Thai VI

ก่อนที่จะซื้อหุ้น ปกติพวกคุณจะอ่าน 56-1 หรือรายงานประจำปีกันบ้างไหมครับ?

มีมือใหม่หลายคนสนใจอยากจะเล่นหุ้น (ซึ่งส่วนมากมักจะมาสนใจตอนตลาดขึ้นมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว) ซึ่งในกลุ่มเพื่อนผมก็มีจำนวนหนึ่งที่รู้ว่าผมลงทุนหุ้นอยู่ก็มักจะเข้ามาถามเสมอ
"เล่นหุ้นทำยังไง" "จะเลือกหุ้นยังไง"
ทุกๆคร้ังผมจะบอกเสมอว่าให้ลองไปอ่าน 56-1 หรือรายงานประจำปีดูก่อน ราคาหุ้นยังไม่ต้องไปดู ลองอ่านๆดูก่อนว่าเข้าใจธุรกิจของบริษัทหรือปล่าว
และส่วนใหญ่ก็จะจบลงที่ว่า ไม่มีเวลาอ่านงานที่ทำหรือที่เรียนก็เยอะอยู่แล้ว เห็นเอกสารก็เบื่อแล้ว อ่านไปก็ไม่รู้เรื่อง หรือเหตุผลต่างๆอีกมากมายเลยไม่ได้อ่าน

แต่การที่คนเราจะเรียนรู้อะไรสักอย่างได้นั้น ผมเชื่อว่ามีแค่ 2 ข้อ คืออ่านหนังสือ และการศึกษาจากคนที่เก่งกว่า ซึ่งการทำทั้ง 2 อย่างนั้นก็ต้องใช้เวลาทั้งนั้น ทุกอย่างไม่มีอะไรฟรี การจะทำอะไรสิ่งหนึ่งก็ต้องยอมเสียเวลาที่จะทำสิ่งนั้นๆไปด้วย การเลือกหุ้นก็เป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ศิลปินแต่ละคนก็ต้องอาศัยเวลาในการสร้างงานศิลป์ขึ้นมาทั้งนั้น

จริงอยู่ แม้ว่าการอ่าน 56-1 และรายงานประจำปีจะไม่สามารถทำให้มูลค่าพอร์ตของคุณโตขึ้น แต่อย่างน้อยมันก็ยังเป็นแนวทางในการหาข้อมูลของคุณไปเรื่อยๆ ทำให้พอรู้จุดอ่อนจุดแข็งของตัวธุรกิจนั้นๆ และยังสามารถต่อยอดไปยังธุรกิจใกล้เคียงกันได้ สุดท้ายที่แน่ๆเป็นการเพิ่มมูลค่าของตัวคุณเองอีกด้านหนึ่งด้วย แม้ว่าหลังจากที่คุณอ่านเสร็จแล้ว คุณอาจยังไม่่ได้โอกาสจะได้เป็นเจ้าของก็ตาม แต่อย่าลืมโอกาสมันมีอยู่เสมอ

ซึ่งผมก็เชื่อว่ามีพี่ๆ เซียนๆ ในนี้อาจไม่เคยอ่านเอกสารพวกนี้ก็ประสบความสำเร็จได้ เพราะบางท่านอาศัยประสบการณ์ในการทำงานมานานหลายปี เข้าใจธุรกิจเป็นอย่างดี แต่สำหรับผมทำไม่ได้ครับ เพราะผมไม่มีความรู้ ความเข้าใจที่มากพอที่จะตัดสินใจ หรือจะเรียกว่ายังขาดประสบการณ์ก็ได้ เลยต้องอ่าน อ่าน และอ่านเข้าไว้

ให้กำลังใจมือใหม่ทุกๆท่านครับ ในการเรียนรู้วิธีการหาปลามากกว่าที่จะขอปลา  

เห็นด้วยครับ เราควรอ่าน และพี่งพาตัวเองมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ ส่วนอื่นๆ มันเป็นเพียงแค่ส่วนประกอบครับ

บอกตามตรงว่าผมก็ขี้เกียจอ่านนะ แต่ที่จำได้อ่านของ LH กับ GLOW ไปก็ทำให้รู้อะไรมากขึ้นเกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะของ GLOW เขียนเกี่ยวกับความเสี่ยงไว้อย่างน่ากลัวเลยทีเดียว

ตื่นตี 5 อาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน กลับถึงบ้าน 2 ทุ่ม เพื่อเงินเดือนละไม่กี่หมื่น ไม่เสียเวลา
แต่อ่านเอกสารแค่ไม่กี่ชั่วโมง เพื่อผลตอบแทนการลงทุนเป็นหมื่นเป็นแสน บอกเสียเวลา !!

ก็ปล่อยเค้าไปเถอะครับ

akekarat เขียน:ตื่นตี 5 อาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน กลับถึงบ้าน 2 ทุ่ม เพื่อเงินเดือนละไม่กี่หมื่น ไม่เสียเวลา
แต่อ่านเอกสารแค่ไม่กี่ชั่วโมง เพื่อผลตอบแทนการลงทุนเป็นหมื่นเป็นแสน บอกเสียเวลา !!

ก็ปล่อยเค้าไปเถอะครับ

เห็นด้วยครับ
ไม่ได้ใช้เวลามากมาย
โดยเฉพาะ 56-1 ผมชอบอ่าน part E ที่เป็นสรุปกิจการ
อ่านแล้วเพลินมากๆเลย
อ่านไปก็จินตนาการไปว่าถ้าเป็นเจ้าของบริษัทนี้จะดีแค่ไหน
ใครไม่เคย ลองไปโหลดมาอ่านดูนะครับ

555+ ไม่อยากให้เป็นกระทู้ ดราม่ากันคราบๆๆ

ผมว่าอย่างน้อยแค่คุณคิดอ่านก็ OK แล้ว 56-1 จะบอกถึงธุรกิจของบริษัทว่าทำอะไรขายอะไร ลูกค้าคือใคร ผมว่าหนุกดีนะ คิดบวกไว้

อีกอย่างทำให้ใจเรานิ่งเวลาหุ้นลงเพราะ Panic ครับบริษัท OK อยู่ช้อนเพิ่ม อิอิ

ใช่ครับ มันเสียเวลา แต่ก็คุ้มค่าที่จะอ่าน

มันไม่ได้เป็นการเสียเวลา
แต่มันคือการใช้เวลา
เวลาที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตการลงทุน
เพื่อผลตอบแทนในอนาคต

ลองนึกดูครับเวลาที่เราใช้ไปกับเรื่องไร้สาระ
ในแต่ละวันมากน้อยขนาดไหน
บางอย่างมันไม่ได้ใช้เวลาไปกับสิ่งที่มันจะเป็นประโยชน์
ในอนาคตแม้แต่น้อย

ทุกคนมีเวลาเท่ากันครับ 24 ชั่วโมง
แต่ละคนใช้ประโยชน์กับเวลาที่มี ในทางต่างกัน
ผุ้ที่ประสบผมสำเร็จทางการลงทุน เขาให้เวลากับการอ่านครับ
56-1 และ รายงานประจำปี เป็นหนึ่งในนั้นที่เขาจะให้เวลากับมัน ก่อนตัดสินใจลงทุน

ขอให้ใช้เวลากับสิ่งที่มีประโยชน์ครับ
โดยเฉพาะนักการเมือง ประเทศชาติจะได้เจริญทันนานาประเทศ

ไปหละ เดี๋ยวทำความหนักใจให้เวปอีก

ที่จริงเมื่อก่อนก็แนะนำว่าเกิดสนใจตัวไหนก็ให้เข้าไปอ่านห้องร้อยคนร้อยหุ้นนะ ได้ความรู้เยอะดี ทั้งข้อมูล ทั้งอารมณ์คนโพส

ความรู้นั้นติดตัวเราไปจนตายครับ สำหรับคนที่ไม่ได้มีประสบการณ์ หรือร่ำเรียนทางด้านธุรกิจ (และไม่ได้คิดจะเรียน) 56-1 เป็นการศึกษาเพื่อเปิดโลกธุรกิจที่ลัดที่สุดแล้วครับ พอเราเริ่มเข้าใจธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง จนพอวาดภาพในหัวได้แล้วจะเริ่มสนุกกับโลกธุรกิจครับ

ร้อยคนร้อยหุ้น ต้อง ใช้ควบคู่กับ 56-1 นะครับ เพราะร้อยคนร้อยหุ้นบางห้องอ่านจนจบยังไม่รู้เลยว่า บ. ทำอะไร เค้าถือว่าคนในนั้นต้องอ่านคู่มือมาแล้วครับจึงค่อยมาคุยกัน

ว่าแต่มือใหม่จะเข้ามาอ่านไหมน้า... เอิ๊กๆๆๆ

มีอีกแหล่งความรู้ที่อยากจะแนะนำ คือ Letter to shareholders  ของ Warren Buffett ซึ่งคุณปู่ Warren เขียนเองทุกฉบับ   อ่านแล้วได้ "วิธีคิด"  แบบ VI แท้ๆ    ฉบับปีแรกเท่าที่หาได้คือ 1977 เป็นต้นมา     ทำให้เข้าใจว่าคุณปู่เขาเข้าซื้อหุ้นตัวนั้นๆด้วยเหตุผลอะไร    อ่านแล้วทำให้ลืมความคิดเก่าที่ว่าเราจะเป็นลิงโหนเถาวัลย์จากเส้นหนึ่งไปอีกเส้นหนึ่งให้มันสูงขึ้นไปเรื่อยๆ    กลายมาเป็นเลือกเถาวัลย์ที่ดูดีที่สุดแล้วเกาะให้แน่นและนานที่สุดเท่าที่มันยังเป็นเถาวัลย์เส้นที่ดูดีที่สุด

หาจอคอมพ์ใหญ่ๆ set resolutionละเอียดๆ
ถ้ามีเวลาเปิดโปรแกรมtrade ให้เปิด 56-1 หรือรายงานประจำปี อีกข้าง
เปิดอ่านไป ดูtickerไป ก็ยังดีครับ

มันไม่เสียเวลาเลยค่ะ

ขนาดจะช้อปปิ้งอะไร ก็ต้องไปเสาะหาว่าที่ไหนลดเยอะกว่า

อ่าน 56-1 อย่างละเอียด ใช้เวลา 1-2 วัน คุ้มค่ามากค่ะ  :oops:

56-1 สำคัญมากๆครับ เพื่อทำความเข้าใจกับธุกิจนั้น
ใช้เวลาซักหน่อยแต่คุ้มค่ามากครับ

อ่านๆไปจะได้เพิ่มขอบเขตความรู้ ตัวกิจการหลายๆประเภท
อ่านแล้วจะสนุกกับมันไปเองครับ

การลงทุนในหุ้นหรือธุรกิจกิจการ มีความเสี่ยงสูงไม่เข้าใจมัน
ก็อันตรายนะครับ  ผมคิดงี้เสมอสู้ๆครับ  :o

นอกจากรายงาน 56-1 แล้ว

อีกประเด็นหนึ่งที่ผมอยากพูดถึง  การตั้งใจค้นคว้าหาข้อมูลของเพื่อนบางคน  เกือบจะไม่ค้นคว้าหาข้อมูลเองเลย  อาศัยโพสต์ถามซะทุกครั้ง  บางครั้งคำตอบก็อยู่เพียงหน้าก่อนนี้เท่านั้น

ความตั้งใจเป็นการแบ่งแยกคนที่จะประสบความสำเร็จหรือไม่จริงๆนะครับ

เพื่อนบางคนมีความพยายามมากมาย  แต่บางคนก็ไม่

คนที่มีความพยายามก็ประสบความสำเร็จจากการลงทุนให้เห็ฯมาหลายคนแล้ว   ซึ่งผมว่าก็คงไม่เพียงแต่การลงทุนเท่านั้น  ด้านอื่นๆก็คงประสบความสำเร็จด้วย  เพราะความที่ทำอะไรแล้วมีความตั้งใจมากเป็นพิเศษนั่นเอง

ขอแชร์ครับ (ไม่ค่อยตรงกับหัวข้อกระทู้เท่าไหร่)

เมื่อก่อนนี้เวลาผมอยากจะศึกษาธุรกิจใหม่ๆ หรืออยากซื้อหุ้น ผมอ่าน 56-1 ของบริษัทนั้นทันที

ผลที่ได้คือ อ่านแต่ละทีเสียเวลาเป็นเดือน เหอๆๆ ไม่ได้เว่อร์นะครับ

บางทีพอมันไม่เข้าใจ ก็ต้องมานั่งหาโน่นนี่ใน net เป็นกิจกรรมที่ใช้พลังมากๆ

บอกตรงๆ ว่าเหนื่อยเลยครับ ความคิดในหัวตอนนั้นคือ

"เข้าใจแล้วว่าทำไมหลายๆ คนบอกว่า หุ้นดีๆ มันหายากจริงๆ"

แล้วก็ "กว่าจะรู้เรื่องธุรกิจใหม่ๆ มันใช้เวลามากๆ" (ยิ่งหัวทึบๆ อย่างผมนี่ไปกันใหญ่) เหมือนมันมีกำแพงมากั้น กว่าจะข้ามไปได้มันนานเหลือกิน (ผมตอนนี้ข้ามไม่ได้ซักกำแพง แค่ไปเกาะๆ บนกำแพงเป็นจิ้งจก  :lol: )

ตอนนี้ผมกำลังลองวิธีอีกอันที่จะทำให้พอได้ภาพคร่าวๆ ก่อน เวลาจะซื้อหุ้นใหม่ (สำหรับคนมือใหม่มากๆนะครับ) คือ อ่านรายงานประจำปีครับ อ่านง่ายกว่า แล้วเค้าก็เอาที่กรองๆ มาแล้ว มาให้ ถ้าสนใจจริงๆ ค่อยไปอ่าน 56-1 ต่อ (เพราะว่าถ้าอยู่ๆ โดดลง 56-1 เลย มันค่อนข้างใช้เวลาเกินไป)

สรุปก็คือ ไม่ว่ายังไงก็ต้องอ่าน 56-1 อยู่ดี ฮ่าๆๆๆ หนีไม่พ้นจริงๆ

56-1  มันเป็นศิลปะชั้นดีเชียวนะครับ
อ่านแล้วชวนจินตนาการมากๆ
:lol:  :lol:  :lol:

อ่านเถอะครับ แล้วจะรู้สึกว่ารอบรู้มากขึ้น

จะได้รู้ว่าเขาทำมาหากินกันอย่างไร  บริษัทพึ่งพาธุรกิจส่วนไหนเป็นหลัก ความเสี่ยงเป็นอย่างไร ฯลฯ  ไม่จำเป็นต้องไล่อ่านดะทุกหน้าหรอกครับ สนใจเรื่องอะไรก็โดดไปดูเลย

ถ้าเจอไอ้ที่ปวดหัวซับซ้อนนักก็พักไว้ก่อน

เลือกอันที่ง่ายๆ เราเข้าใจได้มาอ่านก่อน

เปิดโลกทัศน์ดีครับ

ป.ล.อ่านจากคอมพ์มากๆ ระวังตาเสียนะ  :8)

ผมว่ามันอ่านสนุก ว่าอ่านงบการเงินตั้งเยอะ
และขนาดงบการเงินที่พยายามอ่านให้สนุก(แต่จริงๆแล้วไม่สนุก แถมดูมากๆตาลายอีก)  ก็ยังต้องอ่านให้รู้เรื่องเลย
เอาเป็นว่า 56-1 อ่านสนุกครับ

dome@perth เขียน:มันไม่ได้เป็นการเสียเวลา
แต่มันคือการใช้เวลา

เมื่อก่อนผมอ่าน ร้อยคนร้อยหุ้น แล้วค่อยไปอ่าน 56-1

เดี๋ยวนี้ผมอ่าน 56-1 ก่อน แล้วค่อยไปถาม IR แล้ว ค่อยไปโหลดงบมาทำ หลังสุดค่อยอ่านร้อยคนร้อยหุ้น

รู้สึกว่า ร้อยคนร้อยหุ้น มีข้อมูลมากเกินไป จนไม่ค่อยตรงประเด็นกับสิ่งที่เป็นหัวใจหลักของการลงทุนในหุ้นแต่ละตัว

ดังนั้น ผมเชื่อว่า 56-1 เป็นบันไดขั้นแรกในการเข้าใจกิจการนึงๆ ที่ดีครับ

ถ้าคิดว่ามันเสียเวลา... ลองจับเวลาที่คุณเสียไปกับการอ่าน ร้อยคนร้อยหุ้น และเทียบกับสิ่งที่ได้มาสิครับ... คุณจะรู้ว่าการอ่าน 56-1 คุ้มค่ากว่าอ่าน ร้อยคนร้อยหุ้น มากๆ...

อ้อ... แต่ถ้าร้อยคนร้อยหุ้นกลายเป็น version wiki  แล้วนี่... ผมเชื่อว่า การอ่าน tvi wiki น่าจะเป็นอะไรที่มีประสิทธิภาพสูงสุด (ถ้ามีคน update ข้อมูลไว้แล้วนะ)

ผมโชคดี ที่อ่าน 56-1 แล้วรู้สึกมีความสุข และมีความมั่นใจว่าหุ้นที่เลือกแล้ว หรือจะเลือก ดีจริง  :P  ตอนนี้ ถ้าไม่เข้าใจ 56-1 เกิน 50% ไม่กล้าซื้อหุ้นแบบแต่ก่อนแล้ว

ส่วนใหญ่อ่านรายงานประจำปี เพราะสีสวยดี
แต่ถ้าไม่มี หรือยังไม่ออก ผมค่อยไปหา 56-1 อ่านครับ
ไม่เคยอ่านสองอัน เลยไม่เคยเทียบกัน ไม่รู้มีหัวข้อไหนต่างกันบ้าง

[quote="chatchai"]นอกจากรายงาน 56-1 แล้ว

อีกประเด็นหนึ่งที่ผมอยากพูดถึง

หลายครั้งเราอาจเสียใจ
ที่เราไม่ได้เสียเวลาอ่านและทำความเข้าใจข้อมูลเหล่านั้น
ทำให้เราเสียเงิน เสียนิสัยและเสียคนครับ

วินัยในการศึกษาการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญนะครับ
เราซื้อน้ำแข็งถุงละ 5 บาท เรายังดูแล้วดูอีกว่า ถุงมีรูรั่วไหม

มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม

เห็นด้วยอย่างแรงว่าต้องอ่าน 56-1

ส่วนตัวก็อ่าน...แม้จะไม่ทุกครั้งที่ซื้อหุ้น...แต่ก็ชอบที่จะรู้

[quote="jo7393"]ผมว่ามันอ่านสนุก ว่าอ่านงบการเงินตั้งเยอะ
และขนาดงบการเงินที่พยายามอ่านให้สนุก(แต่จริงๆแล้วไม่สนุก แถมดูมากๆตาลายอีก)

เอ่อ..... อย่าเพิ่งดูแคลนนะครับ ใหม่จริงๆ หาอ่านที่ไหนครับ 56-1 เนี่ย

wararit เขียน:เอ่อ..... อย่าเพิ่งดูแคลนนะครับ ใหม่จริงๆ หาอ่านที่ไหนครับ 56-1 เนี่ย

http://www.set.or.th/set/companyprofile ... country=TH

ตัวอื่นก็เหมือนกันครับ อยู่ตรง บริษัท/หลักทรัพย์  

สำหรับผม รายงานประจำปี , 56-1 เป็น 1 ใน สิ่งที่ต้องอ่าน ก่อนจะลงมือซื้อหุ้นตัวใดๆก็ตาม  :D