คุยกันสนุกๆ ไม่เอาสาระมากนะ ^^
โดยปกติเราไม่สามารถทายอนาคตได้แน่ไม่ว่าจากกราฟหรือfund flow แต่เราพอจะบอกแนวโน้มจากมันได้
ผมเองก็ไม่ได้ต่อต้านการใช้กราฟหรือฟันด์โฟลว์นะครับ
ผมเป็น VI ด้วยความจำเป็นต่างหาก (แต่ไม่ใช่ติดดอยแล้วค่อยมาเป็นนะ)
จำเป็นยังไง ?
ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ต้องหาเช้ากินค่ำทุกวันครับ มีเวลาตามราคาหุ้นค่อนข้างน้อย หากไม่ซื้อกิจการด้วยปัจจัยพื้นฐานซึ่งมองตัวกิจการในระยะยาวๆๆๆๆ กระผมเองเกรงว่า
เข้าไปแล้วจะออกไม่ทันจ้าว เท่านั้นเอง ต่อให้ดูกราฟ period ยาวมากๆ ก็เถอะ เช่น หากกำหนดจุดคัทลอทไว้ที่ 10 % แล้วมันฟลอร์ติดกัน 3 วันโดยที่ผมไม่ได้ดูเนี่ย เทคนิคคงช่วยอะไรผมไม่ได้แล้วล่ะ ...
ผมเองมีประสบการณ์ลงทุนในหุ้นยังไม่ถึงปี แต่มีประสบการณ์ในกองทุนดัชนีมา 2 ปี (แน่นอนว่าโดนวิกฤติเต็มๆ มา 1 ครั้ง) และ
เคยพยายามใช้กราฟ ในการซื้อขายกองทุนดัชนี้ด้วย แต่ไม่สำเร็จ
ไม่สำเร็จเพราะกราฟเชื่อถือไม่ได้ ?
จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ได้ ผมใช้มันทั้งๆ ที่ไม่รู้จริง ต่างหาก เคยมีเทคนิคอลท่านนึงให้ความรู้กับผมว่า แนวเทคนิคอลนั้นจะชนะต่อเมื่อ
1. มีวินัย
2. ทำเท่าที่รู้ (circle of competence)
กราฟแค่คล้ายๆ ก็เหมาเอาว่าเหมือน เห็นแค่เลาๆ ก็เหมาเอาว่าเป็นจุดซื้อขาย ผมเจ๊งเพราะอย่างนี้ต่างหาก
ฃาร์ลี มังเกอร์กล่าวไว้ว่า
มนุษย์จะต้องตัดสินใจด้วยข้อมูลที่มีอยู่อย่างจำกัดและไม่ครบถ้วนเสมอ หากความจำเป็นบังคับ เราก็ทำได้แค่สู้ด้วยทุกสิ่งที่เรามี ที่สำคัญเราต้องรู้จักตัวเองว่า อะไรที่เรารู้ และอะไรที่เราไม่รู้
สิ่งที่ผมรู้:
1. ในช่วง 2-3 ปีตอนแฮมเบอร์เกอร์ มีหุ้นบางตัวที่ไม่ได้ตกตามตลาด และขึ้นทีละเล็กทีละน้อยโดยไม่มีใครสนใจ จนราคาเกือบเป็น 2 เท่า ก็ยังไม่มีโบรกมาเชียร์ และหุ้นพื้นฐานดีที่ตกหนักๆ สุดท้ายมันก็กลับมายืนในราคาที่สูงกว่าเดิมได้ เช่นกัน
2. การถือเงินสดไว้จะทำให้ผมขาดทุนจากอัตราเงินเฟ้อแน่นอน ผมไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ ผมไม่สนใจหรอกว่ากระทรวงการคลังจะประกาศอัตราเงินเฟ้อมาเท่าไร แต่แค่เรื่องที่ร้านข้าวแถวบ้านผมขึ้นราคาจาก 30 เป็น 35 ตอนต้นปีน่ะผมเห็นกับตา ผมรู้
3. หุ้นทุกตัวที่ผมซื้อ ผมเข้าใจกิจการ ประเมินราคาได้ และยังมี upside ให้ลุ้น (แต่ไม่เหลือ MOS ให้ซื้อเพิ่มแล้ว ผมยอมรับ)
สิ่งที่ผมไม่รู้:
1. วิกฤตจะมาจริงหรือ ? เพราะผมไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ ไม่เคยเรียน และจะไม่เหมาเอาว่าตัวเองเข้าใจเรื่องนี้แค่เพราะอ่านมาจากหนังสือพิมพ์ หรือดูโทรทัศน์
2. ผมขายหุ้นแล้ว มันจะตกจริงหรือ ? ผมไม่ทราบ ผมไม่ได้ดูกราฟอีกต่อไปแล้ว เพราะแต่เดิมก็ไม่ได้รู้จริงเรื่องนี้อยู่แล้ว
3. ฟันด์โฟลวนั้นผมพยายามอ่านหนังสือแล้ว แต่ยังไม่รู้เรื่อง จึงเป็นอีกสิ่งที่ผม ไม่รู้
4. ผมปรับพอร์ตไปซื้อตัวที่มี MOS สูงกว่าก็ไม่ได้ เพราะหุ้นตัวอื่นที่ไม่ได้อยู่ในพอร์ตนั้น ผมยังไม่ได้ศึกษา ยังตีราคาไม่ได้ ยังไม่รู้
เราอาจจะมีความรู้คนละแบบ ถ้ามั่นใจว่าสิ่งที่กล่าวมานั้นรู้จริง ก็ควรมั่นใจในตัวเองครับ