หน้า 1 จากทั้งหมด 4

ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 1:08 am
โดย รถถัง
สร้างความฮือฮาไม่น้อย หลังผู้บริหารสวนสยาม ออกมาเปิดเผยเตรียมนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ประมาณกลางปี 55
     
      วันนี้ (29 ก.ย.) นายวุฒิชัย เหลืองอมรเลิศ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สยามพาร์คซิตี้ กล่าวว่า บริษัท มีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาด ประมาณกลางปี 55 ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้เลือกว่าจะเข้าจดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หรือ ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ(mai)
     
      ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทยังมีผลขาดทุนสะสมอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท โดย ในสิ้นปีนี้ คาดว่า จะมีรายได้ประมาณ 400-500 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นระดับปกติ
     
      อย่างไรก็ตาม ถ้าสวนสยามได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า จากการออกโปรโมชั่น ในเดือน พ.ย.53 และทำให้มีรายได้เพิ่มมากกว่าปกติมา อยู่ที่ประมาณ 600-700 ล้านบาท กำไรก็น่าจะเพิ่มตามไปด้วย ซึ่งจะสามารถนำมาล้างขาดทุนสะสมได้
-----------
http://www.manager.co.th/StockMarket/Vi ... 0000136994

ช่วยแสดงความคิดเห้นกันหน่อยครับ ประเภทธุรกิจนี้น่าสนใจแค่ใน ส่วนตัว ไม่เคยไปเลยสวนสยาม ไปแต่ สวนสนุก ต่างประเทศ มาหลายที่ เห็นคนเยอะมาก บัตร หลายพันทีเดียว แต่ค่าใช้จ่ายท่าทางจะสูงเหมือนกัน ไม่ร้ว่าบ้านเรา ค่าบัตรถูกแพงเท่าไหร่ รายได้ดีเหมือนของเมืองนอกหรือเปล่า

ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 3:31 am
โดย gnomeller
ไร้คู่แข่ง แต่...........

ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 6:53 am
โดย reiter
ไปสวนสยามครั้งสุดท้ายประมาณ 20 ปีมาแล้ว  :lol:  :lol:

ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 7:51 am
โดย densin
อยากไป visit company !!   :lol:

ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 8:28 am
โดย ace
ไม่ได้เข้่าไปนาน
แต่ 2-3 ปีนี้ผ่านประจำ ก็เห็นคนเยอะแยะดีนะครับ
จากที่เคยมีช่วงนึงโล่งมาก  นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว

ชอบตรงเดินๆไปเจอเจ้าของกวาดพื้นอยู่นี่ละ

ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 8:55 am
โดย newbie_12
เข้าใจว่า ceo ของสวนสยาม ก็เล่นอยู่แถวๆนี้นะครับ  :lol:  :lol:

ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 9:26 am
โดย << New >>
[quote="newbie_12"]เข้าใจว่า ceo ของสวนสยาม ก็เล่นอยู่แถวๆนี้นะครับ

ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 9:39 am
โดย OutOfMyMind
อยากให้ฟื้นคืนชีพครับ เอาใจช่วยนะ นี่ผมจะมีโอกาสเป็นเจ้าของสวนสนุกและสวนน้ำแล้วหรือนี่ ฝันที่เป็นจริง  :wink:

ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 9:49 am
โดย rayshow
ไม่ได้ไปเกือบ 20 ปี ไม่รู้เปลี่ยนไปขนาดไหนแล้ว  :D

ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 12:32 pm
โดย ming1714
เคยไปแต่ดรีมเวิร์ดครับ  :lol:

ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 1:10 pm
โดย pisumsativm
ผมเพิ่งไปสวนสยามวันเสาร์ที่ผ่านมานี้เองครับซื้อบัตร 450 บาท(ไปเยอะเลยได้ลดจาก 600 บาท)

เครื่องเล่นเยอะดีครับ แต่เปิดให้บริการบางเครื่อง ส่วนใหญ่จะปิดปรับปรุง :'O  :'O เซ็งสุดๆครับ เพราะซื้อบัตรที่เล่นได้ทุกเครื่องเล่นไปแต่กลับเล่นไม่คุ้ม

ส่วนคนที่ไปยังบางตาอยู่ครับ เมื่อเทียบกับสิบปีก่อนนี่ถือว่าน้อยน่าใจหายเลย
จึงเป็นข้อดีบ้างที่ไม่ต้องรอเล่น(ไม่มีคนต่อคิวนัั่นเอง ฮ่าๆ)

พิพิธพันธ์ไดโนเสาร์แอร์ก็ไม่เปิด แถมร้านขายรองที่ระลึกก็ปิดให้บริการ ของข้างในเก่ามากแล้ว น่าจะมีการปรับปรุง ทาสีใหม่ก็ยังดี ดูร้างๆไยังไงก็ไม่รู้

คนส่วนใหญ่เขาจะไปเล่นสวนน้ำกัน ถือว่ายังมีจุดขายอยู่บ้างครับ

อ่อเห็นมีส่วนที่กำลังสร้างอยู่ด้วย น่าจะเป็นรถไฟเหาะมั้ง

ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 1:16 pm
โดย Paul VI
[quote="<< New >>"][quote="newbie_12"]เข้าใจว่า ceo ของสวนสยาม ก็เล่นอยู่แถวๆนี้นะครับ

ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 1:24 pm
โดย thaloengsak
Her Her
ไปเมื่อ15ปีที่แล้ว

ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 1:26 pm
โดย นพพร
ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยไปเลยอ่ะครับ อยากไปเหมือนกัน เห็นว่าเป็นสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดหรือเปล่าครับ

ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 2:32 pm
โดย slalom
คือผมเคยอ่านประวัติชีวิตเจ้าของ ชอบในความเป็นคนสู้ชีวิตครับ เลยอยากนำมาแบ่งปัน อันนี้เป็นบทสัมภาษณ์น่าจะประมาณปี 49 ครับ
จากวันวาน...สู่วันนี้ี้ของสวนสยาม


 จากเด็กบ้านนอกที่ครอบครัวยากจน แต่มีความฝันยิ่งใหญ่ที่อยากจะมีเงินเพื่อสร้างสิ่งที่ทำให้ผู้คนมีความสุข ทุกวันนี้ความฝันของเขาเป็นจริงขึ้นมา เขาเป็นถึงเจ้าของสวนสนุกที่เปิดมา 26 ปี ภายใต้คำขวัญสั้นๆ ว่า สวนสยาม...โลกแห่งความสุข สนุกไม่รู้ลืม เขาผู้นี้คือ คุณไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ

ชีวิตในวัยเด็กเป็นอย่างไร  ช่วงเด็กก็สนุกแบบเด็กๆ เราเป็นเด็กจนๆ ไม่มีโอกาสเหมือนคนอื่น แต่ไม่เคยคิดน้อยใจ รุ่นเด็กผมผ่านมาตั้ง 60-70 ปีที่แล้ว สมัยนั้นใครกินน้ำส้มไบเล่ก็เป็นลูกเศรษฐีแล้ว เราเป็นคนจนก็สนุกแบบคนจนไป เราไม่เคยน้อยเนื้อต่ำใจเรื่องจนเลย เราคิดว่าทำอย่างไรวันหนึ่งจะรวย แล้วจะทำอย่างไรที่จะช่วยคนจนได้และไม่ให้ใครเรียกเราคนจน คิดอยู่แค่นี้ ในวัยเด็กเราอย่าไปคิดถึงปมด้อยของตัวเราเองดีกว่า เพราะถ้าเราคิดถึงปมด้อยตัวเอง มันก็จะมีปมด้อยอยู่ตลอด ถ้าเราจนเราอย่าโทษพ่อแม่ จริงอยู่ พ่อแม่เราจน แต่ทำไมเราต้องจนตามพ่อแม่เราด้วย เรามีโอกาสรวยเหมือนคนอื่น คนอื่นเขาจนมาก่อน เขายังรวยได้ เราไม่มีความรู้ ทำอย่างไรถึงมีความรู้ มันอยู่ที่ตัวเราเองทั้งหมด

สำเร็จการศึกษาจากที่ไหน
 ผมไม่มีโอกาสได้เรียนเลย อยากเรียนจะตาย จบแค่ป.4 โรงเรียนบ้านนอกนี่มันมีแค่ป.4 ซึ่งเป็นภาคบังคับก็ถือว่าจบแล้ว ผมเองพ่อแม่จน ไม่มีปัญญา

 

เลยไม่ได้เรียน หนังสือผมไม่เป็นเลย แค่ภาษาอังกฤษคำเดียวยังไม่เป็นเลย ผมไปเมืองนอกเมืองนาเหมือนคนตาบอด แต่ไปทุกปี ปีหนึ่งหลายครั้งด้วย ไปทุกประเทศทั่วโลก แต่ไม่เคยรู้ภาษาเขาเลย พอขึ้นเครื่องบินก็เหงาแล้ว จะขอน้ำยังไม่เป็นเลย

แล้วติดต่อธุรกิจกับต่างประเทศอย่างไร
 ภาษาอังกฤษก็ใช้ล่าม เมืองไทยเราคนเก่งๆ เยอะ แต่ก่อนเวลาผมติดต่อธุรกิจ ผมก็เอาดอกเตอร์ ที่เก่งภาษาอังกฤษติดต่อ ทั้งวิศวะ สถาปนิก ช่างไฟฟ้า ช่างประปา ภาษาอังกฤษเป็นไฟ ไปไหนก็ไปกัน 3-5 คน เราพูดภาษาเขาไม่เป็น ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นใบ้นี่ พูดภาษาไทยได้ก็ใช้ได้แล้ว พรรคพวกเราเยอะแยะไป

ก่อนที่จะทำสวนสนุกเคยทำอาชีพอะไรมาก่อน
 อาชีพที่ผ่านมาเยอะ ตั้งแต่กระเป๋ารถเมล์ รถรับจ้าง ขายปลาทู ขายของชำ ก่อนที่จะมาทำสวนสนุกก็เคย เป็นเศรษฐีบ้านจัดสรรมาก่อน เป็นคนแรกที่คิดทำบ้านจัดสรร ที่คิดได้เพราะตอนที่ไปเมืองนอกเห็นเขาทำเลยมาทำบ้าง กลับมาทำที่เมืองไทยก็โอเคใช้ได้ และได้เป็นอุปนายกสมาคมบ้านจัดสรร เป็นนักธุรกิจตัวอย่างของประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นอะไรอีกเยอะ เป็นที่ปรึกษาของพรรคการเมือง เป็นส.ส.สอบตกของเขต เป็นกรรมการหอการค้าไทย เป็นจนไม่อยากจะเป็นอะไรแล้ว ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยจันทรเกษม เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของมหาวิทยาลัยจันทรเกษม 4 สมัยซ้อน เป็นอาจารย์พิเศษของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และจุฬาฯ ไปสอนเป็นบางครั้งบางคราว จะไปบรรยายเกี่ยวกับเรื่องประสบการณ์ ส่วนเรื่องวิชาความรู้มีอาจารย์สอนเยอะแล้ว เราเอาประสบการณ์ที่ในตำราไม่มี

มีจุดหักเหในชีวิตบ้างไหม
 ทุกช่วงได้ ผมหักเหตั้งแต่เด็กจนโต ไม่มีช่วงไหนเลยที่ไม่หักเห ผมหักเหจากตรงนี้กระโดดไปนี้ หักเหมาตลอดในชีวิต มันเป็นจังหวะของชีวิต ไม่ค่อยอยู่นิ่ง

สวนสยามมีจุดเริ่มต้นอย่างไร

 จุดเริ่มต้นของการทำสวนสนุก คือ ตอนเด็กๆ เราเคยเล่นแต่ไม้กระดก ม้าก้านกล้วย ทอยเบี้ย เมื่อโตขึ้นจึงตั้งใจไว้ว่าจะพัฒนาอะไรบางอย่างให้เด็กสามารถสนุกและคลายความตึงเครียดได้ หลังจากที่เติบใหญ่มาแล้วก็มีโอกาส เพราะตอนเด็กๆ มันจน พอมีโอกาสทำบ้านจัดสรรแล้วมีเงินเหลือและช่วงนั้นมีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างประเทศหลายครั้ง ทั้งในอเมริกาและยุโรป ทีี่ีแรกคิดการใหญ่ถึงดิสนีย์แลนด์ เพราะช่วงนั้นมีเงินเยอะแล้ว จากการจัดสรรที่ดิน เงินเรามาจากประชาชน แล้วเราก็เคยจนมาก่อน เลยอยากทำอะไรสักอย่างหนึ่งเพื่อประชาชน ก็คิดไปคิดมา อยากทำสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ทันสมัย พอดีได้ที่ดิน 1,000 กว่าไร่ที่บึงกุ่ม ก็แบ่งส่วนหนึ่งมาจัดสรร อีก 500 ไร่มาทำสวนสนุกซะ ทีแรกไม่คิดว่าจะหารายได้ จะทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน

แล้วทำไมถึงเปลี่ยนความคิด
 เพราะต่อมามีการศึกษาในเรื่องของความเป็นไปได้ในการสร้างสวนสนุกและทำอย่างไรถึงจะให้มีสวนสนุกในเมืองไทยได้ ปรากฏว่าได้มีการวิเคราะห์และหาความรู้ลึกลงไป เห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย ดิสนีย์แลนด์ใช้เงินลงทุนมหาศาล เงินลงทุนมหาศาลเหล่านั้นหากไม่ทำให้เกิดรายได้ก็ไม่สามารถอยู่ได้ เมื่อเราตั้งใจทำและประกาศไปแล้วว่าเราจะทำดิสนีย์แลนด์ในเมืองไทย เลยล้มความคิดเก่า เนื่องจากว่าต้องใช้เงินร่วมหมื่นล้านบาทในสมัยนั้น (ประมาณปีพ.ศ. 2523) การบริหารจัดการก็ค่อนข้างซับซ้อนและการลงทุนต้องใช้เทคโนโลยีอย่างสูง คิดว่าไม่เอาดีกว่า ไม่เอาแล้วต้องทำอย่างไรล่ะ จะเลิกก็เลิกไม่ได้ เลยต้องศึกษาความเป็นไปได้ให้เหมาะสำหรับประเทศไทย กลับมาดูที่ญี่ปุ่น เขามีสวนน้ำ เขาเอาทะเลขึ้นมาไว้บนบก แล้วก็พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวและที่พักผ่อนหย่อนใจ พอกลับมาเมืองไทยก็ศึกษา เมืองไทยเรายังมีคลองอยู่ มีทะเลใกล้ๆ เยอะ ไปเที่ยวได้ทั้งนั้น ไม่เหมือนที่ญี่ปุ่น เพราะที่ญี่ปุ่นทะเลคลื่นใหญ่ มาคิดอีกทีว่าคลองหรือแม่น้ำบ้านเรามีโอกาสที่มีมลภาวะมากขึ้นและคนกรุงเทพฯ จะไปเล่นน้ำที่ต่างจังหวัดอาจจะไกล ประกอบกับสระว่ายน้ำกำลังเป็นที่นิยม เลยมาสร้างทะเลกรุงเทพฯ ขึ้น สวนสนุกก็เกิดจากการสร้างทะเล

เครื่องเล่นของสวนสยามเข้ามาเมื่อไร
 พอสร้างทะเลแล้วก็ยังขาดเครื่องเล่น เราก็เริ่มหาเครื่องเล่นเข้ามา แต่เนื่องจากว่าช่วงนั้นพื้นที่ 500 ไร่ กว่าจะพัฒนา ปรับปรุงและกว่าจะลงทุนเรื่องสวนสนุก มันหมดไปแล้วหลายร้อยล้านบาท เมื่อเราสร้างสวนสนุกไปแล้ว การพัฒนาเงินและรายได้ก็ไม่พอ เลยหยุดพัฒนามาเรื่อย จนในที่สุดเป็นหนี้แบงค์ถึงสามพันล้านบาท ต้องหยุดพัฒนามาร่วม 20 ปี การสร้างสวนสนุกเรามีโอกาสทรมานจิตใจของครอบครัวอย่างหนัก เพราะเป็นหนี้แบงค์อยู่ร่วมสามพันล้านบาท แต่เราไม่มีโอกาสที่จะชำระคืนได้ โอกาสล้มละลายอยู่แค่เอื้อม

ผ่านช่วงนั้นมาได้อย่างไร
 ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ เราทนอยู่มาได้แบบทนล้มละลายอยู่ 26 ปีเต็ม ปีที่ 22-23 เกิดเหตุการณ์ช่วยประเทศชาติ ครั้งนั้นมีคนล้มมากกว่าเราเป็นหมื่นๆ ล้าน เราสามพันล้านเลยกลายเป็นจิ๊บจ๊อยสำหรับประเทศไทยไป เราเคยเป็นหนี้ธนาคารอันดับ 1 แต่พอ 23 ปีให้หลังเรากลายเป็นผู้ที่เป็นหนี้แบงค์น้อยที่สุด ต่อมารัฐบาลและแบงค์มีประกาศให้มีการช่วยเหลือหนี้ที่มีปัญหา เพื่อสร้างเศรษฐกิจให้เป็นเหมือนเดิม เราเลยเคลียร์ปัญหากับหนี้เสียได้และปรับโครงสร้างหนี้ได้ แล้วชำระหนี้แบงค์ไปได้จนหมด ทำให้เป็นอิสระ แล้วโอกาสที่เราทำธุรกิจอย่างนี้เรารู้สึกว่าเลิกไม่ได้ เราต้องพัฒนา

 มนุษย์เราเวลาเครียดจะคลายเครียดอย่างไรไม่มีตำราบอก คุณเครียดแล้วคุณคิดว่าคุณไม่เครียด คือคลายเครียดแล้ว มันไม่มีอะไรที่คลายเครียดได้ แต่ถ้าเราไปจมปลักหรือจะเป็นจะตาย คุณต้องเอาชนะตรงนี้ให้ได้ มันก็คิดอยู่ทั้งปีและอาจเครียดจนแก้ปัญหาไม่ตก ผมเองเป็นหนี้มา 26 ปี จะล้มละลายอยู่ทุกปี ใครก็บอกว่าคุณอยู่ไม่ได้ล้มละลายแน่นอน ถ้าถามผมว่าเครียดไหม ผมเครียดก็เครียด แต่ผมคิดอย่างไม่เครียด  ล้มละลายพรุ่งนี้เราก็หิ้วกระเป๋ากลับบ้าน เกิดมาเรามีอะไรมามีแต่ตัวมา เมื่อล้มละลายก็กลับไปเหมือนเดิม เราเคยกินสเต็ก วันนี้กินข้าวเปล่ากับเกลือก็ได้ เครียดเดี๋ยวเดียว อย่างปีหน้าเราล้มละลายแน่แล้ว โอ๊ย ปีหน้าอีกตั้งนาน 365 วัน เป็นห่วงทำไมปีหน้า



 

แล้วจุดต่ำสุดกับสูงสุดในชีวิตอยู่จุดไหน
 ช่วงเดียวกันเลย บางครั้งวันนี้ต่ำสุดเหลือเกิน เป็นหนี้แบงค์ตั้งสามพันล้าน เดี๋ยวพรุ่งนี้แบงค์
บอกไม่เอาแล้วยกหนี้ให้เลย กลายเป็นเศรษฐีสามพันล้านแล้ว ชีวิตต่ำสุดสูงสุดอยู่คู่กันตลอด ไม่เคยห่างกันเลย ชีวิตผมปล่อยให้อยู่ที่จังหวะและโอกาส เราตั้งเข็มอะไรไม่ได้หรอก เพราะเราไม่มีความรู้ที่จะตั้งเข็มหรือคอนโทรลชีวิตเรา เราก็ใช้จังหวะเวลาและโอกาสหันเหชีวิตเรา

ในการทำงานมีคติอะไร
 คติในการทำงานนะง่าย ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน แล้วก็อย่าไปคิดเพ้อฝันโดยที่ไม่เกิดประโยชน์

จากการบริหารสวนสยามตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีเหตุการณ์ไหนที่ประทับใจมากที่สุด
 ประทับใจมากที่สุด คือ คนมาเที่ยวแล้วมีความสุขกลับไป แต่ที่ทุกข์ที่สุด คือ คนมาเที่ยวแล้วบางทีไม่เข้าใจ หรือว่าเด็กเราไม่เข้าใจเขา มีบ้างที่คนมาเที่ยวแล้วคนที่ให้บริการหงุดหงิดใส่ เพราะพนักงานเรายังไม่เป็นสากล ถ้าถามว่าใครผิด เราคนบริหารจัดการผิด เราไม่เคยสอนเขาว่าบริการอย่างไร ดังนั้นจึงต้องเปลี่ยนแปลง ผมเริ่มเปลี่ยนแปลงแล้วรู้สึกมันดีขึ้นในสวนสยามนี้ ไม่ว่าจะเป็นการบริการ การปลูกต้นไม้ การเปลี่ยนแปลงเริ่มดีขึ้น แต่ก่อนคุณจะมาหาใครสักคน เขาจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กันทั้งหมด เพราะเขาว่าคุณมากวน แต่สมัยนี้มันไม่ได้แล้ว ใครมาต้องรู้เรื่องว่ามาทำไม

สมัยก่อนกับสมัยนี้บริหารมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร  การบริหารจัดการ แต่ก่อนจะเป็นการบริหารแบบครอบครัว ไม่พอใจก็ด่า พอใจก็ให้รางวัลแต่เดี๋ยวนี้เลิกแล้ว เพราะว่าโลกมันเปลี่ยนแปลง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงจากการบริหารแบบครอบครัวมาเป็นสากลแบบมีความรู้และการให้บริการแบบที่มีหลักวิชาการมาช่วยจัดการมันหนักและลำบากมาก เพราะว่าเราปกครองแบบเก่ามา 26 ปีและบุคลากรเก่าๆ ก็โดนใช้มาแบบไม่มีระบบระเบียบ ต้องใช้วิทยากรมาอบรม วิธีการจัดการสมัยนี้กับสมัยเก่ามันผิดกัน ถ้าเป็นสมัยใหม่ก็ง่ายขึ้น แต่ต้องมีการอบรม ต้องใช้อาจารย์เข้ามาติวมากพอสมควร เริ่มติวที่หัวหน้าก่อน ติวเสร็จหัวหน้าก็มาติวต่อ มันก็จะเป็นระบบ แต่ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง ตอนนี้ใช้มา 2 ปีแล้ว ปีนี้เข้ารูปเข้ารอยหน่อย ปีหน้าคงจะเรียบร้อยหมด ใครไม่ดีก็จะโดนรีไทร์ออก

วางอนาคตให้สวนสยามอย่างไร
 ตอนนี้ได้เครื่องเล่นใหม่ๆ มา 6 ตัว เป็นเครื่องเล่นที่ทันสมัย มีรถไฟเหาะห้อยขาตีเกลียว เป็นตัวที่ใหญ่ที่สุด วิ่งแล้วก็เหาะไปแล้วตีเกลียวกลับมา ตัวนี้วัยรุ่นมาเห็นต้องกรี๊ดกร๊าดขึ้นไป ถามว่ากลัวกันไหมก็คงกลัวกันทั้งนั้น แต่ขึ้นไปแล้วเนี่ยจะทำให้หัวใจแข็งแรง เลือดสูบฉีดร่างกายดี ทำให้สมองปลอดโปร่ง ตัวที่สอง เรียกว่า บูมเมอแรง เป็นรถไฟเหาะ นั่งตีลังกากลับไปแล้วก็ตีลังกากลับมา ตัวที่สาม ไจแอนท์ ชอป หรือ ตกตึก สูงประมาณ 60 เมตร เมื่อดึงขึ้นไปแล้วก็ปล่อยลงมา ทิ้งดิ่งลงมา ไม่อันตรายเพราะมีแม่เหล็กคอยเบรกอยู่ เป็นตัวที่สร้างความตึงเครียดของคนได้ ตัวที่สี่ เรียก คอนดอร์ เป็นตัวที่ใส่ตะกร้าแล้วหมุนขึ้นไป อีกตัวหนึ่งเรียกว่า พรมเหาะ พอนั่งไปแล้วจะหมุนเหาะขึ้นไปถึงข้างบน เหมือนคนนั่งแล้วเหาะได้ ตัวสุดท้ายสำหรับครอบครัว เป็นหอประมาณ 100 เมตร เพื่อขึ้นไปดูสถานที่ บางคนถามว่าแถวนี้ขึ้นไปดูอะไร เราก็บอกว่าไปดูตรงไหนก็ได้ ดูมีนบุรี ดูกอล์ฟนวธานี ดูวิวในสวนสยามได้ทั้งหมด 6 ตัวนี้การลงทุนหลายพันล้านบาท ถ้าบวกสถานที่ไปด้วยที่ต้องลงทุนก็ประมาณ 2-3 พันล้านบาท

 

เครื่องเล่น 6 ตัวนี้จะเสร็จเมื่อไร
 คิดว่าเสร็จในปลายปีหน้า ปี 2550 ก่อนหน้านี้เราได้สร้างอีก 2-3 อย่างที่สำหรับครอบครัว คือ ไดโนเสาร์จำลองแบบจูราสสิคพาร์ค จะให้นั่งรถจิ๊ปเข้าไปชมไดโนเสาร์ที่เคลื่อนไหวได้ เราลงทุนร่วม 100 กว่าล้าน แล้วก็มีท่องแดนซาฟารีสำหรับเด็ก มีสัตว์ที่เราสร้างขึ้นมาเหมือนสัตว์จริง ตัวที่สาม เป็นรถไฟด่วนจิ๋ว ซึ่งเป็นคิงคอง เด็กจะได้เห็นคิงคอง ที่เราสร้างเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อต้องการให้เด็กได้เรียนรู้ถึงสัตว์ป่า อนุรักษ์สัตว์ป่าและอาจเป็นสัตว์ที่เด็กชอบในหนังหรือสารคดี แต่อย่างไรก็ตามสวนน้ำและทะเลกรุงเทพฯ เรายังเป็นเอก

ตอนที่เปิดสวนน้ำช่วงแรกๆ มีปัญหาอะไรไหม
 ตอนที่เราสร้างแรกๆ คนไทยลงไม่ได้ เพราะไม่มีชุดว่ายน้ำ ไม่กล้าลง อายไม่เหมือนฝรั่ง เขาสามารถใส่วันพีช ทูพีชลงกันได้ แต่คนไทยเราจะนุ่งโสร่งลงอย่างเดียว ก็มีปัญหาหนักที่คนไม่มาเที่ยว ต่อมาเราให้ใส่อย่างเหมาะสม ชุดว่ายน้ำที่มีการตัดเย็บแบบไทยๆ สามารถลงสระว่ายน้ำได้ ก็ปรากฏว่า มีคนมาเล่นเยอะและเราสามารถสอนนักเรียน ให้ว่ายน้ำเป็น ปีหนึ่งๆ มีเด็กที่มาว่ายน้ำเป็นหลายหมื่นคน ทำให้เป็นที่ฮือฮา ในเรื่องทะเลกรุงเทพฯ ของสวนสยาม

เครื่องเล่นในสวนสยามมาจากที่ไหน
 เครื่องเล่นมาจากเนเธอร์แลนด์ส่วนหนึ่ง จากเยอรมันส่วนหนึ่ง จากเนเธอร์แลนด์ก็มาจากบริษัททำเครื่องเล่นที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ด้านความปลอดภัยของเครื่องเล่น
 ความปลอดภัยมันเป็นหลักสากล เครื่องเล่นทุกชนิดกว่าจะดีไซน์ออกมาที่แพงนี่ เพราะเขามีการจัดการที่ดีและมีคู่มือบอกว่า มีการบำรุงรักษาอย่างไร วิธีการป้องกัน เครื่องเล่นต้องเซฟตี้มาเป็นร้อยเป็นหมื่นเปอร์เซนต์ หากเสียหายนิดเดียว บริษัทเขาก็อยู่ไม่ได้ เพราะฉะนั้นคนคิดเครื่องเล่นต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ ต้องคิดเรื่องปลอดภัยก่อน ความปลอดภัยสมัยนี้เทคโนโลยีช่วยให้มีความปลอดภัยได้สูง แล้วยังใช้เรื่องจัดการเข้ามาช่วยด้วย เรื่องพวกนี้จึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่

เคยเล่นเครื่องเล่นในสวนสยามบ้างไหม
 เครื่องเล่นทุกตัวที่มี ในฐานะเจ้าของต้องลองเล่นก่อน แต่เมื่อมาติดตั้งแล้ว เราลองแล้วรู้แล้ว เราคงไม่มาเล่นบ่อย เพราะการบริหารจัดการเราจะมานั่งเล่นให้ลูกน้องดูไม่ได้หรอก เราเล่นลูกน้องเล่นบ้าง คนอื่นไม่ต้องเล่น ถ้าเราเล่นแล้วรู้สึกว่าปลอดภัยดีแล้ว ทุกคนลองครั้งแรกรู้แล้ว ก็ไม่ต้องเล่นให้บ่อยๆ ทุกตัวเราก็ต้องลองมาแล้วทั้งนั้น เราจะซื้อตัวไหนต้องรู้ถึงความเป็นมาของมันและต้องเล่นด้วย

คิดว่าสวนสยามเทียบเท่ากับต่างประเทศได้ไหม
 ถ้าถามว่าเทียบต่างประเทศ ต้องว่าประเทศไหน ถ้าประเทศทางอาเซียนเรากินหมด ถ้า 6 ตัวที่กำลังจะเสร็จนี้เสร็จนะ ไม่ว่าจะเป็นลาว เขมร พม่า เวียดนาม สิงคโปร์ เราชนะ แต่มาเลเซีย อินโดนีเซียเราไม่แน่ใจแต่คงสู้ได้ เพราะสวนน้ำไม่มีใครใหญ่เท่าเรา ที่ถือได้ว่าใหญ่ที่สุดในเอเชีย ใหญ่กว่าญี่ปุ่นและอเมริกาด้วย ถึงเราเอาเครื่องเล่น 6 ตัวนี้มายังสู้เขาไม่ได้ แต่ก็ไม่น้อยหน้าล่ะ จากนี้ไปง่ายแล้ว การพัฒนาจากตรงนี้ไปมันพ้นขีดอันตรายใน 26 ปีที่แล้วมาแล้ว

มีการวางแผนอนาคตไว้อย่างไรบ้าง
 หากหนี้สินสำเร็จผมก็คงตายพอดี ปีนี้ 60 กว่าแล้ว เราคงไม่มีปัญญาไปดูแลมากกว่านี้ ตอนนี้ก็ให้ครอบครัว ลูกทั้ง 3 คนเป็นผู้จัดการบริหารจัดการ คนแรกเรียนจบเอแบค (ABAC) ตอนนี้ให้ไปเรียนโทที่จุฬาฯ เกี่ยวกับการท่องเที่ยว แล้วให้ขึ้นเป็นประธานแทน คนที่สองส่งไปเรียนปริญญาตรีที่อังกฤษ จบโทการเงินจากจุฬาฯ และโทการตลาดจากธรรมศาสตร์ มาเป็นผู้จัดการใหญ่ ส่วนลูกสาวคนเล็ก จบจากอังกฤษ กำลังเรียนโทด้านการเงิน เพื่อจะได้ดูแลการเงินของที่นี่ ก็มอบให้พวกเขาไป แต่ว่าเขาจะทำหรือสานต่อหรือจะขายหรือจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ จะทำอะไรก็เป็นหน้าที่ของเขาแล้ว หลังจากเครื่องเล่น 6 ตัวนี้มา คิดว่าจะลาแล้ว ที่นี้จะสานต่อหรือไม่สานต่อก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เวลานี้พอใจกับชีวิตหรือยัง
 ผมพอใจมาตั้งแต่เกิดแล้วครับ เกิดมาผมก็พอใจกับชีวิตผมแล้ว ถ้าผมตายเมื่อไหร่ก็พอใจ

http://utcc2.utcc.ac.th/faculties/comar ... ansiam.htm

ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 8:39 pm
โดย kabu
น่าสนใจครับ
เคยไปตอนเด็กๆ
รอดูรายละเอียดต่อไปครับ  :D

ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 9:03 pm
โดย Pu
[quote="newbie_12"]เข้าใจว่า ceo ของสวนสยาม ก็เล่นอยู่แถวๆนี้นะครับ

ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 9:07 pm
โดย Pu
gnomeller เขียน:ไร้คู่แข่ง แต่...........
ถูกต้องครับ ... ธุรกิจนี้มีแต่เพื่อนครับ :D

------------------------------------------------------------
reiter เขียน:ไปสวนสยามครั้งสุดท้ายประมาณ 20 ปีมาแล้ว  :lol:  :lol:

ลองแวะมาเยี่ยมบ้างก็ได้นะครับ  :wink:

------------------------------------------------------------
densin เขียน:อยากไป visit company !!   :lol:
เปิด visit เมื่อไหร่จะเชิญเลยครับ :8)

-------------------------------------------------------------
ace เขียน:ไม่ได้เข้่าไปนาน
แต่ 2-3 ปีนี้ผ่านประจำ ก็เห็นคนเยอะแยะดีนะครับ
จากที่เคยมีช่วงนึงโล่งมาก  นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว

ชอบตรงเดินๆไปเจอเจ้าของกวาดพื้นอยู่นี่ละ
เจ้าของปีนี้ 72 แล้วครับ ... กวาดไม่ไหวแล้ว :wink:  :lol:  :lol:

ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 9:14 pm
โดย Pu
[quote="OutOfMyMind"]อยากให้ฟื้นคืนชีพครับ เอาใจช่วยนะ นี่ผมจะมีโอกาสเป็นเจ้าของสวนสนุกและสวนน้ำแล้วหรือนี่ ฝันที่เป็นจริง

ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 9:20 pm
โดย Pu
thaloengsak เขียน:Her Her
ไปเมื่อ15ปีที่แล้ว
เชิญครับ

.................................................................................
นพพร เขียน:ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยไปเลยอ่ะครับ อยากไปเหมือนกัน เห็นว่าเป็นสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดหรือเปล่าครับ
เราเป็นสวนน้ำและ/หรือสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอยู่แล้วครับ และน่าจะเป็นหนึ่งในสวนฯที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน

แต่ที่แน่ๆ ณ ปัจจุบัน คุณภาพและจำนวนของเครื่องเล่นในสวนสนุกและสวนน้ำ เราไม่แพ้ใครในเอเชียครับ :o

................................................................................

slalom เขียน:คือผมเคยอ่านประวัติชีวิตเจ้าของ ชอบในความเป็นคนสู้ชีวิตครับ เลยอยากนำมาแบ่งปัน อันนี้เป็นบทสัมภาษณ์น่าจะประมาณปี 49 ครับ
ตอนนั้นยังซื้อเครื่องเล่นแค่ 6 ตัว .. ต่อมาเซ็นสัญญาซื้อเพิ่มอีก 10 ตัวครับ

................................................................................
kabu เขียน:น่าสนใจครับ
เคยไปตอนเด็กๆ
รอดูรายละเอียดต่อไปครับ  :D
ยินดีครับ

ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 9:20 pm
โดย Paul VI
คุณ ปู พูแล้ว ห้ามคืนคำนะ  :D

Re: ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 9:23 pm
โดย Pu
[quote="貴珍"]สร้างความฮือฮาไม่น้อย หลังผู้บริหารสวนสยาม ออกมาเปิดเผยเตรียมนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ประมาณกลางปี 55

ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 9:26 pm
โดย Pu
[quote="Paul VI"]คุณ ปู พูแล้ว ห้ามคืนคำนะ

Re: ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 9:31 pm
โดย Pu
[quote="Pu"]ตอนสัมภาษณ์ ... พี่ๆนักข่าวถามว่าจะเข้าตลาดฯเมื่อไหร่ ตอบไปว่า ... ปีนี้(2553)จะยังไม่มีการตัดสินใจครับ ดังนั้นอย่างเร็วที่สุด ก็น่าจะเป็นกลางปี 2554 ครับ

ขอเป็นกำลังใจให้ครับคุณปู

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 9:58 pm
โดย vichais
ขอเป็นกำลังใจให้ ครับ ได้มีโอกาสคุยกับคุณปู ในงานจิบเบียร์คราวก่อนโน้น
ได้รับคำแนะนำที่ดีมากมาย ถ้าว่างคราวหน้าแวะมาจิบเบียร์กันอีกนะครับ

อย่างไรเสียจะเข้าตลาดในฐานะ VI ก็จะดูงบให้ละเอียด เลยครับ

ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 10:23 pm
โดย platalay
ความเห็นเพิ่มเติม

ผมอยากให้มีบันจี้จั๊มด้วยครับ เอาแบบจ่ายตังเพิ่มก็ได้ ไม่เกิน 700 ก็ยังพอรับได้ แต่ถ้าให้ดี ไม่เกิน 500 จะแจ่มมากกกกก.... เพราะมันจะไปคาบเกี่ยวกับบัตรเข้าบัตรเครื่องเล่น ถ้าสนใจลองบวกลบคูณหารความคุ้มค่า รับได้กี่คนต่อ ชม. ค่าดูแล

เพราะใน กทม. ไม่มีเลย มีที่พัทยากับภูเก็ต แล้วราคาก็ค่อนข้างแพง (สำหรับคนไทย) ผมจะเล่นคุณแฟนไม่ยอมให้เล่น บอกเสียวแป๊บเดียวตั้ง 1500 บอกให้กลับไปเสียวที่บ้านดีกว่า


เอาแบบที่มาเก๊าเลยก็ดี แต่ที่โน่นไม่ไหว แพงมากกกกกกกกๆๆๆๆๆๆๆ... เล่นคนเดียว มี vdo มีรูปถ่ายให้ด้วย ราคาปาไป 1888 HKD

ถ้าเต็มที่แพคเกจของเค้าเลย ปาไป 2488 HKD

แต่ของมาเก๊าเค้าสูงจริงๆ เห็นเครมว่าเป็น Guinness World Record - the Highest Commercial Decelerator Descent

ถ้าสนใจเอาลิ้งไปดูได้ครับ
http://www.macautower.com.mo/en/dining_ ... index.html

ปล.ถ้าจะทำ ขอสูงๆหน่อยนะครับ อิอิ อยากเสียวจะแย่

ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 10:37 pm
โดย reiter
ท่าน ceo มาตอบเองเลย อย่างนี้ต้องหาโอกาสไปเยี่ยมเยียนหน่อยแล้วครับ  :oops:  :oops:

ไม่ได้ไปนานมากกกกก จนนึกหน้าตาสวนสยามไม่ออกแล้ว

Re: ขอเป็นกำลังใจให้ครับคุณปู

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 10:37 pm
โดย Pu
vichais เขียน:ขอเป็นกำลังใจให้ ครับ ได้มีโอกาสคุยกับคุณปู ในงานจิบเบียร์คราวก่อนโน้น
ได้รับคำแนะนำที่ดีมากมาย ถ้าว่างคราวหน้าแวะมาจิบเบียร์กันอีกนะครับ

อย่างไรเสียจะเข้าตลาดในฐานะ VI ก็จะดูงบให้ละเอียด เลยครับ
นั่นซิครับ ก่อนจะเข้าตลาดฯเลยต้องคิดหนัก เดี๋ยวตอบคำถามใน ThaiVI ไม่ได้ :lol:  :lol:  :lol:

....................................................................................
platalay เขียน: ผมอยากให้มีบันจี้จั๊มด้วยครับ เอาแบบจ่ายตังเพิ่มก็ได้
เราคงไม่มีนโยบายติดตั้งหรือนำบันจี้จั๊มเข้ามาครับ เพราะเราเครื่องเล่นที่มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าอยู่แล้วคือ Giant Drop สูง 75 เมตร (สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) ผลิตโดยบริษัท Intamin จากประเทศสวิสฯครับ

http://www.siamparkcity.com/attractions ... d=3&aid=13 (ขออนุญาตวาง link นะครับ)

ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 10:44 pm
โดย Pu
[quote="reiter"]ท่าน ceo มาตอบเองเลย อย่างนี้ต้องหาโอกาสไปเยี่ยมเยียนหน่อยแล้วครับ

ฮือฮา!! สวนสยาม จ่อตบเท้าเข้าตลาดหุ้น กลางปี 55

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 10:56 pm
โดย Paul VI
[quote="Pu"][quote="Paul VI"]คุณ ปู พูแล้ว ห้ามคืนคำนะ