Thai VI

ผมสนใจจะลงทุนในหุ้นจีนผ่านกองทุนรวม เพราะมองว่าหุ้นจีนและหุ้นไทยตกพร้อมๆกันหลังวิกฤติ subprime แต่ตอนนี้หุ้นไทยขึ้นกลับมาและเกินกว่าก่อน subprime ด้วยซ้ำ ในขณะที่หุ้นจีนยังไม่ไปไหน ถ้าเราลงทุนแบบสม่ำเสมอไปเรื่อยๆ 3 ปี, 5 ปี หรือ มากกว่า 10 ปี ตามแนวทาง VI จะเป็นไปได้ไหมที่เราจะประสบความสำเร็จ

พอดีกำลังหากองทุนที่ลงทุนในหุ้นจีนอยู่
มีใครลงทุนในกองพวกนี้บ้างคะ  AYFCHINA  K-CHINA  ONE-CHINA แล้วเป็นอย่างไรบ้าง

ทราบแต่กองทุน K-CHINA เพราะปีที่แล้วลองเสี่ยงซื้อไว้จำนวนหนึ่ง ตอนที่เขาทำการเสนอขายครั้งแรก, NAV = 10.00

มาตอนนี้ครบ 1 ปีพอดี .... ล่าสุดเมื่อวันที่ 4/11/53, NAV = 11.4733

ลิ้งค์ข้างล่างเป็น fund fact sheet ของกองทุนนี้
http://www.kasikornasset.com/TH/FundDoc ... -CHINA.pdf

ลองพิจารณาดูเอาเองแล้วกันนะ

บริษัทกองทุนรวมในไทย ไม่มีบริษัทไหนลงทุนโดยตรง
ไม่มีมืออาชีพเลย
ต้องลงทุนผ่านกองทุนต่างประเทศ
มักจะจับช่วงจังหวะพลาด เข้าตอนกำลังจะพีคทั้งนั้น
ผลคือติดลบ
ไปดูผลดำเนินงานได้ กองทุน FIF ของทุกกองรวมกัน ยกเว้นทองคำ ตัวแดงเกิน 80%
เขาได้เงินดูแลกองทุน แต่ผู้ลงทุนขาดทุน
ผมซื้อ TMB china ราคา ipo 10 บาท ตอนนี้เพิ่งผงกหัวพ้น 5 บาท
ขมขื่นจริงๆ
ความเห็นผม ในไทยยังมีกองทุนที่ลงทุนได้อีกเยอะ
อย่าไปตะกายหาสิ่งที่เราไม่รู้เลย อยู่กับสิ่งที่เราดูแลได้ดีกว่า

เรามีโอกาสเลือกจังหวะซื้อเอง ไม่ต้องซื้อตอน IPO ก็ได้
สนใจกองทุนจีนเพราะมองว่าอีก 10-20 ปีข้างหน้า จีนก็ยังยิ่งใหญ่
เคยซื้อกองทุนรวงข้าวของกสิกรนานแล้ว10 บาท เจอฟองสบู่เหลือ 3 บาท

บ้านเรากองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นจีนเป็น feeder fund ทั้งหมด

ผมเลือกกองที่คิดค่าธรรมเนียมถูกที่สุด

A-share  TMBCHEQ
H-share  AYFCHINA

ผมก็มี TMB China Equity Index ที่ราคา IPO เหมือนกัน ลงทุนไปแปดแสนกว่าในครั้งเดียว ตอนนี้ NAV เหลือไม่ถึง 5 บาท ความเห็นผมก็เหมือนด้านบนคือ กองทุนจับจังหวะลงทุนผิด หรือไม่ก็ไม่ดูจังหวะเลย อะไรที่กำลังฮิตก็ออกมา ถ้าเราไว้ใจไม่พิจารณาเองให้ดี ก็จะติดดอยเหมือนกับผม แต่ผมก็ยังไม่ถอดใจ คิดเหมือนกับด้านบนอีกเช่นกันว่าต้องจับจังหวะเองให้ถูก จึงคิดจะลงเพิ่มในหุ้นจีน แบบสม่ำเสมอเท่าๆกันทุกเดือน แต่จะเปลี่ยนไปลงกับ Aberdeen Chaina Gateway แทน

แล้ว ETF ที่ลงทุนในหุ้นจีนของ KTAM  หละครับมันต่างกันยังไงครับ?

เท่าที่ทราบ KTAM จะลงใน A-Share เหมือน TMB ต่างกันที่ KTAM เป็น ETF
ส่วนของกองทุนอื่น จะลงใน H-Share ทั้งหมด
ลองศึกษาข้อดี-ข้อเสียดูก่อน
แต่ที่ผมเห็น A-Share ไม่ค่อยขึ้น เอาแต่ลง

ปัญหาของกองทุนที่ไปลงทุนในต่างประเทศนี่ เข้าใจว่ากองทุนบ้านเราไปลงทุนในกองทุนบ้านเค้าอีกที อย่างงี้ก็เสียค่าธรรมเนียม 2 เด้ง ทั้งบ้านเราและบ้านเค้า และคิดว่า บางกองทุนปริมาณซื้อขายไม่เยอะ ทำให้ค่าการจัดการแพง ปีละ 2-3% ก็ยังมี แบบนี้ถ้าถือยาวมันจะเหลือหรอคับ ถ้าตลาดต่างประเทศไม่ outperform จิงจิง ถ้าอย่าง k-oil, k-gold ก็ยังดี คนนิยมซื้อเยอะ ค่าธรรมเนียมเลยถูก

ขอบคุณทุกความคิดเห็น ผมก็เกือบไป พอได้อ่านเลยชะงักก่อนครับ

ถ้าจะลงทุนผ่านกองทุนรวมแนะนำ Fidelity China Special Situation Fund บริหารโดย Anthony Bolton
ซึ่งเป็นสุดยอดตำนานผู้บริหารกองทุนฝั่งยุโรป เฉลี่ยผลตอบแทนทบต้น 19.5% ต่อปี ระยะเวลา 28 ปี
ท่านปรมาจารย์ เพิ่งย้ายมาประจำที่ฮ่องกงต้นปีนี้ และเมื่อเร็วๆนี้ ได้จัดงานสัมนาเกี่ยวกับตลาดหุ้นจีนซึ่ง
น่าสนใจมาก ถ้าจะลงทุนต้องซื้อที่ตลาดลอนดอนผ่านบริษัทหลักทรัพย์ที่สามารถซื้อขายหุ้นต่างประเทศ

<https://www.fidelity.co.uk/investor/res ... tions.page>

กองทุนที่ท่านปรมาจารย์บริหารถือหุุ้นบริษัทขนาดกลางและเล็กเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จดทะเบียนที่ฮ่องกง
(H share) และเน้นไปที่ภาคบริการ เนื่องจากนโยบายจีน 5 ปี (2011-2016) จะเปลี่ยนโหมดการเติบโตโดยเน้น
ไปที่การบริโภคภายในประเทศมากขึ้น

ยังเหลือใครลงทุนtmb china equity index fundบ้างครับ ตอนนี้nav=3.8เองครับ

1. เคยลงทุน TISCO OIL FUND IPO 10 baths WTI = 65 US ปัจจุบัน WTI = 96 NAV = 9.8 ลงมากว่าทำไม
2. หุ้นจีนตกขนาดนี้เลยหรือหรือ NAV ของ FUND Underperform
หาคำตอบยาก...

ข้อไม่ดีของเขาคือไม่มีปันผลครับ