Thai VI

จากhttp://www.set.or.th/setresearch/files/ ... tation.pdfประเด็นที่น่าสน ที่ผมอ่านแล้วจับได้(ถ้ามีเวลาแนะนำให้อ่านเอง จะได้ข้อมูลที่ไม่ผิดเพี้ยนกว่าครับ)

โจทย์ รายย่อย ที่เจ๊งกับที่กำไร มีวิธีลงทุนต่างกันยังไง
จะได้เดาได้ว่า key to success คืออะไร (หน้า2ของ power point ข้างบน)

1.พวกเจ๊ง ซื้อขายมากครั้ง(ห.11)
2.พวกเจ๊ง เน้นข่าวลือ(ห.12)
3.พวกเจ๊ง ไม่เน้น macroeconomics, fundamental และ technical (ห.13)
4.พวกเจ๊ง ไม่เน้นทยอยซื้อขาย(ห.14,18)
5.พวกเจ๊ง ชอบเล่นหุ้นมีสภาพคล่องกว่า(ห.15)
6.พวกเจ๊ง ชอบไล่ซื้อ และ เปลี่ยนตัวเล่น(ขายตามใจแล้วหาตัวใหม่)บ่อยกว่า(ห.16)
7.พวกเจ๊ง ไม่เน้นทบทวนผลงาน(ห.21)
8.* พวกเจ๊ง ไม่ศึกษา ไม่วางแผน ซื้อขายไร้หลักการ ไม่ทบทวนผลงาน ไม่สม่ำเสมอ(ห.23)
9.* ปัญหาของทั้งกลุ่มเจ๊งและกำไร คือ เข้าถึงข้อมูลน้อย, ข่าวลือ, เน็ตล่ม และบทวิเคราะห์ออกตามหลังราคาวิ่ง(น.24)

ฉบับเต็ม และ และความเห็นต่อการสำรวจ ติดตามได้ที่ http://www.set.or.th/setresearch/symposium_p1.html

ขอบคุณครับ

TERRIBLE RESEARCH...................

ผิดหวังมากครับ.......................

ไม่มีการค้นคว้าแล้วไซร้ มันก็ไม่มีกระจกส่องตัวเอง

มีประเด็นให้ตั้งข้อสังเกตร่วมกันครับ

1.เป็นข้อมูลที่เก็บตั้งแต่ ม.ค.52 - ปัจจุบัน (5 ต.ค. 53) (จากหน้า 3.)
2.เรื่องประสบการณ์การลงทุน กลุ่มตัวอย่างที่มีประสบการณ์ ไม่เกิน 1 ปี ที่กำไร มีมากถึง 22 % ในขณะที่กลุ่มที่ขาดทุน มี 6 % (จากหน้า 4.)
3.ช่วงเวลาที่สำรวจ 11 ส.ค. 53 - 5 ต.ค. 53 (จากหน้า 3.)

แปลว่า คนที่มีประสบการณ์การลงทุนน้อยกว่า 1 ปี เริ่มลงทุน หลังจากวันที่ 11 ส. ค. 52

และในช่วงนั้น เป็นช่วงที่ตลาดตกต่ำ และกำลังปรับตัวขึ้น
ดังนั้น โอกาส ที่ คน 22 % นี้ แค่ โชคดี ก็เป็นไปได้สูงครับ