Thai VI

หลังจากฟองสบู่ dotcom อเมริกาแตกไปเมื่อหลายปีก่อน หุ้นของบริษัทdotcom หลายๆตัว ที่เคยราคาขึ้นไปสูงมากๆ อย่างเช่น บริษัท Internet Capital Group Coporation (IGCE) หุ้นจากราคา 160$ --> 0.27$ ในปัจจุบัน ไปดูกราฟกันได้ครับ
http://finance.yahoo.com/q/bc?s=ICGE&t= ... &z=m&q=l&c

ในแง่มองการลงทุนแบบเน้นคุณค่า เอาแบบคร่าวๆเท่าที่เรารู้จักกันคิดว่าธุรกิจ dotcom ตัวไหนดีสุดครับ (ไม่เกี่ยวว่าอยากจะซื้อหุ้นนะ)
พอดีเห็นในบอร์ดอื่นเค้าคุยกันเรื่อง google กันเพราะช่วงนี้กำลังจะมี IPO ผมก็คิดว่า google ก็ดี แต่ตัวที่ผมคิดว่าดีที่สุดจริงๆ คงจะเป็น eBay ครับ เว็ปประมูล online เพราะผมก็ใช้บริการเว็บนี้บ่อยๆ

Gross Profit Margin ของ eBay จะประมาณ 80กว่า% เลยนะครับ(แต่ net profit margin จะประมาณ 30% ไม่รู้หายไปไหนตั้งเยอะ) เพราะเค้าแทบไม่มีต้นทุนอะไรเลย สินค้าก็ไม่ต้อง stock เก็บแต่ค่า fee ในการ post auction อย่างเดียว eBay เป็นหุ้นที่ราคาช่วงนี้พอๆ กับช่วงฟองสบู่dotcomเลยครับ ที่ราคาเป็นอย่างนี้ได้เพราะกำไรดีขึ้นเรื่อยๆ อยู่
หุ้น eBay trade กันที่ระดับ PE 100 มานานแล้ว และก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงครับ ถ้า PE ต่ำๆ ผมก็อยากซื้อเหมือนกัน แต่คงจะยากแหะ

แล้วเพื่อนๆ คิดว่าบริษัทไหนดีๆ กันบ้างครับเนี่ย เผื่อได้ย้ายฟากไปซื้อหุ้นทางโน้นบ้าง อิอิ[/url]

ทีแรกกะว่าจะตอบทันที แต่พอมาคิดดูแล้ว หายากเหมือนกันนะ เว็บอะไรที่เราคิดว่าต้องเว็บนี้เท่านั้น ก็น่าสน พวกโฮสติ้ง ก็แข่งราคากัน ไม่ไหว บริการอินเตอร์เน็ตที่เมกา ผมได้ยินมาว่าฟรีแล้ว เลยมองไม่ออกว่าอะไรดีเลย

แต่ผมว่าความรู้ด้านคอมฯ เนี่ย จะทำให้ขายดี

ถ้าอยากเล่น .com มาก

ผมว่ากล้าๆจอง google น่ะดีแล้วครับ เปิดเทรดวันแรก รอไล่ราคาแล้วขายเลย

Google ไล่ราคาวันแรกยากครับท่านปู่

ราคา IPO กำหนดโดย Modified Dutch Auction ซึ่งหมายความว่าจะ
ได้ราคาที่ "ไม่ถูกไม่แพง" อยู่แล้ว พูดง่ายๆ คือราคาที่เปิดออกมาถ้า
สูงกว่านี้ก็มีคนอยากซื้อน้อย ถ้าต่ำกว่านี้ก็มีคนอยากซื้อเยอะ

ยกเว้นมีการสร้างราคา IPO หลอกด้วยการ bid สูงๆ แต่คนสร้างราคา
นั่นแหละจะเจ็บตัวหนักนะครับ

IPO บ้านเราน่าจะใช้วิธีนี้เนาะ พิสูจน์ได้ง่ายมากเลยว่ามีการล็อคหุ้น
หรือเปล่า

เช่นถ้าผมบิดที่ 50 บาท 10,000 หุ้น แล้วราคา IPO เปิดมา 48 และ
ผมไม่ได้หุ้นหรือได้ไม่ครบ แปลว่ามีคนโกงแน่นอน เอาใบเสร็จไป
ฟ้องนายกได้เลย

Ebay เป็นธุรกิจที่น่าสนใจมากครับ คนขายของหนึ่งคนต้องจ่ายเงินให้ Ebay
ทุกครั้งที่ขาย แล้วในหนึ่งวันมีคนขายของเป็นแสนชิ้นเลยครับ แล้วยังเป็น
ธุรกิจที่มีโมเมนตัมด้วย ถ้ามีของมาขายเยอะ คนเข้ามาดูก็เยอะ ถ้าคนเข้ามาดู
เยอะ ก็มีคนอยากขายของเยอะ วนไปเรื่อยๆ เว็บไซต์ดังๆ เว็บอื่นก็มีประมูล
ออนไลน์ แต่โมเมนตัมไม่สูงเท่า Ebay ทำให้อัตราการโตน้อยมากครับ ใครที่
จะทำเว็บประมูลออนไลน์แข่งกับ Ebay จะต้องมีเงินทุนสูงมากๆ ต้องสร้าง
แบรนด์ให้ติดตลาด เพื่อให้คนเข้ามาใช้จนเกิดโมเมนตัม แต่กว่าจะเกิด
โมเมนตัมได้ Ebay ก็คงพัฒนาไปได้อีกไกลแล้ว

ส่วน Google รายได้หลักๆ น่าจะมาจากค่าโฆษณา ยิ่งคนเยอะก็ยิ่งเก็บค่า
โฆษณาได้เยอะ สิ่งที่ Google ต้องทำก็คือพัฒนาเทคโนโลยี search engine
ให้ทันสมัยและถูกใจผู้ใช้อยู่เสมอ เพื่อให้คนเข้าเว็บซ้ำเรื่อยๆ ซึ่งที่ผ่านมาผม
ว่า Google ทำได้ดีครับ สามารถล้มเว็บ search engine ดังๆ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว
ได้หมดเลย ใครที่คิดจะล้ม Google ในตอนนี้ จะต้องสร้างเทคโนโลยีที่เยี่ยม
มากกว่า Google ซึ่งหลายๆ บริษัทก็ออกมาคุยว่าจะมี search engine มาแข่ง
กับ Google แต่ผมเกรงว่าจะเป็นแค่คุยทับมากกว่า

และที่น่าสนใจก็คือธุรกิจ free e-mail ซึ่ง Google ได้ออก Gmail ที่ให้พื้นที่
เก็บ e-mail มากถึง 1 กิกะไบต์ เป็นข้อเสนอที่ดึงดูดใจคนที่ใช้ Hotmail หรือ
Yahoo Mail มากๆ ครับ งานนี้อาจได้เห็นยักษ์ล้ม

ถามท่านทวด CK ครับ Modified Dutch Auction นี่เหมือน Call market บ้านเราหรือเปล่าครับ

ผมล่ะงงว่าถ้าเปิด free email จะเอากำไรจากไหน(หว่า) ค่าโฆษณาจะคิดได้แพงขนาดคุ้มค่าบริการเมล์รึ?

นักดูดาว เขียน:ถามท่านทวด CK ครับ Modified Dutch Auction นี่เหมือน Call market บ้านเราหรือเปล่าครับ

คล้ายแต่ไม่เหมือนครับ เอาคร่าวๆ นะครับ Modified Dutch Auction
คือการให้คนที่ต้องการซื้อเปิดบัญชีกับ underwriters (1 ใน 2 ราย)
และ bid เข้าไปครับ เช่น ต้องการ 10,000 หุ้นในราคา $50 พอหมด
เขต bid ก็จะเอา bid ของทุกคนมาคำนวณหาราคาที่สูงที่สุดที่ทำให้
หุ้น IPO ทั้ง 150 ล้านขายได้หมดครับ โดยเขาจะประกาศ price range
ไว้ให้ แต่สามารถ bid สูงหรือต่ำกว่าได้ตามต้องการ

ไม่มีการตั้ง offer ครับ เป็นการ bid อย่างเดียว

พูดง่ายๆ คือถ้าเรา bid ไว้ที่ 10,000 @ $50
- ราคา IPO 52 คือเราไม่ได้หุ้นสักหุ้น
- ราคา IPO 48 คือเราได้ 10,000 หุ้นในราคา 48
- ราคา IPO 50 พอดี เราอาจจะได้หรือไม่ได้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับลำดับ

แฟร์ดีไหมครับ

นักดูดาว เขียน:ผมล่ะงงว่าถ้าเปิด free email จะเอากำไรจากไหน(หว่า) ค่าโฆษณาจะคิดได้แพงขนาดคุ้มค่าบริการเมล์รึ?

รายได้จาก AdSense ครับ คือเมื่อเราเปิด email อ่าน Google จะ analyze
email เราว่าเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร แล้วจะโชว์โฆษณาเว็บที่เกี่ยวกับ email
ของเรา เช่นถ้าผมส่งเมล์ไปหาท่านปู่ทวดนักดูดาวถามว่าจะซื้อกล้องดูดาว
ยี่ห้ออะไรดี Google จะแสดงเว็บที่ขายกล้องดูสาว เอ้ย ดูดาวไว้ข้างบน
ครับ ถ้าเราคลิ๊กลิ๊งก์นั้น Google จะได้เงินจากเจ้าของเว็บทุกคลิ๊กครับ

ไม่รู้เหมือนกันว่าคุ้มหรือเปล่า แต่ Google เชื่อมั่นมากว่าจะ work ก็เลย
ไปซื้อ Blogger.com เมื่อกลางปีที่แล้ว

พี่ CK

อย่างงี้ก็ไม่มี privacy เท่าไหร่สิครับ สำหรับ e-mail

eBAY อันนี้สุดยอดครับ
IACI เป็นเจ้าของ expedia.com ครับ อันนี้ก็ดีครับ

2/7 ธุรกิจแห่งอนาคตที่ผมเลือกไว้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว มีแค่2ตัวนี้แหละครับที่ยืนมาได้ (+palmอีกอัน) นอกนั้น SUNW,HGSI,CSCO ไปไม่รอด

eBay มีลงขายของประมาณ 7 ล้านชิ้น ต่อวัน ครับ แค่ลงขายของ ebay ก็ได้ค่าธรรมเนียมแล้ว และถ้าขายได้ก็ได้ % จากราคาขายอีกต่างหากครับ

ผมละเห็นแล้วอิจฉา business model ของเค้าจริงๆเลย

งงครับหมายความว่าจะซื้อหุ้นของเมืองนอกกันหรือครับ
ผมสงสัยมานานแล้วว่าจะสามารถซื้อได้หรือเปล่า หรือผม
เข้าใจผิดอะไรครับ

ไม่ได้จะซื้อกันหรอกครับ แค่พูดคุยกันเฉยๆ

ถามว่าคนไทยซื้อหุ้นเมืองนอกได้หรือเปล่า ได้แน่นอนครับ สำหรับหุ้นที่อเมริกานะครับ มีพี่ๆบางคนในห้องนี้ก็มีหุ้นของอเมริกาอยู่เหมือนกัน

เอ แล้วหากผมสนใจอยากซื้อหุ้นที่ อเมริกาบ้างจะต้องทำไงครับ เปิดพอร์ต ข้ามประเทศได้เลยหรือครับ

เปิดทางอินเทอร์เน็ตก็ได้ครับ เช่นที่ etrade.com หรือ ameritrade.com
แต่ต้องฝากเงินเข้าไปก่อนครับ เป็น USD

ไม่แนะนำครับ ตลาดที่โน่นดุกว่าบ้านเราเยอะ ต้องทำการบ้านหนักเลย

ถ้าสนใจจริงให้ซื้อผ่านกองทุนดีกว่าครับ

คุณคนเรือ VI ครับ อ่าน privacy policy ของ Google Mail ได้ครับ ก็ไม่
เชิงไม่มีซะทีเดียว คือ Google สัญญาว่าจะใช้คอมฯอ่านและทำ profiling
แต่จะไม่มีคนสามารถเข้าไปอ่านเมล์ของเราได้นอกจากจะรู้ล็อกอินและ
พาสเวิร์ด