มือขวาโซรอส:ValueWay วิบูลย์ พึงประเสริฐ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 23, 2010 11:38 pm
Value Way ฉบับวันที่ 27 กันยายน 2553
โดยวิบูลย์ พึงประเสริฐ
มือขวาโซรอส
นักลงทุนทุกท่านคงไม่มีใครไม่รู้จักจอร์จ โซรอส พ่อมดการเงินและนักเก็งกำไรระดับโลกที่สร้างตัวเองจากศูนย์จนเป็นเศรษฐีระดับหลายพันล้านดอลลาร์ แต่มีคนไม่มากนักที่รู้ว่าบุคคลที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของโซรอสในช่วงหลังนับตั้งแต่โซรอสปล้นแบงค์ชาติประเทศอังกฤษคือสแตนลี่ ดรักเคนมิลเลอร์ (Stanley Druckenmiller)
สแตนลี่เกิดเมื่อเมื่อปี 1953 เขาเริ่มงานในแวดวงการเงินครั้งแรกในปี 1977 จากการเป็นพนักงานของธนาคารพิสเบิร์ก (Pittsburgh National Bank) หลังจากนั้นหนึ่งปี เขาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าส่วนงานวิเคราะห์หุ้นของธนาคารแห่งนี้ นอกจากนั้นในปี 1981 เขายังตั้งกองทุนของเขาเองชื่อ Duquesne Capital Management ช่วงนั้นเขายังเป็นที่ปรึกษาของกองทุนไดร์ฟัส (Dreyfus Fund) ในนิวยอร์คอีกด้วย ในปี 1988 เขารู้จักโซรอสจากหนังสือเล่มแรกที่โซรอสเขียน (Alchemy of Finance) หลังจากได้อ่านหนังสือเล่มนี้ สแตนลี่รู้สึกว่าเขาค้นพบหลักการที่เขาตามหามานานแล้วในเรื่องเกี่ยวกับการลงทุน เขาขอเข้าพบโซรอสและโซรอสรับเขาเข้าทำงานที่กองทุนควอนตัม (Quantum Fund) ในปีเดียวกัน
ในปี 1992 เขาเป็นคนที่แนะนำโซรอสให้ขายชอร์ตเงินปอนด์ของอังกฤษ เนื่องจากในช่วงนั้นประเทศในสมาชิกสมาคมยุโรปเริ่มใช้ระบบเงินร่วมกันเพื่อเป็นการนำร่องก่อนการใช้เงินสกุลเดียว อังกฤษตกลงยอมเข้าร่วมการผูกติดกับตระกร้าเงินยุโรป (ERM) เช่นเดียวกับเยอรมัน อิตาลี ฝรั่งเศสและชาติยุโรปอื่นๆ สถานการณ์เศรษฐกิจในยุโรปช่วงนั้นไม่ดีนัก อังกฤษมีปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำเช่นเดียวกับอิตาลี อังกฤษต้องการให้ดอกเบี้ยของสหภาพยุโรปลดลง แต่เยอรมันซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจแข็งแกร่งที่สุดและกำลังอยู่ระหว่างการรวมประเทศเยอรมันตะวันออกและเยอรมันตะวันตกไม่ยอมลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้เงินปอนด์มีมูลค่าสูงเกินไปเพราะต้องผูกติดกับตระกร้าเงินยุโรป นักเก็งกำไรค่าเงินจึงคาดการณ์ว่าค่าเงินปอนด์จะต้องอ่อนค่าลงจึงขายชอร์ตเงินปอนด์เป็นจำนวนมาก รัฐบาลอังกฤษสมัยนั้นไม่ยอมแพ้นำเงินทุนสำรองออกมาต่อสู้กับนักเก็งกำไร
ในช่วงแรกสแตนลี่แจ้งให้โซรอสทราบว่ากองทุนควอนตัมของพวกเขากำลังขายชอร์ตเงินปอนด์อยู่จำนวน 500 ล้านเหรียญ เมื่อโซรอสได้ยินเรื่องนี้กลับบอกว่านั่นหรือที่เรียกกันว่าสถานะลงทุน โซรอสสั่งเพิ่มวงเงินเป็น 2-3 พันล้านเหรียญ หลังจากนั้นไม่นานนักโซรอสที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากยุโรปจากการเข้าร่วมสัมมนาของการเงินระหว่างประเทศได้บอกให้สแตนลี่ขายชอร์ตเงินปอนด์เพิ่มเป็นจำนวนเงินถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ เพราะโซรอสมั่นใจว่าเงินปอนด์คงไปไม่รอดแน่ๆ หลังจากนั้นอีกไม่กี่สัปดาห์ ธนาคารชาติอังกฤษต้องถอนเงินปอนด์ออกจากตระกร้าเงินยุโรป ค่าเงินปอนด์ลดลงไป 10% โซรอสทำเงินได้ทันที 1 พันล้านดออลาร์และได้ฉายาว่าบุรุษผู้ปล้นแบงค์ชาติอังกฤษนับแต่นั้นเป็นต้นมา
สแตนลี่ทำงานกับโซรอสจนถึงปี 2000 และออกจากกองทุนควอนตัมเมื่อกองทุนต้องขาดทุนจากการซื้อหุ้นเทคโนโลยี่ที่ตกต่ำอย่างมาก จากนั้นเขากลับมาบริหารกองทุน Duquesne ของเขาเองซึ่งทำผลงานได้อย่างดีตลอดช่วงที่ผ่านมารวมถึงการทำกำไรได้ในช่วงที่เกิดวิกฤติซัพไพร์มจนกองทุนมีขนาดมากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ล่าสุดในเดือนสิงหาคมปีนี้ สแตนลี่ตัดสินใจปิดกองทุนของเขาโดยให้เหตุผลว่าผลงานของกองทุนไม่เป็นที่น่าพอใจ และการที่กองทุนมีขนาดใหญ่มากเกินไป
จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บ สแตนลี่รวยเป็นอันดับที่ 91 ของอเมริกาด้วยทรัพย์สิน 3.5 พันล้านเหรียญ