หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ขอคำแนะนำ พี่ที่ถือหุ้น 100% ตลอดเวลาหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 16, 2010 11:00 pm
โดย barlonil
ผมเริ่มเล่นหุ้นมา ประมาณ ปีกว่า ถือหุ้น 100% ตลอดเวลา แต่ว่าตอนนี้ผมประสบปัญหาอย่างหนึ่งครับ คือผมขายหุ้นที่ผมคิดว่า overvalue แล้วแต่ไม่รู้จะซื้อหุ้นตัวไหนกลับมาครับ
สมมุติว่า ผมซื้อในอดีตหุ้น 5 ตัว ณ forward PE ในปี 53 (ประมาณเอง) ได้ดังนี้ครับ
1. ผมซื้อที่ PE 3 ปัจจุบัน PE 12
2. ผมซื้อที่ PE 5 ปัจจุบัน PE 8
3. ผมซื้อที่ PE 6 ปัจจุบัน PE 8
4. ผมซื้อที่ PE 14 ปัจจุบัน PE 15
5. ผมซื้อที่ PE 16 ปัจจุบัน PE 16
ปล. หุ้น 4 5 ผมเป็นหุ้นวัฏจักรนะครับ ปกติถ้าผมขายหุ้นตัวอื่น จะมาทยอยเก็บ 2 ตัวนี้แต่ปัจจุบัน รู้สึกว่ามีเยอะแล้วเกือบ 50% ของพอร์ต กลัวว่าถ้าวัฏจักรขาขึ้น มาช้าหรือไม่กลับมา จะทำให้เสียโอกาส
วันนี้ผมขายตัวที่ 1 ไปแล้ว แต่ผมไม่รู้ว่า ผมควรจะทำอย่างไรต่อกับเงินที่ได้มาอย่างเหมาะสมดีครับ
ผมควรหาหุ้นตัวใหม่ ลงทุนในหุ้นเดิมดีครับ หรือ ถือเงินสดดีครับ
ถ้า หาหุ้นตัวใหม่ แต่ปัจจุบันสำหรับผมหาได้ยากมากเลยครับ ที่หาจะหาหุ้น PE ต่ำได้ >_<
ถ้า ลงทุนในหุ้นเดิมดีครับ คือลงทุนในหุ้น ข้อ 2 3 แทน เนื่องจากผมรู้จักในตัวบริษัทระดับหนึ่ง โดยส่วนตัวมองว่าสามารถเติบโตต่อไปไ้ด้ แต่ราคาปัจจุบันก้มีความเสี่ยงว่า mos เหลือน้อยแล้วครับ กลัวว่า จะกลายเป็นซื้อแพง
ถ้า ถือเงินสด ข้อนี้ ไม่ค่อยอยากทำเลยครับ เนื่องผมมองว่า เป็นเสียโอกาส เพราะไม่รู้เมื่อไร จะเจอหุ้นราคาถูกๆ
รบกวนขอคำแนะนำพี่ๆ ว่าทำอย่างไร หรือคิดอย่างไรกันบ้างในกรณีแบบนี้ครับ
Re: ขอคำแนะนำ พี่ที่ถือหุ้น 100% ตลอดเวลาหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 17, 2010 2:37 pm
โดย picklife
เห็นแต่เช้ามะมีคนตอบ งั้นขอมาตอบกระตุ้นเซียนให้นะครับ
โดยส่วนตัวผมมองทุกตัวให้เป็นupsideจะได้เอามาเทียบกันได้ ตัวไหนเริ่มน้อยก็ขายออกมาเข้าตัวที่เยอะ conceptง่ายๆแค่นี้ครับ
ส่วนหาหุ้นใหม่ดีหรือไม่ ผมก็หาหุ้นใหม่ทุกวันนะครับ(แต่หาม่ายเจอซักทีT^T)
ซึ่งถ้าเจอตัวที่ดีกว่าก็พร้อมที่จะไปทุกเมื่อ
ขอคำแนะนำ พี่ที่ถือหุ้น 100% ตลอดเวลาหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 17, 2010 2:50 pm
โดย naris
การสวิทย์หุ้นเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ เหมือการบริหาร ไม่มีผิดหรือถูกตลอดเวลาครับ กลยุทธ์หนึ่งเป็นจุดแข็ง แต่ด้วยเวลาไม่เหมาะสมอาจจะเป็นจุดอ่อนก็ได้ และการให้ข้อมูลPEปี53อย่างเดียว ถ้าจะแนะนำไปก็เหมือนตาบอดคลำช้างครับ เรียนรู้ด้วยตนเองดีที่สุดครับ
ขอคำแนะนำ พี่ที่ถือหุ้น 100% ตลอดเวลาหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 17, 2010 3:12 pm
โดย barlonil
นึกว่าจะไม่มีคนตอบซะแล้ว ขอบคุณพี่มากครับ
[quote="naris"]การสวิทย์หุ้นเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ เหมือการบริหาร ไม่มีผิดหรือถูกตลอดเวลาครับ กลยุทธ์หนึ่งเป็นจุดแข็ง แต่ด้วยเวลาไม่เหมาะสมอาจจะเป็นจุดอ่อนก็ได้ และการให้ข้อมูลPEปี53อย่างเดียว ถ้าจะแนะนำไปก็เหมือนตาบอดคลำช้างครับ
ขอคำแนะนำ พี่ที่ถือหุ้น 100% ตลอดเวลาหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 17, 2010 3:24 pm
โดย ปรัชญา
[quote="barlonil"][
จริงๆที่ให้ข้อมูลเฉพาะ PE ปี 53 เพราะถ้าระยะยาวยังประเมินกำไรไม่ถูกอะครับ แต่มองว่า ยังสามารถเติบโตได้แค่นั้นเอง กับ กลัวว่าถ้ายึดติดกับการเติบโตในอนาคตหลายๆ ปี มากเกินไปแล้ว ออกมาไม่เป็นดั่งหวัง จะกลายเป็นซื้อแพง อย่าง หุ้น 1 นี่ คือ jas ผมเก็บมาตอน 0.4-0.45
ขอคำแนะนำ พี่ที่ถือหุ้น 100% ตลอดเวลาหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 17, 2010 3:56 pm
โดย barlonil
[quote="ปรัชญา"][quote="barlonil"][
จริงๆที่ให้ข้อมูลเฉพาะ PE ปี 53 เพราะถ้าระยะยาวยังประเมินกำไรไม่ถูกอะครับ แต่มองว่า ยังสามารถเติบโตได้แค่นั้นเอง กับ กลัวว่าถ้ายึดติดกับการเติบโตในอนาคตหลายๆ ปี มากเกินไปแล้ว ออกมาไม่เป็นดั่งหวัง จะกลายเป็นซื้อแพง อย่าง หุ้น 1 นี่ คือ jas ผมเก็บมาตอน 0.4-0.45
ขอคำแนะนำ พี่ที่ถือหุ้น 100% ตลอดเวลาหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 17, 2010 4:05 pm
โดย aviruth
ผมพึ่งขายตัวที่กำไรเยอะๆและคิดว่าถึงเป้าหมายแล้ว ตอนนี้ถือเงินสด 25% ของพอร์ต แต่หาหุ้นตัวใหม่ไม่เจอเลยรู้สึกว่าหุ้นในตลาดตอนนี้ ที่ดีก็แพง ที่ไม่แพงก็ไม่ค่อยดี จะซื้อหุ้นที่มีอยู่แล้วเพิ่มก้ไม่มั่นใจอีก สภาพที่ตลาดขึ้นมาสูงยอมรับครับว่าทำอะไรไม่ถูก สงสัยต้องรอมัน ถล่มลงมาอีกรอบ
ขอคำแนะนำ พี่ที่ถือหุ้น 100% ตลอดเวลาหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 17, 2010 6:00 pm
โดย otakung
จริง ๆ ไม่น่าจะตัดสินใจยากนี่ครับ เฉพาะหุ้นตัวที่รู้จักเนี่ยถ้าตัวไหนมี mos น่าพอใจก็ซื้อ ถ้าหาไม่เจอเลยก็ถือเงินสดไว้ก่อน ผมว่ามันก็แค่นั้น คุณคงไม่กลัวเสียโอกาสจนถึงขนาดยอมซื้อหุ้นที่ไม่ได้อยากซื้อหรอกนะครับ
ขอคำแนะนำ พี่ที่ถือหุ้น 100% ตลอดเวลาหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 17, 2010 6:47 pm
โดย iluckyhappy
บทความล่าสุดของ ดร.นิเวศน์ ครับ
http://www.thaivi.com/2010/09/551/
เพื่อน ๆ น่าจะเห็นกันบ้างแล้วหล่ะครับ แต่น่าจะใช้อ้างอิง กระทู้นี้ได้บ้างครับ
ขอบคุณอาจารย์ ที่เขียนบทความดี ๆ ให้พวกเราได้อ่านกัน
--------------------------------------------------------
การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดศึกษารายละเอียดการก่อนลงทุน
ขอคำแนะนำ พี่ที่ถือหุ้น 100% ตลอดเวลาหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 17, 2010 8:02 pm
โดย RONNAPUM
ทำแล้วมีความสุขไหม ถ้าเครียดไม่ทำเพราะมันทำลายสุภาพจิตผม .....
ขอคำแนะนำ พี่ที่ถือหุ้น 100% ตลอดเวลาหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 17, 2010 9:40 pm
โดย nw108
การตัดสินใจเลือกหุ้นเเค่เปรียบเทียบ p/e คงบอกได้ยากว่าหุ้นตัวไหนดี
กว่า เเละการลงทุนเเลลรับหรือรุกคงต้องขึ้นกับคุณสมบัติของผุ้ลงทุนเป็นหลัก
ส่วนตัวผมมองความปลอดภัยมาก่อนกำไร อาจจะกำไรอยุ่กลางๆไม่สูงที่
สุดเเต่ เทียบกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นเเล้ว มีอัตราส่วนที่ดีที่สุด
ผมเลือกการลงทุนที่ผมสามารถไม่ต้องติดตามราคาทุกๆวัน เอาเวลาไปทำงานประจำได้อย่างเต็มที่ (ผมยังคงเป้นพนักงาน บ. อยู่ครับ)
ผมเลือกลงทุนเเบบ100%ในส่วนของเงินที่กันส่วนออกมาเเล้ว เเม้ว่า
อีก6เดือนข้างหน้าราคาหุ้นจะลดลงมาผมก็น่าจะยังคงมีปันผลอย่างน้อย6% ครับ
ลงทุนเเบบมีสติเเละมีความสุขกับการลงทุนครับ
ขอคำแนะนำ พี่ที่ถือหุ้น 100% ตลอดเวลาหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 17, 2010 9:54 pm
โดย baggio
ถ้าหาหุ้นที่ถูกใจในราคาที่ต้องการไม่ได้เวลานี้ การถือเงินสดไว้บ้างก้อไม่ใช่เรื่องน่าเสียหายอะไรนะครับ เพราะมันก็เป็นโอกาสให้เราได้เสมอ เราไม่รู้หรอกว่าตลาดมันจะ panic เมื่อไหร่
ช่วงนี้ port ผมก้อมีเงินสดอยู่ 20 % เหมือนกัน (ปกติก็พยายามถือหุ้นให้ได้ 100% ) เพราะไม่รู้จะซื้ออะไรดีเหมือนกันครับ
ขอคำแนะนำ พี่ที่ถือหุ้น 100% ตลอดเวลาหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 17, 2010 10:30 pm
โดย kurapica
ถ้าเป็นผมนะ จะเก็บเงินไว้แล้วดูหุ้นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอตัวที่อยากซื้อเพราะมันน่าซื้อ
ไม่ต้องคิดมากครับ ขนาดบัฟเฟตยังมีเงินสดในมือเตรียมพร้อมซื้อของดีในราคาน่าซื้ออยู่ตลอดเวลา
เขายังบอกอีกว่า ถ้าจะยิงช้างตัวใหญ่ที่วิ่งเร็วมากและมันไม่ได้ผ่านมาบ่อยๆ เราต้องมีปืนอยู่ในมือตลอดเวลา
เมื่อก่อนผมก็ถือหุ้น 100% ตลอด มีเงินในพอร์ทไม่ได้ ต้องซื้อให้เงินหมด กลัวเงินหมดอายุ
แต่พอได้ลองติดดอยดูสักทีแล้ว บทเรียนก็เกิดขึ้น เพราะติดดอยแล้วมันยิ่งเสียโอกาสกว่ามีเงินในมือซะที
ขอคำแนะนำ พี่ที่ถือหุ้น 100% ตลอดเวลาหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 17, 2010 10:54 pm
โดย picatos
Overvalue แปลว่าอะไรครับ?
ถ้าเราถือหุ้นต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่ขาย อัตราผลตอบแทนที่น่าจะได้รับควรจะได้เท่าไหร่เป็นอย่างต่ำครับ?
แล้วอัตราผลตอบแทนที่เราถือในระยะยาวเทียบกับการลงทุนอย่างอื่นเป็นอย่างไรครับ?
แล้วถ้าเราขายสภาพคล่องมีมากเพียงพอรึเปล่าครับ?
Reinvestment Risk จากการ Switch ไปที่การลงทุนอื่นสูงขนาดไหนครับ?
ขอคำแนะนำ พี่ที่ถือหุ้น 100% ตลอดเวลาหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 17, 2010 10:59 pm
โดย picatos
อ้อ... อยากจะบอกว่า ไอ้ค่า P/E นี่เกี่ยวข้องกับอัตราผลตอบแทนในระยะยาวจากการลงทุน แต่ไม่ได้หมายความว่า E/P จะเท่ากับอัตราผลตอบแทนในระยะยาวนะครับ
แค่เราไม่สามารถประเมินกำไรขั้นต่ำที่กิจการควรจะได้รับในช่วง 2 ปีข้างหน้าได้ การลงทุนนั้นก็คล้ายๆ กับการพนันเกิน 50% แล้วครับ
ขอคำแนะนำ พี่ที่ถือหุ้น 100% ตลอดเวลาหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 17, 2010 11:03 pm
โดย pornchal
ผมซื้อที่ PE 3 ปัจจุบัน PE 12
เหมือนผมเลย แต่ราคาเท่าเดิมนะ เพราะ กำไรลดลง PE เลยเพิ่ม
ล้อเล่นนะ ครับ เห็นตอบกันน้อย
ขอคำแนะนำ พี่ที่ถือหุ้น 100% ตลอดเวลาหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 18, 2010 12:22 am
โดย Ii'8N
PE เปรียบเทียบหุ้น 2 ตัวได้แค่คร่าวๆ แค่นั้น แต่ไม่สามารถเป็น indicator วัด "คุณค่า" ของกิจการได้
ขนาดจะเพาะพันธุ์สุนัขขาย ตอนเลือกซื้อสุนัขระหว่างพันธุ์บางแก้ว, ร๊อดไวเลอร์, กับอัลเซเชี่ยน เพ ื่อมาเลี้ยงแล้วขายตอนโต ราคาอาจต่างกันเยอะ แต่ไม่ใช่ว่าซื้อพันธุ์ที่ราคาต่ำสุดแล้ว จะดีที่สุดเสมอไป
ต้องดูหลายอย่าง เช่น แนวโน้มตลาด-กลุ่มลูกค้า การเจริญเติบโตไว-ช้า การดูแลระหว่างเลี้ยง ผลกระทบสิ่งแวดล้อมต่อสุขภาพ ความอ่อนไหวต่ออากาศฤดูกาล หรือตอนที่เรายังไม่ขาย มันออกลูกออกหลาน (เป็นปันผลพิเศษระหว่างที่เงินเรายังจมอยู่ในเจ้าตูบทั้งหลายยังไม่สมควรขาย) ให้เราขนาดไหนเป็นต้น
ดังนั้นข้อมูลข้างต้น รู้แค่ราคา ไม่สามารถนำมาช่วยตัดสินใจหรือประเมินการลงทุนให้คุณได้
ขอคำแนะนำ พี่ที่ถือหุ้น 100% ตลอดเวลาหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 18, 2010 7:58 am
โดย wpong
ผมว่าความสำคัญอยู่ 2เรื่อง
1. ความแม่นยำในการประเมิน E ของคุณ
2. การบริหารความเสี่ยง เช่น ถ้าโอกาสดี แบบธรรมดา ก็ เป็นลงทุน 80%
ถ้าดีมาก ลงทุน 100%
ดีไม่น่าเชื่อ ก็อาจขายสินทรัพย์ส่วนตัวอย่างอืนมาลงทุน
ขอคำแนะนำ พี่ที่ถือหุ้น 100% ตลอดเวลาหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 18, 2010 10:39 am
โดย HARINLUX
[quote="barlonil"]นึกว่าจะไม่มีคนตอบซะแล้ว ขอบคุณพี่มากครับ
[quote="naris"]การสวิทย์หุ้นเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ เหมือการบริหาร ไม่มีผิดหรือถูกตลอดเวลาครับ กลยุทธ์หนึ่งเป็นจุดแข็ง แต่ด้วยเวลาไม่เหมาะสมอาจจะเป็นจุดอ่อนก็ได้ และการให้ข้อมูลPEปี53อย่างเดียว ถ้าจะแนะนำไปก็เหมือนตาบอดคลำช้างครับ
ขอคำแนะนำ พี่ที่ถือหุ้น 100% ตลอดเวลาหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 18, 2010 10:50 am
โดย harn
ผมเคยมีปัญหาคล้ายๆอย่างนี้ เลยทบทวนพอร์ตและผลประกอบการรายไตรมาส โดยใช้ตารางเอกซเซลบันทึกผลประกอบการและราคา คำนวณ PE ประเมินผลแล้วให้เกรด A B C D กับหุ้นทุกตัวในพอร์ต โดยใช้ประวัติการเปลี่ยนแปลง PE เป็นตัวหลัก แต่มีปัจจัยอื่นๆประกอบอีก
การให้เกรด A และ D ต้องมี comment ไว้ประกอบ เช่น กำลังขยายกำลังผลิต รอดูผลอีกหกเดือน , แนวโน้มธุรกิจไม่ดี ,งบไม่ค่อยน่าไว้ใจ รอตัดสินใจตอน AGM ฯ
การปรับน้ำหนักการลงทุนเรียงตามเกรด
เกรด D มักถูกขายหรือลดน้ำหนักไปก่อนถึงรอบไตรมาสต่อไป
เกรด C ลงทุนได้ไม่เกินล้านบาท
เกรด A จะไม่ขายออกทุกกรณี มีแต่เอาเงินที่ขายตัวอื่นมาซื้อเพิ่ม
PE 15+ ในพอร์ตของผมไม่ค่อยมี ถ้ามีก้อเป็นเกรด D รอขาย
ประเมินผลสามเดือนครั้ง ทำต่อเนื่องไปเรื่อยๆ กะว่าจะเอาไว้ให้ลูกได้ดู ตอนที่เค้าอยากลงทุนต่อ ตอนเราไม่อยู่แล้ว
ขอคำแนะนำ พี่ที่ถือหุ้น 100% ตลอดเวลาหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 18, 2010 11:53 am
โดย saichon
[quote="HARINLUX"][quote="barlonil"]นึกว่าจะไม่มีคนตอบซะแล้ว ขอบคุณพี่มากครับ
[quote="naris"]การสวิทย์หุ้นเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ เหมือการบริหาร ไม่มีผิดหรือถูกตลอดเวลาครับ กลยุทธ์หนึ่งเป็นจุดแข็ง แต่ด้วยเวลาไม่เหมาะสมอาจจะเป็นจุดอ่อนก็ได้ และการให้ข้อมูลPEปี53อย่างเดียว ถ้าจะแนะนำไปก็เหมือนตาบอดคลำช้างครับ
ขอคำแนะนำ พี่ที่ถือหุ้น 100% ตลอดเวลาหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 18, 2010 12:26 pm
โดย unnop.t
โดยส่วนตัวของผม จะขายหุ้นด้วยเหตุผล
1. พื้นฐานกิจการเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง
2. วิเคราะห์ผิด
3. บริษัทไม่เติบโตแล้ว
4. เจอตัวอื่นที่น่าสนใจกว่า แต่ไม่มีเงินสดพอ
ดังนั้นผมไม่ค่อยเจอปัญหา ขายไปแล้วแต่หาตัวอื่นซื้อไม่ได้
ส่วนเหตุผล overvalue ผมคิดว่ามันค่อนข้างประเมินยากอยู่ สมมุติว่า เราถึอไว้อีก 2-3 ปีข้างหน้า น่าจะได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 10-15 %ต่อปี ยังนี้ถือว่า overvalue หรือเปล่า ? ยกเว้นถ้าคุณชอบเล่นรอบ เก็งกำไรจากผลประกอบการ คุณอาจมองว่ามัน overvalue ไม่อยากรอนานขนาดนั้น ไปมองหาหุ้นตัวใหม่ หรือทำ short against port อันนี้แล้วแต่อัตวิสัยครับ
ถ้ามีเงินสดในมือ บางครั้งการไม่ทำอะไร อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
ความอดทนในการรอเพื่อซื้อหุ้นที่ดี ในราคาที่เหมาะสม เป็นนิสัยนักลงทุนชั้นยอดที่ต้องฝึกหัด ( ตอนนี้ผมก็พยายามฝึกอยู่เหมือนกัน ชอบเป็นโรคกระเป๋าร้อน :( )