Re: 16ยุทธศาสตร์ พิชิตการลงทุน:ValueWay
โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 10, 2011 3:09 pm
PERFECT LUCKY เขียน:
Value Way
มนตรี นิพิฐวิทยา
16 ยุทธศาสตร์ พิชิตการลงทุน : ความยืดหยุ่นและเปิดใจกว้างสำหรับการลงทุนใหม่ๆ
ในอดีตผมเองเริ่มต้นจากการลงทุนในหุ้นในประเทศอย่างเดียว ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะปิดกั้นตัวเอง แต่เป็นเพราะความไม่รู้ ไม่เข้าใจการลงทุนอย่างอื่นๆ การลงทุนในหุ้นนั้นคล้ายกันหมดทั้งโลก ไม่มีอะไรแตกต่างกัน ที่มันยากกว่าคือการหาข้อมูลมาใช้ตัดสินใจต่างหาก การลงทุนในพันธบัตร ตราสารหนี้ หรือแม้แต่การฝากเงินในบ้างโอกาสก็ให้ผลตอบแทนที่สูงและเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนในหุ้น
เซอร์ จอห์น เทมเพอร์ตัน กล่าวไว้ว่า ในการลงทุนนั้นมันมีช่วงเวลาสำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ช่วงเวลาในการซื้อหุ้นขนาดใหญ่(Blue chip) หุ้นวัฎจักร (Cyclical) หุ้นกู้และพันธบัตรรัฐบาล และมีช่วงเวลาที่เราต้องถอนเงินลงทุนส่วนใหญ่มาไว้ที่เงินสด เพราะว่าการมีเงินสดในช่วงเวลาที่การลงทุนประเภทอื่นๆไม่ดีนั้น สร้างโอกาสในการลงทุนได้อย่างมหาสารที่เดียว
โดยความเป็นจริงแล้ว ไม่มีสินทรัพย์ชนิดใดให้ผลตอบแทนดีในทุกโอกาส แม้ว่าในอุตสาหกรรมหรือหุ้นที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงจากนักลงทุนในปัจจุบัน วันหนึ่งมันก็จะหมดความนิยมลงไป กล่าวอีกอย่างหนึ่งคือ มันเป็นความนิยมชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น และหากท่านยึดติดอยู่กับมันและอาจขาดทุนจากมัน อาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะกลับมาเท่าทุนได้อีกครั้ง
ส่วนตัวของผมแล้ว เงินทุนส่วนใหญ่จะลงทุนในหุ้น เพราะจากข้อมูลที่ผ่านมาในอดีต หุ้นเป็นสินทรัพย์ลงทุนที่ให้ผลตอบแทนในระยะยาวดีที่สุด และเป็นสินทรัพย์ที่สามารถลงทุนเพื่อรักษาอำนาจการจับจ่ายใช้สอยในอนาคตได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าการลงทุนในตลาดหุ้นจะมีความผันผวนสูงในระยะสั้นๆ แต่ในระยะยาว หุ้นของกิจการที่มีความสามารถในการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง มีตราสินค้าที่เป็นที่ยอมรับกันไปทั่วโลกส่วนใหญ่จะสามารถเติบโตได้ในระยะยาว
ในกรณีนี้ผมขอยกตัวอย่างหุ้นของบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขันสูง และมีตราสินค้าเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกสักบริษัท เช่น Louis Vitton เป็นบริษัทที่ผลิตสินค้าBrand Nameดังและมีราคาแพง เช่นกระเป๋า นาฬิกายี่ห้อดัง รวมไปถึงบรั่นดีชั้นนำ Louis Vitton เป็นบริษัทในประเทศฝรั่งเศส หลายท่านทราบว่าบริษัทในกลุ่มประเทศยุโรปกำลังย่ำแย่ แต่บริษัทที่มีตราสินค้าดังๆเหล่านี้กลับมีราคาปรับตัวสูงขึ้น เพราะยอดขายเกือบครึ่งของบริษัทเติบโตจากการขยายตัวของประเทศเกิดใหม่ และหากดูจากข้อมูลในอดีตแล้ว ราคาหุ้นของบริษัทเหล่านี้โดยรวมมีราคาอยู่ในระดับที่เคยเป็นมาในอดีตหลายปี ที่สำคัญบริษัทเหล่านี้มีค่า PE Ratio และ PBV ต่ำกว่าหุ้นยอดนิยมในเมืองไทยมากโขทีเดียว
ในช่วงเวลาต่อจากนี้ไป 2011 เป็นปีที่สภาพคล่องทางการเงินล้นโลก การเติบโตของโลกไม่เท่าเทียมกัน กลุ่มประเทศเกิดใหม่เติบโตสูง ส่วนกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วกลับติดหล่มทางเศรษฐกิจ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างปรับตัวสูงขึ้นในรอบหลายปี ดังนั้น สินค้าโภคภัณฑ์หลายชนิดที่เราสามารถลงทุนได้ก็อาจจะเป็นสินทรัพย์อีกชนิดหนึ่งที่น่าลงทุนต่อจากนี้ไป สำหรับสินค้าโภคภัณฑ์นั้นเราสามารถลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ผ่านกองทุนรวมในไทยได้ และเรายังสามารถลงทุนในหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และสินค้าเกษตรผ่านกองทุนรวมในประเทศไทยได้เช่นกัน
จัดPortfolioให้มีความยืดหยุ่นและเปิดใจกว้างสำหรับการลงทุนใหม่ๆที่เราสามารถลงทุนได้ ถ้าคุณไม่เริ่มวันนี้ ในเร็ววันข้างหน้า สิ่งเหล่านี้มันจะไล่ล่าคุณเอง และเมื่อถึงเวลานั้น “คุณจะถนัดหรือไม่นั้น สถานการณ์จะเป็นตัวบังคับให้คุณทำ” ไม่เชื่อลองพิจารณาเรื่องราวการลงทุนของคุณที่ผ่านมาว่าคุณได้ปรับเปลี่ยนอะไรไปบ้างแล้วโดยคุณไม่รู้ตัวบ้าง
แต่สำหรับผม “พร้อมแล้ว”!!