Thai VI

จริงหรือป่าวคับที่วอร์เรน บัพเฟตเคยซื้อหุ้นตัวนึง แล้วผ่านไปปีราคาลงไปเกือบครึ่ง เค้าทนได้ยังงัยคับ ถ้าเป็นวีไออย่างท่านจะทนได้รึป่าวคับ ส่วนตัวผมว่ามันทรมานนะ ถึงจะบอกว่าดูที่ตัวกิจการ ไม่ได้ดูที่ราคาก็เถอะ แต่มันทำใจยากนะถ้าเกิดกับท่าน ท่านจะผ่านมันไปได้อย่างไร จะมีคำถามเกิดขึ้นในใจรึป่าว เช่น เราเลือกหุ้นผิดรึป่าว,ผู้บริหารมีธรรมาภิบาลรึป่าว, มีข้อมูลที่เราไม่รู้รึป่าว และอื่นอื่นที่เราจะจินตนาการในทางไม่ดี  :D

ผมอาจจะฟลุก แต่ก็เคย

หุ้นที่ถืออยู่ ลงตามตลาดไป เหลือต่ำกว่าครึ่ง
เงิน 100% ก็อยู่ในหุ้นนี้หมด จะซื้อเพิ่มก็ทำไม่ได้ จะขายก็ขายไม่ลง
กำไรก็ดีขึ้น ปันผล คิดเป็น 16+% ของราคาต่ำสุดที่ว่า
ได้มาก็แอบซื้อเพิ่มนิดๆ

ดูแนวโน้มตัวธุรกิจจริงก็ไม่ได้แย่ลงตามภาวะตลาดภายในประเทศ

กล้ำกลื่นถือมา ตอนนี้ผลตอบแทนก็เป็นที่พอใจอ่ะครับ
ถือว่าโชคดีที่อดทนมาสำหรับผม

ผมว่าถ้าดูแนวโน้ม และพื้นฐานมั่นใจ ก็ไม่น่าจะต้องกลัวอะไรนะครับ

แต่ประเด็นมันก็อยู่ในคำถามของ จขกท
มั่นใจจริงกับมั่นใจเกินไป(อดทนแบบผิดๆ ออกแนวดื้อด้าน) มันห่างกันแค่เส้นยาแดง

รอผู้รู้ครับ

I have owned one stock which it price drawndown and paper loss nearly 75% by that nearly 2 years time I not have another money to buy again at the low price and company fundamental had not changed so I hold it and still hold upto now. The paper profit is nearly 50%.

Washington Post ล่ะมั้งครับ ตัวนั้น

ผมทนได้ ผมเคยทนมาแล้ว ตอนปี 2008 หุ้นมันลงทุกตัวในตลาด ไม่ได้เป็นเพราะพื้นฐานเปลี่ยน กำไรของ บจ ไม่ได้ลด แล้วเราจะกลัวทำไม ผมแค่ไม่สนใจมันไปปีกว่าๆ สุดท้ายมันก็กลับมาที่เดิม

ผมเคยซื้อ PS ราคาประมาณ 7 บาทหลังจากนั้นเกิด supprime ราคาหล่นแบบรวดเร็วไปที่ 2.x บาท ทนถือมาจนขายหมูไปที่ 10.6 บาท นึกว่าแพงแล้ว

อีกปีหน่อยๆมันขึ้นไป 25 บาท  :twisted:  :twisted:

[quote="newbie_12"]ผมเคยซื้อ PS ราคาประมาณ 7 บาทหลังจากนั้นเกิด supprime ราคาหล่นแบบรวดเร็วไปที่ 2.x บาท ทนถือมาจนขายหมูไปที่ 10.6 บาท นึกว่าแพงแล้ว

อีกปีหน่อยๆมันขึ้นไป 25 บาท

สำหรับผม

หุ้นที่เราถือราคาลงไป 50% มันไม่ได้แปลว่าเราวิเคราะห์ผิด
หุ้นที่เราถือราคาขึ้นไป 50% มันก็ไม่ได้แปลว่าเราวิเคราะห์ถูก

ในระยะสั้น มีแต่พวกที่มีคำว่าเจ้าอยู่ในชื่อเท่านั้นที่รู้ว่าจะขึ้นหรือลง
พวกนี้ประกอบไปด้วย เจ้ามือ เจ้าของ และ พระเจ้า ครับ

ราคาไม่เหมือนมูลค่า
มูลค่าของกิจการ เกิดจากพื้นฐานตัวธุรกิจล้วน ๆ
แต่ ราคา เกิดจากพิ้นฐานและความเชื่อมั่นของมวลชน ประกอบกัน

ระยะสั้นจึงบอกอะไรไม่ได้เลย

หากสงสัยราคาปัจจุบันว่าทำไมมันไม่เหมือนพิ้นฐานที่เราวิเคราะห์ได
ผมคงหันมาวิเคราะห์มันใหม่อีกที ว่าเราพลาดจุดใดไปหรือไม่
หากไม่มีอะไรเปลียนแปลง ก็ถือต่อ
หรือหากเจอตัวอื่นที่มีโอกาสดีกว่า ตามพื่นฐาน ก็อาจพิจารณาปรับ asset allocation

แต่ที่ผ่านมา จะกอดหุ้นแน่ ดำน้ำไปด้วยกัน แล้วสุดท้ายก็โผล่พ้นน้ำทุกทีนะครับ

^
^
^
ความคิดเห็นของคุณ OutOfMyMind สร้างแรงบรรดาลใจ
ให้ผมมากเลยครับ

ขอถามอีกหน่อยนะครับ
สมมุติว่าเงินเราน้อย
มันจะคุ้มค่ากับการรอคอยไหมครับ

เช่นมี หมื่นนึง กว่าจะ 2 3 เด้ง
อาจจะใช้เวลาถึง 2 ปี

ของผมหลายตัวเลยคับ
หลายปีด้วย
จึงได้ข้อสรุปว่าต้องหุ้นดี สำคัญสุด
ขาดทุนเวลา ขาดทุนกำไร
แต่ไม่เสียเงิน

ที่สำคัญ ถ้าหุ้นดี เงินเหลือ ซื้อเำิ่มคับ

ตัวอย่างนะ
ssc
suc
grammy
thai
upf
tttm
pttar
top
spali
cpl

ยังมีอีกแต่จำไม่ได้
เยอะไหมคับ
บางตัวซื้อเปนแสน

ปัญหาคือ พอมันเริ่มturn กลับ ผมมักจะขายหมูมากกว่า

OutOfMyMind เขียน:สำหรับผม

หุ้นที่เราถือราคาลงไป 50% มันไม่ได้แปลว่าเราวิเคราะห์ผิด
หุ้นที่เราถือราคาขึ้นไป 50% มันก็ไม่ได้แปลว่าเราวิเคราะห์ถูก

ในระยะสั้น มีแต่พวกที่มีคำว่าเจ้าอยู่ในชื่อเท่านั้นที่รู้ว่าจะขึ้นหรือลง
พวกนี้ประกอบไปด้วย เจ้ามือ เจ้าของ และ พระเจ้า ครับ

ราคาไม่เหมือนมูลค่า
มูลค่าของกิจการ เกิดจากพื้นฐานตัวธุรกิจล้วน ๆ
แต่ ราคา เกิดจากพิ้นฐานและความเชื่อมั่นของมวลชน ประกอบกัน

ระยะสั้นจึงบอกอะไรไม่ได้เลย

หากสงสัยราคาปัจจุบันว่าทำไมมันไม่เหมือนพิ้นฐานที่เราวิเคราะห์ได
ผมคงหันมาวิเคราะห์มันใหม่อีกที ว่าเราพลาดจุดใดไปหรือไม่
หากไม่มีอะไรเปลียนแปลง ก็ถือต่อ
หรือหากเจอตัวอื่นที่มีโอกาสดีกว่า ตามพื่นฐาน ก็อาจพิจารณาปรับ asset allocation

แต่ที่ผ่านมา จะกอดหุ้นแน่ ดำน้ำไปด้วยกัน แล้วสุดท้ายก็โผล่พ้นน้ำทุกทีนะครับ

สุดยอดเลยครับคุณ OFM  

[quote="ลูกอิสาน"]

สุดยอดเลยครับคุณ OFM

ถ้าจำไมผิด บัพเฟต เคยบอกว่า "ถ้าทนเห็นหุ้นลดมูลค่าลงไปครึ่งหนึ่งไม่ได้ก็ไม่ควรลงทุนในหุ้น"

ผมเคยถือหุ้นตัวหนึ่ง วันนั้นมันลงมากๆ ผมเลยขายก่ะไปช้อนซื้อที่ต่ำกว่าที่ไหนได้ขายเสร็จราคาขึ้นทันที ราคาไม่กลับอีกมาเลย

มองตลาดเป็น Mr. Market ซื้อหุ้นที่มี MoS สูง ใน Circle of Competence ของตัวเอง 3 หลักการสำคัญที่ต้องยึดมั่นครับ

[quote="dantedragon007"][quote="ลูกอิสาน"]

สุดยอดเลยครับคุณ OFM

OutOfMyMind เขียน:
ราคาไม่เหมือนมูลค่า
มูลค่าของกิจการ เกิดจากพื้นฐานตัวธุรกิจล้วน ๆ
แต่ ราคา เกิดจากพิ้นฐานและความเชื่อมั่นของมวลชน ประกอบกัน

ระยะสั้นจึงบอกอะไรไม่ได้เลย

ประโยคนี้ถือว่าเป็นสัจจธรรม ที่คนมักมองข้ามไป
หรือถ้าจะกระแดะภาษาฝรั่งหน่อย ก้เรียก ultimate truth คือความจริง ที่จริงอยู่ในตัวมันเองยากจะหาเหตุผลมาเถียงแล้ว


เป็นเรื่องง่ายๆ ใครๆก็รู้
แต่...เหมือนเห็นปลายจมูกอยู่ทุกวัน ลืมไป ว่าเราก็มีดั้งจมูกเหมือนกันนี่  :8)

ขอบคุณครับ ที่จุดประกาย เอาไว้เตือนตัวเองและเป็นแรงบันดาลใจ ตอนเห็น "ราคาหุ้น" ของ "กิจการ" ดีๆ ที่เราเลือกเป็นเจ้าของตกดิ่งนรก  ประโยคนี้ ถือว่าช่วยไม่ให้จิตตกไปด้วย

ผมลงทุนในหุ้นเพียงตัวเดียวในพอร์ทมา สองปีครึ่ง
ถ้าไม่นับ trading port อันจุ๋มจิ๋มน้อยนิดที่มีไว้ฝึกวิชา
แน่นอนว่าปี 2008 ต้องผ่านเหตุการณ์มูลค่าตลาดหายไปครึ่ง
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ขายเลย จนคิดว่าขายหุ้นไม่เป็นซะแล้ว

จริงๆ แล้วถ้าเราซื้อหุ้นเพื่อหวัง captial gain
เวลาหุ้นก็ขึ้นจะดีใจ แต่หุ้นตกจะเสียใจหรือใจเสีย

แต่ถ้าเราซื้อหุ้นเพราะหวังปันผลจากกำไรที่เติบโตขึ้น
เวลาหุ้นขึ้นเราจะเสียใจ แต่ถ้าหุ้นตกจะดีใจ (มาก) :lol:

CK เขียน: แต่ถ้าเราซื้อหุ้นเพราะหวังปันผลจากกำไรที่เติบโตขึ้น
เวลาหุ้นขึ้นเราจะเสียใจ แต่ถ้าหุ้นตกจะดีใจ (มาก) :lol:

        เห็นด้วยกับอาจารย์ครับ

ผมทนไม่ได้ครับ ต้องหาเงินไปซื้อเพิ่ม

CK เขียน:ผมลงทุนในหุ้นเพียงตัวเดียวในพอร์ทมา สองปีครึ่ง
ถ้าไม่นับ trading port อันจุ๋มจิ๋มน้อยนิดที่มีไว้ฝึกวิชา
แน่นอนว่าปี 2008 ต้องผ่านเหตุการณ์มูลค่าตลาดหายไปครึ่ง
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ขายเลย จนคิดว่าขายหุ้นไม่เป็นซะแล้ว

จริงๆ แล้วถ้าเราซื้อหุ้นเพื่อหวัง captial gain
เวลาหุ้นก็ขึ้นจะดีใจ แต่หุ้นตกจะเสียใจหรือใจเสีย

แต่ถ้าเราซื้อหุ้นเพราะหวังปันผลจากกำไรที่เติบโตขึ้น
เวลาหุ้นขึ้นเราจะเสียใจ แต่ถ้าหุ้นตกจะดีใจ (มาก) :lol:

ผมชอบคำพูดพี่จังเลย  :oops:
ขอบคุณครับๆ  :P