Thai VI

ปกติแล้วพี่ๆเพื่อนๆ เมื่อซื้อหุ้นกันแล้วตั้งเป้ากันไว้บ้างหรือเปล่าครับ ว่าจะขายเมื่อไร หรือว่าซื้อแล้วถือไว้ตลอดไปเลย คือในตอนนี้ผมถือหุ้นที่ดีมากๆตัวหนึ่งด้วยสัดส่วนที่มาก คือเกินครึ่งของ port และผมลงทุนในหุ้น 100% คราวนี้ผมคิดว่าราคาในตลาดตอนนี้สูงกว่า intrinsic value ที่ผมคิดได้ประมาณ 30 กว่า % หากว่าผมเจอหุ้นที่สนใจที่มี mos เพียงพอผมคงขายและเปลี่ยนตัวไปแล้ว แต่เนื่องจากหากขายไปแล้วก็จะยังไม่ได้ซื้อหุ้นตัวอื่น เพราะแม้จะมีหุ้นตัวอื่นที่สนใจอยู่และราคาไม่แพง แต่ก็ยังไม่มี mos พอที่จะเข้าไปซื้อ ก็เลยลังเล จะขายตัวเก่าก็เสียดาย เพราะคิดว่าในกรณีที่ตลาดไม่มีเหตุผลหุ้นมันก็แพงได้อย่างไม่มีเหตุผลเหมือนกัน ในกรณีแบบนี้หากเป็น port ของพี่ๆเพื่อนๆเองจะทำยังไงกันครับ
หากมีการตั้งเป้ากันว่าจะขาย จะขายเมื่อราคาในตลาดสูงกว่ามูลค่าที่เราคิดว่าจะเป็นซักกี่ % ครับหรือขายกันอย่างไรครับ

ถ้ามันดีมากๆ และมันจะยังดีต่อไปจะขายทำไมล่ะครับ
เป็นธรรมดาหุ้นดีๆ คนก็ต้องให้พรีเมี่ยมราคาที่สูงขึ้น
ดูอย่างหุ้นขนมจีบซาลาเปานั่นไง ใครๆ ก็ว่าราคาสูงไปแล้ว
แต่แล้วยังไง ก็ยังไปได้เรื่อยๆ ตามการเติบโตของผลประกอบการ
แต่ไม่ว่ากันนะถ้าจะขายเพราะถึงเป้าหมายที่ต้องการแล้ว
แต่ตัวที่จะลงทุนตัวใหม่ดีกว่าตัวที่เราจะขายหรือเปล่า
ถ้าดีกว่าก็ลุยแต่ถ้าไม่ก็..............ตัดสินใจเองครับ

มีตัวนึงในพอร์ทผมราคาทะลุเป้าขายแล้ว แต่ไม่รู้จะเอาตังไปทำไร เลยถือเฉยๆ

intrinsic value ที่คิดนี่ใช้ r เท่าไรครับ ของผมใช้10%
แล้วก็หา irr ถ้าเกิน12 เอา

ผมคิดว่าถ้าหุ้นถึงเป้าหมายแล้ว   ผมจะขายและถือเงินสดรอเวลาครับ
ตลาดไม่มีวันปิดครับ

ของผมอาจจะแปลกหน่อยตรงที่ไม่มีราคาเป้าหมาย
ตัวอย่าง ผมซื้อหุ้น A แล้วถ้าหุ้นขึ้นมากกว่า 30% ผมจะซื้อต่อจนกำไรเหลือแค่ 10% กว่าๆ ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่ากำไรเหลือแค่ 5% ผมก็จะขาย

แต่ตอนที่ขานส่วนใหญ่เงินกองนั้นจะโตแล้วทำให้กำไรยังมากอยู่ดี

ผมเป็น คนที่ขายหมูบ่อยมากเลยครับ  จริงๆ แล้ว มีหุ้นหลายตัวที่ปล่อยไปในราคา เด้งเดียว คือ ได้มาสองเท่า ต่อมความพอใจมันก็บังเกิด แล้วทำให้เราขายออกไปโดยไม่มีเหตุผล เลยทีเดียว  แต่หลังจากนั้น มันก็วิ่งไปต่อเรื่อยๆ ไปสามเด้งบ้าง สี่เด้งบ้าง เราก็ได้แต่มอง ( ตาค้าง )

หลังๆ ก็เลยต้องรีบกลับไปอ่านหนังสือใหม่ ( เล่มเดิมๆ นั่นแหละ อ่านเพื่อย้ำตัวเอง )  เห็น ปีเตอร์ ลินซ์ เค้าว่า ในส่วนกลยุทธ์ในการขายนั้นมีหลายวิธี บางคนชอบตัด ดอกไม้ แล้วเลี้ยง วัชพืขไว้ คือ ขายตัวกำไรเยอะ แล้วก็เก็บตัวห่วยๆ ไว้ ( หวังว่าสักวันมันจะกลายเป็นดอกไม้ )  หรือบางคนขาย Cut loss ตัวที่ติดลบไปให้หมด เหลือตัวที่กำไรเยอะๆ ไว้ ซึ่งเค้าว่า ทั้งสองวิธีนี้ เป็นทางที่ โง่ พอกัน เพราะดูแต่ราคาเป็นที่ตั้ง

ตอนนี้ พยายามปรับเปลี่ยนใหม่ โดยการใช้ผลประกอบการณ์ เป็นหลัก เช่น ผมจะคาดหวัง ล่วงหน้า ทั้งระยะสั้น และ ระยะยาว จากข้อมูลที่หามาได้ทั้งหมด แต่หาก มันแย่ลงจากที่เราคิดไว้เยอะ โดยไม่ได้มีค่าจ่ายอะไรพิเศษขึ้นมาชั่วคราว ผมจะไม่ไปหาเหตุผลโน้นนี่ มาอ้างว่าคิดถูกแล้วทุกอย่างมันจะดีขึ้น แต่ผมก็จะค่อยๆ ลดน้ำหนักลง และไปซื้อตัวที่ดีกว่าคาด ก็คือซื้อตัวที่อยู่ใน พอร์ตของเราก่อนนั้นแหละ ถึงราคามันจะแพงขึ้นไปบ้าง แต่เทียบกับกำไรที่มันเพิ่มขึ้นมันก็สมเหตุผล ส่วนตัวใหม่ๆ ก็จะหาไปเรื่อยๆ เหมือนกัน แต่ถ้ายังไม่เจอที่ถูกใจก็จะไม่ซื้อมาเด็ดขาด  คือก็จะพยายาม รักษาจำนวนหุ้นในพอร์ตไว้ ไม่เกิน 5 ตัว สำหรับ พอร์ตเล็กๆ อย่างผม

ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบนะครับ
ผมคิดนานไปหน่อยราคาตกลงมาจนพ้นโซนขายไปแล้วครับ ถือต่อๆ

truetempo เขียน:ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบนะครับ
ผมคิดนานไปหน่อยราคาตกลงมาจนพ้นโซนขายไปแล้วครับ ถือต่อๆ

ไม่มีถูกผิดครับ ซื้อเพราะอะไรก็ขายเพราะเหตุนั้น ไม่ใช่หุ้นทุกตัวจะถือยาวได้หมดนะครับ บางตัวมันหมด story หมดรอบ แล้วก็ปล่อยมันไปเถอะ

จากคนหัวอกเดียวกันครับ