที่เรียงแบบนี้หรือว่าจะต้องลงทุนตามลำดับหุ้นที่มีค่าเป็นบวกขึ้นไปครับ ข้อมูลวันที่ 05.02.2554

SAWANG -382.55
ESTAR -373.96
FNS -286.86
SFP -257.48
GENCO -219.11
LOXLEY -215.38
ESSO -194.19
INET -186.50
TONHUA -173.80
GLAND -165.38
SPSU -110.11
AMANAH -104.99
CHUO -103.97
TPROP -96.09
LRH -94.04
EE -93.84
CCP -82.26
KDH -81.16
US -79.66
TSF -69.06
CK -68.56
SHANG -68.22
CENTEL -67.51
RCL -62.62
CI -59.24
LUXF -51.64
GOLD -46.28
PE -46.15
SEAFCO -44.56
TFD -44.40
STHAI -38.83

chamnan028 เขียน:เรียนถามพี่ kotaro ว่า

พี่มีวิธีการ หรือใช้เครื่องมืออะไรให้การกรองหุ้นครับ

หรือต้องทำแบบไหน ... ใช้ Excel หรือเปล่า แล้วต้อง ใช้สูตรยังงัย ??

อยากลองทำตามดูบ้างครับ ...

ขอบคุณครับ

ผมใช้ access กรองหุ้นเป็นหลักครับ แล้วใช้ excel คำนวณผลตอบแทนทบต้นอีกทีนึงครับ
สรุปคือใช้รวมๆทั้ง 2 ตัว จริงๆ ใช้ตัวไดตัวนึงก็อาจจะได้ แต่ผมใช้ไม่เก่งสักตัว แต่ใช้เป็นทั้ง 2 ตัว
เลยเอาประยุตก์ใช้ด้วยกันครับ

ส่วนเรื่องสุตรนี่ ถ้าเป็น access เราก็ใส่เงื่อนไขที่เราต้องการกรองครับ เช่น PE เราก็ใส่ตรงช่องเงื่อนไขว่า
>o and <10 อะไรทำนองนี้ ไม่ยากครับ ลองทำดู แต่อาจจะยากตรงที่ใช้กับเรื่องอันดับหุ้น ที่จะให้ access หาอันดับหุ้นที่มี PE น้อยสุด และ ROE มากสุด ผมใช้สูตรหาอันดับยกตัวอย่าง ROE แบบนี้ครับ

RankROE: (SELECT Count([SYMBOL]) Rankroe
FROM [ROE2010-1994] AS EXP
WHERE EXP.ROE1995 > [ROE2010-1994].ROE1995)+1

ลองทำดูสงสัยยังไงค่อยถามอีกทีครับ

ผมลองทำเล่น ๆ นะครับ มั่ว ๆ เอาจาก ใน Excel ใช้ตัวกรองข้อมูล

โดยนำข้อมูลมาจาก

http://siamchart.com/stock/

ข้อมูล วันที่ 6/2/54




ไม่แน่ใจว่าถูกต้องหรือเปล่า ...

ปล.

1. จริง ๆ อันดับ 1 จะเป็น MALEE แต่ติด SP จึงตัดออกครับ
2. หาก WM เห็นว่าไม่สมควร ก็ลบได้นะครับ...

คุณโคทาโร่ลองทำทุกครึ่งปี จะได้ผลแตกต่างกันไหมครับ

สามัญชน เขียน:คุณโคทาโร่ลองทำทุกครึ่งปี จะได้ผลแตกต่างกันไหมครับ

อยากทำแบบที่พี่หมอสามัญชนว่า แต่จากรายงานที่ผมทำข้างบน ผมใช้ข้อมูลจากไฟล์ของพี่ครรชิตอย่างเดียวเลยครับ

เคยคิดจะย้อนกลับไปไกลกว่า 16 ปี โดยใช้ฐานข้อมูลของ metastock มาช่วย แต่พบปัญหาเรื่องราคาปิดของหุ้น แตกต่างกันเนื่องจากใน metastock หุ้นบางตัวไม่ได้ปรับเรื่องการแตกพาร์ หรือ ปรับเรื่องปันผลหุ้นในปีนั้นๆไป ทำให้ผลที่ได้แตกต่างกันมาก

ถ้าจะทำทุกครึ่งปี ต้องใช้ ราคาปิดของ สิ้นวันเดือนหก และ เริ่มวันเดือนเจ็ด ในไฟล์ของพี่ครรชิตที่ผมมีเข้าใจว่า จะย้อนไปไกลสุดได้แค่ปี 2007 เท่านั้นเองครับ และพวกอัตราส่วน P/E ,P/BV ก็ต้องใช้ งบ 6 เดือนของปีนั้นๆด้วยครับ

ถ้าจะทำจริงๆ ต้องเอาราคาปิดของ metastock ตรงช่วงกลางปีมาปรับเอง สงสัย งานช้าง ครับ :lol:

คือ ไม่ทราบว่าฐานข้อมูลที่นำมาคำนวณนั้น ได้รวมถึงบริษัทที่ไม่มีหุ้นอยู่ในปัจจุบันด้วยรึเป่าครับ เพราะถ้าตัดออกไป ก็คงไม่น่าเชื่อถือ

คือว่า เป็นไปได้มั้ยว่า มีบางบริษัทที่สมัยก่อนอาจจะผ่านการกรองด้วยวิธีนี้ แต่ปัจจุบันอาจล้มหายตายจากไปแล้ว ในช่วงวิกฤติ ปี40

คือสนใจทำเหมือนกันครับ เลยอยากทราบว่า เราพอจะย้อนไปดูข้อมูลเรื่อง ราคา PE ROE หรือ กำไรต่อหุ้นเป็นรายไตรมาสย้อนหลังไปหลายๆปีได้มั้ยครับ

Skyforever เขียน:คือ ไม่ทราบว่าฐานข้อมูลที่นำมาคำนวณนั้น ได้รวมถึงบริษัทที่ไม่มีหุ้นอยู่ในปัจจุบันด้วยรึเป่าครับ เพราะถ้าตัดออกไป ก็คงไม่น่าเชื่อถือ

คือว่า เป็นไปได้มั้ยว่า มีบางบริษัทที่สมัยก่อนอาจจะผ่านการกรองด้วยวิธีนี้ แต่ปัจจุบันอาจล้มหายตายจากไปแล้ว ในช่วงวิกฤติ ปี40

ไม่ได้ตัดออกครับ

คือสนใจทำเหมือนกันครับ เลยอยากทราบว่า เราพอจะย้อนไปดูข้อมูลเรื่อง ราคา PE ROE หรือ กำไรต่อหุ้นเป็นรายไตรมาสย้อนหลังไปหลายๆปีได้มั้ยครับ

eps รายไตรมาสมีอยู่ในไฟล์พี่ครรชิตครับ ส่วน PE ROE รายไตรมาสคิดว่าคงต้องหาเองครับ ลอง download จาก sec ดูครับ มีย้อนหลังได้ 10ปี

อันนี้เป็นอีกอันนึงนะครับ ที่ทดลองกรองหุ้นด้วยอัตราส่วน PEG

เงือนไข

1. นำหุ้นทั้งหมดมากรองด้วย อัตราส่วน PEG คำนวณจากค่า PE หารด้วย G
โดย G คำนวณจาก อัตราการเติบโตของ eps ย้อนหลัง 5 ปี เช่นปีที่เริ่มคำนวณคือปี 1999
ก็นำ eps ตั้งแต่ปี 1994-1998 ของหุ้นทุกตัวมาคำนวณอัตราการเติบโตแบบทบต้น พอได้ค่า G
ก็นำมาหาค่า PEG

2.นำหุ้นมาจัดอันดับ เรียงตามค่า PEG จากน้อยไปมาก โดยกรองเฉพาะ PEG >0 แล้วเลือกลงทุนตามนี้
2.1 จำลอง Port A โดยลงทุนหุ้นทุกตัวที่ PEG <1
2.2 จำลอง Port B โดยลงทุนหุ้น 30 อันดับแรก

ได้ผลตามตารางข้างล่างนี้ครับ

หมอครับ
สัปดาห์หน้าผมพอจะว่าง
จะหางานน่าสนใจให้หมอทำนะครับ
ดูแล้วเก่งจริงๆ :lol: :lol:

kotaro เขียน:อันนี้เป็นอีกอันนึงนะครับ ที่ทดลองกรองหุ้นด้วยอัตราส่วน PEG

เงือนไข

1. นำหุ้นทั้งหมดมากรองด้วย อัตราส่วน PEG คำนวณจากค่า PE หารด้วย G
โดย G คำนวณจาก อัตราการเติบโตของ eps ย้อนหลัง 5 ปี เช่นปีที่เริ่มคำนวณคือปี 1999
ก็นำ eps ตั้งแต่ปี 1994-1998 ของหุ้นทุกตัวมาคำนวณอัตราการเติบโตแบบทบต้น พอได้ค่า G
ก็นำมาหาค่า PEG

2.นำหุ้นมาจัดอันดับ เรียงตามค่า PEG จากน้อยไปมาก โดยกรองเฉพาะ PEG >0 แล้วเลือกลงทุนตามนี้
2.1 จำลอง Port A โดยลงทุนหุ้นทุกตัวที่ PEG <1
2.2 จำลอง Port B โดยลงทุนหุ้น 30 อันดับแรก

ได้ผลตามตารางข้างล่างนี้ครับ

ผมมือใหม่ขอสอบถามหน่อยนะครับ

คือว่า ถ้าทำการซื้อหุ้นตามหลักที่ อ.ไพบูลย์ทำนั้น ซื้อแล้วเก็บไปเลย พอครบ 1 ปีค่อยทำการปรับพอร์ทตามสูตรหรือครับ

phee_betong เขียน:ผมมือใหม่ขอสอบถามหน่อยนะครับ

คือว่า ถ้าทำการซื้อหุ้นตามหลักที่ อ.ไพบูลย์ทำนั้น ซื้อแล้วเก็บไปเลย พอครบ 1 ปีค่อยทำการรับพอร์ทตามสูตรหรือครับ

ใช่ครับ

ถ้าจะให้เหมือนจริง ๆ จะต้อง ขายหุ้นทุกตัว 30 ธค 54 ATC

แล้วซื้อหุ้นทั้งหมด เมื่อ 2 มค 55 ATC

แล้วก็ขายหุ้นทั้งหมด 30 ธค 55 ATC .... ไปเรื่อย ๆๆ ครับ

ผมว่าต้องดูหุ้นวัฐจักรด้วยนะ ตอนทำพอดีมันเป็นช่วง hight พอดีจะโดยหลอกเรื่อง PE ได้นะ

น่าจะลองวิจัยว่า ถ้าเปลียนเวลาจะเป็นยังไง
เช่นเปลียนจากขายปลายปี เป็นขายหลังประกาศงบ (เพราะควรให้ผลลัพย์ออกมาก่อน)
หรือเปลี่ยนจากวันสุดท้านเดือน12 เป็นเดือนอื่นแทน
หรือเปลียนจากรายปี เป็นปรับพอร์ทรายไตรมาส

ผลลัพธ์ที่ได้จะเปลี่ยนไปไหม?

ขอถามหน่อยครับ

- อ.ไพบูลย์ มีเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อมูล Research เรื่องกลยุทธ์การลงทุนจาก
P/E, ROE ที่ได้ทำไปแล้ว หรือเปล่าครับ ขอทราบด้วย

- มี Research ในลักษณะคล้ายกันนี้ เผยแพร่ในเว็บไซต์อื่นๆบ้างไหมครับ
อยากเห็นว่า มีการเขียนสมมติฐาน, บทนำ, ผลวิจัย และข้อสรุปเป็นอย่างไร

ถ้าซื้อหุ้นตอนต้นปีเลย มันเหมือนเป็นการใช้ข้อมูลล่วงหน้านะครับ
เพราะตอนนั้นผลประกอบการไตรมาศสุดท้ายยังไม่ออก
พอผลประกอบการออกมามีตัวเลขที่ดี ก็ไม่แปลกที่หุ้นจะขึ้น

หรือมิเช่นนั้นก็ต้องใช้ตัวเลขผลประกอบการแค่เก้าเดือนเท่านั้น