หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ความไม่แน่นอน ในมุมมองของ REFLEXIVITY
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 23, 2011 3:56 pm
โดย humdrum
Rflxvty
สวัสดีครับ
อ่านเรื่อง RFLXVTY มาตั้งนานตั้งแต่หลักการลงทุนโซรอสว่าเกิดมาจากอะไร ลองมาปรับใช้ ดูบ้าง ตามแบบที่เราลองคิด แบบที่เราเอาตัวเองลงไป ข้างใน อยู่ห้าปี ผิด บ้าง ถูก บ้าง เดินทางผิดบ้าง มีพี่ๆ คอยช่วยเหลือ ประคองไว้ ผมโชคดีผมได้รู้จักพี่ที่ดีมาก ๆ อย่างพี่โจ อย่างพี่มน ขอบคุณอีกครั้งครับ ผมยังตอบแทนพี่ไม่ได้ ขอลงบทความนี้ใน THAIVI อย่างน้อย ผมยังรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่ากับสังคมอยู่บ้าง
โซรอสมีความคิดเรื่อง Rflxvty แล้วเอาไปทดสอบในคนสมัยสงคราม มันใช้ได้ผล เขาไปเจอ PROPRER พูดเรื่อง FALLIBILITY ที่เขาสนใจอย่างมาก เรียน ECON ด้วย แล้วตั้งทฤษฎีของตัวเองที่เรียกว่า RFLXVTY เอาไปปรับใช้ในการลงทุน แล้วมันสำเร็จเกินคาด ผมว่าทำไม คนไทยไม่ลองเอาไปปรับใช้ดูบ้าง ตอนที่อ่าน Quantum ผมว่าทุกคนต้องมีเรื่องคิดอะไรบางอย่าง บางคนคิดไปถึงเรื่อง อนิจจัง ของปรัชญาพุทธ ผมก็คิด คิดไปเรื่อยเปื่อย คิดมาปีกว่าๆ สับสนวุ่นวาย ไม่มีระเบียบหมวดหมู่ เพราะไม่มีความเข้าใจในเรื่องพุทธที่ดีพอ ความคิดผมเกี่ยวกับแนวทางนี้ไม่มีมูลค่าที่แท้จริงในการคิดเลย ถามอะไรตัวเองอยู่ตลอด เรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่ไม่ได้ถามว่าทำไม ถามว่าเพราะอะไร นอกเรื่องเลยคราวนี้ เพราะอะไรเราถึงมายืนอยู่ตรงนี้ ชีวิตเรา มีคนวางแผนที่ไว้แล้วจริงหรือ เราต้องเดินช่วงอายุเวลานี้ วิ่งตอนอายุเท่านั้น ล้มแล้วต้องลุกช่วงอายุนั้น หัวเราะตอนปีนี้ ต้องร้องไห้ตอนปีนั้น สนามนี้มีคนคลุมกฏแห่งกรรมไว้จริงหรือ
วันหนึ่ง เห็นใยแมงมุมในห้องน้ำ มันวางโครงสร้างสวยดีครับ ผมเห็นแมงมุมมันไม่เคลื่อนตัวตั้งนาน ยุงบินวน วน วน ออกไป แล้วมันมาอีกทีก็วกติดเข้าจนได้ แมงมุมที่ก่อนหน้านี้เก็บอาการนิ่งมาตลอด จู่ๆ ถึงตัวเหยื่อ get along ตีสนิททันที โอ้-โห แกวิ่งบนใยแก อย่างกับนักวิ่งวิ่งบนลู่วิ่ง เร็วจริงๆ หันมาถาม แล้วลู่วิ่งเราละ เรามีไหม ทำไมไม่ลองเอาแบบแมงมุมบ้าง
ชีวิตนี้ไม่สิ้นหวัง ลองเขย่าขวดใหม่ เรียนรู้ที่จะจับความคิดตัวเอง เหมือนแมงมุมจับเหยื่อ จับไม่เป็น คิดอยู่นาน เฝ้านิ่งๆ เป็นชั่วโมงเลย เริ่มหัดเฝ้า ซ้ายขวาหน้าหลัง เฝ้าไม่เป็น ไม่เป็นก็ไม่เป็นไร คิดหาวิธี update ตัวเอง ผมเริ่มเรียนรู้ที่จะสร้างสติขึ้นมา จัดระบบความคิดเหมือนแมงมุมตอนเดินจงกรมนั่นเอง ใช้สติเฝ้าดูว่าตัวเองคิดอะไร เดี๋ยวนี้เฝ้าเป็นแล้ว เฝ้าเป็นก่อน แล้วถึงจับอารมณ์ตนเองได้ ตามไปดู กรูอยู่ข้างหลังนะ เฝ้าดูมรึงอยู่นะ อารมณ์มันบินได้เหมือนยุง แต่กัดเจ็บกว่ายุง จัดอารมณ์ต่างๆ เข้าหมวดหมู่เป็นระบบระเบียบเรียบร้อย ผมว่ามันก็ง่ายในการใช้ชีวิตขึ้น ผมว่าสติมันจะหาเหตุผลของมันเองว่าผิดทางแล้ว มันจะตะโกนบอกเราเอง แต่วันไหนสติเราไม่เหนียวพอก็จับมันไว้ไม่อยู่ สติเราไม่มีความแน่นอนเอาเลย ไม่แน่นอนเหมือนอะไร ?
ผมคิด 50/50 ไม่แน่นอนเหมือน QUANTUM Physics
ถ้าแมงมุมพาเราไปเข้าใจเรื่องสติได้ ทำไมเราจะไปเรียนรู้วิชาต่างๆ เพื่อกลับมาเข้าใจ Rflxvty อีกครั้ง ภาษาไทยที่มีอยู๋อาจมีไม่พอที่เข้าใจเรื่องความสัมพันธ์ภาพสะท้อน หรือ ว่า ภาษาอังกฤษมีไม่พอต่างหาก ปรัชญาพุทธผมว่าช่วยได้อย่างมาก หรือไม่ก็ ลองไปอ่าน QUANTUM เพราะอะไรโซรอสถึงใช้ชื่อ QUANTUM ในการตั้งชื่อ FUND ของตัวเอง อย่างนี้ มี room เพลงต่อเพลงให้เราเขียนแน่ตรงนั้น แต่ถ้าเขียนเรื่องนี้อย่างเดียว จะเขียนให้แมวที่ไหนอ่าน นี่มันเว็บการลงทุนเน้นคุณค่า น่าจะใส่ไคลแม๊กซ์คำถามสุดท้าย เราจะใช้ยชน์จากเรื่อง QUANTUM ทำให้เราเข้าใจไสต์การลงทุนของโซรอสได้อย่างไร?
จะออกหัวหรือก้อย อย่าคาดหวังครับ ผมเขียนไมได้เรื่องเหมือนเดิม
ขออภัยในตัวสะกดครับ

Re: ความไม่แน่นอน ในมุมมองของ REFLEXIVITY
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 23, 2011 4:07 pm
โดย humdrum
Re: ความไม่แน่นอน ในมุมมองของ REFLEXIVITY
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 23, 2011 4:38 pm
โดย thaloengsak
ขอบพระคุณอย่างสูงๆ
นานๆผมถึงจะรับการชี้ทางไปสู่ขุมทรัพย์มหาศาลเช่นนี้

Re: ความไม่แน่นอน ในมุมมองของ REFLEXIVITY
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 23, 2011 6:24 pm
โดย unnop.t
เคยพออ่านแนวคิดของโซรอสมาบ้างในหนังสือ The winning habits ซึ่งผู้เขียนเปรีียบเทียบแนวคิดการลงทุน ของโซรอสกับบัฟเฟตต์
ผมว่าโซรอสเก่งมากในการเล่นกับจิตวิทยามวลชนกับอารมณ์ตลาด แต่หลักการอันหนึ่งซึ่งโซรอสกับบัฟเฟตต์ที่ค่อนข้างต่างกันสุดขั้ว
โซรอส : Invest first, Investigate later
บัฟเฟตต์ : Investigate first, Invest later
บัฟเฟตต์พยายามหลีกหนีอารมณ์ของตลาด แต่โซรอสพยามเข้าหาอารมณ์ตลาด
ขอบคุณสำหรับบทความครับ แต่ผมยังอ่านไม่จบ เพราะตัวหนังสือค่อนข้างเล็ก ทรมานสายตาสำหรับคนอยู่ใกล้ "หลักสี่"

Re: ความไม่แน่นอน ในมุมมองของ REFLEXIVITY
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 23, 2011 9:57 pm
โดย wc
ชอบครับ อ่านแล้วสนุกมาก

Re: ความไม่แน่นอน ในมุมมองของ REFLEXIVITY
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 23, 2011 9:58 pm
โดย iceberg
ขอบคุณสำหรับบทความครับ
นิดนึง Soros วิธีการคิดจะเหมือน Charlie มากกว่าครับ
Re: ความไม่แน่นอน ในมุมมองของ REFLEXIVITY
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 23, 2011 10:06 pm
โดย thaloengsak
ผมขอน้อมรับหลักการทั้งสองท่าน
คือ คิดวิเคราะห์กิจการให้ดีก่อนลงทุนของบัฟเฟต + เข้าถึงอารมณ์ของตลาด
Re: ความไม่แน่นอน ในมุมมองของ REFLEXIVITY
โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 24, 2011 11:46 am
โดย iceberg
อีกนิด พี่โหน่ง อ่าน Influence แล้ว แนะนำผมบ้างนะครับ
อ่านแล้ว ผมรู้ผิวเผินนะครับ วิเคราะห์ไม่เป็น ไม่รู้จะพัฒนายังไง
Re: ความไม่แน่นอน ในมุมมองของ REFLEXIVITY
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 25, 2011 9:37 am
โดย humdrum
ตอบคุณ ICEBERG
บทความนี้เก่าแลวนะครับ
ผมไปเดินงานกะเสดแฟ เพราะปีนี้จับฉลากกับเขาไม่ได้ ไปเดินหา non-equilibrium เดินไปพาพกสายตานักล้วงว่าถ้าเราเป็นพวกเขา เราจะล้วงใคร ที่ไหน ตรงไหนดี นั่นเหยื่อผมมาแล้วครับ
reality–> มีผู้หญิงสัก 50 กว่า เดินนำผูกข้อมือเชือกจูงเด็กสัก 6-7 ขวบ เดินตาม เชือกยาว 1 ฟุต เดินไปไหนสายคล้องเห็นชัดว่าติดกัน เดินไปตามฝูงคน expectation ตามมาติด ๆ เชื่อกนี้ทำให้ผมนึกถึง options ที่ทำหน้าที่เป้น insurance ป้องกันความเสี่ยงในกรณีที่เกิด critical mass เพราะถ้าเป็น market events ในลักษณะเช่นนี้ มันหมายถึงเป็นโอกาสสำหรับ critical point มันสามารถเกิด variations ขึ้นได้ทั้งนั้น
reality–> เดินไปสักพัก หายไปไหนฝูงที่ยังไม่เกิด mass ผมเดินตามไปติด ๆ เห็นหัวอาร์ตตัวแม่หยิกเดินไปอย่างช้า ๆตาม กระแสฝูงชน ตัวลูกไม่เห้นแล้ว แต่ expectation บอกว่า—>แม่ไปด้วย ลูกก็ติดไปด้วย ผมเริ่ม predict ว่าควรจะเป็นอย่างนั้น เพราะเชือกดันไปมี function ที่เรียกว่า correlation ที่ผมใช้ predict เชื่อมโยงเหตุการณ์ทีเกิดขึ้นในอดีตกับอนาคต ผมคิดในใจเห้นแม่กับลุกเดินตรงนั้น ตอนนี้ไม่เห็นลุก เห้นแต่แม่ ถ้าเดินไปที่โล่งๆสักหน่อยก็จะเห็นลูกเดินอยู่เอง ผมคำนวณเสร็จสรรพ
reality–> แม่เดินไปหยุดหน้าร้านบะหมี่ซีอ่าง คนขายเอามือหยิบบะหมี่ใส่จาน expectation—> น่ากินชมัด คนมุงดูเพราะ social validation กับ scarcity กฎสองข้อในตลาดหุ้นมีให้เห้นบ่อย ๆ แต่พ่อค้าอย่างผมเห็นทุกงาน events จนชินตามันคือ outdoor website ดีๆ นี่เอง ถ้าเป้น indoor บางที่มีให้เงินถุงก่อนแล้วค่อยจับเหยื่อ อย่างนี้เรียก reciprocation เอา commitment มาหลอก ผสม social validation เติม liking ในตัวบุคลเข้าไปหน่อย บางคนใช้ authority กล่อมเข้าไปอีก ในที่สุดคนที่เคยต่าง ก็คืดเหมือน indoor website ที่ว่า เกิด efficient market ขนาดย่อม ๆ อย่างนี้ก็เกิด corelaton function กลายเป็นเชือกดีๆ เส้นหนึ่ง เหมือนแม่ดึงเด็กไปทางไหน เด็กก้ไปทางนั้น
แต่ outdoor website อย่างร้านบะหมี่ คนมุงสักพัก ไม่มุงสักพัก สลับกันไป คนขายมีเชือกมาดึงให้ตลาดมันเป็น inefficient ได้ไม่นาน แต่พอนานหน่อยๆ ขายไม่ทัน คนที่คอยนานข้างหลัง มีเวลาคิดขึ้นอีกหน่อย พอคิดได้ว่ามันคือบะหมี่แห้งที้ใช้มือหยิบ กูรมายืนมุงทำไมฟะะ ไม่เห็นแปลกตรงไหน คิดได้แล้วก็เดินเดินจากไป กลายเป็น efficient market พอคนบางตา คนขาย ก็จับบะหมี่พันไปพันมา ท่าทางเหมือนกางฟูวัดเส้าหลิน คนที่ผ่านมาหน้าใหม่ก็มุงดูเช่นเดิม กลายเป้น inefficient อีกครั้ง
เห็น uncertainty อย่างนี้มาจนชินตา พอสรุปไว้เป้นวิชาติดตัวได้ว่า กลุ่ม Indoor (รวมถึงเครือค่าย MLM) จัดไว้เป้นกลุ่มวิชา fundamental เป็นแกนหลัก ตลาดจะต้องเป็น efficient เพื่อใช้อดีต correlate อนาคต เวลาเป้น inefficient อนาคตมองยาก ข้ามไปอีกฝากเป็นกลุ่ม outdoor เป้น nothing fundamental (รวมถึงกลุ่ม Technical ) ตลาดจะต้องเป็น inefficient เพื่อใช้ข้อมูลจากอดีตเพื่อทำนายอนาคต แต่ถ้าเป้น efficient อนาคตเป็นเรื่องของ God ล้วน ๆ
Hey! God doesn’t play dice.
แม่เดินขึ้นแท็กซี่ไปแล้ว แต่ correlation ตัวลูก ยังไม่หายไปไหน ยังเดินขึ้นตามไปติดๆ
Imperfection man อย่างผมตัดสินใจเดินกลับบ้านนึกถึง Holy Grail of non-equilibrium ในวันพรุ่งนี้…
ปล ชื่อคุณ ICEBERG ทำให้คิดถึงฟรอยด์เพราะอะไรเลือกชือนี้
ทำให้คิดถึงชื่อคนยิว
ผมเห็นซิกเนเจอร์
ลีโอนาโดสอนเราได้เยอะมากทีเดียวนะครับ
โดยเฉพาะเรื่องความสมดุลในสิ่งต่างๆ
ผมอ่านงานโซรอส บางทียังคิดว่าอ่านงานของลีโอนาโด
คนหนึ่งเอาไปใช้ในศิลปะ อีกคนเอาไปใช้ในการลงทุน
Re: ความไม่แน่นอน ในมุมมองของ REFLEXIVITY
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 25, 2011 9:54 am
โดย humdrum
ตอบคุณ อรรณพ
INVEST FIRST INVESTIGATE LATER ความหมายที่แท้จริงหมายถึง การคิดในหัวก่อนถึงเหตุการณ์จริงมาถึง แล้วดูว่าเรามีอารมณตอบสนองอย่างไร ไม่ได้หมายึง ซื้อหุ้นแล้ว มาตรวจสอบทีหลัง ในภาษาที่มีความหมายตามตัวอักษร เหมือนสถานการณ์ ว่าเราปีนบันได ปีนได้ก้ดีไป ถ้าวันไหน พาดตกลงมา เผลอพลาดตกแล้วกระโจนลงมาทัน จะได้ไม่เจ็บมาก คือ ยอมรับไว้แล้ว ว่ามันพลาดกันได้ เวลาพลาดจริงๆ จะได้มันเจ็บมากเพราะยอมรับไว้แล้ว วิชานี้ น่าจะเรียกว่า วิชาตกกระไดพลอยโจน
งานเขียนส่วนใหญ่ของอาจารย์ เบาและ อ่านง่าย
ผมเอาตัดสระออก ตัดวรรณยุกต์ เรียกว่า วิชา ตัวเบา
เป็นการฝึกตัวเองเรื่อง INVES FIRST ได้เปนอย่างดี
กราบของพระคุณอาจารย์ด้วยครับ
บทความไหนของอาจารย์ ตัดออกแล้ว ไม่เท่าบทความนี้
ทน สนุก ๆ ครับ
บทความของอาจารย์นี้ชื่อว่าอะไรครับ?
กร ที่ จ ป็น Vlue Invstr ท ม ควม สมรถ สง ด้ นั้น สงหนึ่ง ที่ จ ป็น ปรยชน์ ก คือ กร “จนตนกร” ฟังด อจ จ รูสึก ว่ ป็น รื่อง ขง ควม พ้อ ฝัน ละ ป็น รื่อง ที่ สน กัน ม่ด้ ต่ จริงๆ ล้ว กร จนตนกร นั้น สมรถ ที่ จ ฝกฝน กนได้ ปรเดน สำคญ ก็คือ ราตอง รู้ รื่อง อื่นๆ มากพอ ที่ จะ ทำ ให้ สมรถ นำไป ปรียบทยบ กับ เรื่อง ขง บริษท จดทเบยน และ หุ้นที่รา สน จได้ มื่อเกดจนตนกร เรา ก็ สมรถ จ มอง ตอ ไป ด้ วา บรษัท หรือหุ้น ที่ เร สน จ นั้น ใน ที่ สุด น่ จะ เป็น อย่งไร น่นอน จนตนกร กบ ของจริง คง จ ไม่ หมือน กัน ต่ มัน ก็ ให้ ภาพ ที่ จะ ทำ ให้ รา เห็น ทิศ ทา เดิน ของ หุ้น ผม พูด แบบนี้อย่า นึก ว่า เป็น เรื่อง ปรหลาด ลอง นึก ทบ ทวน ดู ก็ จะ พบ ว่า ม้ แต่ ใน เรื่อง ทงวทยศสตร์ ต่างๆ เรา ก็ พบ ว่า การ ใช้ จินตนาการ เป็น สิ่ง สำ คญ ที ทำ ให้ มนษย์ค้น พบ ทฤษฎ หรือ สร้ง สิ่ง ปรดิษฐ์ ที่ สำคัญ ต่งๆ ขึ้น ใน โลก พูด ก พูด ถ้คนไม่จนตนกร ว่า จ สมรถ บิน ได้ อย่าง นก เรา จ มี กร ปรดิษฐ์ เครื่องบน หรือครบ?
Re: ความไม่แน่นอน ในมุมมองของ REFLEXIVITY
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 25, 2011 8:27 pm
โดย iceberg
ขอบคุณครับ พี่โหน่ง
ตัว sgn ผมเอามาจากหนังสือ Influence แต่งโดย Robert Cialdini บทที่เขียนเรื่อง
Commitment and Consistency ตอนแรกไม่รู้หรอกครับว่ามันเกี่ยวอะไร
แต่บทนี้จบแล้ว ประโยคนี้ใช่เลยครับ ชอบมาก