Thai VI

ขอสัมภาษณ์ความรู้สึกของชาวTVI เกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อการร้ายทีมีต่อตลาดหุ้นหน่อยนะคะ...

เท่าที่สังเกตดู แต่ละคนไม่ค่อยกังวลกะการที่ set ดิ่งนรกเท่าไร (ในกรณีที่มีในพอร์ตอยู่แล้ว) น่านับถือสมกะที่เป็นชาว TVI จริงๆค่ะ นอกจากสาเหตุที่ว่าแต่ละคนมีหุ้นตัวที่คัดเลือกกันมาเป็นอย่างดีแล้วเนี่ย อยากทราบว่าเป็นเพราะ
1.มีต้นทุนที่ต่ำอยู่แล้ว ลงมาเหอะ ยังไงก้อไม่ถึง หรือ...
2. แหม..มันก้อต้องมีขาดทุนมั่งแหละ แดงเดือดซะขนาดนี้ จะเหลือรึ แต่เด๋ยวก่อน สบมหย. ตกก้อซื้อเพิ่มซิ ตามหลักการเปี๊ยบเลย ที่อาจารย์บัฟเฟตของเราปากเปียกปากแฉะพูดแล้วพูดอีกว่าให้"ซื้อเมื่อมีข่าวร้าย ขายเมื่อมีข่าวดี" แล้วจะไม่ทำตามได้ไงเนี่ย

ส่วนใหญ่เป็นแบบไหนคะแล้วเหตุการณ์แบบเนี้ย พวกเราคิดว่าเป็น"ข่าวร้าย"ที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจการของบริษัทยังไงบ้างคะ ส่วนตัวแล้วคิดว่ามีผลกระทบกับบางตัวเท่านั้นแหละ เช่น ท่องเที่ยว หรือโรงแรม เป็นต้น ลองมานึกกันเล่นๆมั้ยคะว่าถ้าเกิดมันลามปามไปนานๆนี่จะมีผลต่ออะไร ยังไงกันบ้าง แล้วถ้าเผื่อ มันยังตกแบบไม่มีหูรูดแบบนี้อยู่ จนต่ำกว่าต้นทุนที่เรามีอยู่ พวกเราชาว TVI มีแผนรับมือกันยังไงบ้างคะ เช่น ซื้ออย่างบ้าคลั่ง (แบบว่าเงินเยอะอ่ะ) หรือ เฮ้ย..ขายไปก่อน แล้วค่อยรอรับทีหลัง (ในกรณีเบี้ยน้อยหอยน้อย)

...อยากรู้จัง ชาว TVI เค้าจะรู้สึกยังไงกันบ้างน้อ ติ๊กต๊อก ...ติ๊กต๊อก ..ติ๊กต๊อก

ถืออยู่ไม่ได้ขาย คอยซื้อตอนมีข่าวร้ายมาตลอด ตอนนี้กลุ้มใจมากเพราะเงินสดหมดแล้ว อดซื้อเพิ่ม แบบว่าไม่คิดว่าจะมีข่าวร้ายมาเป็นซีรีส์แบบนี้
สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้คงกระทบหุ้นบ้าง แต่บริษัทที่เราไปลงทุนซื้อหุ้น ก็ยังค้าขายได้ตามปกติอยู่ ผมว่าถ้ามีเงินเย็นก็ทยอยเลือกซื้อหุ้นดี ๆเข้าพอร์ตได้เลย
ส่วนเรื่องซาร์ส อาจกระทบหุ้นโรงแรมบ้าง ก็รอหุ้นดีบางตัวอยู่ งวดที่แล้วทั้งซาร์ส ทั้งหวัดนก มันก็ยังไม่ลง แกร่งดีจริง

ผมยังมีเงินสดเหลือครับ เป้าหมายที่จะซื้อจนเงินสดหมดคือปลายพฤษภา
คิดว่าเรื่องภาคใต้คงไม่จบง่ายๆ ครับ และผมไม่อยากเรียกว่า "ก่อการร้าย"
เพราะเป็นการฟังความข้างเดียว

ขนาดสหรัฐฯบุกอิรักยังไม่กล้าฆ่าคนมือเปล่ามากขนาดนี้ นี่ตำรวจทหารนำ
กำลังเข้าโจมตี น่าจะมีวิธีที่ดีกว่านี้นะครับ

แบบนี้เขาเรียกว่า Massacre ครับ

กิจการที่ทำในภาคใต้เช่น อาหารทะเล ยางพารา คงมีผลบ้าง แต่ก็ไม่น่าจะเยอะมากนะ (มีบริษัทจดทะเบียนที่โรงงานอยู่ในจังหวัดที่มีปัญหารึเปล่าไม่รู้)

อันนี้เกี่ยวกับตลาดหุ้น

ถ้าไม่เกี่ยวกับตลาดหุ้น ผมว่าการกระทำของเจ้าหน้าอาจมีความจำเป็นต้องบุกเข้าไปที่กรือเซะ อย่างไรก็ตามต้องมีการสืบสวนข้อเท็จจริงอย่างชัดเจนโดยทั้งทหารและตำรวจ ต้องโปร่งใสครับเรื่องนี้

ผมว่ารัฐต้อง sensitive กับเรื่องนี้มากกว่านี้นะ อย่าลืมว่าคนตายตั้งเยอะ คดีที่ทำความผิดมันก็จบที่คนตาย แต่การจัดการกับอารมณ์และความรู้สึกของญาติพี่น้องและเพื่อนๆ ของคนที่เสียชีวิตเนี่ย ต้องระมัดระวังมากๆ ครับ ไม่งั้นเหตุการณ์นี้จะกลายเป็นสิ่งที่สร้างความไม่สงบเรียบร้อยตามมาอย่างมากเลย

คงต้องพิจารณาว่าข่าวร้ายนั้นกระทบกับผลการดำเนินงาน
ของบริษัทที่เราลงทุนหรือเปล่า
ในกรณีนี้ คงมีผลกระทบบ้างกับหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว
แต่ส่วนใหญ่ ผมก็ไม่เห็นว่าจะกระทบแต่อย่างไร (แต่ราคาุหุ้นตก )

ทางเลือกที่พอจะเป็นไปได้ตอนนี้คือ ควรจะซื้อเพิ่มครับ
ถ้ามีเงินสด หรือ ขายตัวที่พื้นฐานด้อยที่สุดออกไป เพื่อนำไปซื้อ
ตัวที่ราคาตกลงมาจน ต่ำกว่าพื้นฐานมากๆ

จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ควรซื้อตอนหุ้นตอนภาวะอย่างนี้ครับ
ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา วิธีนี้ทำกำไรให้ผมพอสมควรครับ

แต่หากใครทนเห็นพอร์ทตัวเองลดลง เป็นตัวแดงไม่ได้
(คือซื้อแล้ว คิดว่าหุ้นต้องขึ้นอย่างเดียว)
คงไม่เหมาะที่จะลงทุนในตลาดหุ้นครับ

กรณีก่อความไม่สงบจะกระทบต่อธุรกิจประกันหรือเปล่าครับ

ek__tt เขียน:กรณีก่อความไม่สงบจะกระทบต่อธุรกิจประกันหรือเปล่าครับ

ผมว่ากระทบในแง่ดี ธุรกิจประกันภัย จะมีลูกค้ามาทำประกันแบบต่างๆมากขึ้น
และเบี้ยประกันภัยก็กำลังจะขึ้นเพื่อรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน

ผมว่ากระทบแง่ไม่ดี ธุรกิจประกันภัย จะมีความเสี่ยงมากขึ้น เนื่องจากการประกันภัย
ที่แต่ละบริษัทรับเข้ามา เช่น ตอนนี้คนเริ่มทำประกันภัยชีวิตมากขึ้น
ความเสี่ยง หากมีผู้เสียชีวิต แล้วต้องจ่ายสินไหม ทดแทนจะมากขึ้นไปด้วย

แต่เมื่อนำแง่ดีมาลบแง่ไม่ดี ผมว่าแง่ดีมีมากกว่าครับ

เพราะการประกันภัย เมื่อมีผู้มาทำประกันภัยมากขึ้นเกินกว่าวงเงิน
การประกันของบริษัทหรือบริษัทเห็นว่ามีความเสี่ยงสูงขึ้น
บริษัทจะกระจายความเสี่ยงโดยไปทำประกันภัยต่อกับบริษัทประกันภัยอื่นๆ
ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ยอดการชำระสินไหมทดแทนจริง
ในการประกันภัยประเภทที่เสี่ยงสูงอย่างนี้ บริษัทประกันภัยนั้นๆ จะเสียน้อยลง
ความเสี่ยงก็ต่ำลง อยู่ในภาวะที่บริษัทรับได้