Thai VI

เราจะรู้ได้ไงว่าหุ้นตัวที่เราถือชนะตลาดมีวิธีการอย่างไรครับ

ถามซะยากจัง
คงจะยากพอๆ กับถามว่า...

แล้วเด็กคนไหนโตขึ้นจะได้เป็นหมอ ล่ะมั้ง ?

สรุปว่า ผมก็ไม่รู้ รอคนข้างล่างมาตอบละกัน :lol:

ถ้าผมตีความคำถามไม่ผิด
น่าจะเป็นประมาณว่า คิดเทียบเปอร์เซ็นต์ระหว่างดัชนีตลาดล่าสุด/ดัชนีตลาดตอนที่ซื้อหุ้นตัวนั้น
กับเปอร์เซ็นต์ระหว่างราคาล่าสุดของหุ้นตัวนั้น/ราคาที่ซื้อหุ้นตัวนั้น
แต่ถ้าเน้นที่หุ้นปันผล อาจจะต้องเอาเปอร์เซนต์ค่าเฉลี่ยการจ่ายปันผลของตลาดและเปอร์เซ็นต์เงินปันผลที่ได้ของหุ้นตัวนั้น คิดรวมกับเปอร์เซนต์แต่ละตัวจากกรณีแรกด้วย
น่าจะพอตอบคำถามนี้ได้นะครับ

ใช่หมายถึงค่า % ดัชนีของตลาดหลักทรัพย์ขึ้นไปเท่าไหร่และค่า % ของ capital gain ของหุ้นเราขึ้นไปเท่าไหร่เปรียบเทียบกันหรือเปล่า ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน แต่ชนะดัชนีตลาดก็คงไม่เท่าชนะเป้าหมายที่ตั้งเป็น % ต่อปีของเราที่ตั้งไว้เอง

สมมุตินะครับว่าคุณซื้อหุ้น ก ที่ราคา 10 บาท ในวันนั้นตลาดมีดัชนีอยู่ที่ 600 จุด ผ่านมา 1 ปีดัชนีตลาดอยู่ที่ 1000 จุด ดังนั้นผลตอบแทนของตลาดอยู่ที่ (1000-600)/600 = 0.66 หรือ เท่ากับ 66 เปอร์เซ้นต์ คราวนี้คุณมาดูว่าหุ้น ก ที่คุณซื้อนั้น มีราคาเท่าไหร่เมื่อครบ  1ปี ถ้าราคาหุ้น ก เท่ากับ 15 บาท หุ้น ก จะมีผลตอบแทนแค่ 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแพ้ตลาดครับ แต่ถ้าราคา หุ้น ก อยู่ที่ 20 บาท คุณจะได้รับผลตอบแทนจากหุ้นตัวนี้เท่ากับ 100 เปอร์เซ็นต์ นั้นหมายความว่าคุณชนะตลาด
การชนะตลาดมีความสำคัญครับ เพราะถึงแม้ว่าคุณจะได้รับผลตอบแทน 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งดูดีแต่ถ้าตลาดได้รับผลตอบแทนที่มากกว่า การเล่นหุ้นของคุณไม่ประสบความสำเร็จครับ ควรปรับปรุงครับ ตรงกันข้ามในปีที่แย่สุดๆ ตลาดมีผลตอบแทน - 30% แต่พอร์ตของคุณติดลบน้อยกว่าเช่น -10% คุณชนะตลาดครับ การชนะตลาดหรือไม่เป็นการประเมินขั้นต้นของความสามารถในการเลือกและเล่นหุ้นของเราครับ
แต่การวัดนี้คุณควรวัดผลโดยรวมของหุ้นทุกตัวที่คุณลงทุน ดังนั้นถ้าคุณลงทุน 1ล้านบาท จากตัวอย่างข้างต้นพอร์ตของคุณควรโตเท่ากับ 1 ล้าน 7 แสนบาทขึ้นไปเมื่อตอนสิ้นปีที่คุณวัดครับ และควรดูผลทุกปีครับ บัฟเฟตต์เคยตั้งเป้าว่า เขาจะชนะตลาดให้ได้อย่างน้อย 10 % ทุกปีครับ วันหนึ่งคุณก็สามารถทำได้ครับ ค่อยๆเรียนรู้ไป ขอให้ร่ำรวยครับ