Thai VI

ถ้าเพียงแค่ "การเข้าใจในปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ รวมทั้งเข้าใจในสินค้าและบริการของกิจการนั้นๆ" ยังเป็นงานที่ยากเกินไป
แล้วนับอะไรกับ "สมการ" ที่ยุ่งยากแบบนี้...ที่จะไปพยายามทำความเข้าใจในมัน

"ความเสี่ยง" คือ สิ่งที่เราหลีกเลี่ยงได้ ถ้าเราทำการบ้านมากพอ
เพียงแค่ตัวหุ้นเอง คงไม่มีอภินิหารที่จะเรียกแขก หรือเลือกเราให้เข้าไปเป็นเจ้าของกิจการ
"ตัวเราเองต่างหาก...ที่เป็นผู้เลือกหุ้นและกิจการเหล่านั้น"
ไม่ว่าเราจะเลือกด้วย "ความเข้าใจ" หรือ "ความโลภ" ก็ตาม

ผมชอบอ่านข่าวแบบนี้ ก็เพื่อเป็นกรณีศึกษา...เท่านั้นเองจริงๆครับ

-------------------------------------------------------------------------------------

หลักทรัพย์ SLC  
แหล่งข่าว SLC  
หัวข้อข่าว แจ้งลดทุน เพิ่มทุน และออก W2  
วันที่/เวลา 17 ส.ค. 2553 09:14:00  

                                                                             ADM5308003
                                             16 สิงหาคม 2553
เรื่อง   แจ้งลดทุนและเพิ่มทุน
เรียน   กรรมการและผู้จัดการ
      ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สิ่งที่ส่งมาด้วย เอกสารแนบ : รายละเอียดเบื้องต้นของใบสำคัญแสดงสิทธิ

           ด้วยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) ("บริษัท") ครั้งที่ 7/2553
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2553 ได้มีมติสำคัญดังนี้
           1. อนุมัติให้ลดทุนจดทะเบียนจากเดิม 325,000,000 บาท เป็น 85,610,306 บาท โดยยกเลิกหุ้นสามัญ
ที่ยังมิได้จำหน่ายจำนวน 2,393,896,940 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท
           2. อนุมัติให้แก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 4. เพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียน
           3. อนุมัติออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 2,424,412,800 หุ้นเพื่อขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่มี
รายชื่อในวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทในวันที่ 6 ตุลาคม 2553
และให้รวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยวิธีปิด
สมุดทะเบียนในวันที่ 7 ตุลาคม 2553 เพื่อนำเงินทุนที่ได้รับใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการของ
บริษัทและบริษัทในเครือ ในอัตรา 1 หุ้นสามัญเดิมได้ 4 หุ้นสามัญใหม่ ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.10 บาท ทั้งนี้
ผู้ถือหุ้นเดิมมีสิทธิจองซื้อหุ้นใหม่เกินสิทธิของตนตามอัตราที่กำหนดไว้นี้ได้โดย ในกรณีหุ้นที่เหลือ ให้จัดสรรหุ้นที่
เหลือให้แก่ผู้ถือหุ้นที่จองซื้อเกินสิทธิแต่ละราย ตามสัดส่วนการถือหุ้นสามัญเดิมของผู้ถือหุ้นที่ได้จองซื้อหุ้นสามัญ
เกินกว่าสิทธิของตนแต่ละราย โดยการจัดสรรหุ้นดังกล่าวให้ดำเนินการไปจนกระทั่งไม่มีหุ้นเหลือจากการจัดสรร
หรือจนกว่าจะไม่มีผู้ถือหุ้นรายใดประสงค์จะซื้อหุ้น
           4. อนุมัติออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท รุ่นที่ 2 จำนวน
606,103,200 หน่วยเพื่อขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่ใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในอัตรา 4 หุ้นสามัญเพิ่มทุนได้ใบสำคัญ
แสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท รุ่นที่ 2 จำนวน 1 หน่วย ราคาใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ 0.10 บาท
ต่อหน่วย
           5. อนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 85,610,306 บาทเป็น 424,424,386 บาทโดยออกเป็นหุ้นสามัญ
จำนวน 3,388,140,800 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท และจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนดังนี้
         จัดสรรหุ้นสามัญจำนวน 2,424,412,800 หุ้นเพื่อรองรับการใช้สิทธิจองหุ้นเพิ่มทุนที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือ
หุ้นเดิม ในอัตรา 1 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 4 หุ้นสามัญใหม่
         จัดสรรหุ้นสามัญจำนวน 606,103,200 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่
จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท รุ่นที่ 2

       จัดสรรหุ้นสามัญจำนวน 357,624,800 หุ้น เพื่อรองรับการปรับสิทธิการใช้สิทธิแปลงสภาพตาม
ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท รุ่นที่ 1 ซึ่งต้องปรับสิทธิเนื่องจากการออกเนื่องจากบริษัทมีการ
ออกหลักทรัพย์และหลักทรัพย์แปลงสภาพใหม่
          6. อนุมัติการแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิข้อที่ 4 เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียน
          7. กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2553 ในวันศุกร์ที่ 24 กันยายน 2553 ณ ห้อง
เจ้าพระยาแกรนด์บอลรูม ชั้น5 อาคารธารทิพย์ โรงแรม เจ้าพระยาปาร์ค เลขที่ 247 ถนน รัชดาภิเษก แขวงดิน
แดง เขตห้วยขวาง             กรุงเทพมหานคร เวลา 14.00 น. โดยมีระเบียบวาระการประชุมดังนี้
         วาระที่ 1 รับรองรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2553
         วาระที่ 2 พิจารณาอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัท โดยยกเลิกหุ้นสามัญที่จดทะเบียนแล้ว แต่ยัง
ไม่ได้จำหน่าย
         วาระที่ 3 พิจารณาอนุมัติการแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 4 ของบริษัทเพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุน
จดทะเบียน
         วาระที่ 4 พิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม
         วาระที่ 5 พิจารณาอนุมัติให้ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญรุ่นที่ 2
         วาระที่ 6 พิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียน และอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญที่เกิดจากการเพิ่มทุน
จดทะเบียน
         วาระที่ 7 พิจารณาอนุมัติแก้ไขเปลี่ยนแปลงหนังสือบริคณห์สนธิข้อที่ 4 เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุน
         วาระที่ 8 พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)
         8. กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2553 ในวันที่ 31 สิงหาคม
มกราคม 2553 และให้ รวบรวมรายชื่อ ผู้ถื อ หุ้น ตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาด
หลักทรัพย์โดยวิธีการปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 1 กันยายน 2553

         จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ

                                                 ขอแสดงความนับถือ


                                            (นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร)
                                               ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
                                   บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน)




รายละเอียดโครงการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นของบริษัท รุ่นที่ 1 (SLC-W2)
ประเภทหลักทรัพย์ที่เสนอขาย                  : ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของ บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์
                                        (1998) จำกัด (มหาชน) รุ่นที่ 2 สำหรับผู้ถือหุ้นเดิม ("ใบสำคัญแสดง
                                        สิทธิ รุ่นที่ 2 " หรือ "SLC-W2")
ชนิด                                    : ระบุชื่อผู้ถือ และเปลี่ยนมือได้
จำนวนที่ออกและเสนอขาย                    : ไม่เกิน 606,103,200 หน่วย
จํานวนหุ้นที่ออกเพื่อรองรับ                    : 606,103,200 หุ้น (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท)
ใบสำคัญแสดงสิทธิ
ลักษณะการเสนอขาย                        : จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่มีรายชื่อ ปรากฎในสมุดทะเบียนผู้
                                        ถือหุ้นในวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญเพิ่ม
                                        ทุนของบริษัทและได้ใช้สิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท
                                        โดยที่บริษัทเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แกผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา 1 หุ้น
                                        เดิมต่อ 4 หุ้นสามัญเพิ่มทุน และจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิให้ผู้ถือหุ้น
                                        ที่จองใช้สิทธิในอัตรา 4 หุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดง
                                        สิทธิ
วันออกและเสนอขายใบสำคัญ                  : การออกใบสำคัญแสดงสิทธิ SLC-W2 ในกรณีนี้ เป็นการออกใบสำคัญ
แสดงสิทธิ                                  แสดงสิทธิให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น ซึ่งได้สิทธิในการ
                                        จองซื้อหุ้นและมีการใช้สิทธิจองซื้อหุ้นถือว่าได้รับอนุญาตจาก
                                        สํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
                                        (ก.ล.ต.) แล้วและให้บริษัทที่ได้รับอนุญาตปฏิบัติตามเงื่อนไขภายหลัง
                                        การอนุญาตซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กําหนดไว้ใน
                                        หมวด 2 ของประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ.34/2551
                                        เรื่อง การขออนุญาตและการอนุญาตให้เสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ
                                        ที่จะซื้อหุ้นที่ออกใหม่และหุ้นที่ออกใหม่เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิ
                                        ฉบับ ประกาศ ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2551
ราคาเสนอขายต่อหน่วย                      : 0.00 บาท (ศูนย์บาท)
ระยะเวลาเสนอขาย                        : เสนอขายให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปีนับจากวันที่ได้รับอนุมัติจากที่
                                        ประชุมผู้ถือหุ้น
อายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ                    : 5 ปีนับแต่วันที่ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ
อัตราการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ                   : ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น (อาจ
                                        เปลี่ยนแปลงในภายหลังตามเงื่อนไขการปรับสิทธิ)

ราคาการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ           : 0.10 บาท ต่อ 1 หุ้นสามัญ (อาจเปลี่ยนแปลงในภายหลังตาม
                                เงื่อนไขการปรับสิทธิ)
                              : ผลกระทบที่มีต่อผู้ถือหุ้นเนื่องจากการออกและเสนอขายหุ้นสามัญ
ผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น
                                เพิ่มทุนและใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ในการพิจารณา
                                ผลกระทบจากการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้น
                                ของบริษัท (Right Offering) และจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่ผู้
                                ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว จะพิจารณาถึง
                                ผลกระทบซึ่งแบ่งเป็น 3 กรณี ดังนี้
                                กรณีที่ 1 กรณีที่เกิดเหตุการณ์ ดังนี้
                                (ก) ผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือ
                                หุ้นทั้งจำนวน และ
                                (ข) ผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทตามใบสำคัญแสดง
                                สิทธิที่ได้รับจัดสรรจากการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวน
                                กรณีที่ 2 กรณีที่เกิดเหตุการณ์ ดังนี้
                                (ก) ผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือ
                                หุ้นทั้งจำนวน และ
                                (ข) บุคคลอื่นใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทตามใบสำคัญแสดง
                                สิทธิที่ได้รับจัดสรรจากการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวน
                                กรณีที่ 3 กรณีที่เกิดเหตุการณ์ ดังนี้
                                (ก) ผู้ถือหุ้นเดิมไม่ใช้สิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการ
                                ถือหุ้นทั้งจำนวน โดยผู้ถือหุ้นเดิมอื่นใช้สิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเกินสิทธิ
                                และไม่มีหุ้นเหลือจากการออกและ เสนอขายในครั้งนี้ และ
                                (ข) บุคคลอื่นใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทตามใบสำคัญแสดง
                                สิทธิที่ได้รับจัดสรรจากการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวน
                                โดยกำหนดให้
                                Qa = จำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วเดิม 606.10 ล้านหุ้น
                                Qs = จำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นจากการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่ม
                                ทุน 2,424.41 ล้านหุ้น
                                Qsw = จำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นจากการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่
                                จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน 606.10 ล้านหุ้น
                                Qn = จำนวนหุ้นรวมทั้งหมด (Qa + Qs + Qsw ) เท่ากับ 3,636.61
                                ล้านหุ้น

                         
                               1. ด้านการลดลงของสัดส่วนการถือหุ้น (Control Dilution)                                  
                               สูตรการคำนวณด้านการลดลงของสัดส่วนการถือหุ้น = 1- [Qo / Qn)]
                               โดยที่
                               Qo = จำนวนหุ้นรวมที่ผู้ถือหุ้นจะได้รับในแต่ละกรณี ซึ่ง
                               แบ่งเป็น 3 กรณี ดังนี้
                               Qo กรณีที่ 1 = Qa + Qs + Qsw
                               Qo กรณีที่ 2 = Qa + Qs
                               Qo กรณีที่ 3 = Qa
                               ผลกระทบด้าน Control Dilution
                               กรณีที่ 1       กรณีที่ 2      กรณีที่ 3
                                  -          16.67%      83.33%

                               2. ด้านการลดลงของส่วนแบ่งกำไร (Earnings Dilution)
                               สูตรการคำนวณด้านการลดลงของส่วนแบ่งกำไร = 1 - [(EPSo -EPSn) / EPSo]
                               โดยที่
                               EPSo = กำไรสุทธิ / Qo
                               โดยที่ Qo แบ่งออกได้เป็น 6 กรณี ดังนี้            
                               Qo กรณีที่ 1 = Qa + Qs + Qsw
                               Qo กรณีที่ 2 = Qa + Qs
                               Qo กรณีที่ 3 = Qa
                               EPSnew = กำไรสุทธิ / (Qo + Qn)
                               ในการคำนวณ เนื่องจากในปี 2552 บริษัทมีผลการดำเนินงานขาดทุน
                               สุทธิ จึงอาจเป็นค่าที่ไม่ถูกต้อง จึงไม่คำนวณ

                               3. ด้านการลดลงของราคา (Price Dilution)
                               สูตรการคำนวณด้านการลดลงของราคา = (Po - Pn) / Po
                               โดยที่
                               Pa = ราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 7 วันทำการก่อนวันประชุม
                               คณะกรรมการเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2553 (วันที่ 3-6,9-11 สิงหาคม
                               2553) ซึ่งเท่ากับ 0.30 บาทต่อหุ้น
                               Ps = ราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งเท่ากับ
                               0.10 บาทต่อหุ้น
                               Psw = ราคาใช้สิทธิซื้อหุ้นตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกและเสนอ
                               ขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน ซึ่งเท่ากับ 0.10 บาท
                               ต่อหุ้น
                               Po แบ่งออกได้เป็น 3 กรณี คือ
                               Po กรณีที่ 1 = [(Pa x Qa) + (Ps x Qs) + (Psw x Qsw) )] / (Qa +

                                      Qs + Qsw )
                                      Po กรณีที่ 2 = [(Pa x Qa) + (Ps x Qs) ] / (Qa + Qs )
                                      Po กรณีที่ 3 = (Pa x Qa) / Qa
                                      Pn = ราคาเฉลี่ยต่อหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่ม
                                      ทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และการใช้สิทธิซื้อหุ้นตามใบสำคัญแสดงสิทธิ
                                      =[(Pa x Qa) + (Ps x Qs) + (Psw x Qsw)] / (Qa + Qs + Qsw)
                                      ผลกระทบด้าน Price Dilution
                                      กรณีที่ 1    กรณีที่ 2    กรณีที่ 3
                                          -        7%       56%
                                      ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิสามารถใช้สิทธิได้ในวันทำการสุดท้ายของ
วันใช้สิทธิ
                                      เดือนมีนาคม และกันยายน ของแต่ละปี ตลอดอายุของใบสำคัญ
                                      แสดงสิทธิ โดยจะสามารถใช้สิทธิครั้งแรกในวันทำการสุดท้ายของ
                                      เดือนมีนาคม 2554
ตลาดรองของใบสำคัญแสดงสิทธิ             : บริษัท จะนํา ใบสําคัญแสดงสิทธิไปจดทะเบียนเป็น หลักทรัพย์จด
                                     ทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ
ตลาดรองของหุ้นสามัญที่เกิดจาก             : บริษัทจะนำหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิในครั้งนี้ เข้าจดทะเบียน
การใช้สิทธิแปลงสภาพ                      เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ
นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิ              : บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด

หัวข้อข่าว : SLC เพิ่มทุนมโหฬาร ขายพาร์ทุบหุ้นฟลอร์ (ที่มา : 18 ส.ค.--โพสต์ทูเดย์ )

แม่-ลูก SLC ฟลอร์สนิทหนีเพิ่มทุนครั้งใหญ่ ขายแค่พาร์ 0.10 บาท แจกวอร์แรนต์ ส่วนยานภัณฑ์
เดี้ยง ผู้ถือหุ้นไม่ยอมให้เพิ่มทุน ครึ่งปีขาดทุนหนัก
   นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) หรือ SLC
เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนจากจำนวน 85,610,306 บาท มูลค่าที่ตราไว้
(พาร์) หุ้นละ 0.10 บาท เป็นจำนวน 424,424,386 บาท โดยจัดสรรหุ้นจำนวน 2,424,412,800 หุ้น
เสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมที่มีชื่อในทะเบียนวันที่ 7 ต.ค.นี้ สัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 4 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ
0.10 บาท ระดมเงินได้ 242 ล้านบาท

หุ้นต่ำบาท ยังไงก็ยังได้รับความนิยมจากนักลงทุนทั่วไป
จาก SLC มาสู่ MAX
แหม...คุ้นชื่อบางท่านจริงๆเลย
เราก็แค่ "แอบมองๆดู" อ่ะนะขอรับ


-----------------------------------------------------------------

หลักทรัพย์ MAX  
แหล่งข่าว MAX  
หัวข้อข่าว แจ้งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผุ้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท  
วันที่/เวลา 16 ก.ย. 2553 09:04:06  

 การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทจะไม่กระทบต่อการบริหารกิจการของบริษัท

ที่ 110/2553

วันที่ 15 กันยายน 2553

เรื่อง การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท

เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ตามที่ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) : MAX ทำการขายหุ้น MAX
ในระหว่างวันที่ 6 ? 10 กันยายน 2553 รวมหลายรายการ สรุปข้อมูลได้ดังนี้
ผู้ถือหุ้น (ผู้ขาย) จำนวนหุ้น ร้อยละ ข้อมูลเพิ่มเติม
1. นายรณฤทธิ์ ตั้งคารวคุณ 84,000,000 18.33 รับโอนโดยนายตวงวุฒิ ปัญญาดิลก
2. นายสถาพร ติยะวัชรพงศ์ 50,000,000 10.91 ขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ
3. นายภมรกรณ์ เล็กปรีชากุล 27,486,000 6.00 ขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ

การขายหุ้นตามรายการในข้างต้น มีผลให้โครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท เปลี่ยนแปลงไปดังนี้
ผู้ถือหุ้น ข้อมูลก่อนทำรายการ
ณ 10 ส.ค. 53 ข้อมูลหลังทำรายการ
ณ 10 ก.ย. 53
จำนวนหุ้น ร้อยละ * จำนวนหุ้น ร้อยละ *
1. นายรณฤทธิ์   ตั้งคารวคุณ 84,000,000 18.33 - -
2. นายตวงวุฒิ ปัญญาดิลก - - 84,000,000 18.33
3. นายสถาพร   ติยะวัชรพงศ์ 50,000,000 10.91 - -
4. นายภมรกรณ์ เล็กปรีชากุล 45,819,000 10.00 18,333,000 4.00
5. นายศิริวัฒน์ อนันต์คูศรี 41,000,000 8.95 41,000,000 8.95
6. นายชำนิ จันทร์ฉาย 25,000,000 5.45 25,000,000 5.45
7. นายสิริวัฒน์ โตวชิรกุล 15,056,300 3.29 15,036,300 3.29
8. นายฉาย บุนนาค - - 33,878,800 7.39
* หมายเหตุ
: เป็นสัดส่วนการถือหุ้นก่อนการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมที่ปรากฏรายชื่ออยู่ในสมุดทะ
เบียน ณ วันที่ 10 สิงหาคม 2553 ซึ่งบริษัทจะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนรวม 1,374,497,403 หุ้น
มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 3 หุ้นใหม่
ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 0.09 บาท กำหนดจองซื้อในระหว่างวันที่ 8 ? 14 กันยายน 2553

บริษัทขอเรียนให้ทราบว่า การเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นดังกล่าวไม่ได้กระทบการบริหารงานของบริษัทแต่อย่างใด

ในส่วนของการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่ปิดรับจองซื้อไปแล้วเมื่
อวันที่ 14 กันยายน 2553 ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการจัดสรรหุ้น
คาดแล้วเสร็จและจะนำหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว
เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในประมาณปลายเดือนกันยายน 2553 นี้

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ

ขอแสดงความนับถือ




( นายสิริวัฒน์ โตวชิรกุล )
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

หลักทรัพย์ SLC  
แหล่งข่าว mai  
หัวข้อข่าว หุ้นเพิ่มทุนของ SLC เริ่มซื้อขายวันที่ 11 พ.ย. 53  
วันที่/เวลา 09 พ.ย. 2553 18:21:00  

 รับหลักทรัพย์เพิ่มทุน

เรื่อง : การรับหุ้นเพิ่มทุน
ชื่อบริษัท : บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) (SLC)
ทุนเดิม (บาท) : 60,610,320.00
- หุ้นสามัญ (หุ้น) : 606,103,200
จำนวนหุ้นเพิ่มทุน :
- หุ้นสามัญ (หุ้น) : 2,424,412,800
ทุนใหม่ (บาท) : 303,051,600.00
- หุ้นสามัญ (หุ้น) : 3,030,516,000
มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (บาทต่อหุ้น) : 0.10
รายละเอียดการจัดสรร :
จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม
อัตรา   1 หุ้นเดิม: 4 หุ้นใหม่
ราคา   0.1 บาทต่อหุ้น
วันจองซื้อและชำระเงิน 18-22 ตุลาคม 2553
วันที่เริ่มซื้อขาย : 11 พ.ย. 2553

วันที่ ราคาเปิด ราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด ราคาปิด เปลี่ยนแปลง %เปลี่ยนแปลง ปริมาณ(หุ้น) มูลค่า('000 บาท)
 
10/11/2553 0.15 0.17 0.14 0.16 +0.02 +14.29 290,937,200 45,541.81

เมื่อวานนี้...
SLC โวลุ่มซื้ออขายทะลัก พาไปราคาสูงสุดที่ 0.17 บาท
ปิดที่ราคา 0.16 บาท +14.29%

แต่วันนี้...
วันที่ลูกหุ้นเข้า SLC โดนทุบลงไปฟลอร์สนิทอยู่ที่ 0.12 บาท!!!


เอวัง...ก็เป็นเช่นประการฉะนี้

หลักทรัพย์ SLC  
แหล่งข่าว SLC  
หัวข้อข่าว แจ้งเลขานุการลาออก  
วันที่/เวลา 17 พ.ย. 2553 08:48:48  

                บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน)  ขอแจ้งการลาออก ของ นางโฉมชบา  
สถาพรพงษ์  ตำแหน่ง เลขานุการบริษัท  และแต่งตั้ง นายประณต  โกษาคาร   ดำรงตำแหน่งเลขานุการบริษัท  แทน
ทั้งนี้
ให้มี  ผลตั้งแต่ วันที่  16  พฤศจิกายน  2553 เป็นต้นไป

     จึงเรียนมาเพื่อทราบ

หลักทรัพย์ SLC  
แหล่งข่าว SLC  
หัวข้อข่าว แจ้งผู้บริหารลาออก
วันที่/เวลา 17 พ.ย. 2553 08:52:08  

           บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน)  ขอแจ้งการลาออก ของ นางสาวทรรศนีย์  
วงศ์ปิยะพันธุ์  ตำแหน่ง รองกรรมการอำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน  และแต่งตั้ง นายประณต  โกษาคาร
ดำรงตำแหน่งรองกรรมการอำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน แทน  ทั้งนี้ ให้มี  ผลตั้งแต่ วันที่  16  พฤศจิกายน
 2553 เป็นต้นไป

          จึงเรียนมาเพื่อทราบ

ราคาปิดล่าสุดเมื่อวานนี้ (16 พ.ย. 53) อยู่ที่ 0.09 บาท
ติดตามมาด้วยข่าวผู้บริหารลาออกพร้อมกัน ทั้งเลขานุการบริษัทฯ และ CFO

Case Study นี้ ดูแล้วเหนื่อยใจแทนผู้ถือหุ้นจริงๆ เพราะราคาลดลงทุกวัน
เฮ้อ!!!

SLC ราคาหลุดพาร์เรียบร้อยครับ ปัจจุบันอยู่ที่ 0.07 บาท
หุ้นเค้าก็ไม่มี แต่ชอบตามอ่านเฉยๆอ่ะนะ
(^_^)
===========================================


คีย์แมน 'อารักษ์-ธนพันธ์' 'SLC' ดงเสือนักเก็งกำไร
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ , วันที่ 10 มิถุนายน 2553

อารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) วัย 46 ปี อดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน (CFO) การรถไฟแห่งประเทศไทย แทคทีมกับเด็กหนุ่มวัย 26 ปี ธนพันธ์ วงศ์ชินศรี กรรมการอำนวยการ บมจ.โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) ผู้เป็น "ถุงเงินปริศนา" ทายาทเจ้าของบริษัท สิทธิพร แอสโซซิเอส จำกัด "ดิเรก วงศ์ชินศรี"

มีข้อสงสัยเกิดขึ้นนับตั้งแต่การเพิ่มทุนแบบก้าวกระโดดจาก 50 ล้านบาท เป็น 325 ล้านบาท ด้วยวิธีการอันซับซ้อนโดยออกใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ (SLC-T1) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมได้ SLC-T1 จำนวน 5 หน่วย โดย 1 หน่วยสามารถใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น ที่ราคา 0.40 บาท อายุของ SLC-T1 สั้นเพียง 60 วัน (ใช้สิทธิครั้งสุดท้ายวันที่ 15 กรกฎาคม 2553)

นอกจากนี้ มีการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (SLC-W1) 250 ล้านหน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิมได้วอร์แรนท์ 1 หน่วยสามารถใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น ที่ราคา 0.40 บาท อายุ 5 ปี (หมดอายุวันที่ 16 พฤษภาคม 2558)

การเพิ่มทุนดังกล่าวของ SLC เพื่อรองรับ SLC-T1 และ SLC-W1 มีจำนวนสูงถึง 5.5 เท่าของทุนชำระแล้วก่อนเพิ่มทุน ทั้งวิธีการและเงื่อนไขการเข้ามาของกลุ่มวงศ์ชินศรี ตลาดหลักทรัพย์ต้องสั่งให้ชี้แจงถี่ยิบ การเปลี่ยนมือจากเจ้าของเดิมกลุ่ม นิทัศน์ มณีศิลาสันต์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ SLC ได้ขายหุ้น 65.30% ให้กลุ่มธนพันธ์ วงศ์ชินศรี ในราคาหุ้นละ 3.50 บาท หลังจากนั้นก็มีการเข้ามาของกลุ่มนักเก็งกำไรยาวเป็นหางว่าว พร้อมกับข่าวลือว่า ฉาย บุนนาค เซียนหุ้นชื่อดังมีฐานะเป็น "ญาติ" กับตระกูลวงศ์ชินศรี และเกี่ยวข้องกับดีลนี้

ไม่เพียงการเพิ่มทุนจะมโหฬารเท่านั้น ผู้ถือหุ้นกลุ่มวงศ์ชินศรี ยังต้องการมูฟตัวเองจากธุรกิจ "ซอฟต์แวร์-ฮาร์ดแวร์" ไปสู่ธุรกิจใหม่ เป้าหมายต้องการระดมทุนจำนวน 1,000 ล้านบาท นำไปลงทุนในธุรกิจใหม่หนึ่งในเป้าหมายสำคัญคือธุรกิจ New Medias ทั้งโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม และซื้อหนังสือพิมพ์ "ฐานเศรษฐกิจ"

จาก "มด" จะแปลงร่างเป็น "ช้าง" ภาพปริศนาต่างๆ หลายคนจึงไม่มั่นใจว่าจะเป็น "ของจริง" ที่ผ่านมาบริษัทได้เริ่มทดลองออกอากาศสถานี สปริง นิวส์ (Spring News) ผ่านระบบเคยู-แบนด์ มาตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2553 บางกระแสระบุว่าเป็นการจับมือกันระหว่างทีมของ "ไอเอ็นซี" (ฉัตรชัย ตะวันธรงค์) กับ โฆสิต สุวินิจจิต อดีตผู้ก่อตั้งมีเดีย ออฟ มีเดียส์

สำหรับข้อสงสัยมีความเกี่ยวดองเป็นญาติกับ ฉาย บุนนาค เซียนหุ้นคนดัง ธนพันธ์ วงศ์ชินศรี ชี้แจงว่า ที่จริงแล้วมีความเกี่ยวข้องที่ห่างกันมากๆ เคยเจอกันเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น ขอรับรองว่าไม่ได้เป็นนอมินีของฉายแน่นอน อดีตพนักงานขายฝ่ายเทคนิค บริษัท สิทธิพร แอสโซซิเอส จำกัด หนุ่มน้อยวัย 26 ปี เหตุไฉนมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ SLC ได้ ธนพันธ์ เล่าว่า บริษัท สิทธิพร แอสโซซิเอส จำกัด เป็นธุรกิจของครอบครัว ดำเนินกิจการจำหน่ายเครื่องมือวิทยาศาสตร์ทั้งหมด 13 ประเภท มีมูลค่าธุรกิจประมาณ 700-800 ล้านบาท แรกเริ่มบริษัทถูกชักชวนจากตลาดหลักทรัพย์ให้เข้าตลาดหุ้น (mai) ตั้งนานแล้ว แต่สุดท้ายเลือกเข้ามาถือหุ้น SLC แทนเพราะน่าจะช่วยเสริมเรื่องระบบซอฟต์แวร์เข้ากับฮาร์ดแวร์ได้

“ผมมองว่าสองบริษัทน่าจะ Synergy กันได้ ตอนแรกก็คิดที่จะ Backdoor เหมือนกันแต่เรามีผู้ถือหุ้นหลายคนทำให้ความเห็นไม่ลงตัว ถึงตอนนี้คิดว่าคงไม่นำบริษัท สิทธิพร แอสโซซิเอส เข้าตลาดหุ้นแล้ว"

สำหรับ บมจ.โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) แผนงานในส่วนของธุรกิจซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ จะขยายไปหากลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่และรายเล็กจากเดิมเน้นจับลูกค้าขนาดกลาง คาดว่าจะช่วยขยายฐานลูกค้าได้อีกมากและมีมาร์จินมากขึ้น ปกติบริษัทจะรับงานประมูลจากราชการ 70% และเอกชน 30% ตอนนี้มีงานรอรับรู้รายได้ 60-70 ล้านบาทแล้ว คาดว่าจะมีงานประมูลใหม่มูลค่า 800-900 ล้านบาท บริษัทคาดหวังว่าจะประมูลได้ 80-90% และจะเน้นงานด้านพัฒนาบุคคล (HRM) ที่ถนัด ส่วนงบลงทุนในปีนี้ตั้งไว้ 200 ล้านบาท จะนำไปซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมส่วนใหญ่มาจากเงินเพิ่มทุน

"เราคาดหวังว่าปีนี้ บริษัทจะไม่ขาดทุน ส่วนเรื่องกำไรคงทำได้แค่ถึงจุดคุ้มทุน แต่ในแง่รายได้น่าจะโตได้ 20% (ปี 2552 มีรายได้รวม 46 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 28 ล้านบาท)" ธนพันธ์ ยังบอกด้วยว่า การซื้อหุ้นเพิ่มทุนของกลุ่มวงศ์ชินศรี (ถือหุ้นอยู่ 16%) ถึงตอนนี้ยังไม่ตัดสินใจว่าจะซื้อหุ้นเพิ่มทุนอีกเท่าไรขอรอดูสถานการณ์ก่อน

ส่วนแผนการขยายธุรกิจนิวมีเดียด้วยการจัดตั้งบริษัท สปริงก์ คอร์ปอเรชั่น เพื่อทำสถานีข่าวในชื่อ Spring News ที่มีข่าวลือว่ามีอดีตนักการเมืองใหญ่หนุนหลัง อารักษ์ ราษฎร์บริหาร ชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง...ชีวิตนี้ผมไม่คิดคบนักการเมืองอยู่แล้ว เป็นไปได้ว่าพี่ซัน (ฉัตรชัย ตะวันธรงค์ กรรมการผู้จัดการ) เขาอาจจะรู้จัก แต่ผมไม่รู้จัก

สำหรับธุรกิจใหม่นี้ตั้งเป้าขอมีสปอนเซอร์ 10-20 ราย รายได้โฆษณาเข้าเดือนละ 5-6 ล้านบาท คาดว่าจะใช้เงินลงทุนกับธุรกิจนิวมีเดีย 300 ล้านบาท ตอนนี้ใช้ไปแล้ว 50-60 ล้านบาท ธุรกิจทีวีดาวเทียม 2 ปีแรกไม่หวังเรื่องกำไร น่าจะคุ้มทุนในปีที่ 3 คาดหวังผลตอบแทนการลงทุนไว้ที่ 15%

สำหรับแผนการซื้อหัวหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ อารักษ์ บอกว่า ดีลน่าจะจบได้ในไตรมาสสามปีนี้ มีข้อตกลงว่าจะไม่รับซื้อส่วนที่เป็นหนี้สิน เรื่องของเงินที่ต้องใช้ยังไม่สามารถระบุได้ แม้จะยอมรับว่าเป็นการลงทุนที่ “เกินขนาด” แต่น่าจะเป็นชิ้นส่วนที่เชื่อมต่อกับธุรกิจทีวีดาวเทียมได้ลงตัว

เขาบอกว่าหลังการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น บริษัทได้กวาดบ้านครั้งใหญ่ทั้งผู้บริหารและบอร์ดบริหารมีผู้เชี่ยวชาญหลากหลายเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง ถามว่าอนาคตของ บมจ.โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จะเป็นอย่างไร ซีอีโอรายนี้ตอบว่า ทิศทางรายได้ในปีนี้น่าจะ “ดีขึ้น” กว่าปีที่แล้วที่ขาดทุน 28 ล้านบาท ตรงนี้แน่นอน ส่วนเม็ดเงินจากการออก SLC-T1 จะเรียกชำระเงินในสัปดาห์ที่ 3 หรือ 4 ของเดือนมิถุนายน และหุ้นจะเข้าเทรดในไม่เกินเดือนกรกฎาคม

ส่วนเรื่องที่มีการแก้ไขราคาพาร์จาก 1 บาท เป็น 0.10 บาท โดยไม่แจ้งวาระล่วงหน้า อารักษ์ ชี้แจงว่ามีผู้ถือหุ้นรายหนึ่งถือหุ้นในระดับที่มีสิทธิเสนอวาระเพิ่มเติมได้ เสนอให้แตกพาร์เพื่อเพิ่มสภาพคล่องซึ่งผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่อนุมัติ บริษัทมองว่าไม่มีผลต่อผลประกอบการ

ส่วนรูปร่างหน้าตาของบริษัทหลังจากนี้ สัดส่วนรายได้ปี 2553 น่าจะมาจากธุรกิจซอฟต์แวร์ 70% และธุรกิจดาวเทียม 30% ส่วนรายได้จากสื่อสิ่งพิมพ์จะตามมาทีหลังในปี 2554 เป้าระยะสั้นในภาวะแบบนี้ขอไม่ขาดทุนก็ดีใจแล้ว ส่วนแนวโน้มในอนาคตมั่นใจว่าเป็น “ขาขึ้น” แน่นอน

"ผมยืนยันได้ว่กลุ่มวงศ์ชินศรี เขาเข้ามาลงทุนหุ้น SLC ระยะยาว" อารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) ให้ความเชื่อมั่น โดยมี ธนพันธ์ วงศ์ชินศรี ผู้ถือหุ้นใหญ่วัย 26 ปี นั่งอยู่เคียงข้าง ท่ามกลาง "เสือ-สิงห์" ที่เข้ามาจับจองหุ้น SLC เอาไว้แล้วก่อนหน้านี้

SLC เปิดตัว Firetide เจาะลูกค้ารัฐ-เอกชน รายได้ปีหน้าโต 50% [ นสพ.ข่าวหุ้น, 14 ธค. 53 ]

SLC บุกตลาดวางโครงข่ายไร้สาย เตรียมเปิดตัว Firetide เจาะลูกค้าภาครัฐ-เอกชน เน้นงาน
ระบบรักษาความปลอดภัย และ IT Infrastructure สำหรับองค์กร เผยกระแสตอบรับดี ขณะที่รายได้
รวมปีหน้าโตอย่างน้อย 50%

เมื่อเช้าผมเห็นแว็บๆ มามีใครสนใจจะเปิดกระทู้ SLC ในห้อง "ร้อยคนร้อยหุ้น"

การจะเปิดให้หรือไม่ ขึ้นกับดุลยพินิจของทีม mod ครับ
ดังนั้น ระหว่างนั้น คุณก็ควรจะ Post ข้อมูล และแสดงความคิดเห็นและมุมมองอย่างสร้างสรรค์
จะเป็นที่กระทู้นี้ก็ได้นะครับ Post ต่อไปได้เลยครับ

"พิสูจน์ครับ!!!"...เราต้องพิสูจน์ว่าเราทำการบ้านมาดีพอ
และหุ้นเองก็ต้องพิสูจน์เช่นกันครับ...ว่ามี "คุณค่า" และ "ธรรมมาภิบาลที่ดี" เพียงพอ
เพียงพอที่จะแนะนำให้กับนักลงทุน สามารถลงทุนระยะยาวแบบ "เน้นคุณค่า" ได้

แม้ว่าผมยังไม่มีหุ้นของบริษัทฯนี้
แต่ด้วยความเป็นคนชอบอ่าน และติดตามข้อมูลของบริษัทฯเล็กๆ
ยังไงก็ขอเอาใจช่วยด้วยคนนะครับ

หลักทรัพย์ SLC
แหล่งข่าว SLC
หัวข้อข่าว แจ้งผู้บริหารเข้าใหม่
วันที่/เวลา 08 ก.พ. 2554 08:47:19

บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) ขอแจ้งรายนามผู้บริหารเข้าใหม่ คือ นายดิเรก
วงศ์ชินศรี โดยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554
เป็นต้นไป

ข่าวเก่าเมื่อ 1 ตค. 2009 จาก http://corehoononline.com/index.php?opt ... 8-10-46-17
ยังมีรายละเอียดอีกมาก ตามไปอ่านที่ Link ได้เลยนะครับ

ผู้สื่อข่าว : ประวัติของคุณดิเรก

ดิเรก : ผม เป็นผู้บริหาร บริษัท สิทธิพร แอสโซซิเอส จำกัด ทำธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ ขายเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่ใหญ่ติดอันดับในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผมตั้งมาเองกับมือ 34 ปีแล้ว ซึ่งมีเครื่องมือหลายตัวที่ใช้ในการตรวจสอบในเรื่องของสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีสินค้าบางประเภทที่ต้องการการสนับสนุนทางด้านซอฟต์แวร์ เช่น เครื่องตรวจจับความเร็วบนทางด่วน ซึ่ง SLC จะตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดีในฐานะที่เป็นผู้พัฒนาระบบ
จากการเป็นผู้ขายอุปกรณ์ทางด้านวิทยาศาสตร์ ทำให้เราสนใจซอฟต์แวร์ที่สามารถต่อยอดธุรกิจที่ทำอยู่ในเรื่องของซอฟต์แวร์ จึง ทำให้เราสนใจที่จะเข้ามาเป็นเจ้าของบริษัทซอฟต์แวร์ โดยดีลทั้งหมดเกิดขึ้นจากการติดต่อของ บริษัท โกลเบล็ก แอ็ดไวเซอรี่ จำกัด โดยเริ่มเจรจาตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม และสรุปช่วงปลายเดือนกันยายน 2552

ผู้สื่อข่าว: ในเมื่อบริษัท สิทธิพร แอสโซซิเอสฯ จะได้รับประโยชน์จากการต่อยอดทางธุรกิจที่เกี่ยวกับการพัฒนาอุปกรณ์วิทยา ศาสตร์ แต่ทำไมถึงเข้ามาถือหุ้นในนามบุคคล แทนที่จะถือในนามบริษัท สิทธิพรฯ

ดิเรก: เป็นเพราะมองว่าเป็นแค่การลงทุน และบริษัท สิทธิพรฯ ก็มีผู้ถือหุ้นหลายราย ผมก็ถือหุ้นอยู่ส่วนหนึ่งไม่ใช่ทั้งหมด และขอยืนยันว่าไม่มีวัตถุประสงค์ที่จะนำบริษัท สิทธิพรฯ เข้าจดทะเบียนทางอ้อม(backdoor) และผมก็ไม่รู้จักด้วยคำว่า backdoor คืออะไร และจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ โดยยืนยันว่าการเข้าถือหุ้นครั้งนี้ เพื่อต้องการต่อยอดธุรกิจ

ผู้สื่อข่าว: ทำไมต้องเพิ่มผู้ถือหุ้นอีก 3 ราย ทั้งๆ ที่แจ้งกับตลท.ตอนแรกว่าจะซื้อเองทั้งหมด 65.30%

ดิเรก: ถ้ามี 3 คนก็ไม่ต้องทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ แต่ถ้าตลาดหลักทรัพย์ฯอยากให้ทำก็ต้องทำ เพราะผมทำธุรกิจจริง ผมคงไม่เอาลูกชายผม( ธนพันธ์ วงศ์ชินศรี)มาทิ้ง มาโยนใส่ แล้วพ่อมันก็ไป คนเป็นพ่อแม่ต้องรักลูกทุกคน

ผู้สื่อข่าว: การที่ตลท.สงสัยความสัมพันธ์ระหว่างคุณดิเรกกับ คุณพลสิทธิ ภูมิวสนะ ที่เป็นกรรมการและผู้บริหารในบมจ. อควา คอร์ปอเรชั่น(AQUA) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ซันไชน์ คอร์เปอเรชั่น( SSE)นั้นมีความเกี่ยวโยงกันอย่างไร

ดิเรก: ผมรู้จักคุณพลสิทธิ จากสนามกอฟท์ เขาขายอุปกรณ์กอฟท์อยู่ พอไปตีกอฟท์ด้วยกันก็รู้จักกัน ไม่มีใครแนะนำ

ผู้สื่อข่าว: คุณวทันยา วงษ์โอภาสี เป็นญาติฝ่ายไหน และคุณฉาย บุนนาค เป็นคนออกไอเดียให้เข้ามาซื้อหุ้นของ SLC หรือเปล่า

ดิเรก:น้องเดียร์(วทันยา)เป็นหลานผม แต่งงานกับ ฉาย แต่ฉายไม่เกี่ยวข้องกับผม
ทำไมผมต้องใช้เขา เขาอายุเท่าไหร่ ผมทำงานมากี่ปีแล้ว

ผู้สื่อข่าว:รู้หรือไม่ว่าข่าวที่คุณดิเรกจะซื้อหุ้น SLCรั่ว หรือมีการอินไซด์ จึงทำให้ราคาหุ้นพุ่งแรงเกือบ 500%ในช่วงระยะเวลาแค่ 2 เดือน

ดิเรก: ผมไม่รู้ว่าข่าวรั่ว อันนี้ผมไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น และผมก็ไม่เกี่ยวข้อง

ผู้สื่อข่าว:ถ้าข่าวไม่รั่วคุณดิเรกคงไม่ต้องซื้อหุ้นแพงถึง 3.50 บาท เพราะก่อนหน้านั้นราคาอยู่ที่ 1 กว่าเท่านั้นเอง

ดิเรก: ผมว่าราคาที่ตกลงกัน(3.50บาทต่อหุ้น) เป็นราคาที่ผู้ซื้อและผู้ขายพอใจทั้งสองฝ่าย ไม่มีใครไม่พอใจ ทุกคนพอใจหมด

ผู้สื่อข่าว: การที่คุณดิเรกดึงคนเข้ามาอีก 3 คนเพื่อถือหุ้น (จากเดิมจะถือเพียงคนเดียว)ก็ทำให้บุคคลเหล่านั้นได้รับส่วนต่างกำไรไปเรียบ ร้อยแล้วเมื่อเทียบกับราคาหุ้นในกระดานที่เคยสูงสุด 6.05 บาท

ธนพันธ์: ผมตอบคำถามแทนคนอื่นไม่ได้ และไม่มีสิทธิที่จะตอบด้วย

ผู้สื่อข่าว:รู้ไหมว่าหลานเขยคุณดิเรก(ฉาย)เล่นหุ้น และมีชื่อเสียงในวงการตลาดหุ้นอย่างไร

ดิเรก: ผมรู้ว่าเขาเล่นหุ้น และเล่นหนักด้วย ส่วนเรื่องอื่นของเขาผมไม่รู้ เพราะผมมีญาติเยอะ เวลารวมตัวกันทีก็มีแต่วันแต่งงาน กับงานศพ สองงานเอง
เนื่องจากคุณดิเรก ต้องรีบไปเตรียมตัวไปต่างประเทศ จึงต้องจบการแถลงข่าวแต่เพียงเท่านี้


ที่มา : http://corehoononline.com/index.php?opt ... 8-10-46-17