ประเทศอื่นเค้าอุดหนุนสินค้าตัวเองกัน แต่นี่เราคิดยังไงก็ไม่รู้นะครับ
http://www.bangkokbiznews.com/2004/05/0 ... =pag1.html
3 สมาคมร้องนายกฯ บีบชะลอนำเข้าข้าว
แนะศึกษาผลดี - ผลเสียก่อน - ขู่ทิ้งเก้าอี้กรรมการ กนข.
กรมการค้าต่างประเทศรับลูก "วัฒนา" เร่งออกระเบียบนำเข้าข้าว 1.5 ล้านตัน อ้างผู้ส่งออกไทยเชี่ยวชาญการตลาด
แผนนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน ถูกค้านหนักจากโรงสี-ชาวนา 3 สมาคม จับมือทำหนังสือถึงนายกฯ-ประธาน กนข. ร้องชะลอนำเข้าข้าว 1.5 ล้านตัน หวั่นทำลายระบบข้าวเมืองไทย ย้ำหากรัฐบาลเพิกเฉยพร้อมลาออกจากกรรมการ กนข.ทันที นายกสมาคมชาวนาโวย พาณิชย์ตั้งแง่ งัดเงื่อนไขรับจำนำข้าวตันละ 6,000 บาท ขณะที่โรงสีภาคอีสานหวั่นนำเข้าข้าวเพื่อนบ้านผสมข้าวไทยฉุดราคาหอมมะลิร่วง
นายปราโมทย์ วานิชานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เปิดเผยถึงนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่จะนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านจำนวน 1.5 ล้านตัน ว่าเรื่องนี้ตนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ดังนั้นการประชุมสมาชิกสมาคมชาวนาไทยวันที่ 11 พ.ค.นี้ ตนจะขอให้ 3 สมาคม คือ สมาคมโรงสีข้าวไทย สมาคมชาวนาไทย สมาคมผู้ส่งออกข้าวต่างประเทศ ทำหนังสือถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว(กนข.)เพื่อขอให้ชะลอการนำเข้าข้าวจำนวน 1.5 ล้านตัน ทั้งนี้เพื่อศึกษาผลดีผลเสียของการนำเข้าข้าวจำนวนดังกล่าวก่อน
"ผมว่าข้อเสนอนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดี แต่หากข้อเสนอของ 3 สมาคมรัฐบาลยังเพิกเฉยที่จะนำเข้าข้าว ขั้นตอนต่อไปอาจต้องเป็นเรื่องของการเดิมพันระหว่างผลประโยชน์ธุรกิจกับบ้านเมืองแน่ ขั้นตอนสุดท้ายทั้ง 3 สมาคมจะยื่นหนังสือลาออกจากกรรมการ กนข.ทันที เราไม่ต้องการทำงานร่วมกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเป็นความเสียหายของบ้านเมือง และผลกระทบต่อชาวนาไทยโดยตรง" นายปราโมทย์ กล่าว
นายปราโมทย์ ย้ำว่าการนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกัมพูชา ลาว และพม่า ย่อมที่จะส่งผลกระทบต่อภาพพจน์ของประเทศ และพันธุ์ข้าวของไทยแน่นอน ที่สำคัญไม่มีข้อตกลงใดๆ ที่ไทยต้องนำเข้าข้าว แต่สิ่งที่จะได้รับผลกระทบคือ กัมพูชา มีพันธุ์ข้าวที่ใกล้เคียงกับข้าวหอมมะลิของไทยมาก คือ ข้าวโซมาลี ดังนั้นหากนำเข้ามาแล้วก็จะส่งผลกระทบทำให้ราคาข้าวของไทยลดลงแน่นอน
นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า การมองมิติการตลาดเรื่องข้าวอย่างเดียวไม่พออย่างเดียว ต้องมองมิติพื้นฐานข้าวกับประเทศไทยด้วย เรื่องอย่างนี้ควรหารือในระดับนโยบายไม่ใช่การตัดสินใจ เฉพาะรัฐมนตรี ต้องมีการศึกษาที่รอบคอบ "มองการตลาดอย่างเดียวคนที่ได้ประโยชน์ คือ กลุ่มธุรกิจเท่านั้น ถ้าถามผมว่าเดือดร้อนหรือไม่ ผมตอบได้เลยว่าไม่ เพราะผมเป็นพ่อค้าไม่ใช่ชาวนา แต่สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นผมสงสารชาวนา และประเทศมากกว่า โดยเฉพาะเกษตรกรบ้านเราทุกวันนี้ที่มีอาชีพทำนากันไม่น้อยกว่า 20 ล้านคน เขาจะเดือดร้อนกัน" นายปราโมทย์ ย้ำ
ตั้งแง่รับซื้อข้าวแสนตัน
นายสุวรรณ คฑาวุธ นายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวถึงกรณีที่นายวัฒนา เมืองสุข รมว.พาณิชย์ ระบุ จะรับซื้อข้าวจากสมาคมชาวนาจำนวน 1 แสนตัน ในราคาตันละ 6,000 บาท ปรากฏว่าช่วงเช้าวานนี้ ( 7 พ.ค.) มีโรงสีรายหนึ่งอ้างว่ามีคำสั่งจากนายวัฒนา ให้มาเจรจาซื้อข้าวจากสมาคม แต่โรงสีรายนี้อ้างว่าถ้าเป็นข้าวปทุมธานี 1 ต้องเข้าเงื่อนไขโครงการรับจำนำ ซึ่งจะต้องมีการคัดเกรดกำหนดเปอร์เซ็นต์การปลอมปน ความชื้นไม่เกิน 15% ถึงจะได้ราคาตันละ 6,000 บาท แต่ขณะนี้ข้าวในมือเกษตรกรส่วนใหญ่เป็นข้าวปทุมธานี 1ทั้งหมด หากให้เป็นไปตามเงื่อนไขดังกล่าวคงจะได้ราคาเพียงตันละ 5,000 บาท เท่านั้น
นายสุวรรณ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวตนได้แจ้งไปยังกระทรวงพาณิชย์ โดยแจ้งว่าหากเป็นเงื่อนไขดังกล่าวสมาคมฯ คงไม่สามารถหาข้าวให้ได้ในจำนวน 100,000 ตัน แต่การที่นายวัฒนาประกาศจะรับซื้อข้าวทุกเม็ดในราคาตันละ 6,000 บาท นั้นตนรู้สึกดีใจ และคลายความกังวลเรื่องการนำเข้าข้าว ตั้งใจที่จะส่งข้าวปทุมธานี 1 ขายให้กับนายวัฒนา
ส่วนกรณีที่นายวัฒนา กำลังจะนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน 1.5 ล้านตัน ผลกระทบที่เกิดขึ้นเวลานี้คือ โรงสีชะลอการรับซื้อข้าวในประเทศ เรื่องนี้นายวัฒนา ต้องรับผิดชอบ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ทางสมาคมฯ จะหารือร่วมกันก่อนทำหนังสือถึง กนข.เร็วๆ นี้
โรงสีอีสานโวย "วัฒนา" สร้างภาพราคาข้าว
นายบู๊เฮียง รุ่งรัชตกานนท์ ประธานชมรมโรงสีข้าว จ.อุบลราชธานี กล่าวว่าการที่รัฐบาลจะเปิดนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน ตนเห็นด้วยหากดำเนินการชั่วคราว แต่หากเปิดโควตาไว้ตลอดทุกปีไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ขณะนี้ข้าวกัมพูชา ลาว ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์พื้นเมือง แต่มีการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวหอมมะลิเช่นกัน หากนำเข้าในปีต่อไป และกลุ่มประเทศพวกนี้พัฒนาพันธุ์ได้คุณภาพ 50% ของไทย จะนำมาผสมกับข้าวหอมมะลิไทย ฉุดให้ราคาข้าวหอมมะลิ ที่คุณภาพดีที่สุดของไทยราคาตกต่ำได้
"ข้าวหอมมะลิในภาคอีสาน โดยเฉพาะ จ.อุบลราชธานี ได้รับรางวัลพัฒนาพันธุ์ดีเด่นทุกปี หากนำเข้าจากเพื่อนบ้านซึ่งข้าวไม่มีสัญชาติเข้ามาผสมแล้ว ใครจะรับผิดชอบ หากราคาข้าวตกต่ำลงให้กับชาวนาภาคอีสาน ที่ปลูกข้าวได้ปีละครั้ง" นายบู๊เฮียง กล่าว
เขากล่าวว่า การดำเนินการของรัฐมนตรีพาณิชย์ในการนำเข้าข้าว ต้องการมุ่งสร้างภาพให้เห็นว่าข้าวขาดตลาด ไม่พอขาย ราคาทะยานสูง เพื่อลดน้ำหนักในการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ในเรื่องข้าว แต่ที่ผ่านมาได้เทสต็อกให้กับผู้ส่งออกรายเดียว ซึ่งมีข้อสังเกตหลายประการ เช่น ค่าการตลาดที่ให้บริษัทต่อรองได้ โดยผู้ประมูลรายอื่นไม่ทราบมาก่อน และบริษัทที่ได้งานไป มีชื่อในบัญชีดำของรัฐเกี่ยวกับการค้าข้าว แต่ไม่เคยมีบทลงโทษ
"การทำเช่นนี้ จะตอบฝ่ายค้านได้ว่าขายข้าวได้ราคาดี ไม่ขาดทุน ไม่เคยมีราคาข้าวที่สูงอย่างนี้มาก่อน สร้างภาพข้าวไม่พอขาย ดันราคาสูง เหมือนกับกรณีหวัดนก ที่ไก่ถูกเก็บเข้าห้องเย็นเพราะส่งออกไม่ได้ การเก็บไว้มีภาระต้นทุนก็ต้องสร้างภาพให้ รำแพง ข้าวโพดแพง ไก่ที่จะนำออกมาจึงจะมีราคาแพงได้เหมือนกันกับข้าวที่สร้างภาพ ข้าวไม่พอขายต้องนำเข้า เพื่อให้ราคาไม่ลดลงต่อ" นายบู๊เฮียง
อย่างไรก็ตามการบริหารประเทศทุกวันนี้ ไม่มีนักการเมืองออกมารับประกัน ว่า หากบริหารผิดพลาด สามารถเดินเข้าคุกได้ ซึ่งหากราคาข้าวตกต่ำในช่วง 4 เดือนข้างหน้า ที่ข้าวนาปรังจะออกสู่ตลาด และจีนเริ่มมีผลผลิต โดยขณะนี้ที่เมืองเฉินตูของจีน เริ่มผลิตข้าวได้แล้ว หากผลผลิตมากตามกลไกแล้ว ราคาจะต้องลดลงจะรับผิดชอบหรือไม่
โรงสีขอนแก่นหวั่นนำเข้าล็อตใหญ่ชาวนาลำบาก
นายชัยศิริ ลีศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคซีรุ่งเรือง การเกษตร เจ้าของโรงสีชัยมงคล จ.ขอนแก่น กล่าวว่า การเปิดนำเข้าข้าวของรัฐบาล 1.5 ล้านตัน เป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนข้าว โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้มีการสั่งให้ระงับการทำข้าวนาปรัง ซึ่งโดยปกติภาคกลางจะทำนาปีละ 3 ครั้ง ตลอดทั้งปี การสั่งระงับไม่ให้ปลูกข้าวนาปรัง ทำให้ข้าวเปลือกที่จะนำมาใช้ในโรงสีขาดแคลน
"ผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากการนำเข้าข้าวเปลือกครั้งนี้ คือ เกษตรกรโดยตรง โดยราคาข้าวในประเทศลดลง โดยปกติช่วงนี้โรงสีต่างๆ จะรับซื้อข้าวเปลือกที่ กก.ละ 5 บาท หากมีการนำเข้าข้าวเข้ามาจะทำให้ราคาลดลงทันที โดยการนำเข้าครั้งนี้เป็นการนำเข้าล็อตใหญ่ที่สุด ซึ่งขณะนี้ทราบว่าสมาคมชาวนาไทยได้คัดค้านเรื่องนี้แล้ว" นายชัยศิริ กล่าว
ด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า การนำเข้าข้าวเป็นอำนาจของกระทรวงพาณิชย์ในทางทฤษฎีนี้อาจจะทำได้ แต่ต้องมีการควบคุมทางปฏิบัติว่าจะทำอย่างไร ไม่ให้มีปัญหากับภาคการผลิตภายในประเทศ ซึ่งตนจะหารือกับนายวัฒนาในการประชุม ครม.วันที่ 11 พ.ค.นี้ แต่ทั้งนี้เชื่อว่านายวัฒนาน่าจะมีเหตุผล และคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก
กรมการค้าต่างประเทศรับลูกร่างระเบียบนำเข้า
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่าตามนโยบายของนายวัฒนา เมืองสุข รมว.พาณิชย์ จะเปิดโควตานำเข้าข้าว จากประเทศเพื่อนบ้าน กัมพูชา พม่า และลาว ในปริมาณ 1.5 ล้านตัน อัตราภาษีนำเข้า 0% ภายใต้ความร่วมมือเศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้าน (อีซีเอส) นั้น ขณะนี้กรมการค้าต่างประเทศ ยังไม่ได้ร่างระเบียบการนำเข้าข้าว ซึ่งต้องเสนอให้ ครม.เห็นชอบการนำเข้าข้าวก่อน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ครม.ได้เห็นชอบการนำเข้าสินค้าเกษตรกรจากประเทศเพื่อนบ้านแล้ว
โดยปกติไทยเปิดนำเข้าข้าว ตามโควตาที่ผูกพันไว้กับองค์การการค้าโลก(ดับบลิวทีโอ)ไทยต้องเปิดตลาดให้สมาชิกปีละ 249,757 ตัน โดยเสียภาษีนำเข้า 30% ขณะที่อัตราภาษีนำเข้านอกโควตาจะเสียภาษี 52% แต่มีการขอนำเข้าไม่เกิน 5,000 ตัน ส่วนใหญ่เป็นข้าวบาสมาติจากญี่ปุ่น เพื่อใช้ในธุรกิจร้านอาหารถือเป็นปริมาณเล็กน้อย
"ขณะนี้กรมฯ กำลังศึกษาเพื่อวางระเบียบปฏิบัติ โดยอิงกับการเปิดโควตาตามข้อตกลงดับบลิวทีโอ เพราะมีมติ ครม.รองรับแล้ว คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหา แต่ต้องดูว่าจะมีการออกหลักเกณฑ์ใหม่เพิ่ม นอกเหนือจากมติเดิมหรือไม่ ต้องพิจารณาว่าประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 3 แต่ละประเทศ จะส่งข้าวให้ได้เท่าไหร่คุณภาพข้าวเป็นอย่างไร รวมถึงการกำหนดแนวทางเพื่อรองรับว่า ข้าวที่นำเข้ามาจะนำไปส่งออกจริง "นายราเชนทร์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม กรอบระเบียบที่จะกำหนดขึ้น ไม่ใช่นำเข้ามาเพื่อใช้ชื่อประเทศไทย ในการส่งออก หรือให้ไทยไปทำหน้าที่รับรองคุณภาพ เพียงแต่ผู้ส่งออกของไทย ที่มีจุดแข็งด้านการตลาด ซึ่งได้รับความเชื่อถือจะเข้าไปทำหน้าที่ด้านการตลาดให้เท่านั้น
เขากล่าวว่า ขณะนี้ตลาดข้าวหลายแห่ง เช่น ฟิลิปปินส์ อิรัก และแอฟริกาใต้ ต้องการข้าวด้อยคุณภาพจากไทย เช่น ข้าว 25% ข้าว 35% ซึ่งไทยไม่มีผลผลิตหรือมีเพียงเล็กน้อย ดังนั้นการนำข้าวจากเพื่อนบ้านตามชนิดข้าว น่าจะเป็นประโยชน์ในการขยายตลาดข้าวของไทย ได้มากกว่าการผลิตเพื่อขายเอง
ปชป.ยื่นกระทู้สดถามเหตุผลรัฐเปิดนำเข้า
นายตรีพล เจาะจิตต์ ประธานคณะทำงานด้านการเกษตรของพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่จะนำเข้าข้าวจำนวน 1.5 ล้านตัน มีข้อเสีย 3 ประการ คือ 1.จะส่งผลทำให้ราคาข้าวในประเทศตกต่ำลง เนื่องจากพ่อค้าคนกลาง จะถือโอกาสกดราคาข้าวชาวนา 2.การนำข้าวคุณภาพต่ำ 25% หรือ 35% เข้าประเทศ โดยอ้างว่าเพื่อการส่งออกนั้นยังมีเหตุผลไม่พอ เพราะทั้ง 3 ประเทศ สามารถส่งออกได้เอง นโยบายนี้อาจเป็นช่องว่าง ให้บางบริษัทนำข้าวคุณภาพต่ำ จากต่างประเทศมาผสมกับข้าวไทย 10% และ 15% แล้วติดตราสินค้าว่าเป็นข้าวไทย ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อถือในเรื่องคุณภาพข้าวไทย
3.หากมีการดำเนินการดังกล่าวจะทำลายความเชื่อมั่นผู้ค้าระหว่างประเทศ ดังนั้นรัฐบาลต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ โดยฝ่ายค้านจะตั้งกระทู้สดถาม รมว.พาณิชย์ เพื่อขอคำตอบที่ชัดเจนในสภา ขณะนี้รัฐบาลควรยกเลิกการจำนำข้าว เพราะราคาข้าวในตลาดโลกดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องรับจำนำซึ่งเป็นช่องว่างให้เกิดการจำโกง และควรจะเร่งรัดการโละสต็อกข้าวเพื่อการส่งออกจำนวน 1.94 ล้านตัน ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว นอกจากนี้อยากตั้งข้อสังเกตว่าข้าวที่อยู่ในสต็อกอาจมีไม่ครบจำนวน