Thai VI

พี่ๆท่านใดเคยมีประสบการณ์ต้องผ่อนบ้านแล้วทุกๆเดือนเมื่อได้รับรายละเอียดว่ายอดที่เราผ่อนต่อเดือนแบ่งเป็นเงินต้นกับดอกเบี้ยเท่าไหร่ เห็นแล้วมันช่างเศร้าใจจริงๆ เพราะมันเป็นดอกเบี้ยซะส่วนใหญ่เหลือเป็นเงินต้นน้อยมากๆดูเหมือนความฝันยังอีกยาวไกล  ครั้นจะเอาเงินเก็บมาโปะเพื่อลดดอกเบี้ยก็ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าเป็นความคิดที่ถูกรึเปล่า เพราะอาจสียโอกาสนำเงินส่วนนั้นไปลงทุนเมื่อมีจังหวะที่ดีหรืออาจจะเก็บไว้ยามฉุกเฉิน  พี่ๆมีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้างครับอยากทราบประสบการณ์ว่าเราจะมีวิธีบริหารจัดการอย่าไรเพื่อให้ต้นทุนที่เรามีอยู่เกิดประโยชน์สูงสุดในสภาวะที่คาดว่าดอกเบี้ยกำลังจะขึ้นครับ     ขอบคุณครับ      :D

ที่เห็นเยอะๆ เข้าใจว่าผ่อนยาวหลาย 10 ปี อย่าไปคิดมากครับ
คำนวนดอกเบี้ย/ปีมาได้เท่าไห่ร ก็เอามาเทียบ
ผมยังไม่เคยเอาตัวเลขจริงๆมาคิดนะ

เท่าที่ฟังโครงการ เขาบอกผม mlr-2 ก็ 4%
เผื่อค่าธรรมเนียม เผื่ออื่นๆ ได้ต้นทุนประมาณ 5% ต่อปี

ก็ลองคิดดูว่า ทำอะไรได้มากกว่า 5% ไหม

ถ้ามั่นใจว่าทำได้มากกว่า ซัก 6-7%(เผื่อดอกขึ้น)
ก็ยังไม่ต้องโปะหนี้ครับ

ถ้าไม่มั่นใจก็ เอาเงินไปทำกำไร 4-5% จากการลดหนี้

ถ้าเซียนกว่านั้น ต้องเอาเงินโปะ แล้วเอาบ้านเข้าโอดี อิอิ

ผมถือหลักว่า การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ   เมื่อเป็นหนี้
แล้วจะเครียดไม่สบายใจ บั่นทอนสุขภาพ  แม้ว่าเราจะเอา
เงินก้อนนั้นไปสร้างดอกผลอาจจะได้มากกว่าดอกเบี้ยผ่อนบ้าน
   สรุปถ้าเป็นผมจะโปะให้หมดหนี้เร็วๆเพื่อความสบายใจ
สุขภาพจะได้ดี

ผมคิดว่าสภาพคล่องสำคัญกว่าครับ
เมื่อมีเงินก็มีทางเลือก
ถ้าปีก่อนผมเอาเงินสดไปซื้อบ้านแทนการผ่อน
ตอนนี้คงไม่มีเงินลงทุน เครียดหนักไปแล้ว

แนะนำให้ ทำ Re-finance ครับ ตอนนี้ยังมีโปรโมชั่นดีๆ อยู่บ้างเช่น
SCB และ UOB มีออปชั่นให้เลือกหลากหลาย เช่นหกเดือน/ หนึ่งปี
แรก ดอกเบี้ย 0.x-1.xx % หลังจากนั้นก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้น

ผมเคยทำเมื่อประมาณสองปีที่แล้วเทียบกับ ธอส. จะประหยัดดอกเบี้ย
ได้ประมาณ 6.25% /yr. ในปีแรก และช่วงนี้เราก็ผ่อนแบบเต็มพิกัด
ที่กำลังเราจะทำได้ เงินต้นจะลดลงเร็วมาก ปีหลังๆ จะเหลือเงินต้นน้อย
ดอกเบี้ยก็จะจ่ายไม่เยอะ แม้อัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้นก็ตาม

แถมมีส่วนให้เรากู้เพิ่ม ตามสัดส่วนเครดิตที่เรามีและตามมูลค่าสินทรัพย์
เราก็เอาที่กู้เพิ่มนี้ไปลงทุนต่อไง  :D

สมมติส่วนกู้เพิ่ม 500,000 จ่ายดอกเบี้ย 1% /year แล้วคุณคิดว่า
สามารถนำเงิน 500,000 นี้มาสร้างผลตอบแทนได้มากกว่า 1%
หรือไม่...น่าคิดนะ

[quote="Radio"]ผมถือหลักว่า การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ

ผมมีความเห็นว่าก่อนจะลงทุนควรไม่มีหนี้สินมากๆ ควรมีเงินเหลือเก็บก่อนครับ แต่ผ่อนบ้านนี้ก็อาจยกเว้นได้บ้างครับเพราะกว่าจะรอผ่อนหมดก่อนคงอาจนานมากกว่าจะได้ลงทุน อย่างไรก็ตามผมว่าถ้าผ่อนบ้านแล้วมีเงินเหลือส่วนเกินและคิดว่าสามารถสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าดอกเบี้ยบ้านก็น่าลงทุนได้ครับ แต่ถ้ามีความเสี่ยงมากผมว่านะจะนำเงินไปโปะต้นก่อนครับ แค่ความคิดเห็นส่วนหนึ่งครับ

ผมกลับคิดว่า บ้านเป็นการลงทุน
นอกจากดอกเบี้ยที่นำมาหักลดเงินได้พึงประเมินแล้ว
เมื่อหักลบกับเงินเฟ้อกับราคาบ้านที่ขึ้นเรื่อยๆ  ผมถือเสมอตัว
แต่กำไรได้อยู่ฟรี

ของผมพยายามเคลียร์หนี้ให้ไวที่สุดครับ
โป๊ะหมดเลยภายใน 3 ปีครับ ช่วงดอกต่ำ ๆ เมื่อ3 ปีที่แล้ว
จะได้ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ครับ

tn143 เขียน:ที่เห็นเยอะๆ เข้าใจว่าผ่อนยาวหลาย 10 ปี อย่าไปคิดมากครับ
คำนวนดอกเบี้ย/ปีมาได้เท่าไห่ร ก็เอามาเทียบ
ผมยังไม่เคยเอาตัวเลขจริงๆมาคิดนะ

เท่าที่ฟังโครงการ เขาบอกผม mlr-2 ก็ 4%
เผื่อค่าธรรมเนียม เผื่ออื่นๆ ได้ต้นทุนประมาณ 5% ต่อปี

ก็ลองคิดดูว่า ทำอะไรได้มากกว่า 5% ไหม

ถ้ามั่นใจว่าทำได้มากกว่า ซัก 6-7%(เผื่อดอกขึ้น)
ก็ยังไม่ต้องโปะหนี้ครับ

ถ้าไม่มั่นใจก็ เอาเงินไปทำกำไร 4-5% จากการลดหนี้

ถ้าเซียนกว่านั้น ต้องเอาเงินโปะ แล้วเอาบ้านเข้าโอดี อิอิ

เรื่องโอดีนี้ผมเห็นด้วยนะครับ เอาไว้ใช้เมื่อเจอการลงทุนที่คุ้มค่า
ถ้าไม่ใช้ก็ไม่เสียดอก แต่อาจจะเสียดอกมากกว่าถ้าเราใช้เต็มจำนวน

1. โปะ