Thai VI

ตามความคิดของ VI ท่านคิดว่าการลงของหุ้นในเวลานี้ ....

"เป็นการลงที่สมเหตุสมผล หรือ ไม่สมเหตุสมผลครับ"

ขอความเห็นด้วยครับ

รู้สึกว่า VI ตัวจริงจะไปเที่ยวกันหมดครับคุณคัดท้าย

ผมว่าชาว VI ไม่ค่อยสนใจ P/E P/BV ของตลาดนะครับ จะดูเป็น
ตัวๆ เทียบกับอุตสาหกรรมและคู่แข่ง (ทั้งในและนอกตลาด) มาก
กว่านะครับ

ส่วนราคาหุ้นตอนนี้ ผมว่าไม่ได้แพงมาก แต่ไม่ได้ถูกเสียทีเดียว
ตอนถูกๆ น่ะ ต้นปีที่แล้วครับ

CK เขียน:รู้สึกว่า VI ตัวจริงจะไปเที่ยวกันหมดครับคุณคัดท้าย

ผมว่าชาว VI ไม่ค่อยสนใจ P/E P/BV ของตลาดนะครับ จะดูเป็น
ตัวๆ เทียบกับอุตสาหกรรมและคู่แข่ง (ทั้งในและนอกตลาด) มาก
กว่านะครับ

ส่วนราคาหุ้นตอนนี้ ผมว่าไม่ได้แพงมาก แต่ไม่ได้ถูกเสียทีเดียว
ตอนถูกๆ น่ะ ต้นปีที่แล้วครับ

ขอบคุณมากครับ ผมนึกว่า VI ตัวจริงต้องรอซื้อหุ้นตอนตลาด ตกๆ ซะอีก ตอนนี้ไปเที่ยวกัน แสดงว่ายังไม่ถูกพอ

ผมว่ามันก็ไม่ได้ถูกจริงๆ แต่บางตัวก็ถูกนะครับ บางตัวก็แพง แต่ว่าเวลาลง ลงเหมือนกันหมดเลย แถมบางทีตัวที่แพงกลับไม่ลงแหนะ 5555

แล้วอย่างนี้ หุ้นตัวที่ถูกนี่เริ่มเก็บได้หรือยังครับ กลัวว่าจะแบบมีถูกแล้วมีถูกกว่า ถูกมากกว่า ถูกกว่าของถูกกว่า ถูกเสียยิ่งกว่าถูก .. ถูกจนน้ำลายฟูมปาก ฯลฯ ... :lol:

อยากเจอแบบถูกจนน้ำลายฟูมปากเหมือนกันครับ แต่กลัวจะไปเจอ
แบบของฟรีน่ะครับ แบบแจกฟรีก็ไม่มีใครเอาเหมือนพวกไฟแนนซ์เมื่อ
หลายปีก่อนอ่ะ

PSL กำไร 1.2 บาทใน Q1 ครับ

CK เขียน:อยากเจอแบบถูกจนน้ำลายฟูมปากเหมือนกันครับ แต่กลัวจะไปเจอ
แบบของฟรีน่ะครับ แบบแจกฟรีก็ไม่มีใครเอาเหมือนพวกไฟแนนซ์เมื่อ
หลายปีก่อนอ่ะ

PSL กำไร 1.2 บาทใน Q1 ครับ

ผมว่าน้อยกว่าที่หลายๆคนคาดกันนะครับ แต่ก็ไม่ถึงกับน่าเกลียด

คัดท้าย เขียน: ผมว่าน้อยกว่าที่หลายๆคนคาดกันนะครับ แต่ก็ไม่ถึงกับน่าเกลียด

พอดีมีบันทึกค่าใช้จ่ายทางการเงิน ประมาณ 200 ล้านน่ะครับ เลยทำให้ดูน้อยกว่าที่โบรกคาดไว้ แต่ใครที่ตามใกล้ชิด ถือว่าดีกว่าที่คาดซะอีกนะครับ

VI ทั้งหลายแหล่สงสัยกำลังทำงานหาเงินมาซื้อของถูกต่อ ตอนนี้เลยไม่ค่อยเห็นกันเท่าไหร่

แหม ผมเองก็ไม่ใช่ VI ตัวจริงเท่าไหร่ มีร้อนมีหนาวตอนหุ้นตกเหมือนกัล ก็เลยไม่รู้จะพูดว่าไง แต่ความเห็นส่
หุ้นบางตัวก็มีเหตุผล บางตัวก็ไม่มีเหตุผล ครับ

แต่เหตุผลของคนนึงๆ อาจจะไม่เหมือนกับอีกคนก็ได้ เพราะพอพูดถึงราคาถูก ราคาแพง มันต้องไปเทียบกับมูลค่าที่แท้จริงและ Margin of safety ที่ทุกคนสามารถรับได้ในหุ้นแต่ละตัว ซึ่งแต่ละตัวก็มี margin of safety ที่อยากได้ไม่เท่ากันอีก เช่นถ้าผมรู้ดีและคิดว่ากะได้แม่นยำ margin of safety ก็น้อยกว่า ตัวที่ผมเดาอนาคตได้ยากคับ

เช่น หุ้น ปูนใหญ่ ผมว่าถูกกว่าพื้นฐานแต่ผมก็ไม่ค่อยมั่นใจจะซื้อเพราะผมเดาอนาคตไม่ได้ครับว่าปิโตรเคมีจะเป็นยังไงใน 1-2 ปีต่อจากนี้ ก็เลยยังดูอยู่ว่ามันจะลงไปถึงไหน

เช่น หุ้น ASTL ผมว่าผมพอเดาอนาคตตัวนี้ได้พอควร แต่ปัญหาคือมันยังลงไปยังต่ำไม่พอ กับผลตอบแทนที่ผมคิดว่าควรได้ผมก็เลยรออยู่ (มีรับแบบช้อนหักมาบ้างพอหายอยาก)

สรุปก็เลยอยู่เฉยๆ ครับช่วงนี้

รบกวนถามพี่ ayethebing ด้วยครับว่า

แนวโน้วในอนาคต(ของการทำกำไร)ของ ASTL ที่พี่คิดไว้เป็นอย่างไร

ผมกะจะถือยาวอีก 2-3 ปีครับ

ต้นทุนของผมต่ำกว่าราคาปิดวันนี้ 224 ประมาณ 25 %

ไม่รู้จะถูกจนพี่ สนใจหรือปล่าวครับ :lol:

ตอนนี้ราคาหุ้นหลายๆตัว เริ่มกลับไปประมาณ สิงหา กันยา ตุลา .. ปีที่แล้วแล้วครับ เหอๆๆ :lol:

เรื่องนี้มันก็พูดยากนะครับ

การลงทุนในอะไรก็ตาม เป็นเรื่องสัมพัทธ์นะ มันบอกไม่ได้หรอกว่าหุ้นตัวไหน
ถูก หรือ แพง ถ้ามีหุ้นอยู่ตัวเดียวในโลก

และก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าหุ้นทั้งตลาดที่ PE PB ขนาดนี้มันถูกหรือแพง ถ้าทั้งโลกนี้มีตลาดหุ้นไทยอยู่ที่เดียว

ผมเชื่อในคำพูดของคุณ Rock นะ ที่แกเคยบอกว่าหุ้นไม่มีมูลค่าที่แท้จริง ลองคิดดู ทำไมหุ้น DJ ซื้อขายกัน PE 20 ที่ญี่ปุ่น PE 30 เมืองไทย PE 15 ก็แพงแล้ว ... ถ้าดูกันตรงนี้ผมว่าความเสี่ยงน่าจะเป็นปัจจัยที่สำคัญที่เดียว ...

ถ้ามีคนเอาหุ้นของบริษัทหนึ่ง PE 6 กระแสเงินสดดีมาก ไม่มีหนี้เลย คุณว่าน่าซื้อมั้ย ... แต่ถ้าในขณะนั้นมีธนาคารหนึ่งให้ดอกเบี้ย 15% ล่ะ ผมว่า ผมคงเปลี่ยนใจนะ ... แต่ถ้ามีข่าวอีกล่ะ ว่าแบงค์ที่ผมเอาเงินไปฝาก มีคนแห่กันไปถอนมากมาย ... อืมคงคิดหนักเหมือนกัน

สุดท้าย ผมว่าหุ้นที่ PE 10 ถ้ากลับข้างกันก็คือ 10% หักค่าความเสี่ยงซัก 4% (ช่วงนี้อาจจะต้องหักมากกว่าเดิม :lol: )เหลือ 6% มันก็น่าจะเป็นการลงทุนที่ดีกว่าเอาไปฝากแบงค์ หรือก็น่าจะใกล้เคียงกับการซื้อกองทุนตราสารหนี้ (ได้ 4-5%) ในขณะนี้นะ

ของผมวันศุกร์ราคาปิดดูดีเชียวครับ
มาวันนี้โดนซะเละเลยครับ ท่านคัดท้าย
พรุ่งนี้คงหลุด 600 แล้วละครับ

คัดท้าย เขียน:อ้าว ถ้าไม่สมเหตุสมผลก็น่าซื้อใช่มั้ย ? แต่ถ้าสมเหตุสมผลเราก็จะได้ขายไง ...

มีใครบอกได้มั้ยครับ ? แล้ว P/E P/BV ที่เหมาะสมที่ตลาดควรจะเป็นอยู่ที่เท่าไหร่ครับ ?

ไม่รู้ว่าตัวผมเองเป็น VI หรือเปล่านะครับ
แต่ดีใจที่คุณคัดท้ายมาโพสที่นี่บ่อยๆ

"P/E P/BV ที่เหมาะสมที่ตลาดควรจะเป็นอยู่ที่เท่าไหร่"
ผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน
และไม่เคยคิดหาคำตอบเลยครับ

ถามว่าตอนนี้ลงทุนได้หรือยัง
ในความเห็นของผม ผมคิดว่า
"ไม่มีใครซื้อหุ้นได้ต่ำที่สุด และไม่มีใครขายหุ้นได้สูงที่สุดตลอดเวลา"
ดังนั้น ในฐานะนักลงทุนระยะยาว
ผมยอมรับ"ความเสี่ยง"ที่"ราคาหุ้น"ที่ผมถืออยู่ตกต่ำไปได้ตราบใดที่"พื้นฐานธุรกิจ"ยังดีอยู่

และผมก็ไม่รู้ว่าจุดต่ำสุดของ"ราคา"มันอยู่ที่ไหน
ดังน้น ถ้าเรามั่นใจในการวิเคาระห์ของเรา
และเรามองอนาคตของบริษัทนั้นได้ไกลพอสมควร
"ราคา"หุ้นที่ลดลงคือ"โอกาส"ในการเป็นเจ้าของธุรกิจในราคาที่ถูกลงครับ

ข้อแม้เดียวก็คือ ทนนั่งดูราคาหุ้นลดลงทุกวันโดยไม่ทำอะไรเลยได้หรือเปล่า
ถ้าทำไม่ได้ อย่าซื้อหุ้นครับ
ถ้าทำได้ ก็ทยอยสะสมหุ้นดีๆเข้าพอร์ต อย่าพลีพลามฟาดที่เดียวหมด เดี๋ยวจะอดได้ของดีราคาถูกกว่า

ข้อแม้ที่สอง คือ กล้าถือยาวเป็นปีหรือเปล่า
ถ้าทำได้ เวลาจะช่วยรักษาแผลใจครับ
แต่ถ้าไม่กล้าถือยาว อย่าซื้อหุ้นครับ อันตราย

ตอนนี้ดัชนีลดลงทุกวัน เป็นทั้ง"วิกฤต" และ "โอกาส" ครับ

ตอนนี้ผมรองบการเงินไตรมาสแรกออกก่อน ว่าจะไปทางไหน ตัวที่ดีก็จะซื้อเพิ่ม เพราะของผมนี่แดงหมด แต่ถ้าเทียบเป็นผลตอบแทนกี่เปอร์เซ็นต์กับปี 46 ก็ได้ 6-8% ก็ยังพอใจ แต่ถ้าเก็บเพิ่มไปในราคาที่ลงหนักๆแบบนี้ อาจได้ถึง 9-11% ได้ ก็รออยู่ว่าจะลงไปถึงไหน จะได้เก็บทีเดียว

คุณ VIB007 พูดได้ประทับใจดีครับ

ตอนนี้รอดูสถานการณ์ ครับว่าจะลงไปถึงเท่าไหร่ แต่เห็นเริ่มมีกองทุนช้อนซื้อแล้วนะ

ขอบคุณทุกๆท่าน ทุกๆความเห็นครับ วันนี้รายย่อยรับเต็มๆอีกแล้ว

ฝรั่งขาย 5 พันล้านนนน ....

รายย่อย ซื้อ 13,037.34 ขาย 9,772.11
ต่างประเทศ ซื้อ 3,732.00 ขาย 8,767.43
สถาบัน ซื้อ 4,134.62 ขาย 2,364.42


เห็นคุณดัชนีไทย ที่ taladhoon.com เค้าคำนวนว่า ฝรั่งขายได้ อีก 10 เดือน ของจะหมด !!!!

10 เดือน !!!! :lol:


อืม ผมต้องเตรียมกระสุน ... ไว้เยอะๆ

set ลงซะจนไม่อยากดู port ของตัวเอง ตัวที่แดงหนักๆเห็นจะเป็น TPC เพิ่งซื้อหลังประกาศผลประกอบการ วันนี้เขาบอกว่าเป็น black monday พี่ๆช่วยเล่า black monday ให้ฟังหน่อยสิคะ ตอนนั้นหนูยังวิ่งเล่นขายของอยู่เลย แล้วก้อถามพี่ๆที่ซื้อหุ้น value ไว้แล้วราคาลงมากๆๆๆจนติดลบ รู้สึกอย่างไรบ้างคะ อดทนไม่หวั่นไหว หรือ หวั่นไหวแต่ต้องอดทน หรือ ไม่อดทนและหวั่นไหว (คือขายทิ้งค่ะ)

ผมถามครับ พี่ๆเพื่อนๆว่า หุ้น Big Cap ของไทยเรา ณ วันนี้ แพงไปเกินจะถือหรือไม่ครับ

SCC, SHIN, KBANK, SCB, KTB, BBL, ADVANC, AOT, ATC, TOC, NPC, TPI, TPIPL, PTT, ...., etc.

แพงไปหรือเปล่าที่จะถือ ?

ที่ถามนี่คือ ผมอยากจะประเมินว่า หุ้นไทย น่าจะลงไปประมาณเท่าไหร่ เราถึงจะเข้าซื้อได้

ทำไมผมถามอย่างนี้ ?

เหตุผลเพราะจริงๆ ดัชนี SET จะขึ้นจะลง เป็นเพราะเจ้ายักษ์พวกนี้ครับ ไม่ใช่เพราะเจ้าพวกหุ้นตัวเล็กตัวน้อย
นี่เป็นเหตุที่ว่า ทำไมเค้าโยนไม้ละ 100 ใน Big Cap พร้อมๆกันครับ อยากให้ลงก็เอา Big Cap ลง อยากให้ขึ้นก็เอา Big Cap ขึ้น

ทีนี้ คนที่เป็น VS หรือ VI ก็แล้วแต่ ถ้าจะเก็บหุ้น ก็ควรเก็บหุ้นเมื่อ SET เริ่มหยุดลง ก็จะได้ราคาที่ดี อย่างน้อยก็ไม่ต้องทรมาณถือหุ้นแบบ พอร์ตแดงเถือกไปนานๆ

ผมเชื่อว่าหุ้น ถ้ามันถูกพอ ย่อมมีคนอยากได้ ทีนี้ ถ้าดูหุ้น Big Cap มันก็น่าจะมีคนอยากได้ ถ้ามันถูกพอ ถ้าเราคิดว่าฝรั่งมันขายหุ้นเลยตก ...
ใช่ ฝรั่งขาย แต่ฝรั่งไม่ได้มีกลุ่มเดียว และไม่ได้คิดเหมือนกันด้วย มันต้องมีฝรั่งที่คอยซื้อหุ้นดีๆถูกๆ และถ้าหุ้นมันถูกพอ มันก็จะสามารถเรียกผู้ซื้อเข้ามาได้ ไอ้คนขายมันก็จะหยุดขายเพราะเสียของ

ปัญหาคือ ที่เท่าไหร่จึงจะถูกพอครับ อยากให้พี่ๆ เพื่อนๆ ที่มีความรู้ช่วยประเมิน Big Cap ของไทยให้หน่อยครับ

ผมว่าจะให้บอกเป๊ะๆว่าเท่าไหร่ถูก เท่าไหร่แพง
จะลงต่อไปจนถึงไหน
คงบอกไม่ได้ครับ
แต่ถ้าถามว่าscc ptt pttep egcomp kbank bbl ...
pe5-6 อย่างนี้ถูกสุดๆ
ถ้าลงมาถึงขนาดนี้
ผมถอนเงินฝากมาเก็บจนหมดพอร์ตแน่นอน
จะลงต่อก็ช่างมัน

ตอนนี้big cap. peประมาณ10
ยิ่งลงมายิ่งดี
โดยเฉพาะตัวที่มีปันผลสม่ำเสมอซัก3%
ยังไงๆก็ดีกว่าฝากแบ้งอยู่ดี

ผมคิดว่า VI กำลังทำการบ้านว่าหุ้นตัวไหนที่น่าลงทุนระยะยาว และจังหวะนี้เป็นจังหวะปรับฐาน ไม่ได้เป็นจังหวะว่าเศรษฐกิจจะฟุบยาว

จังหวะปรับฐาน วอเรน บอกว่า คุณมีโอกาสในการซื้อหุ้นพื้นฐานดีราคาถูก

ยิ่งมีข่าวร้ายผสมด้วยยิ่งดี เพราะจะทำให้ราคาหุ้นลงเกินจริง

แต่สิ่งที่สำคัญวอเรนบอกว่า ให้ซื้อเป็นคนสุดท้ายของโลก

อิอิ

VI มองเป็นตัวๆ แม้แต่หุ้นพื้นฐานดี ช่วงนี้ราคาก็ลงครับ แต่อาจจะค่อยๆลง

ถ้าข่าวร้ายยังมีมาก แต่พื้นฐานของตัวหุ้นดี พื้นฐานเศรษฐกิจยังดี

เวลาลากขึ้นก็ขึ้นเร็วจนกระทั่งซื้อไม่ได้เหมือนกัน

โดยส่วนตัวพี่แล้ว พี่เลิกเป็น VI เดือน 10 ปีที่แล้ว เพราะราคาหุ้น ขึ้นเกินพื้นฐานไปมาก ไม่ค่อยมีตัวที่จะซื้อแล้วถือยาว

ตอนนั้นพยายามซื้อ PTT ซึ่งก็ขึ้นเร็วเหลือเกิน ขึ้นแล้วก็ไม่ยอมลง

พี่ก็เลยเลิกเป็น VI เพื่อรอจังหวะวันนี้แหละครับ