Thai VI

เมื่อก่อนผมคิดว่า บริษัทที่ ซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน
ต้องมีเงินสดเหลืออยู่มากๆ ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรดี
ก็เอาเงินของตัวเองมาซื้อหุ้นของตัวเองคืน เพื่อการบริหารทางการเงิน
แต่พอผมเก็บข้อมูลของ DEMCO เสร็จ มาดูแล้ว งง.. ไม่ได้เป็นอย่างที่เคยคิดไว้
ดูจากงบ กระแสเงินสด แล้ว บริษัท เงินสดน้อยมาก
Q3 มีเงินสดเพียง 34.77 ล้าน เงินสดจัดหาตั้ง 463.07 ล้าน
ดูแล้วแสดงว่าต้องกู้เงินมาชื้อหุ้นของตัวเองแน่เลย
ประเภทว่าเล่น มาจิ้น พยุงราคาหุ้น ของตัวเอง
ใช้เงินไปแล้ว 123,172,530.00 บาท ดันราคาหุ้นไว้ไม่ให้ตก
มูลค่าหุ้นที่ซื้อคืนไปแล้ว ตามราคา 06/01/11 = 145,324,725.00 บาท

ชีต Resale Share ใน EPS16YEAR เก็บข้อมูล การซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน


ชีต เปรียบเทียบงบ 3 ไตรมาส


ชีต แบบ 59-2 ใน EPS16YEAR


ชีต แบบ 246-2 ใน EPS16YEAR

งั้นแปลความหมายได้ว่า
1. เค้าคิดว่าราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน ราคาถูกมากจนต้องไปกู้เงินมาซื้อ หรือ
2. เค้าพยายามควบคุมราคาหุ้น

ใช่ไหมครับ หรือว่าจะมีอย่างอื่นอีก

โอ้ๆ เคสนี้น่าสนใจแฮะ เดี๋ยวต้องรอผู้รู้มาอธิบาย ผมว่าผู้บริหารคงไม่ได้คิดว่าราคาหุ้นตัวเองถูกหรอกครับ pe ปาเข้าไปสิบกว่าและ

ปล ปกติบริษัทจะซื้อหุ้นคืนไม่ต้องขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นหรอครับ

กรณีซื้อเพื่อพยุงมาจินไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะราคาหุ้น ไมได้ปรับตัวขึ้นมาสูงมาก

อาจจะเป็นกรณีต้องการถือหุ้นให้มากที่สุดเพื่อดันราคา W
โดยเอาตัวเองซื้อหุ้นนำไปก่อน แล้วเอาบริษัทซื้อหุ้นตามไปให้ราคาสูงขึ้น
การดันราคานี้น่าจะคุ้ม เพราะทำให้ W มีราคาเพิ่มขึ้นด้วย
โดย ราคาแ่ม่เพิ่ม 1 บาท W3 และ W4 ก็จะเิ่พิ่ม 1 บาทเช่นกัน

ปัญหาคือ บ.ไม่มีเงิน ใครเอาเงินให้ บ.นี้กู้ กู้ไปซื้อหุ้นด้วยคงมั่นใจในธุรกิจเต็มร้อยเลยละมั้งนี่

เล่นหุ้นตัวเองแหงเลยครับ
ขายกระหนำ่....
น่าสนใจเดี๋ยวไปดูเล่นเป็นความรู้
ขอบคุณนะครับ...

สิ่งที่เกิดขึ้น
1.บริษัทออก warrent แจกผู้ถือหุ้นเดิม
2.ใช้เงินบริษัทซื้อหุ้นคืน
3.ผู้ถือหุ้นรายใหญ่บางราย โอน warrent ให้บุคคลอื่น บางรายขายในตลาด

เอ....ไม่น่าคิดมากนะ :lovl:

--------------
ความรู้ คู่คุณธรรม

อืมไม่ค่อยมีเงินเเต่ซื้อหุ้นคืนทำไม่ไม่เอาไปลงทุนเพิ่มดีกว่านะ
น่าจะมีเเผนการอะไรบางอย่าง สุดจะคาดเดา

ผมคิดว่ามันค่อนข้างแปลก ๆเหมือนกัน

เหมือนกับการกู้เงินซื้อหุ้น เหมือนกับที่เราใช้มาร์จิ้นซื้อหุ้น

ถ้าอย่างนั้นบริษัทต้องมองว่าการซื้อหุ้นตัวเองเป็นการลงทุนคุ้มค่าอย่างสุด ๆ

ผลที่เกิดขึ้นคือ EPS ROE ดูดี แต่คุ้มค่าการลงทุนในระยะยาวหรือเปล่าเพราะมีต้นทุนการเงิน บวกค่าเสียโอกาสในการลงทุนในธุรกิจ

ผมว่าซักพักก็เพิ่มทุนราคาสูงกว่าในกระดาน ให้ผู้ถือหุ้นเดิมรับไป เป็นไปได้ไม๊น้อ????
สงสัยจังที่ไหนปล่อยกู้น้า

ขอร่วมออกความเห็นด้วยคนครับ
ผมลองตั้งข้อสังเกตุเห็นว่าบริษัทเริ่มซื้อหุ้นคืนปลายเดือนสิงหาคม แล้วไปหยุดที่ปลายเดือนกันยายน (ซึ่งเป็นช่วงที่ปิดงบไตรมาสพอดี)
หลังจากนั้นหุ้นก็ตกลงมาเรื่อยๆ จนเหลือประมาณเกือบ 4 บาทนิดๆ

ช่วงนี้สังเกตุว่าบริษัทหยุดซื้อหุ้นคืนไปประมาณสองเดือน ทั้งๆ ที่ราคาหุ้นลงมาต่ำกว่าที่บริษัทเคยซื้อคืนประมาณ 20% (on sale!)
อ้างอิงจากที่กระทู้ร้อยคนร้อยหุ้น ที่มีคนถามใน opp day ซึ่งผู้บริหารแจ้งว่าไม่มีเงิน ซื้อก็สอดคล้องกับทางที่พี่ครรชิตบอกคือตาม Cashflow ของบริษัท มีเงินอยู่แค่ไม่ถึง 40 ล้าน
จึงไม่สามารถซื้อหุ้นคืนได้ในช่วงที่หุ้นตกลงมา

หลังจากนั้นบริษัทเพิ่งเริ่มมาซื้อหุ้นคืนอีกครั้งช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน (29/22/2010)
บริษัทกลับมามีเงินอีกครั้ง จาก??
1) เงินรับล่วงหน้าสำหรับการก่อสร้าง (แต่งานมันเลื่อนออกไปนี่นา)
2) วงเงินกู้ที่ได้จากแบงค์ (ใครจะให้กู้มาซื้อหุ้นคืนหว่า)
อันนี้ไม่ทราบได้

แต่โดยปกติแล้วตามความเข้าใจของผมธนาคารไม่อนุมัติให้บริษัทกู้เงินเพื่อมาซื้อหุ้นคืนครับ
ล่าสุดที่ TMB ให้วงเงินกู้กับบริษัทจำนวนพันกว่าล้าน ส่วนหนึ่งใช้สำหรับประมูลงาน อีกส่วนหนึ่งเป็นวงเงินหมุนเวียนด้วย อาจจะกู้เงินส่วนนี้มาใช้รึป่าว แต่ที่แน่ๆ ถ้าทำอย่างงั้นจะผิดวัตถุประสงค์นะครับ

ส่วนเพิ่มทุนผมว่าไม่นะครับ เพราะตอนนี้ก็มีทั้ง w2 w3 แล้ว
สำหรับบริษัทนี้ทุกท่านน่าจะทราบที่ว่าการรับรู้ หรือเริ่มงานเกี่ยวกับพลังงานลมถูกเลื่อนออกไป การจัดการภายในบริษัทเลยต้องมีการปรับใหม่
ผู้บริษัทอาจกำลังพยายามคิดอะไรซักอย่างอยู่ครับ

ถ้ามีโอกาสฝากถามผู้บริหารด้วยนะครับ

ขอบคุณพี่ครรชิตที่ช่วยยกประเด็นนี้เป็นตัวอย่างครับ
จะได้มีคนช่วยวิเคราะห์
ผมก็นั่งเทียนอยู่เหมือนกัน

น่าจะเกี่ยวกับ วอแรนท์
แล้ว w นี่ก็คือการเพิ่มทุนนั้นแหละ
สุดท้าย ทุกท่านน่าจะเดาได้ว่า ใครได้ประโยชน์

ขอร่วมแสดงความเห็นด้วยคนครับ หากผิดตรงไหนขออภัยด้วยครับ

1. เงินที่นำมาซื้อหุ้นคืน ดูในช่วง Q3
ดูจากหนี้ที่เพิ่มขึ้นจาก งบดุล สิ้น Q2 เป็น Q3 ส่วนที่เปลี่ยนแปลงคือ
1.1 เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน จาก 147 เป็น 349 (+202 ล้านบาท)
1.2 เงินทดรองรับและเงินกู้ยืมระยะสั้น จาก 62 เป็น 142 (+80 ล้านบาท)
รวม 1.1 + 1.2 ประมาณ 282 ล้านบาท
ซึ่ง 1.1 ถ้าเป็นวงเงิน OD ก็แค่เบิกมาใช้ได้เลยเพราะเอนกประสงค์อยู่แล้ว แม้ธนาคารอาจจะอยากให้กู้เพื่อใช้ในการบริหารสภาพคล่องระยะสั้นของกิจการก็ตาม
แต่ถ้าเป็นอย่างอื่นนอกจาก OD ไม่แน่ใจครับ แต่ส่วนตัวคิดว่าถ้าบริษัทจะใช้ผิดวัตถุประสงค์นำไปใช้ซื้อหุ้นคืนก็ทำได้อยู่ดี
แถมธนาคารก็แฮปปี้ได้ดอกเบี้ยไปเรื่อย ขอแค่ชำระคืนให้ได้ก็พอ
ส่วน 1.2 จากใครที่ไม่ใช่แบงก์

ดังนั้นแหล่งที่มาของเงินที่ใช้ซื้อหุ้นคืนน่าจะมาจากช่องทางนี้
(ซึ่งดูการเปลี่ยนแปลงของลูกหนี้การค้ากับสินค้าคงคลัง เงินลงทุน ประกอบก็จะอนุมานว่าเงินไม่ได้ใช้ไปกับสิ่งนั้น)

2. วัตถุประสงค์ของการซื้อหุ้นคืน
ส่วนตัวคิดว่าเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มจากการใช้ w ที่ได้มาให้เกิดประโยชน์มากที่สุดสำหรับผู้ที่ถือ w