Thai VI

1 fair valueหรือราคาเป้าหมาย ที่แต่ละโบรคทำไว้ น่าจะเป็นตัวการทำให้ราคาหุ้นสูงขึ้นรึป่าวครับ ทำไมแต่ละโบรคถึงเลือกทำ fair ในหุ้นที่เป็นหุ้นพิมนิยมหรือค่ายอื่นๆ ทำfair ไว้แล้ว
2 การลงทุน แนวVI จำเป็นจะต้องเลือกหุ้นที่ยังไม่มีโบรคไหนทำ fair รึป่าวครับ หรือต้องเลือกวิเคราะห์ ตัวที่คนสนใจน้อยๆ แบบตัวที่โลกลืมอะไรแบบนี้

1. ผมเชื่อว่าในระยะยาวราคามักจะเป็นไปตามผลประกอบการของบริษัทครับ
2. ไม่จำเป็นครับ


โชคดีครับ

1 ผมแนะนำว่าอย่าไปยึดติดกับราคาในบทวิเคราะห์เลยครับ พี่ๆในนี้ส่วนมากจะตามดูเฉพาะเนื้อหาที่มีประกอบมากกว่าครับ ส่วนเค้าจะให้ราคาเท่าไหร่อย่าไปสนครับควรจะศึกษาบริษัทที่เราสนใจให้ละเอียดแล้วลองประเมิณกำไรที่คาดว่าจะได้รับในไตรมาสหน้า ปีหน้า หลายๆปีข้างหน้า แล้วเทียบกับราคาวันนี้ดูว่ายังถูกอยู่ไหมถ้าใช่ก็เข้าไปลงทุนได้ครับ
ถ้าคิดว่ามันยากไปลองเริ่มต้นที่กิจการที่ไม่ซับซ้อนเช่นผลิตสินค้าอย่างเดียว หรือไม่มีบริษัทลูก หรือที่ไม่เป็นวัฎจักร บริษัทเหล่านี้จะเข้าใจง่ายคำนวนราคาเป้าหมายได้ง่ายครับ
2 คำถามนี้ถ้าคุณหาเจอและถือมันไว้ด้วยความมั่นใจ จนกว่านายตลาดจะเห็นคุณค่าของมันคุณจะได้ผลตอบแทนอย่างคุ้มค่าการรอคอยเลยทีเดียว

beater of market เขียน: 1 fair valueหรือราคาเป้าหมาย ที่แต่ละโบรคทำไว้ น่าจะเป็นตัวการทำให้ราคาหุ้นสูงขึ้นรึป่าวครับ ทำไมแต่ละโบรคถึงเลือกทำ fair ในหุ้นที่เป็นหุ้นพิมนิยมหรือค่ายอื่นๆ ทำfair ไว้แล้ว

=ในแง่จิตวิทยามีส่วนบ้างครับ อาจทำให้เกิดการลาก การสร้างราคาในหุ้นบางตัว ที่แต่ละโบรควิเคราะห์พวกหุ้นที่พิมพ์นิยม ส่วนหนึ่งหุ้นตัวเล็กมีความเป็นไปได้สูงที่ตลาดจะเมิน หรืออาจจะมีความเสี่ยง หรืออาจจะไม่น่าสนใจ หรืออื่นๆ อันนี้คงอยู่ที่นโยบายของแต่ละโบรค แต่ผมเห็นหลายโบรคปรับประมาณราคาหุ้นบางตัวในปีสองปีีนี้จะ7-8หนแล้ว ถ้าวิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจแม่นจริง บางครั้งคงไม่จำเป็นต้องปรับบ่อย(บางครั้งปรับราคาไตรมาสละหนสองหนเลย) ฉะนั้นวิเคราะห์หามูลค่าเองน่าจะดีที่สุดครับ

2 การลงทุน แนวVI จำเป็นจะต้องเลือกหุ้นที่ยังไม่มีโบรคไหนทำ fair รึป่าวครับ หรือต้องเลือกวิเคราะห์ ตัวที่คนสนใจน้อยๆ แบบตัวที่โลกลืมอะไรแบบนี้

=ไม่จำเป็นครับ ถ้าเราเห็นว่ามันundervalue เราก็ลงทุนได้ แต่ส่วนมากหุ้นที่บทวิเคราะห์จนปรุไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเรามองไกล เห็นอะไรดีๆในหุ้นที่คนอื่นไม่เห็นกันหรือเห็นต่าง เราคงจะไม่ได้ลงทุนซื้อมากนัก เพราะราคาส่วนใหญ่เต็มมูลค่าหมดแล้ว

ข้อ 1
คิดว่า การทำให้ราคาสูงขึ้นน่าจะเป็นส่วนน้อยครับ เนื่องจากตัวหุ้นที่
broker ออกบทวิเคราะห์มา พวกมืออาชีพ (กองทุน นักลงตปท.)เค้าน่าจะวิเคราะห์ได้อยู่ก่อนแล้ว

ส่วนที่ว่าทำไม broker มักออกบทวิเคราะห์หุ้นพิมพ์นิยม คิดว่า
เค้าน่าจะให้นักลงทุนส่วนใหญ่ได้อ่านนะครับ เพราะถ้าหุ้นตัวไหนไม่นิยมเล่นกัน
การออกบทวิเคราะห์มา ไม่น่าจะมีใครอ่าน สิ้นเปลืองทรัพยากรเปล่าๆ

ข้อ 2
จริงๆ แล้ว แนวทางการลงทุนในแนว VI คือ ลงทุนในหุ้นที่ราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าที่เราประเมินไว้ครับ
ไม่ได้เกี่ยวกับ บทวิเคราะห์ของ broker หรือ ตัวหุ้นที่ไม่มีใครสนใจ ครับ