สาเหตุที่วันนี้ SET ขึ้นแรง
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 07, 2010 5:06 pm
ธนาคารกลางสหรัฐแย้มอาจต้องอัดฉีดงบกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มอีก สูงกว่า 6 แสนล้านดอลลาร์ตามที่ได้มีการประกาศไปแล้ว
นาย เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวยอมรับว่า การใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง (QE2) ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลนั้น อาจมีมูลค่าสูงกว่า 6 แสนล้านดอลลาร์ตามที่ได้มีการประกาศไปแล้ว นอกจากนี้ สหรัฐฯ อาจจะต้องใช้เวลาถึง 5 ปีกว่าที่อัตราว่างงานของสหรัฐจะลดลงสู่ภาวะปกติ
ประธาน เฟดกล่าวให้สัมภาษณ์กับรายการ "60 Minutes" ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสซึ่งเผยแพร่เมื่อวานนี้ว่า มีความเป็นไปได้อย่างแน่นอนว่า การซื้อพันธบัตรอาจสูงกว่าที่ได้มีการวางแผนไว้ ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของโครงการ QE2 รวมถึงแนวโน้มเงินเฟ้อและเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ในการประชุมเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดประกาศใช้มาตรการ QE2 ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวเพิ่มขึ้นอีก 6 แสนล้านดอลลาร์ โดยจะทยอยเข้าซื้อเดือนละ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ไปจนถึงกลางปีหน้า ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว และเพื่อทำให้ต้นทุนการกู้ยืมลดต่ำลง
การตัดสินใจใช้มาตรการ QE2 ของเฟดได้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในและต่างประเทศ โดยอดีตเจ้าหน้าที่ของพรรครีพับลิกันและนักเศรษฐศาสตร์หลายรายเรียกร้องให้ เฟดยุติโครงการนี้ก่อนกำหนด เนื่องจากเกรงว่ามาตรการดังกล่าวอาจทำให้ค่าของเงินลดลงและเกิดเงินเฟ้อ อีกทั้งยังไม่สามารถส่งเสริมการจ้างงานได้ตามที่มุ่งหวัง
ขณะที่ จีนและเยอรมนีก็แสดงความวิตกว่ามาตรการดังกล่าวอาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
อย่าง ไรก็ตาม เบอร์นันเก้และเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายได้ปกป้องการตัดสินใจใช้มาตรการดัง กล่าว โดยยืนยันว่าการที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายตัดสินใจเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล ระยะยาววงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์นั้น ถือเป็นมาตรการที่จำเป็น และจะไม่ก่อให้เกิดเงินเฟ้อในอนาคต
นอกจากนี้ ในการให้สัมภาษณ์กับรายการโทรทัศน์ชื่อดังของสหรัฐในครั้งนี้ นายเบอร์นันเก้ยังกล่าวถึงอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูงด้วยว่า "ด้วยอัตราว่างงานในขณะนี้ อาจต้องใช้เวลา 4-5 ปี กว่าที่อัตราว่างงานจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติมากกว่านี้ที่ราว 5-6%
อย่าง ไรก็ตาม ประธานเฟดกล่าวว่า เศรษฐกิจไม่น่าจะกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยอีก เนื่องจากเศรษฐกิจในภาคส่วนต่างๆ อาทิ ภาคที่อยู่อาศัยไม่สามารถตกต่ำลงไปได้มากกว่านี้แล้ว ถึงกระนั้น การว่างงานที่อยู่ในระดับสูงเป็นเวลานานอาจทำลายความเชื่อมั่น และกลายเป็นความเสี่ยงสำคัญที่อาจทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงอีกครั้ง
เยอรมนีคาดเศรษฐกิจปีหน้าขยายตัว 2%
ธนาคาร กลางเยอรมนีปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2554 เป็นขยายตัว 2% จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 1.4% และคาดว่าเศรษฐกิจในปี 2555 จะขยายตัว 1.5%
ทั้งนี้ ธนาคารกลางเยอรมนีเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจภายในประเทศจะยังคงขยายตัวได้ดีจนถึงปี 2555 หลังจากที่สามารถฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์การเงินโลกได้ ส่วนในปี 2553 ธนาคารกลางคาดว่าเศรษฐกิจภายในประเทศจะขยายตัวแข็งแกร่งถึง 3.6%
นอก จากนี้ ธนาคารกลางเยอรมนีคาดว่า อุตสาหกรรมส่งออกจะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ในขณะที่อัตราการอุปโภคบริโภคมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และคาดว่าอัตราว่างงานจะยังคงปรับตัวลดลง
สำนักงานสถิติแห่งชาติของ เยอรมนี เปิดเผยว่า จีดีพีของเยอรมนี ขยายตัวเพียง 0.7% ในไตรมาสที่ 3 เมื่อเทียบไตรมาส 2 ที่สามารถขยายตัวได้ถึง 2.3% หลังจากโครงการก่อสร้างหลายแห่งเสร็จสิ้นลง
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของเศรษฐกิจยังอยู่ในระดับที่ดี เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีเสถียรภาพมากขึ้น ในขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจขยายตัวขึ้นในเดือนพฤศจิกายน
นาย เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวยอมรับว่า การใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง (QE2) ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลนั้น อาจมีมูลค่าสูงกว่า 6 แสนล้านดอลลาร์ตามที่ได้มีการประกาศไปแล้ว นอกจากนี้ สหรัฐฯ อาจจะต้องใช้เวลาถึง 5 ปีกว่าที่อัตราว่างงานของสหรัฐจะลดลงสู่ภาวะปกติ
ประธาน เฟดกล่าวให้สัมภาษณ์กับรายการ "60 Minutes" ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสซึ่งเผยแพร่เมื่อวานนี้ว่า มีความเป็นไปได้อย่างแน่นอนว่า การซื้อพันธบัตรอาจสูงกว่าที่ได้มีการวางแผนไว้ ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของโครงการ QE2 รวมถึงแนวโน้มเงินเฟ้อและเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ในการประชุมเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดประกาศใช้มาตรการ QE2 ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวเพิ่มขึ้นอีก 6 แสนล้านดอลลาร์ โดยจะทยอยเข้าซื้อเดือนละ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ไปจนถึงกลางปีหน้า ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว และเพื่อทำให้ต้นทุนการกู้ยืมลดต่ำลง
การตัดสินใจใช้มาตรการ QE2 ของเฟดได้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในและต่างประเทศ โดยอดีตเจ้าหน้าที่ของพรรครีพับลิกันและนักเศรษฐศาสตร์หลายรายเรียกร้องให้ เฟดยุติโครงการนี้ก่อนกำหนด เนื่องจากเกรงว่ามาตรการดังกล่าวอาจทำให้ค่าของเงินลดลงและเกิดเงินเฟ้อ อีกทั้งยังไม่สามารถส่งเสริมการจ้างงานได้ตามที่มุ่งหวัง
ขณะที่ จีนและเยอรมนีก็แสดงความวิตกว่ามาตรการดังกล่าวอาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
อย่าง ไรก็ตาม เบอร์นันเก้และเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายได้ปกป้องการตัดสินใจใช้มาตรการดัง กล่าว โดยยืนยันว่าการที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายตัดสินใจเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล ระยะยาววงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์นั้น ถือเป็นมาตรการที่จำเป็น และจะไม่ก่อให้เกิดเงินเฟ้อในอนาคต
นอกจากนี้ ในการให้สัมภาษณ์กับรายการโทรทัศน์ชื่อดังของสหรัฐในครั้งนี้ นายเบอร์นันเก้ยังกล่าวถึงอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูงด้วยว่า "ด้วยอัตราว่างงานในขณะนี้ อาจต้องใช้เวลา 4-5 ปี กว่าที่อัตราว่างงานจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติมากกว่านี้ที่ราว 5-6%
อย่าง ไรก็ตาม ประธานเฟดกล่าวว่า เศรษฐกิจไม่น่าจะกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยอีก เนื่องจากเศรษฐกิจในภาคส่วนต่างๆ อาทิ ภาคที่อยู่อาศัยไม่สามารถตกต่ำลงไปได้มากกว่านี้แล้ว ถึงกระนั้น การว่างงานที่อยู่ในระดับสูงเป็นเวลานานอาจทำลายความเชื่อมั่น และกลายเป็นความเสี่ยงสำคัญที่อาจทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงอีกครั้ง
เยอรมนีคาดเศรษฐกิจปีหน้าขยายตัว 2%
ธนาคาร กลางเยอรมนีปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2554 เป็นขยายตัว 2% จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 1.4% และคาดว่าเศรษฐกิจในปี 2555 จะขยายตัว 1.5%
ทั้งนี้ ธนาคารกลางเยอรมนีเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจภายในประเทศจะยังคงขยายตัวได้ดีจนถึงปี 2555 หลังจากที่สามารถฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์การเงินโลกได้ ส่วนในปี 2553 ธนาคารกลางคาดว่าเศรษฐกิจภายในประเทศจะขยายตัวแข็งแกร่งถึง 3.6%
นอก จากนี้ ธนาคารกลางเยอรมนีคาดว่า อุตสาหกรรมส่งออกจะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ในขณะที่อัตราการอุปโภคบริโภคมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และคาดว่าอัตราว่างงานจะยังคงปรับตัวลดลง
สำนักงานสถิติแห่งชาติของ เยอรมนี เปิดเผยว่า จีดีพีของเยอรมนี ขยายตัวเพียง 0.7% ในไตรมาสที่ 3 เมื่อเทียบไตรมาส 2 ที่สามารถขยายตัวได้ถึง 2.3% หลังจากโครงการก่อสร้างหลายแห่งเสร็จสิ้นลง
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของเศรษฐกิจยังอยู่ในระดับที่ดี เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีเสถียรภาพมากขึ้น ในขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจขยายตัวขึ้นในเดือนพฤศจิกายน