Thai VI

ผมอยากทราบว่า การวิเคราะภาวะตลาดโดยรวม

และ การมองทิศทางแนวโน้มตลาด

ทำอย่างไร และ ผมสามรถติดตาม ศึกษา ภาวะตลาด และ แนวโน้มตลาดได้จากที่ใด

ผมเคยอ่านเจอว่า การที่เราจะซื้อหุ้น เราต้องตอบได้ว่า ในอนาคตบริษัทจะมีแนวโน้มอย่างไร <<<< ผมจะทราบได้อย่างไร


และ เราจะทราบได้อย่างไรว่า เริ่มมีนักลงทุนต่างชาติเริ่มเข้ามาลงทุนในประเทศไทย

ผมว่าควรสนใจที่ กำไร กำไร กำไร ของบริษัทที่เราสนใจ ถ้าราคายังต่ำกว่ามูลค่าของมันก็อย่าไปสนใจตลาดมากเลยครับ

ผมดูว่าบริษัทที่ลงทุนทำอะไร แล้วค่อยไปดูราคาต้นทุนตามตลาดโลกเอา
เช่น เหล็ก ก็ไปดูราคาเหล็ก หรือ พลาสติกก็ดูราคาพลาสติก

การศึกษาแนวโน้มตลาดในความคิดผมทำได้ยากมากครับเพราะตลาดมีความผันผวนมาก สังเกตุง่ายๆจากตอนต้นปี 2553(ปีที่แล้ว) มีนักวิเคราะห์มากมายออกมาบอกว่าตลาดจะปรับตัวลงในปี 2553 เพราะปี 2552 ขึ้นมามาก แต่ความเป็นจริงกับเป็นไปในทางตรงกันข้าม แสดงให้เห็นว่าขนาดมืออาชีพทีมีข้อมูลพร้อมยังคาดการณ์ผิดได้
แต่สิ่งที่ VI สามารถทำได้คือ การซื้อบริษัทที่ดีและมีราคาตํ่ากว่าที่มันควรจะเป็น ซึ่งการดูตลาดภาพรวมนั้นไม่จำเป็นมากนักครับดูที่ตัวบริษัทไปเลยดีกว่า ซึ่งในการดูว่าแนวโน้มของบริษัทนั้นจะไปในทิศทางใด สามารถดูได้แบบง่ายๆซึ่งเป็นการวิเคราะห์เชิงคุณภาพ สำหรับคนที่มีพื้นฐานด้านการเงินไม่มาก(อย่างผม)โดยใช้ความรู้ความเข้าใจในชีวิตประจำวันได้ครับ เช่นซัก10ปีที่แล้วเรา 7/11 เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หรือร้านซเวนเซ่น พิซซ่า ซิสเลอร์ มีลูกค้าเต็มร้านตลอด หรือเราเห็นว่าเพื่อนๆเราหลายๆคนเริ่มเปลี่ยนมาใช้ 3BB กันมากขึ้น นั่นก็หมายความว่าแนวโน้มบริษัทเหล่านั้นมีแนวโน้มสูงที่จะเติบโต แต่ในการจะดูจริงๆนั้นก็ต้องมองในหลายๆปัจจัยเช่น สิ่งที่ได้รับความนิยมมากนั้นเป็นรายได้หลักของบริษัทหรือเปล่า เป็นต้น
ที่กล่าวมาเป็นแค่การดูแบบคล่าวๆเท่านั้นครับ ผมก็มือใหม่เหมือนกัน อยากแนะนำให้ลองไปอ่าน One Up On Wall Street ที่ ดร.นิเวศน์ เป็นผู้แปลครับ จะช่วยให้เข้าใจการคาดการณ์ การวิเคราะห์ทิศทางของบริษัทมากขึ้น

ประเด็นเรื่อง การวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคหรือภาพรวมเศรษฐกิจโลกแล้ว สำหรับ VIบางคนก็มองว่าไม่ควรให้ความสำคัญมากไปเนื่องจากเรามักจะทำนายไม่ได้ว่าต่อไปมันจะดีหรือจะเลวลง แต่เราควรเลือกหุ้นหรือธุรกิจพื้นฐานดีที่ต้านทานต่อภาวะเลวร้ายต่างๆได้ ดีกว่าไปนั่งทำนายว่าเศรษฐกิจโดยรวมหรือโลกจะเลวร้ายเมื่อไหร่(อ่านจากในthai VI นี่แหละ)

แต่สำหรับผม ผมว่าก็พยายามอ่านทิศทางในระดับมหภาคไว้หน่อยก็ดี และคิดว่ามันก็เข้าข่ายเป็นการวิเคราะห์เชิงคุณภาพเหมือนกัน

สำหรับคุณ atthawit ผมว่าพยายามอ่านมากๆๆครับ ผมเองก็พยายามอยู่เช่นกัน

ความคิดผม
ควรจะรู้ทั้งหมดทั้ง มหภาค และ จุลภาค เอาแบบใช้งานได้
ในการลงทุน บางครั้ง ต้องใช้ จุลภาค ในการวิเคราะห์
บางครั้งใช้ มหภาค ในการวิเคราะห์ ขึ้นกับสถานการณ์ครับ

รู้มาก ย่อมได้เปรียบอยู่แล้วครับ