Thai VI

อ่านๆข้อมูล และเข้าไปเรียน couser ของ TSI มาบ้างแล้ว แล้วก็อ่านหนังสือคู่มือ แต่ก็ยังไม่กล้าทำจริงซะที

สาเหตุที่อยากลงทุนในหุ้น เนื่องจาก ดอกเบี้ยเงินฝากน้อยมาก กองทุนรวมก็ไม่งอกเงย ตอนนี้ไม่มีภาระผ่อนอะไรแล้ว มีเงินเก็บเดือนละประมาณไม่เกิน 5หมื่นบาทต่อเดือน เลยคิดว่า จะลองลงทุนในหุ้น เงินเป็นเงินเย็นมากๆค่ะ

รบกวนขอคำแนะนำ
1. จะเลือก broker อย่างไรดีคะ มีทั้งแบบที่อิงกับธนาคารแล้วก็ แบบที่เป็น broker อย่างเดียว มีข้อดีข้อเสียอย่างไร
2. ทำงานประจำ ไม่ได้ติดตามตลาดหุ้นได้ตลอดเวลา ควรซื้อขายเองทาง internet หรือ ซี้อขายผ่านจนท.broker ดีคะ คิดว่าตัวเองคงเป็นพวกซื้อทิ้งน่ะค่ะ คงไม่ได้ขายบ่อยๆ
3. หุ้นตัวไหน น่าลงทุนระยะยาวๆบ้างคะ จริงๆอ่านๆมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังกล้าๆกลัวๆ เป็นพวกไม่ชอบเสี่ยงน่ะค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

ส่วนตัว ผมเอง เลือก broker  จากสิ่งที่เค้ามีอำนวยความสะดวก ให้ผม อ่าครับ
เช่น ผมเป็นคนเลือก หุ้นเอง แล้วก็ พอมีเวลาบ้าง ผมเลยเลือก broker ที่มีการอำนวยความสะดวกด้านการ internet trad ดีดีอ่าครับ เว็บไม่ล่ม เวลาคนแย่งกันซื้อขาย

แล้วก็ เปิดบัญชี แบบไหน ก็ต้องดูครับ ว่าบัญชีแบบไหน เหมาะกับ life style ของตัวเอง

ถ้าทำงานประจำ ไม่ค่อยมีเวลา ติดตาม  
(ไม่แน่ใจนะครับว่า) โดยปกติ เราสามารถส่งคำสั่ง ซื้อขาย ผ่าน internet ไว้่ได้ ตอน ตลาดปิดไปแล้ว อ่ะครับ พอตลาดเปิด คำสั่งจะถูก ส่งไปเอง

ศึกษา ด้าน technical รึป่าวครับ ถ้ามีบ้าง ก็ต้องเลือก broker ที่อำนวยความสะดวก ในการ ดู กราฟราคา ย้อนหลัง รายวัน เดือน หรือ ปี แม้แต่ รายนาที ก็ต้อง ถามรายละเอียด มาให้ครบ นะครับว่า เค้ามีบริการหรือป่าว

อีกอย่่าง ผมแนะนำ ให้ ไปฟังประสบการณ์จริง จาก ผู้ที่คุ้นเคยกับตลาดหุ้น ในแนวทางที่ตัวเองสนใจด้วยนะครับ  เพราะการอ่านหนังสือ และ เรียนมา มันไม่ครอบคลุม กับความเป็นจริง

ผมขอแนะนำก่อนนะครับ เปิดกับโปรกเกอร์ไหนก็ใด้ มันไม่สำคัญหรอกครับ สิ่งที่สำคัญเกือบ100% มันคือใจของเราครับ และความรู้ในการเลือกหุ้น ตลาดหุ้นเท่าที่ผมรู้จักคือ ตลาดทุนที่ไหญ่ที่สุดที่จะทำกำไรใด้อย่างมหาศาล แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าเราเลือกลงทุนแบบเก็งกำไรแล้ว มันจะกลายเป็นบ่อนการพนันไปทันทีเลยครับ ติดงอมแงม ผมพอแนะนำใด้แค่นี้แหละครับ

สมัยที่ผมเปิดบัญชีครั้งแรก
เกณฑ์ที่เอามาพิจารณา
ตอนนั้นผมดูจากต้นทุนการเทรดเจ้าที่ถูกที่สุดครับ

เนื่องจากพอร์ตยังแบเบาะมาก
ก็ไม่รู้ว่าจะต้องเอาเงินไปให้โบรกเกอร์เขาเยอะทำไม
ในเมื่อมีโบรกเกอร์ที่คิดค่าบริการถูกที่สุดให้เลือก

ในเวลาต่อมา
สิ่งที่ผมคิดเรื่องต้นทุนการเทรดกลายเป็นสิ่งไม่แน่นอนครับ
บางเจ้ามีการเปลี่ยนแปลง
ทำให้ต้นทุนการเทรดสูงขึ้น
ในขณะเดียวกันก็มีบางเจ้า
ที่ทำให้ต้นทุนการเทรดลดลง

ทุกวันนี้ผมก็ยังใช้บริการเจ้าเดิมอยู่
ไม่ได้เปลี่ยนย้ายค่ายย้ายสังกัดไปไหนครับ

ผมใช้บริการแบบบัญชีอินเตอร์เน็ตครับ
มีล่มบ้างบางครั้งคราว
แต่ก็ไม่บ่อยครับ
ยิ่งถ้าไม่ใช่คนเทรดหุ้นบ่อย
ไม่น่าเดือดร้อน
นอกจากจะเจอแจ็คพอร์ต
จะเทรดตอนที่ระบบล่มพอดี
แต่ก็ใช่ว่าเราจะเทรดหุ้นไม่ได้เลย

ขอบพระคุณทุกๆคำตอบค่ะ
มีข้อสงสัยอีกนิดหน่อย
เข้าไปดูใน ตารางเปรียบเทียบ ใน web บางบริษัทบอกว่า มีค่าบริการขั้นต่ำ 50 บาท/วัน อันนี้หมายถึงว่า ถ้ามีการซื้อขายในวันนั้นๆแล้วถึงต้องจ่ายอย่างน้อย 50 บาท ถูกต้องไม๊คะ

ตอนนี้เข้าไปลองศึกษา ในเกม click2win อยู่ค่ะ เพื่อให้คุ้นเคยกับหน้ากระดานการซื้อขายทาง internet แล้วก็นั่งอ่านบทความ ค่อยๆอ่านทำความรู้จักกับหุ้น กับตัวย่อต่างๆ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ยามมีเวลาว่า

ถ้ามีการซื้อขายในวันนั้นๆแล้วถึงต้องจ่ายอย่างน้อย 50 บาท ถูกต้องไม๊คะ

ถูกต้องครับ