Thai VI

ผมอยากลงทุนในรูปแบบของ Value Investing แต่ยังมีข้อสงสัยอยู่ เลยอยากถามดูคับ

1. เราใช้วิธี คิด p/e จาก ราคาหุ้น/กำไรที่ธุรกิจทำได้ ใช่มั้ยคับ แล้วถ้าจะดูว่า p/e ที่คิดได้ถูกกว่าที่ควรจะเป็น เราจะต้องทำยังไงเหรอคับ
ตามที่ผมเข้าใจคือ เรานำไปเทียบกับค่าเฉลี่ยของตลาด และ ค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมประเภทนั้น ใช่มั้ยคับ

2. ถ้าเราจะคาดการณ์กำไรของเราว่ามีโอกาสทำกำไรได้เท่าไร (ไม่แน่ใจว่าใช่ Margin of Safety รึเปล่า) เช่นผมเห็นบางคนกำหนดเป้าหมายชัดเจนเลยว่า ปีนี้หุ้นน่าจะวิ่งไปที่ราคาเท่านี้ หรือตั้งไว้ว่า จะไปขายที่ราคาเท่านี้บาท ไม่ทราบว่ามีวิธีไหนกำหนดเหรอคับ เท่าที่ผมรู้ เราสามารถกลับค่า p/e เพื่อหา % ของ Margin of Safety ได้ใช่มั้ยคับ หรือวิธีที่ ใช้ผลต่างของราคาหุ้นสูงสุดและต่ำสุดในปีที่ผ่านมานำมาคูณ 40% แล้วบวกกลับไปที่ ราคาต่ำสุด เพื่อหาราคาที่น่าจะเป็น (52 week historical price) ก็เอามาหา Margin of Safety ได้เหมือนกันใช่มั้ยคับ

3. สมมติเราคาดหวังผลกำไร 30% ก็คือ เราหาหุ้นที่มี Margin of Safety มากกว่า 30% ใช่มั้ยคับ

4. ตามที่ผมเข้าใจ ผมสามารถกรองหุ้นด้วยการ ดู P/E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาด , ROA สูง , ROE สูง , EPS สูง (ทั้งสามค่านี้ไม่ผันผวน) แล้วค่อยมาดูงบการเงิน ก็ได้ใช่มั้ยคับ หรือมีส่วนไหนที่ควรเสริมอีกคับ

ผมกำลังจะเปิดพอร์ตลงทุนอาทิตย์นี้แล้วคับ ยังไงก็ขอคำแนะนำด้วยนะคับ

จากคำถาม..น่าจะแบ่งได้เป็น 2 ข้อครับ

1.margin of safety
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Cli ... fault.aspx
http://www.tsi-thailand.org/index.php?o ... mitstart=0

2.การวัดมูลค่าหุ้น

เป็นหนังสือของพี่โจ๊กสุมาอี้ครับ..เนื้อหาค่อนข้าง O.K. จะอธิบายการวัดมูลค่าหุ้นด้วยวิธีต่างๆ ที่นิยมใช้กันครับ เช่น PE, DCF เป็นต้น

ลองศึกษาเพิ่มเติมดูนะครับ
อย่าลืมว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
โชคดีครับ

ขอบคุณมากคับ แต่ผมเข้าใจว่าหนังสือ การวัดมูลค่าหุ้นด้วยตัวคุณเอง ไม่น่าจะมีวางขายแล้วใช่มั้ยคับ ในเว็บก็เหมือนจะเข้าไม่ได้แล้วด้วย

หรือว่ามีวิธีไหนที่ผมจะสั่งซื้อได้บ้างคับ

B2S ยังมีครับ

ขอบคุณคับ พรุ่งนี้จะไปลองเดินหาดู

ผมเพิ่งเห็นว่า http://dekisugi.net/books ยังเข้าได้อยู่ ถ้าไม่เจอผมว่าจะสั่งทางนี้เอาน่ะคับ

ตอนนี้อ่าน ตีแตก กับ Little book that beat the market ไป แล้วก็มีหนังสือที่รวมบทความของ ดร. นิเวศน์ อีกสองสามเล่ม ว่าจะสั่งของคุณ สุมาอี้ มานั่งอ่านตามที่แนะนำคับ

ผมใช้ ข้อ 4 ของคุณ soetheby ก่อนเลยครับ ก่อนจะไปดูอย่างอื่นๆต่อ

ตามที่ผมเข้าใจ ผมสามารถกรองหุ้นด้วยการ ดู P/E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาด , ROA สูง , ROE สูง , EPS สูง (ทั้งสามค่านี้ไม่ผันผวน) แล้วค่อยมาดูงบการเงิน

ตามนั้นเลยครับ

และผมว่าไม่ควรซื้อหุ้นที่PE>15 เท่า ไม่ว่าบริษัทนั้นมันจะมีโอกาสโตหรืออัตราโตมากแค่ไหนก็ตาม เพราะมันจะเสี่ยงมากทีเดียว ผมค่อนข้าง conservative ครับ

soetheby เขียน:ขอบคุณมากคับ แต่ผมเข้าใจว่าหนังสือ การวัดมูลค่าหุ้นด้วยตัวคุณเอง ไม่น่าจะมีวางขายแล้วใช่มั้ยคับ ในเว็บก็เหมือนจะเข้าไม่ได้แล้วด้วย

หรือว่ามีวิธีไหนที่ผมจะสั่งซื้อได้บ้างคับ

เซ็นทรัลลาดพร้าวมีใน B2S ครับ ตอนผมไปอยู่บนชั้นหนังสือเเนะนำด้วยครับ

ผมว่าบางทีเราอาจจะลืมส่วนที่สำคัญอีกอย่างนึงในการวิเคราะห์หุ้นนะครับ

มิอใหม่เข้ามาใหม่ มักจะคิดกันว่า หุ้นที่ดี คือหุ้นที่ pe ต่ำ roe roa สูง

มันถูกครับ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด

อย่าลืมว่า หุ้นขึ้น เพราะอะไร

ซื้อหุ้นคือซื้อความคาดหวัง เช่น หวังว่ากำไรต่อหุ้นจะดีขึ้น หวังว่าหนี้สินจะน้อยลงทำให้ลงทุนได้มากขึ้นแล้วกำไรต่อหุ้นจะดีขึ้น หวังว่าจะได้ลูกค้าใหม่ๆกำไรจ่อหุ้นจะดีขึ้น หวังว่าการขยายร้านค้าไปในที่ต่างๆจะประสบความสำเร็จทำให้กำไรต่อหุ้นดีขึ้น หวังว่ากำไรต่อหุ้นดีขึ้นกระแสเงินสดดีขึ้นการจ่ายปันผลจะมากขึ้น

จะว่าไป ลงท้ายก็ต้อง eps ดีขึ้น นะ :lol:

สมมุตว่า จขกท เลือกหุ้นแล้ว eps ดี pe เหมาะ roe แจ่ม roa ซู้ดยอด

แต่ .......... ช่วงนั้นเป็นช่วงพีคของธุรกิจ เช่น

โรงงาน A เป็น OEM รับออเดอร์จนล้นมือ โอวววว บระเจ้า ทำมะทันแย้ว ขยายโรงงานดีกว่า มาวันดีคืนดี ลูกค้าบอก ไอ้ที่อั้วสั่งผลิตมันเอ้าท์ ไม่ทำแล้ว ไปทำที่อื่นถูกกว่า pe ที่บอกเหมาะมันจะไม่เหมาะ เพราะ eps ที่บอกดี มันจะเน่า พอ eps เน่า roe roa ก็ไม่ดี สรุป ราคาหุ้นก็ต้องตก

ร้าน B ขยายสาขาเถิดเทิง กำไรระเบิด pe สูง เพราะเป็นหุ้นที่นักวิเคราะห์ว่า เติบโต eps สูงชลูด Roe roa ไม่ต้องพูดถึงยอดเยี่ยม เราก็เห็นมันแจ่มแจ๋ว ซื้อ ผ่านมา ทำไม eps มันไม่ค่อยสูงแล้ว ทำไปทำมาเท่าเดิม บางไตรมาสดันลดอีก ฮ่วย
เดินไปถามอาเจ๊ก ข้างบ้าน บอกว่า "อั้วไปที่ไหนก็เห็นร้านนี้ แถมยังไม่พอ ดันมีร้านคล้ายๆกันมาเปิดแข่ง อั้วไม่ซื้อแล้ว ร้าน B บริการไม่ดีไม่มีของแถม" ราคาหุ้นที่หวังว่าจะสูงจนถึงสูงมากๆ มันก็ไม่ไปไหน ซื้อมา 5 ปียังราคาเนี้ย เฮ้อ


สรุป ไอ้ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี่ คือ อยากบอกว่า อย่าลืมวิเคราะห์ธุรกิจด้วยแค่นั้นเองคับ แหะๆ :lol: โดยเฉพาะอันไหนจะเซงลี้ฮ้อในอนาคต แล้วตอนที่เราซื้อราคาเหมาะกับกำไร มันก็น่าซื้อนะ :lol: