Thai VI

หลังจากผมและเพื่อนๆเฮฮาปาตี้คุยกัยสนุกสุดเหวี่ยงหลังจากซ้อมรับปริญญาเสร็จ ขากลับก็นั่งแท็กซี่อัดกันไปได้ 5 คน ด้านหลังนี้แน่นมาก บอกจุดหมายปลายทางเสร็จก็คุยกันเฮฮาต่อ พอได้สักพักก็มาคุยเรื่องการลงทุนหุ้นเป็นไง ผมก็เล่าๆไป บางทีก็ใช้คำที่เพื่อนไม่รู้จักก็อธิบายๆไป

สักพักคนขับแท็กซี่ถาม เล่นหุ้นไร ผมก็บอกไป กลุ่มไหน เท่าไหร่ ผมก็บอกไปแล้วคิดในใจว่าจะถามทำไม  แล้วเขาก็ถามต่อ ทุนจดทะเบียนเท่าไหร่ ผมบอกว่าจำไม่ได้  แล้วคนขับแท็กซี่พูด "อะไร เรื่องแค่นี้ไม่รู้ เลิกเล่นเหอะ ล้มละลายหมดแน่" ถึงกับอึ่งกันทั้งขันรถ  ได้ยินนี้เป็นใครก็เคืองสุดๆ  

จังหวะพอดีที่เพื่อนต้องลงระหว่างทาง เพื่อนผมบอกจะลงตรงนี้แล้วนะ  คนขับก็พูดว่า แล้วผมจะรู้เหรอว่าคุณจะลงตรงไหน......

เออเหรอ ขอโทษทีเหอะ ผมจะลงทุนล้มละลายอะไรมันก็เรื่องของผม มีสิทธิอะไรมาก้าวก่ายด้วย อีกอย่างผมแค่ลืมทุนจดทะเบียนบริษัทที่ผมลงทุนไป ถึงขั้นดูถูกเหยียดหยามขนาดนั้นเลยเหรอ ผมไม่ได้มานั่งท่องข้อมูลบริษัทเหมือนท่อง ก-ฮ นะ อีกอย่างผมลงทุนอะไรไปแล้วผมยอมรับความเสี่ยงได้ Single License ก็ผ่านมาแล้ว    หากคุณรู้จริงทำไมไม่ไปเล่นหุ้นละ มาขับทำไม  อีกอย่างคุณพูดงี้เท่ากับหมิ่นประมาท ขับรถไม่สุภาพ มีพยานรู้เห็น 4 คน เอาไหม

นี้คือสิ่งที่ผมคิดไว้ในใจแต่ก็ไม่ได้บ่นออกไป การพูดการจา การไม่ให้เกียรติลูกค้า ดูแล้วเป็นคนที่น่าสมเพชจริงๆ ไม่รู้ว่ามาทำงานด้านบริการได้ยังไง คิดว่าพูดไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมากับคนแบบนี้ เอาเหอะเขาเก่งเขา

อืม.... สิ่งที่น่ากลัวใกล้เข้ามาแล้วจริง ๆ ขนาด TAXI ยังรู้เรื่องหุ้น แสดงว่าตลาดน่าจะใกล้ถึงจุดอิ่มจริง ๆ แล้ว ....

o-bo-ja-ma เขียน:อืม.... สิ่งที่น่ากลัวใกล้เข้ามาแล้วจริง ๆ ขนาด TAXI ยังรู้เรื่องหุ้น แสดงว่าตลาดน่าจะใกล้ถึงจุดอิ่มจริง ๆ แล้ว ....

แต่ผมกลับประหลาดใจว่าทำไมเขาถึงถามถึงทุนจดทะเบียน (ซึ่งโดยปกติผมก็ไม่ค่อยได้ดูหรือจดจำมันซักเท่าไหร่)
ผมว่าตลาดช่วงที่น่ากลัวคือใครๆก็แห่กันมาสนใจหุ้น โดยที่ไม่ได้มีความเข้าใจมากนัก
ผมเลยประหลาดใจว่าทำไมเขาถึงรู้ถึงเรื่องนี้

ก็แล้วแต่บุคคลครับ
บางเรื่องสำคัญสำหรับเขา
แต่ก็ไม่จำเป็นว่าสำคัญสำหรับเรา

ถ้าผมมาเจอโชเฟอร์แบบนี้
ผมก็คงถามเขากลับไปว่า
ถ้าผมรู้ทุนจดทะเบียนแล้ว
ผมจะไม่มีทางขาดทุนเหรอ ?

ถ้าเขาจะอวดฉลาด
ก็ให้เขาอวดไปครับ
แทนที่จะหัวเสีย
ผมว่าเป็นโอกาสได้แลกเปลี่ยนเรื่องการลงทุนครับ
ว่าเขาคิดอย่างไร ?

ปล.
ผมว่าเราต้องยอมรับความจริงอย่างนึง
ว่ามีคนหลายประเภทอยู่ในสังคม
ตลาดทุนก็เช่นเดียวกันครับ

พี่เขาคงเคยเจ็บมาก่อน เลยฝังใจมังครับ

อยากเจอแท็กซี่แบบนี้จัง

จะได้สัมภาษณ์ พี่เขาบ้าง ว่า สนใจ เพราะอะไร

ขึ้นทีไร คุยแต่สีเสื้อ ทั้งกะปี โค ระ ตะ จะเซ็ง เลย

เจอเซลล์ ก้อบอกว่าหุ้นขึ้นเด๋วก้อลงระวัง โอ้มายก๊อด ทั้งทีตัวเองไม่เคยเล่นหุ้น

ผมละไม่อยากทำให้เสียกำลังใจ กะจะสวนกลับไปแหล่ะ ถ้าพี่เล่นผมก้อเลิกแล้ว ง่ะ อิอิอิอิ

หรือว่า.... ที่เค้ามาขับแท๊กซี่เพราะเจ๊งหุ้นมา แล้วเค้าจำทุนจดทะเบียนหุ้นของบริษัทที่เค้าซื้อมาไม่ได้  :lol:

มีความจำเป็นที่จะต้องจำจำนวนทุนจดทะเบียนด้วยหรือครับ >?
แล้วพี่เพื่อนๆ จำกันไหมครับ ?

แค่จำว่าซื้อมันที่ต้นทุนเท่าไหร่ยังจะจำไม่ค่อยจะได้ นับประสา

[quote="sakura525"]สักพักคนขับแท็กซี่ถาม เล่นหุ้นไร ผมก็บอกไป กลุ่มไหน เท่าไหร่ ผมก็บอกไปแล้วคิดในใจว่าจะถามทำไม

simplelife เขียน: เดจาวูนิดๆ เพราะจำได้ว่าเคยมี กระูทู้คล้ายๆอย่างนี้ งง จริงๆ บอร์ดนี้มันอะไรกันนักหนากับอาชีพต่างๆ อย่าไปดูหมิ่นคนอื่นเลยครับ ว่าเขาเงินน้อยความรู้น้อยเลยต้องมาทำงานแบบไม่ค่อยมีเกียรติ ผมเคยได้ยินเพื่อนๆบางคนที่ฐานะค่อนข้างดี (เงินเยอะ ไม่ใช่เงินเดือนเยอะ) ก็เคยคิดว่าจะไปขับแท็กซี่เล่นเหมือนกัน แค่วันละ 500- ได้คุยกับคนโน้นคนนี้ ขับรถขับไปขับมาเล่นๆ คนไหนไม่น่ารับก็ไม่รับ กลัวแค่โดนปล้นแค่นั้นเอง เอ.. หรือว่าแท็กซี่คนนี้เป็นเพื่อนเราหว่า...

ผมก็ไม่ได้ดูหมิ่นเขาหรอกครับ แต่ผมเชื่อว่าคนที่พูดจาดูถูกคนอื่นมันไม่เจริญหรอก มาไงคืนงั้น กรรมตามสนองครับ  อยู่ดีๆโดนดูหมิ่นระยะเผาขนมันไม่เคืองเหรอครับ ยิ่งงานบริการงี้ด้วย

ปล่อยวางแล้วความสงบจะเข้ามาครับ เมื่อเราพูดเราจะไม่ได้ยินคนอื่นเราจะได้ยินแต่เสียตัวเอง แต่ถ้าเราเงียบเราจะได้ยินทุกเสียงแม้กระทั่งเสียงแมลงวันบิน ผมว่าเราควรปล่อยบ้างครับ สมัยนี้คนโกรธแค้นกันมากพอแล้ว เราไม่โกรธไม่แค้นไม่สนองอารมณ์ตัวเองผมว่าสังคมน่าอยู่ขึ้นนะครับ