Thai VI

ผมกำลังศึกษางบของหลายอุตสาหกรรม พบว่าเรื่องสินทรัพย์ที่ยังไม่สามารถลงบัญชีได้น่าสนใจดี เลยขอเอามาคุยกันเป็นกรณีศึกษา

จาก 56-1 ปี 2553 ของบ.หนึ่งในอุตสาหกรรมถ่านหิน

แจ้งว่าทรัพย์สินที่ใช้ประกอบธุรกิจในเหมืองแร่แห่งที่ 1 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ประกอบด้วย
ที่ดิน ลงบัญชีไว้ 5.45 ล้านบาท
เครื่องจักร และอุปกรณ์ 15.77 ล้านบาท

ส่วนทรัพยสินที่ไม่มีตัวตนของเหมืองแร่แห่งที่ 1
• PT. LANNA HARITA INDONESIA ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ได้รับอนุญาตสัมปทานเหมืองถ่านหินในประเทศอินโดนีเซีย (COAL CONTRACT OF WORK)จากรัฐบาลแห่งประเทศอินโดนีเซียให้ทำการสำรวจขุดและจำหน่ายถ่านหิน ณ แหล่งตานาห์เมร่าห์ (TANAH MERAH) อำเภอซามารินดา (SAMARINDA) และอำเภอ คูเตย (KUTAI) จังหวัดกาลิมันตันตะวันออก ประเทศอินโดนีเซีย ในอาณาเขตพื้นที่ 30,018 เฮกตาร์หรือประมาณ 187,612.5 ไร่ มีกำหนดเวลา 30 ปี ตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปี 2574 ยังมีปริมาณสำรองของถ่านหินที่ทำเหมืองได้อีกประมาณ 15 ล้านตัน โดยจะต้องจ่ายค่าผลประโยชน์ (ROYALTY) เพื่อตอบแทนแก่รัฐบาลแห่งประเทศอินโดนีเซียในอัตราร้อยละ 13.50 ของราคาขาย

คุณว่ามูลค่าของสิ่งที่ลงบัญชีได้ กับลงบัญชีไม่ได้อันใหนจะมีค่ามากกว่ากัน

บ. อสังหาริมทรัพย์อีกแห่งหนึ่งก็แปลก มี Backlog แบบเมื่อโอนมากกว่า Market Cap ไม่รู้กี่เท่า...

ยอดขาย มากกว่ายอดรับรู้รายได้ทางบัญชี ต่อเนื่องกันไม่รู้กี่ปีแล้ว


ตาดีได้ ตาร้ายเสียครับ

ไม่รู้ว่าเคสแบบนี้จะคล้ายกับ PTTEP รึเปล่านะ เพราะก็มีสัมปทานแหล่งก๊าซสำรองที่ยังไม่ได้ขุดเจาะขึ้นมาใช้งานทั้งหมด

จริง ๆแล้วบริษัทควรจะต้องสำรวจ และประเมินมูลค่าของสินทรัพย์นั้นลงในงบดุล มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 6

เรื่องการสํารวจและประเมินคาแหลงทรัพยากรแร่ จะบังคับใช้ในปี 2554 นี้ เข้าใจว่ามาตรฐานบัญชีแบบเก่าไม่มีเฉพาะสำหรับเรื่องแหล่งแร่

ทรัพยากรธรรมชาติ ถ้าบริษัทไม่เคยประเมินมูลค่าของแหล่งถ่านหินเลยในรายงานการเงิน หรือใช้มาตรฐานอื่น ปีนี้คงต้องมาใช้มาตรฐาน

ใหม่นี้ และอาจจะมีรายการปรับปรุงรายการของสินทรัพย์เพิ่มขึ้นก็ได้นะ

ปล. ผมไม่ใช่ผู้ชำนาญบัญชีนะครับ

พอไปดูงบละเอียดขึ้น ก็เจอพวกค่าความนิยม ที่เกิดขึ้นตอนซื้อหุ้นของกิจการอื่น ซึ่งมีการตัดบัญชีไปทุกปี

โดยรวมแล้ว รู้สึกว่ามีเรื่องที่เข้าใจยาก อยู่หลายเรื่องเหมือนกัน

wpong เขียน:พอไปดูงบละเอียดขึ้น ก็เจอพวกค่าความนิยม ที่เกิดขึ้นตอนซื้อหุ้นของกิจการอื่น ซึ่งมีการตัดบัญชีไปทุกปี

โดยรวมแล้ว รู้สึกว่ามีเรื่องที่เข้าใจยาก อยู่หลายเรื่องเหมือนกัน

ค่าความนิยมเดี๋ยวนี้ไม่ได้ตัดบัญชีทุกปีเหมือนแต่ก่อนครับ แต่ให้ประเมินมูลค่าความนิยมเป็นระยะตามสมควร