Thai VI

คนจน-คนรวย คิดต่างกันยังไง?

คนรวยนับเงิน
คนรวย คิดว่า...
ฉันกุมชะตาชีวิตของตัวเอง
ทุ่มเทเพื่อความรวย
คิดการใหญ่
มุ่งสนใจไปที่โอกาส
ชื่นชมคนรวยและคนที่ประสบความสำเร็จ
คบกับคนมองโลกในแง่ดีและคนที่ประสบความสำเร็จ
แสดงให้คนอื่นเห็นคุณค่าของตัวเอง
มองปัญหาเป็นเรื่องเล็ก
เลือกรับเงินตามผลงาน
เลือกทางเลือกทั้งสองทาง
สนใจมูลค่าทรัพย์สิน
ให้เงินทำงานหนักเพื่อตัวเอง
มุ่งไปข้างหน้าแม้จะหวาดกลัว
เรียนรู้และเติบโตตลอดเวลา

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คนจนขอทาน
คนจน คิดว่า...
ฉันถูกลิขิตให้เป็นอย่างนี้
คิดแค่อยากรวย
คิดการเล็ก
มุ่งสนใจไปที่อุปสรรค
เกลียดคนร่ำรวยและคนที่ประสบคววามสำเร็จ
ขลุกกับคนมองโลกในแง่ร้ายและคนที่ล้มเหลว
มองคนที่แสดงและเห็นคุณค่าของตัวเอง ในแง่ลบ
มองปัญหาเป็นเรื่องใหญ่
เลือกรับเงินตามระยะเวลาที่ทำงาน
เลือกทางเลือก ทางใดทางหนึ่ง
สนใจรายได้จากการทำงาน
ทำงานให้หนักเพื่อตัวเอง
ปล่อยให้ความกลัวหยุดยั้งตนเอง
คิดว่าตนเองรู้ดีเก่งอยู่แล้ว

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

พวกคุณคิดแบบไหน? แต่ทุกคนอยากเป็นคนรวยแต่...

เหมือนกับมานั่งทบทวน ทัศนคติ กันใหม่

แล้วก็อยากให้ เพื่อน ๆ เราได้มีโอกาสมาอ่าน แล้วเอาไปใช้เป็นอย่างยิ่ง

ขออนุญาติเอาไป Forward ส่งให้เพื่อน ๆ นะครับ :lol:

คนรวยคิดไกล คนจนคิดใกล้

คนรวยคิดว่าอีกห้าปี สิบปีข้างหน้า เขาจะทำอย่างไรให้เงินของเขางอกเงย
คนจนคิดว่าในวันนี้หาเงินได้เท่านี้ จะกินอะไรดี พรุ่งนี้จะทำอย่างไรต่อไป

พนักงานกินเงินเดือน ก็เพียงคิดไกลกว่าคนจนเพียงเดือนเดียว เดือนนี้เงินเดือนออก ต้องจ่ายหนี้ที่ไหนเท่าไหร่ กินเท่าไหร่ ค่าห้องค่ายาค่าโทรศัพท์ค่าน้ำค่าไฟต่อเดือนเท่าไหร่

พนักงานเงินเดือนที่หลุดจากกรอบคิดไกลจากหนึ่งเดือนเป็นหนึ่งปี เงินปีนี้ได้เท่าไหร่ ลงทุนในกองทุนเพื่อลดภาษีเท่าไหร่ดี ปีนี้เงินเก็บเท่าไหร่ จะทำอย่างไรให้งอกเงย

ตอนนี้ผมอยากคิดไปให้ไกลกว่านี้

คนอุดร เขียน:คนจน-คนรวย คิดต่างกันยังไง?

คนรวยนับเงิน

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คนจนขอทาน
คนจน คิดว่า...
ฉันถูกลิขิตให้เป็นอย่างนี้
คิดแค่อยากรวย
คิดการเล็ก
มุ่งสนใจไปที่อุปสรรค
เกลียดคนร่ำรวยและคนที่ประสบคววามสำเร็จ
ขลุกกับคนมองโลกในแง่ร้ายและคนที่ล้มเหลว
มองคนที่แสดงและเห็นคุณค่าของตัวเอง ในแง่ลบ
มองปัญหาเป็นเรื่องใหญ่
เลือกรับเงินตามระยะเวลาที่ทำงาน
เลือกทางเลือก ทางใดทางหนึ่ง
สนใจรายได้จากการทำงาน
ทำงานให้หนักเพื่อตัวเอง
ปล่อยให้ความกลัวหยุดยั้งตนเอง
คิดว่าตนเองรู้ดีเก่งอยู่แล้ว

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

พวกคุณคิดแบบไหน? แต่ทุกคนอยากเป็นคนรวยแต่...

มีทัศนคติที่ไม่ดีกับคนจนมากเกินไปป่าวครับ ผมว่าที่เขียนเกี่ยวกับคนจนข้างบนหนะ เขาเปนคนที่ไม่รู้จักคิด คิดไม่เปนมากกว่า คนจนทุกคนไม่ได้เปนแบบข้างบนหรอกครับ

คนจนบางคนมีศักดิ์ศรีของความเปนคนมากกว่าคนรวยบางคนด้วยซ้ำไป

อย่างน้อยเขาก็ หาเลี้ยงชีพด้วยความสุจริต กินใช้อย่างพอเพียง ไม่โลภบนความเดือดร้อนของคนอื่น ไม่คดโกงใคร
มีศักดิ์ศรีไม่ไปขอใครกิน มีคุณธรรมมากกว่านักการเมืองที่รวยจากการคดโกง เห็นแก่ตัวตามแบบฉบับนิสัยคนรวย  แต่เลวชาติชั่วแบบสุดสุด

คนเรามันเกิดมาพึ่งกันครับ

เกิด เป็นคนอย่าเห็นแก่ตน
แหละ ดี
ถึงจะมี ร่ำรวย สุข สันต์
จน หรือมี ไม่เป็นที่ สำคัญ
แม้รักกัน พึ่ง พา
อย่าไปตัด ไม ตรี
เกิดมาพึ่งกัน
ผิว พรรณ ใช่แบ่งศักดิ์ศรี
วันนี้ เราอยู่ คิดดู ให้ดี
ถึงจะจน จะมี
อย่าไปสร้างเวรกรรม
ขืนไปทำชั่วไป
อาจต้องใช้กรรมเวร
..อย่า งมงายโลภหลง
เพราะคงจะเกิดลำเค็ญ
สร้างบุญพระท่านคงเห็น
ร่มเย็น พ้นความกังวล
ถึงวิบัติขัดสน ผลบุญนำให้
ศีลธรรมมั่นใจ
ไม่ต้องไป กังวล
ถึงจะมีจะจนจะเกิดกุศลดลใจ

เกิด เป็นคนอย่าเห็นแก่ตน
แหละ ดี
ถึงจะมี ร่ำรวย สุข สันต์
จน หรือมี ไม่เป็นที่ สำคัญ
แม้รักกัน พึ่ง พา
อย่าไปตัด ไมตรี
เกิดมาพึ่งกัน
ผิว พรรณ ใช่แบ่งศักดิ์ศรี
วันนี้ เราอยู่ คิดดู ให้ดี
ถึงจะจน จะมี
อย่าไปสร้างเวรกรรม
ขืนไปทำชั่วไป
อาจต้องใช้กรรมเวร
..อย่า งมงายโลภหลง
เพราะคงจะเกิดลำเค็ญ
สร้างบุญพระท่านคงเห็น
ร่มเย็น พ้นความกังวล
ถึงวิบัติขัดสน ผลบุญนำให้
ศีลธรรมมั่นใจ
ไม่ต้องไปกังวล
ถึงจะมีจะจนจะเกิดกุศลดลใจ

คนจน-คนรวย คิดต่างกันยังไง?

งั้นแก้เป็นแบบนี้ดีกว่า

คนที่กำลังจะรวยขึ้น กับ คนที่จะจนลง คิดต่างกันยังไง?

เราพูดถึงวิธีคิด และ ทัศนคติ เพื่อเป็นข้อเตือนใจกันดีกว่าครับ

อย่ามองว่าเป็นการดูถูก ดูแคลนกันเลย

ผมเองก็อ่านแล้วก็ไม่เห็นรู้สึกอะไร ทั้งๆที่สมัยตอนเรียนมหาลัย
ผมเนี่ยแหละ นักเรียนทุนยากจน ของมหาลัยเลย
จน ถึงขั้นที่ไปขอทุนอะไร ก็ได้ ทั้งทุนยากจนของคณะ และของมหาวิทยาลัย
จนตอนนั้น ผมได้รับตำแหน่ง ยาจกรุ่น ไปครอง  :|

ตอนเรียนมหาลัย คุณแม่ผม ก็ไม่มีเงินส่งเรียน หรือ ส่งค่าขนมให้
ต้องขอทุน + คุณอาช่วย Support
ตอนอยู่มหาลัย ก็ไปเป็น TA ช่วยอาจารย์  + ทำงาน Partime เก็บเงิน
หรือตอนมีกิจกรรมอะไร ก็จะไปช่วยตลอด ไม่ใช่เพื่อหาประสบการณ์นะครับ
แต่เพื่อ เอาข้าวฟรี  
ตอนนั้น ต้องประหยัดค่าใช้จ่ายทุกอย่างๆจริง

แต่เพราะการลงทุนเนี่ยแหละที่เปลี่ยนชีวิตผมไปอย่างสิ้นเชิง
ผมอาศัยเงินที่เก็บออมสมัยประถม มาลงทุน บวกเงินที่เหลือใส่เข้าไปเรื่อยๆ

พอพอร์ตทะลุหลักล้าน ผมก็ กู้มาร์จิน อัดเข้าไปอีก
ตอนนี้ คิดว่า เงิน 9 หลัก ก็น่าจะได้เห็นก่อนสิ้นปีนี้ (หักหนี้แล้ว)

ผมกล้าพูดเลยว่า ผมเริ่มจากเด็กจนๆ คนนึง จนกระทั่งได้มีเงินล้าน ก็เพราะมีทัศนคติ ต่างจากคนอื่นเนี่ยหละครับ

โดยเฉพาะทัศนคติ ที่เจ้าของกระทู้นำมา โพส
นั้นแหละครับ คือ จุดเปลี่ยนของคนจนๆ คนๆนึง

leaderinshadow เขียน: เราพูดถึงวิธีคิด และ ทัศนคติ เพื่อเป็นข้อเตือนใจกันดีกว่าครับ

อย่ามองว่าเป็นการดูถูก ดูแคลนกันเลย

โดยเฉพาะทัศนคติ ที่เจ้าของกระทู้นำมา โพส
นั้นแหละครับ คือ จุดเปลี่ยนของคนจนๆ คนๆนึง

สุดยอดมากครับ นับถือจริงๆ

ขึ้นอยู่กับพลังความคิดจริงๆ ฮะ
อันนี้ เม่าลม ขอยืนยันฮะ

คิดแบบไหนก้จะเป็นแบบนั้นฮะ
เราไม่ได้ดูถูก แต่ว่า พลังความคิดมันยิ่งใหญ่จริงๆฮะ

leaderinshadow เขียน:

คนจน-คนรวย คิดต่างกันยังไง?

งั้นแก้เป็นแบบนี้ดีกว่า

คนที่กำลังจะรวยขึ้น กับ คนที่จะจนลง คิดต่างกันยังไง?

เราพูดถึงวิธีคิด และ ทัศนคติ เพื่อเป็นข้อเตือนใจกันดีกว่าครับ

อย่ามองว่าเป็นการดูถูก ดูแคลนกันเลย

ผมเองก็อ่านแล้วก็ไม่เห็นรู้สึกอะไร ทั้งๆที่สมัยตอนเรียนมหาลัย
ผมเนี่ยแหละ นักเรียนทุนยากจน ของมหาลัยเลย
จน ถึงขั้นที่ไปขอทุนอะไร ก็ได้ ทั้งทุนยากจนของคณะ และของมหาวิทยาลัย
จนตอนนั้น ผมได้รับตำแหน่ง ยาจกรุ่น ไปครอง

สุดยอดเลยครับพี่leaderinshadow
ไม่ทราบว่าจาก 7 หลัก ไป 9 หลักใช้เวลาเท่าไรหรอครับ

คนรวยหาทางทำเงิน คนจนหาทางใช้เงิน

เด็กเลี้ยงไม้ เขียน:สุดยอดเลยครับพี่leaderinshadow
ไม่ทราบว่าจาก 7 หลัก ไป 9 หลักใช้เวลาเท่าไรหรอครับ

ฮัดเชยๆๆๆๆๆๆๆ

ผมไม่เซียนขนาดนั้นครับ  :lol:
จาก 7 ไป แค่เกือบๆ 8 เองครับ

9 เนี่ยๆ ผมว่ายังอีกนานครับ

ส่วนการเปลี่ยนหลักในครั้งนี้ ผมใช้เวลาประมาณเกือบๆ 2 ปีครับ
ที่ขึ้นมาเยอะ เพราะใช้มาร์จินครับ ใช้ตลอดทางตั้งแต่ 800 จุดรอบที่แล้ว  

แต่จากขาดทุน (ตอนวิกฤติ) มาเท่าทุนตอนดัชนี 600 กว่าๆ  :oops:
หลังจากนั้นก็ใช้มาร์จินเก็บหุ้นตลอด เพราะไม่มีตัง  :lol:
เข้า Concept มุ่งไปข้างหน้าแม้จะหวาดกลัว  มั้ง  
เพราะเจอหุ้นถูกเยอะครับ :lol:

ตอนนี้ เลยขาสั่นครับ กลัวกลับไปจนเหมือนเดิม  :lol:
เลยต้องวางแผนเคลียร์หนี้ คาดว่าจะเริ่มปีหน้าครับ

ปล. ข้างบนผมผิดพิมพ์ครับ

พอพอร์ตทะลุหลักล้าน ผมก็ กู้มาร์จิน อัดเข้าไปอีก
ตอนนี้ คิดว่า เงิน 9 หลัก ก็น่าจะได้เห็นก่อนสิ้นปีนี้ (หักหนี้แล้ว)

แก้เป็น 8 หลักครับ
ส่วน 9 หลัก เป็นเป้าหมายในอีกประมาณ 12-15 ปี นับจากนี้ครับ

ทำให้ตกอกตกใจกัน ขอประทานอภัยนิดนึงครับ  :oops:
ช่วงนี้นับหลัก ผิดๆถูกๆ  :lol:

leaderinshadow เขียน:ปล. ข้างบนผมผิดพิมพ์ครับ

พอพอร์ตทะลุหลักล้าน ผมก็ กู้มาร์จิน อัดเข้าไปอีก
ตอนนี้ คิดว่า เงิน 9 หลัก ก็น่าจะได้เห็นก่อนสิ้นปีนี้ (หักหนี้แล้ว)

แก้เป็น 8 หลักครับ
ส่วน 9 หลัก เป็นเป้าหมายในอีกประมาณ 12-15 ปี นับจากนี้ครับ

ทำให้ตกอกตกใจกัน ขอประทานอภัยนิดนึงครับ

สุดยอดและนับถือครับ

คนที่ต้องการเปลี่ยนชีวิตและมุมมองเพื่อหาโอกาส ก็ต้องเปลี่ยนทัศนะคติตามนั้นครับ
สิ่งที่พูดมาก็เป็นโดยรวม ไม่ได้เน้นไปที่ใคร แต่ส่วนมากจะเป็นแบบนั้น
คนจนถ้าได้ทัศนคติที่ดีก็เป็นคนรวยได้
คนรวยก็อาจจะเป็นคนจนได้อีก ถ้าทัศนคติมันเปลี่ยนไป

ขอบคุณมากนะครับ ทำให้ผมมีกำลังสู้ต่อไปครับ

ขอบคุณครับ

ถอดรหัสลับ สมองเงินล้านนี่นา
อ่านอีกทีก็สะดุ้งเหมือนเดิม

อ่าทีไรเหมือนโดนด่าอยู่ แต่มันจริง เลยเถียงไม่ออก  :lol:

ขอบคุณครับ นับถือกับทุกๆท่านจริงๆครับ
ส่วนตัวผมเชื่อในพลังของความคิด ขนาดของความคิด และมองไปข้างหน้าด้วยจิตนาการครับ...  ผมได้ลองเปลี่ยนความคิดและทัศนะคติตัวเอง จนเชื่อครับ

เลือกรับเงินตามผลงาน

ชอบประโยชน์นี้ครับ

รวยของผมอาจจะไม่ได้มีมาก แต่มีพอ
จนของผมแม้มีมาก แต่ไม่พอ

รู้สึกคุ้นๆนะคับ
ไม่แน่ใจว่าเอา
มาจาก พ่อรวยสอนลูก
หรือ ถอดรหัสลับสมองเงินล้าน

คนรวยคิดแบบคนจนก็มีนะฮะ..แต่คนจนคิดแบบคนรวยก็มี(โอกาสเค้ายังไม่มา)

คนจนที่โดนบังคับให้จน  ( เพราะว่าเกิดมาจน ) และยังไม่มีโอกาสมีเยอะไปครับ   แม้ว่าจะไขว่คว้าแทบตาย  555

คนรวยที่โดนบังคับให้รวย ( เพราะว่าเกิดมารวย )  ก็มีเยอะไปครับ.....555

แล้วแต่วาสนาครับ

งานนี้  คนที่โดนตีตราที่หน้าผาก   ร้องจ๊ากเลย  555

แต่ไม่ว่ายังไง  เนื้อแท้ของตัวเรา   คือตัวเราครับ

สู้ๆครับ

สู้แล้ว  รอด  หรือว่า  ไม่รอด  สะบัก สะบอม  แค่ไหน  ก็แล้วแต่ วาสนา + กึ๋น ครับ

คนรวย
                 จากมรดกตกทอด
                 จากการทำมาหากิน
                 จากการเอารัดเอาเปรียบ  คดโกง
       
            คนรวยๆ เหล่านี้  จะคิดเหมือนกันไหมครับ


-------------------------------
ความรู้  คู่คุณธรรม

จน - รวย นอกจากทัศนคติแ้ล้ว ผมว่าขึ้นอยู่กับโอกาสด้วยนะครับ ว่ามีเงื่อนไขให้คนนั้นเขาสามารถคิดการใหญ่ได้หรือเปล่า

ปัญหาของคนจน (อย่างผม) อาจจะคนละเรื่องกับชาวบ้านทั่วไป ตั้งแต่ปัญหาปากท้อง จนถึงปัญหาการขยายงานธุรกิจ

คนบางกลุ่ม อย่าให้คิดการใหญ่เลย เอาตัวรอดไปวันๆ นี่ยังแทบคิดไม่ออก

ดังนั้น ก่อนเปลี่ยนทัศนคติได้ ต้องเปลี่ยนสภาพแวดล้อมหรือเงื่อนไขให้เอื้อต่อการเปลี่ยนทัศนคติด้วยนะครับ เช่นอย่างน้อยมีปัจจัยสี่เป็นพื้นฐาน

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่า พอโอกาสเอื้อแล้วทุกคนจะสามารถรวยขึ้นมาได้นะครับ พอถึงตอนนี้ ก็ต้องอาศัยทัศนคติของแต่ละคนแล้วล่ะครับ

ปล. อันนี้ของดเว้นอภิปรายเรื่อง รวย-จน อยู่ที่ใจ เพราะเข้าใจว่าทุกคนทราบหลักการนี้อยู่แล้ว

ผมจน ครับ

แต่มองว่า กระทู้นี้ไม่ได้มีอคติใดๆ

ผมมองว่ามันคือความจริง ผมรับได้ และพร้อมเปลี่ยนแปลง

แต่เพื่อไม่ให้มีปัญหาไปกว่านี้ผม
ยก คำกล่าวลูกพี่ผม
ว่า


ผู้ชนะ:ผู้แพ้

ผู้ชนะ เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ แต่ผู้แพ้เป็นส่วนหนึ่งของปัญหา
ผู้ชนะ เสนอสิ่งใหม่ให้ทุกครา แต่ผู้แพ้สรรหาคำคำแก้ตัว
ผู้ชนะมักบอก ขอฉันช่วย แต่ผู้แพ้ไม่เอาด้วยเรื่องปวดหัว
ผู้ชนะเห็นทางออกแม้มืดมัว ผู้แพ้เฝ้าแต่กลัวเจอทางตัน
ผู้ชนะรอโอกาสทอง แม้ต้องยุ่ง ผู้แพ้มุ่ง เห็นแต่ร้ายที่หมายมั่น
ผู้ชนะว่าทำได้ต้องฝ่าฟัน ผู้แพ้บอกเลิกฝัน...มันยากไป

ซุปเปอร์นายกของผม (ที่ทำให้ผมตาสว่าง โฮแม่เจ้าผมเข้าใจประวัติศาสตร์
ทั้งหมดแล้ว )

อยูที่ ทัศนะคติ ใช่ไหมครับ :lol:


อีกอย่างผม มองว่าเรื่องอายุ

ถ้าอยู่ได้นาน ก้มีโอกาส มากกว่า ในการได้เห็นโลก
อีกอย่าง ถ้าสมมุติบาปกรรมมีจริง
กว่าจะได้เกิด ในยุค ปกครองให้เป็นประชาธิปไตย
ไม่มีทาส ไม่ต้องกลัวสัตว์ป่ามาทำร้าย อยู่ในยุคมีศาสนา ยึดจิตใจ
อีกทั้งมีวิทยาศาสตร์ เป็นเครื่องมือการันตีความจริง ดีกว่ามานั่งเถียง
พ้นจากสงครามขนาดใหญ่ (ww1 ww2) โคตรโชคดี



จะเห็นว่าเศรษฐี ยุคนี้


จะไม่ค่อยเป็นโรค จะไม่พยายามให้โดนทำร้าย ไม่ไปทำอะไรเสี่ยงๆ ไม่ไปสถานที่เสี่ยง พวกนี้



เศรษฐีบางคน จะทำตัวไม่โดดเด่น เพราะยิ่งเด่น ภัยก็มีแก่ตัวสูง

ทำตัวเรียบง่าย ถ้าเดินสวนกันจะมองไม่ออก ว่ารวย

สรุปว่าใครเกิด ในยุคนี้

ได้ความสบาย จากบรรพบุรุษ ที่ เครีย เรื่อง สงคราม
เทคโนโลยี การปกครอง และศาสนา ไว้ให้หมดแล้ว

ดังนั้น มาเป็นคนดี เถอะครับ เพราะ ยุคนี้ ไม่ต้องถูกบังคับให้ไปฆ่าแกงใคร เพราะ ถ้าไม่อยากทำร้ายมนุษย์ เราก็ลี้ภัยหนีไปประเทศอื่นก็ได้
อีกอย่างมีอินเตอร์เนต ให้เผยแพร่ความรู้ ถ้าคนได้ความรู้จากเราได้ดี เราก็ได้อานิสงค์ ด้วยแน่นอน


ส่วน คนเลว ผมว่าซวยมาก เพราะเขาไม่รู้ว่า ถ้าไปเกิด
ยุค ww1 2 อาจจำเป็นต้องฆ่าคนเพื่อความอยู่รอด
ยุค ไม่มี internet อยากเผยแพร่ ความรู้ ความคิดดีๆ ก็ยาก แต่ถ้ามี internet
ก็ฟาก ไฟล์ แปะ คลิป ยูทูป ไว้ ใครบังเอิญมาอ่านละได้ดี เราก้ได้บุญ ด้วย เพียงแค่
เรา เสียแรงแค่ อัพโหลด
ถ้าเป็นสมัยก่อน
ต้องดั้นด้น หาลูกศิษย์ สร้างชื่อ กว่าคนจะมาฟัง
ยุค ไม่มีศาสนา ก้หลงไม่มีทิศทางอีก ไร้ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ

และอีกอย่าง การอยู่แค่ของชนชั้นกลาง ยุคนี้ อาจเทียบเท่าหรือเหนือกว่าเศรษฐียุคก่อน สมัยนี้ รถ แอร์ โทรทัศน์ ห้องน้ำ....

แต่ว่า ยุคนี้ ศีลธรรม มนุษย์ ดัน

เสื่อมทรามลง อาจเพราะเราพื้นฐานคนดีไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว

ส่วนคนเลว นิสัยพื้นฐานชอบระราน ใส่ร้าย เล่นพวก

ดังนั้นวิธีแก้ ก็ต้องมีกลุ่ม คนดีที่ใจกล้า พอจะมาต่อกร เพื่อปกป้อง ส่งเสริม

คนดีในยุคนี้

แต่จะมีสักกี่คน....  
เฮ้ออ น่าเสียดายยุคนี้จริงๆ

อีกอย่าง ผมว่า รวยจนไม่สำคัญ

ขอให้มีความสามารถ ทำเก่งกว่าคนทั้งโลกสักเรื่องนึง

ก็มีโอกาส รวยได้

เช่นทำอาหาร ญี่ปุ่น อร่อยกว่าเจ้าตำรับ

ถามว่า ถ้า สมัครไปเป็นกุ้ก ของโชว์ฝีมือ  อาจรับตำแหน่งน้อยๆ หรือ ทำฟรีให้ก่อน สุดท้ายด้วยฝีมือ เค้าก็ต้องรับอยู่ดี เผลอๆ ตอนหลัง อาจจะหนีไปเปิดร้านเอง

ยุคนี้ อยากรวยปัจจัยมีเรื่อง อายุ ทัศนะคติ ดวง(ผลของการกระทำ ถ้าไม่ไปโชว์ฝีมือ หรือ ไขว่คว้าโอกาสเอง โลกก้ไม่รู้ ฉะนั้นมีอะไรดีก็งัดมา)


ขอย้ำ การกระทำสำคัญมาก ถ้าเราเลว โอกาสดีมีน้อย (เอาจริงใครจะอยากมาคบ เพื่อนแดกเยอะ อยู่ก็ไม่สบายใจ เพราะไปทำไม่ดีไว้กับคนอื่น)
ถ้าเป็นคนดี โอกาสยังมี คงไม่มีคนไหนที่ไม่อยากอยู่ใกล้คนดี ได้รับความเอ็นดู อีกอย่างถ้าคิดว่าทำดีไม่ได้ดี ก็ต้องคิดว่าอย่างน้อย ตอนนี้เราก็ยังหายใจอยู่ การมีชีวิตในตอนนี้ อาจเป็นเพราะผลบุญที่เราทำมานั่นแหละ

การที่คนจน จะเปลี่ยนสถานะเป็นคนรวย ได้นั้น

ทัศนคติ เป็นจุดเริ่มต้นครับ
ตามด้วยความคิด กับการพัฒนาตนเอง
และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การลงมือทำ

เพราะการลงมือทำ คือตัวแบ่งแยกระหว่าง คนเพ้อฝัน กับ คนที่มีความมุ่งมั่งอย่างแท้จริง

เงื่อนไขสุดท้าย คือ เวลา และ ความอดทนครับ
ต้องอดทน และมีความแน่วแน่ ต่อเป้าหมายที่ตั้งใจไว้

ไม่ท้อ หรือ หยุด ระหว่างทาง
เพราะถ้าหยุด หรือไม่พยายามต่อไป ก็ไปไม่ฝั่งฝันนะครับ ..

จะรวยต้อง เก่ง+เฮง ที่สำคัญต้องมีเมียดีครับ อั้นนี้สุดยอดกว่า  :D