Thai VI

เราจะสร้างกระแสเงินสดได้อย่างไร เพื่ออิสรภาพทางการเงิน

มีพี่ๆท่านอื่นไหมที่ สร้างกระแสเงินสดจากแหล่งอื่นนอกจากหุ้น
เพื่อไปสู่อิสรภาพทางการเงิน

รบควรช่วยเล่าประสบการณ์ให้ฟังด้วยครับ

ยังไม่มีพี่ๆคนไหนมาแสดงความคิดเห็นผมขอเล่าความคิดผมก่อนนะครับ
สำหรับผมเมื่อได้อ่านหนังสือชุด พ่อรวยสอนลูก แล้วก็เกิดแรงบันดาลใจ ที่จะสร้างท่อน้ำเพื่อนำกระแสเงินสดเข้ามา

ผมมองว่าผมไม่อยากมีชีวิตอยู่ในวังวลของ มนุษย์เงินเดือน ผมเห็นกรณีตัวอย่างหลายๆกรณี ไม่ว่าคนที่มีเงินเดือนหลัก พัน ยัน หลังแสน ต้องประสบคือคำว่า ผ่อน <ความคิดเห็นนี้ขึ้นอยู่กับสภาแวดล้อมของบุคคล>

ผมรู้สึกมืดมน เมื่อต้องรู้ว่าทันทีที่เราเรียนจบ เราต้องเข้าไปอยู่ในสนามแข่งหนู เหมือนมันไม่มีทางออกเลยว่าผมจะก้าวข้ามการเป็น ลูกจ้าง ได้อย่างไร

ทันทีที่ผมจบมาก็คงจะอายุ 25 ผมมีเวลาเก็บเงินแค่ 3 ปี ที่จะทำให้ฝันของผมเป็นจริง
- แต่งงาน ผมไม่รู้ว่าคนที่เขาแต่งงานเขาเอาเงินเก็บที่ไหนมาแต่ง หากไม่รบกวนผู้ปกครอง <ผมอยากใช้เงินที่หามาด้วยตัวผมเอง> หรือไปกู้หนียืมสินมา ผมวางค่าใช้จ่ายในการแต่งงานที่ 2 ล้าน ตัวเลขนี้มันดูเป็นความฝันเหลือเกินที่ ลูกจ้างคนหนึ่งจะทำได้
- ซื้อบ้าน ซื้อรถ ผมไม่อยากเป็นทาสของการผ่อน ตอนผมอยู่ ม.1 ผมรู้สึกชื่นชมคนที่มีรถ สวยๆหรููๆ ผมคิดเสมอว่าเขาเป็นคนรวย แต่โตขึ้นมาอีกนิดทำให้ผมได้รู้ว่าเขายังคงอยู่ใน วงจรของการผ่อน
  เด็กที่จบใหม่มาจะมีบ้านได้อย่างไรโดยไม่ต้องพึงเงินผู้ปกครอง หรือว่าเขาต้องเดินไปสู่วงจร เดียวกัน

มันมีวิธีที่จะสร้างเงินได้ตลอด 24 ชั่วโมงไหมนั้นคือสิ่งที่ผมใฝ่หา
ผมลืมตามาอีกครั้งและมองหาโอกาสใหม่ๆดู เราจะสร้างโอกาส ของเรา และสร้างโอกาสให้คนอื่นได้อย่างไร พ่อรวยสอนลูกได้ปลุกความคิดให้กับผม ตอนแรกๆมันเหมือนนิยายที่ดูเกินความเป็นจริง แต่ในเมื่อ คนแต่งเป็นคน แล้วเขาทำได้ ทำไมผมจะทำไมได้

ผมกลับมาวางเป้าหมายให้ตัวเองใหม่ มันรู้สึกแตกต่างที่ผมจะไม่ต้อง เกษียณ  ตอนอายุ 60 ยิ่งผมเข้าใกล้ อิสรภาพทางการเงินเท่าใด ผมก็จะมีเวลาทำความฝันของผู้อื่นให้เป็นจริงได้มาเท่านั้น

แน่นอนผมอยากทำบุญและผมชอบการทำบุญ ผมเคยไปเลี้ยงข้าวเด็กกรำพร้าที่ศูนย์... แถวดอนเมือง ผมรู้สึกอิ่มบุญ แต่คิดไปคิดมากลับเป็นทุกข์ มันเหมือนผมเอาปลาไปให้เขา และดูถูกความเป็นคนของเขา มันมีวิธีที่ดีกว่านี้ไหม ที่จะสอนให้เขาหาปลา หากเขาต้องเป็นผู้รับตลอด แต่มันไม่ได้มีผู้ให้ตลอด อุปสงค์ อุปทาน ย่อมส่วนทางกันแล้วเขาจะมีความสุขได้อย่างไร ผมจะสร้างอะไรได้บางให้พวกเขา นอกจากการบริจาค

ปัญหาสังคมในอีกหลายๆปัญหา ครอบครัวผมคือความหวังของชาวบ้าน เราย้ายมาอยู่ กรุงเทพ ได้ 10 กว่าปี ในแววตาของชาวบ้านที่ผมจากมาดู หมดสิ้น และ ไร้ความหวัง เขา้เฝ้ารอนโยบายจากรัฐที่จะมาถึงเขา นโยบายที่เป็นเพียง เศษปลาตัวเล็กๆที่มาสู่ท้องเขา  ลูกหลายในชุมชนต้องเข้ามาเป็นแรงงานค่าตัวถูกในกรุงเทพ และใช้ห้องเล็กๆเป็นที่ซุกหัวนอน

เราจะสร้างระบบที่ดีให้กับเขาได้อย่างไร นั้นคือคำถามที่ผมมีอยู่ในใจ และมีคำตอบไว้แล้ว แต่ผมต้องตั้งคำถามกับตัวผมใหม่ว่า เราจะสร้างกระแสเงินสดได้อย่างไร เมื่อที่จะมีเงิน สร้างระบบดีๆให้ชาวบ้าน

ผมได้วางแผนชีวิตไว้ว่าจะเดินไปทางไหน แน่นอนมันไม่ใช้กฎตายตัวที่จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่มันเป็นเหมือนแม่แบบมากว่า ผมได้เริ่มสร้างกระแสเงินสด และ วางแผนที่จะสร้างกระแสเงินสดที่มากกว่าในอนาคต


นี้คือโมเดลที่ผมคิดไว้ และน้อบรับทุกคำวิจารณ์เชิงสร้างสรรค์

กระแสเงินสดในปัจจุบัน
- กระแสเงินสดจากการทำลิ้ง อย่างที่ผมทำตอนนี้ก็เป็นของ  linkbucks เมื่อมีคนเข้ามาคลิกที่ลิ้งของผม ซึ้งมีเป็น พันๆลิ้ง ผมก็จะได้เงินเข้ามาในกระเป๋า แม้ว่าในเวลาที่ผมหลับ มันก็จะสร้างเงินให้ผมอยู่ดี ซึ่งทุกๆ 3500 Intermission impressions ผมจะได้เงิน 30 บาท <1$> ผมว่ามันเป็นผลตอบแทนที่ดีเลยทีเดียว
- กระแสเงินสดจากฝากขาย ในโลกอินเตอร์เน็ตมันเป็นโอกาสสำหรับผมจริงๆ และโดยเฉพาะเวป PRAMOOL ซึ่งเป็นแหล่งฝากขายที่ดีแห่งหนึ่ง ผมเพียงแค่หาของที่อยู่ในกระแสไปลง แล้วเมื่อของนั้นขายได้ มันก็เป็นกระแสเงินสดมาสู่ผม
- กระแสเงินสดจากการร่วมทุน การร่วมทุนในที่นี่มันไม่ใช้ทุนระดับใหญ่โตอะไร มันเป็นเพียงสิ่งเล็กๆที่มีคนชอบ เมื่อเลิกเรียนผมต้องเดินผ่าน ร้านเช่าการตูนทุกครั้ง และทุกครั้งที่ผมเดินผ่าน ก็จะเต็มไปด้วยเด็กๆในร้าน ผมมองว่าหากผมได้เป็นหุ้นส่วนกับเขาผมคงได้รับส่วนแบ่งดีทีเดียว
  แน่นอนมันคงต้องใช้ วาทศิลป์ในการเจรจาหน่อย แต่กว่าเขาจะเชิญผมเป็นหุ้นส่วนผมก็รอนานเลยทีเดียว เขาจะขยายร้านโดยเพิ่ม วารสารเอามาด้วย ทำให้เป็นโอกาสของผมที่จะร่วมทุนกับเขา ก็ไม่มากเท่าไร แต่ไงก็ต้องขอเงิน พ่อแม่อยู่ดี ทุกๆเดือนผมก็จะได้ส่วนแบ่งจากเขา โดยที่ผมไม่ต้องทำอะไรเลย
- กระแสเงินสดจากการลงทุนในหุ้น หุ้นที่ผมถือตอนนี้มันก็ไม่ได้เป็น เชิงคุณค่าซักเท่าไร เพียงแต่ผมเล่นตาม วัฏจักร ของมัน อันทีจริงผมอยากเป็นนักเก็งกำไรจาก เทคนิคมากว่า แต่โดยเวลาแล้วมันไม่อำนวยสำหรับผม ผมเลยต้องเลือกหนทางนี้ และกระแสเงินสดก็มาในรูปแบบเงิืนปันผล
- กระแสเงินสดจาก การร่วมทุนเปิดร้านอินเตอร์เน็ต อันนี้กำลังอยู่ในขั้นเจรจากับเจ้าของร้านอยู่.......

กระแสเงินสดตอนอยู่มหาวิทยาลัย
ช่วงนี้เป็นช่วงหนักใจของผม ผมคิดว่าผมอยากทำงานพิเศษไปด้วยระหว่างเรียน แต่หากผมเลือกทางนั้น คณะที่ผมต้องตัดทิ้งก็คือ แพทย์ และ วิศวะ ที่ต้องเรียนหนักเหลือเกิน <รุ่นพี่ว่ามาแบบนั้น>
ที่คิดไว้ว่าจะทำเพิ่มเติม
- กระแสเงินสดจากการทำงานพิเศษ อันนี้เป็นสิ่งที่ผมไม่ชอบมาเท่าไร เพราะต้องเอาแรงและเวลา ในการแรกกับเงิน แต่เมื่อมันสร้างเงินให้ผม ผมก็ต้องทำ

กระแสเงินสดเมื่อเราโตเป็นผู้ใหญ่
ผมมีความหวังไวว่าหากอีกซัก 7ปี - 10ปี พรอต์ของผมโตซัก 20ล้านผมก็คงจะไม่ต้องทำงานประจำ แต่มันก็เหมือนฝันเหลือเกินที่จะเป็นได้
ผมเลยร่วมเอางานประจำเข้าไปด้วย
- กระแสเงินสดจากเงินเดือน ในอนาคต ผมอาจเป็น ผู้พิพากษา อัยการ ทนาย หมอ วิศวะ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ นายธนาคาร หรืิออะไรผมไม่รู้ รู้แต่ว่าทุกอาชีพที่กล่าวถึงต้องเอา เวลาและแรงกายและสมองเข้าไปแลก ผมไม่ชอบเลยแต่หากมันต้องทำก็จะทำ แต่ยังไงผมจะให้มันเป็นเพียง บันไดขั้นหนึ่งมากกว่าจุดหมาย
- กระแสเงินสดจากการให้เช่าบ้าน อันนี้ผมรู้สึกว่ามันจะเป็นตัวที่สร้างกระแสเงินสดให้ผมได้ในระยะยาว แต่กว่าจะคุ้มทุน ก็ซัก 10 ปีโดยหลักการเลือกบ้านของผมจะเลือกโดย
1. อยู่ในพื้นที่ ที่ไม่สามารถขยายได้
2. หรืออยู่ข้างริมน้ำ
3. อยู่ในพื้นที่ ที่ใกล้ สถานศึกษา หรือ โรงงาน หรือ ห้าง
4. ต้องเป็นสินค้าที่มาจากการขายทอดตลาด<ราคาถูกมาก>
ผมค่อนข้างมีความหวังกับธุรกิจนี้และอยากซื้อไว้เยอะๆ แต่ตอนนี้ฝันไปก่อน หาแหล่งทุน และเรียนรู้การสร้างหนี้ดีก่อน
- กระแสเงินสดจากห้องเช่า อันนี้ผมไปเห็นตามต่างจังหวัด เป็นห้องขนาดเล็ก เรียกว่าใช้นอนเพียงอย่างเดียวก็ว่าได้ ห้องน้ำรวม ผมมองว่ามันใช้เงินลงทุนที่ต่ำ อันนี้สำหรับ แรงงานเงินเดือนน้อย ห้องหนึ่งก็ประมาณเดือนละ 1000 ค่าที่ดินรวมค่าก่อสร้างก็ประมาณ 1 ล้านได้ 20 ห้อง คืนทุนประมาณ 50 เดือน
- กระแสเงินสดจากการให้เช่าป้ายโฆษณา ผมได้มีโอกาสไป โคราช ผมเห็นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ใช้พื้นที่เพียงน้อยนิค แต่ค่าเช่าต่อเดือนก็ประมาณ แสนกว่าบาท ผมว่ามันคุมค่าน่าลงทุน เราใช้ที่เพียง 5 ตารางวาผมว่าคุ้ม
- กระแสเงินสดจากการร่วมทุน ผมว่าการมีญาติเยอะก็เป็นสิ่งที่ดี หากญาติๆมีความสามารถที่หลากหลาย ผมอยากลงทุนเกี่ยวกับ ร้านอาหาร ร้านเกมส์ มินิมาร์ก อะไรประมาณเนี่ย ตามต่างจังหวัด

เล่าคราวๆก็ประมาณนี้ครับ

หาซื้อที่ถูกๆ ทำไร่ครับ ปลูกพืชที่ไม่ต้องดูแลมาก ปลูกทีเก็บเกี่ยวได้นาน เช่น สับปะรด อ้อย ยางพารา ไม้ผลต่างๆ ฯลฯ
คิดๆดูแล้วใน 1 ปี เราทำงานแค่ไม่กี่เดือนเอง ที่เหลือพืชในไร่มันก็ทำงานแทนเรา ดูดน้ำ ดูดอาหาร สร้างผลผลิต
ถึงเวลาเราก็ไปเก็บเกี่ยว ถ้าขี้เกียจ หรือไม่มีเครื่องมือ ก็ขายเหมาให้คนอื่นมาเก็บเกี่ยวแทนก็ได้

1. หารายได้เพิ่ม
2. ลดรายจ่าย
3. อย่าขาดทุน

เห็นไปโพสเรียกแขกไว้ที่กระทู้เล่นเกม Cash Flow เลยเข้ามาตอบให้สักหน่อย :)

ที่จริงผมเห็นกระทู้นี้นานแล้วแหละ แต่ว่าผมเองก็ยังไม่มีอิสรภาพทางการเงิน จึงยังไม่ได้ตอบอะไร

เกมที่เล่น ได้ออกจากสนามแข่งหนูเป็นคนแรกก็จริง แต่ก็เพราะโชคครับ เพื่อนคนอื่นจับได้การ์ดที่ทำให้ผมมีกระแสเงินสดเกิดขึ้นอย่างมหาศาล (ทั้งที่ตอนนั้นกำลังตกงานอยู่) จึงมีโอกาสได้ลงทุนและออกจากสนามแข่งหนูในที่สุด

เท่าที่อ่านข้อความของคุณ .way ผมชื่นชมความคิดที่ต้องการช่วยเหลือคนนะ ผมก็ต้องการช่วยเหลือคนให้มากที่สุดเหมือนกัน แต่ตอนนี้มันติดที่เรายังมีกำลังน้อยนี่แหละ

อยากเตือนเรื่องจะไปรวมหุ้นกับคนอื่น ขอให้ศึกษาทุกอย่างให้ดีที่สุดก่อน บางทีเราลงทุนเร็วอาจจะไม่ใช่เรื่องทื่ดีนัก หากมันทำให้เราได้ประสบการณ์ที่เจ็บแสบ และเข็ดขยาดกับมันจนเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายไป

แต่ถ้าหากคิดว่าลงทุนเร็ว สามารถรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ดี จะเจ๊งกี่ทีก็ไม่เป็นไร ก็อีกเรื่องนึง (แต่ถ้าหากเราไม่เจ๊งหมดเงินไปกับเรื่องพวกนี้ และนำเงินไปลงทุนดี ๆ ไปเลย ก็น่าจะดีกว่า) ประสบการณ์หลาย ๆ อย่าง ไม่จำเป็นต้องวิ่งเข้าไปชนมันตรง ๆ ก็ได้ครับ เพราะมีคนเขียน เล่า ให้เราได้ศึกษาเป็นตัวอย่างเยอะแยะไป :)

โชคดีครับ :)

ผมสัญญาว่า หากวันใดผมสามารถบรรลุเป้าหมาย มีอิสรภาพทางการเงินแล้วจะมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังครับ :)

ลืมไปเรื่องนึง ว่าจะบอกในกรณี "ผ่อน" เศรษฐีเขาก็ผ่อนกันนะครับ เพียงแต่ว่าสิ่งที่เขาผ่อน สามารถสร้างรายได้เกินค่างวดจนเป็นรายได้กลับเข้ากระเป๋าพวกเขา (เรื่องนี้ในหนังสือพ่อรวยสอนลูกก็มีพูดถึงบ่อย)

อีกเรื่องนึงครับ ก่อนจะลืมไปเสียก่อน "คนรวยจะไม่เป็นเจ้าของอะไรเลย" ;) มีอยู่ในหนังสือชุดพ่อรวยสอนลูกเช่นกันครับ ;)

NoiSNC เขียน:อีกเรื่องนึงครับ ก่อนจะลืมไปเสียก่อน "คนรวยจะไม่เป็นเจ้าของอะไรเลย" มีอยู่ในหนังสือชุดพ่อรวยสอนลูกเช่นกันครับ

รบกวนพี่ NoiSNC ช่วยขยายความ
ข้อความที่ว่า "คนรวยจะไม่เป็นเจ้าของอะไรเลย" ให้หน่อยได้ไหมครับ

ขอบคุณมากครับ

หากผมเข้าใจไม่ผิด หรือจำไม่ผิด คนรวยจะไม่เป็นเจ้าของอะไรเลย แต่บริษัท หรือธุรกิจจะเป็นเจ้าของแทนครับ ;)

รถประจำตำแหน่ง ไม่ต้องซื้อเอง (บริษัทซื้อหรือเช่าให้ และหักเป็นค่าใช้จ่ายก่อนเสียภาษี)
ที่พักอาศัย ไม่ต้องซื้อเอง (บริษัทเช่าให้ และนำค่าเช่าไปหักภาษี เป็นรายจ่ายบริษัทไป)
โทรศัพท์เคลื่อนที่ ไม่ต้องซื้อเอง (บริษัทซื้อให้ และหักเป็นค่าใช้จ่าย)

ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ตัวเองไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายเอง ;)

นอกจากนี้ เขายังยกตัวอย่างเปรียบเทียบง่าย ๆ ระหว่าง บุคคล กับ นิติบุคคลด้วย เช่น

บุคคลทั่วไป เงินเดือนออก -> ภาษี -> จ่ายหนี้ต่าง ๆ (โทรศัพท์, ค่าเช่าบ้าน, ประกัน, ฯลฯ) -> เหลือเงินให้ตัวเอง -> อีกหนึ่งปีค่อยขอภาษีคืน (หากมีความสามารถและวางแผนภาษีดีพอ)

นิติบุคคล ได้รับเงิน -> หักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ -> ภาษี

เงินเหลือจะไม่เท่ากัน เพราะบุคคลทั่วไป ภาษีถูกหักจากเงินเดือนที่ได้รับทันที แล้วค่อยไปชำระหนี้ต่าง ๆ (เรียกว่าจ่ายให้ตัวเองทีหลัง) แต่นิติบุคคล ภาษีจ่ายหลังจากหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไปแล้วครับ (เรียกว่าจ่ายให้ตัวเองก่อน) :)

แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ เพราะผมอ่านเมื่อนานมาแล้ว ไม่ได้อ่านซ้ำ อาจจะจำอะไรบางอย่างเลือนไป หรือพลาดไปได้บ้างเหมือนกันครับ

โชคดีครับ :)

NoiSNC เขียน:หากผมเข้าใจไม่ผิด หรือจำไม่ผิด คนรวยจะไม่เป็นเจ้าของอะไรเลย แต่บริษัท หรือธุรกิจจะเป็นเจ้าของแทนครับ

ขอบคุณมากครับพี่ ผมอ่านเมื่อนานมากแล้ว แนวคิดบางส่วนผมก็ลืมไปครับ
รวมถึงคำตอบที่พี่ให้ด้วย เหมือนความทรงจำเรื่อมกลับมา   :lol:

ถึงกระแสเงินสดน้อย แต่ขอให้กระแสความสุขมากๆนะครับ  

น้อง ครับ พี่เห็นความตั้งใจ น่าชื่นชมครับ
พี่เป็นคนที่คิคล้ายกัน
ตอนนี้พี่ทำงาน กินเงินเดือน,ได้รับปันผลจากบริษัท,ค่าเช่าที่ดิน,บ้านเช่า
[email protected] ยินดีปรึกษาฟรี ครับ

rajchawatd เขียน: ตอนนี้พี่ทำงาน กินเงินเดือน,ได้รับปันผลจากบริษัท,ค่าเช่าที่ดิน,บ้านเช่า
[email protected] ยินดีปรึกษาฟรี ครับ

ขอบคุณครับพี่มาแนะนำในนี้เลยได้ไหมครับ

ขอเล่า แนวทางของผม คืออยากมีอิสระ ทางการเงิน ดังนี้
1.ยังเลือก ที่จะทำงานกินเงินเดือนร่วมด้วย เนื่องจาก เรายังมีรายจ่ายทั่วๆไปอยู่ทุกเดือน และรายได้นี้ จะช่วยเหลือได้ ผมเริ่มทำงานปี 37 เงินเดือน 15,000 บาท จนปัจจุบัน เงินเดือน 50,000 กว่า บาท
2.โชคดี ที่ทำงานบริษัทเพื่อน ได้ถือหุ้น 10% เริ่มแรกกำไร ยังไม่ดี มาดีช่วงปี 48-52 เฉลี่ยปีละ 200,000 กว่า บาท
3.โชคดี มีเพื่อนทำนายหน้า ซื้อ-ขาย บ้านและที่ดิน บางที่รู้ก่อนจึงซื้อเก็บ และปล่อยให้เช่า(เลือกแปลงที่มีคนพร้อมเช่าทันที) ทิ้งไว้สัก 2 ปีขึ้นไป พอมีคนขอซื้อ คิดว่าพอใจในกำไร จะขายทันที เพื่อสร้างกระแสเงินสด แล้วรับซื้อ ต่อไป และแบ่งบางส่วนมาซื้อหุ้น หลัการผมจะไม่ฝากเงินสด มีเงินสดในออมทรัพย์ ราว 3 เดือนของค่าใช้จ่ายรายเดือน
 สรุป ข้อ1-2 ทำให้เรามั่นคง ข้อ 3 จะทำให้ มั่งคั่ง ครับ
4.นอกจากนี้ ผมทำอีกอย่าง คือ ซื้อขาย รถมือ2 แต่ไม่อยากแนะนำเพราะต้องชำนาญ และมีความเสี่ยงเพราะรถ ขับเคลื่อนได้ บ้าน&ที่ดิน ไปไหนไม่ได้
สวัสดีครับ
ยินดีปรึกษาฟรี [email protected]
อยู่แถว งามวงศ์วาน & แคราย